วันนี้วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๔
เมื่อวานไม่มีไร กลับมาบ้านฝนก็ไม่ตก
อาหารมื้อเย็นมี หอยแมลงภู่ กินไปเกือบกิโลได้มั้ง
กับน้ำจิ้มอร่อยๆ ตัวใหญ่ดี แต่มันก็เค็มหน่อยๆ
สงสัยอาศัยอยู่ในน้ำทะเล นานๆ จะกินที
เช้านี้ฝนตกปรอยๆ ไม่มีแดด เมฆเต็มท้องฟ้าเลย
ซักผ้า ทำงานบ้านเสร็จเรียบร้อยล่ะ ก็มานั่งเล่นพักผ่อนหายเหนื่อย
สงสารลูกแมวเค้าอยู่ตัวเดียวคงจะเหลือ เค้าเดินมาหา มาร้องเหมียวๆ
ร้องบ่อยมาก เหมือนเค้าจะร้องเรียกหาเพื่อน ทุกทีเช้ามาก็จะเห็น
เค้าสองตัว วิ่งไล่หยอกกันรอบๆ บ้าน แต่เช้าวันนี้ไม่ได้เห็นแล้ว
ได้ยินแต่เสียงร้องเรียกของลูกแมว เห็นแล้วก็สงสาร มันคงเหงา
มันจะรู้มั้ยนะ ว่าเพื่อนอีกตัวหนึ่งเค้าไปสบายแล้ว
แมวมันก็มีหัวใจรับรู้ความรู้สึกได้เหมือนคนนะ เพียงแต่ว่ามันพูดบอก
เราไม่ได้เท่านั้นเอง แต่มันก็จะร้องให้เราฟัง แต่เราแปลภาษาของแมว
ไม่ออกเท่านั้นเอง เมื่อเช้าก็ให้กินขนมปังไส้กรอก ป้อนให้กิน
เค้าก็ค่อยๆ กิน ค่อยๆ กัด ผ่านไปแล้วเรื่องของแมว
ตากผ้าไว้วันนี้คงจะไม่แห้ง เพราะอากาศชื้นไม่มีแดด พรุ่งนี้จะแห้งมั้ย
ถ้าแห้งก็คงจะเหม็นอับ เพราะแห้งไม่สนิท อยากให้มีแดดออกมาบ้าง
ช่วงนี้อ่ะ แมลงวันเยอะมาก กินไรต้องคอยระวังไม่ให้แมลงวันมาเกาะ
เชื้อโรคเยอะทุกวันนี้ต้องกินอาหารสะอาด พ่อก็ไม่สบาย ยังไม่หายดี
เช้าวันนี้มีของกินหลายอย่างนะ แต่ยังไม่ได้กินข้าวเลย
อย่างแรกเลยก็ซาลาเปา สองลูก ลูกใหญ่มาก แต่ไม่ได้กินนะ
ให้พี่กับพ่อกิน เค้าบอกอร่อย นิ่มดี แต่ก็บอก ขอถ่ายรูปเก็บไว้ก่อน
แต่ไม่รู้ว่าไส้ไร เพราะไม่ได้กินเอง เลยไม่รู้
แล้วก็มีขนมไทยๆ ขนมกล้วย ชอบกินนะนิ่มดี ของกินอย่างแรกของ
เช้าวันนี้ที่กินไป สองห่อ เดี๋ยวหากินยากนะขนมกล้วย เพราะเค้าไม่ค่อย
ห่อใบตองกันแล้ว ส่วนมากเค้าจะใส่ถาดแล้วตัดเป็นชิ้นๆ
แต่นี่ยังคงความเป็นไทยห่อด้วยใบตอง ช่วยลดภาวะโลกร้อน
และก็อร่อยอีกด้วย หม่ำไปแล้ว ยังเหลืออีก ถ่ายรูปเก็บไว้ดูเหมือนกัน
พอแกะใบตองออกมา เนื้อตัวขนมอยู่ข้างใน น่ากินนะ หอมกลิ่นใบตอง
เนื้อขนมก็นุ่มมากเลย
ปิดท้ายด้วยผลไม้ตามฤดูกาล เงาะถาดใหญ่ๆ แต่ไม่รู้หรอกว่าเงาะโรงเรียน
หรือเงาะอะไร เพราะกินอย่างเดียว มันร่อนดี เนื้อไม่ติดเม็ด หวานชุ่มคอ
เค้าซื้อมาไว้กินกันประจำ แต่วันนี้ยังไม่ได้กินเงาะเลย หรือว่าเบื่อแล้วก็ไม่รู้
กับข้าวที่แม่ทำไว้ ก็มีแต่ไม่ได้ถ่าย แม่บ่นจะถ่ายอะไรกัน กินก็กิน
มัวแต่จะถ่ายรูปอยู่นั่นล่ะ แม่บ่นเลยหยุดถ่าย แต่แม่ไม่รู้หรอกว่าถ่ายเก็บ
ดูตอนเวลาผ่านไป แต่เช้าวันนี้ต้มข้าวกินกัน เห็นแม่ทอดปลาอินทรี
กลิ่นตลบไปทั่วบ้านเลย แล้วก็ทอดปลาทูให้เจ้าแมวเหมียวด้วย
เช้านี้ยังไม่หิวข้าว นั่งเขียนแต่บล็อกไปเรื่อยๆ คอมพิวเตอร์เสีย
สงสัยวันนี้ต้องยกไปซ่อม สวิตซ์ปิดเปิด ไม่ดี เปิดแล้วไฟไม่เข้า
แต่ซอฟแวร์ไม่มีปัญหา ใช้งานได้ดี บางทีเปิดเป็นสิบครั้งเลยกว่าจะติด
คอมตัวนี้ซื้อมาให้พี่ไว้ใช้ นานแล้ว ซื้อมาตั้งแต่ตอนสิ้นปี ๔๘ รวมระยะ
เวลาการใช้งานก็ ๕ ปีกว่าๆ แล้ว พี่ใช้คนเดียว เพราะเรามีเครื่อง
ประจำตัว กะว่าถ้ายกไปซ่อม คราวนี้จะให้เค้าติดการ์ดไวเลสมาด้วยเลย
จะได้ไม่ต้องเสียบสายแลน เผื่อเปลี่ยนที่วางคอมใหม่
ย้อนกลับไปวันเก่าๆ สมัยมีโทรศัพท์ใช้ใหม่ๆ จำได้ว่าใช้โทรศัพท์ครั้งแรก
นี่เป็นปี ๔๕ กลางๆ ปีนี่ล่ะ ไปซื้อซิมกับเพื่อน แล้วก็เลือกเบอร์เอง
ตอนแรกที่ใช้อ่ะ ใช้เครื่องมือสองนะ ราคาประมาณ สองพันห้าร้อย ได้มั้ง
ค่าโทรก็แพงมาก นาทีล่ะห้าบาท แบบเติมเงินตอนนั้นอ่ะ ทุกเครือข่าย
ต่อมาก็เปลี่ยนใหม่ ไม่นานจากเครื่องมือสอง เป็นโนเกีย ๓๓๑๐ หน้าจอ
ขาวดำ ถ้าจำไม่ผิดราคามือหนึ่งเลย สามพันห้าร้อยบาท มั้งไม่เกินนี้
ซื้อราวๆ ปี ๔๕ ช่วงปลายปีนี่ล่ะ แล้วก็ใช้ตลอดเรื่อยมา จนแป้นกด
มันถลอดขาด ใช้แบบคุ้มค่าจริงๆ
ประมาณปี ๔๘ เดือนสิงหา ก็เปลี่ยนใจมาใช้แบบรายเดือน จำได้ว่าไปเปลี่ยนระบบที่ศูนย์บริการลูกค้าเซนทรัลปิ่นเกล้า ไปตอนเย็นๆ แล้วใน
เครื่องก็เหลือเงินอยู่ประมาณร้อยกว่าบาทได้มั้ย เค้าบอกถ้าเปลี่ยนแล้ว
เงินจะไม่ได้คืน เงินจะหายไป เค้าให้ใช้เงินให้หมด หรือจะทิ้งเงิน
ก็แล้วแต่ แต่ก็นั่งโทรบอกเพื่อน แต่มันก็ไม่หมด เลยตัดสิน ทิ้งเงินที่เหลือ
ตั้งแต่นั้นมาก็ใช้เป็นรายเดือนมาตลอด
แล้วก็เปลี่ยนใหม่เป็น MOTOROLA V3 ประมาณปี ๔๙ ซื้อตรงกับวันเกิด
พอดี มาซื้อที่คลังพลาซ่า โคราช แพงที่สุดที่เคยซื้อมา หกพันห้าร้อยบาท
ซื้อตอนที่มันลดราคาแล้วนะ จากเจ็ดพันเก้าร้อย จำได้ว่าตอนนั่งรถกลับ
เอไอเอสเค้าส่งข้อความมาอวยพรวันเกิด เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นข้อความ
แบบสี สวย เคลือนไหวได้ มันแบน บาง ฝาพับ เพราะอยากใช้แบบฝาพับ
ใช้ได้ถึงปี ๕๑ มั้ง เพราะแบตเริ่มเสื่อม แบตหมดเร็ว เลยเปลี่ยนใหม่อีก
คราวนี้ก็ซื้อที่คลังพลาซ่า โคราช เหมือนเดิม มาทำธุระเลยแวะมาซื้อ
เครื่องที่ถูกที่สุดที่เคยซื้อมา ซื้อของ phone one ราคา ๑,๑๕๐ บาท
เพราะตอนนั้นไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดี รีบซื้อ เพราะต้องการใช้แทน วีสาม
เพราะแบตมันเก็บไม่อยู่ ตัวนี้ เล็กๆ จิ๋ว จอสี ฟังเพลง กับวิทยุ ได้แค่นั้น
ก็ใช้มาเรื่อยๆ จนถึงกันยายน ปี ๕๑ ก็เปลี่ยนใหม่อีกครั้ง
เครื่องนี้ซื้อมาจากตลาดโรงเกลือ เพื่อนชวนไปเที่ยวโรงเกลือ
แล้วไปโรงเกลือครั้งแรกด้วย เป็นเครื่องก๊อปของจีนแดง
เจ้า N96 ซื้อมาราคา ๔,๑๐๐ กับซื้อเมมอีก ๒ กิ๊ก สี่ร้อย
แต่มันก็ใช้ประโยชน์ได้ดี กล้องถ่ายรูป ฟังเพลง ดูทีวีได้ วิทยุ
แล้วยังใช้เป็นกล้องเวปแคมได้ด้วย เล่นเอ็มก็ต่อสาย usb แล้วก็เลือก
เวปแคม มันก็ขึ้นกล้องให้แล้ว ใช้มาได้ถึงต้นปี ๕๒ เริ่มรวนๆ โทรออก
ได้ครึ่งนาทีก็ตัดสาย แบบนี้ประจำ ก็เลยเลิกใช้ เก็บเข้ากรุ
หยิบเจ้า วีสาม กับ เจ้าโฟนวัน ออกมาใช้แทน สลับกันไป
นี่หน้าตาเจ้า N96 (ใช้เจ้า wellcom A66 ถ่าย)
แล้วก็ถึงเวลาเปลี่ยนใหม่อีกครั้ง เปลี่ยนครั้งนี้ตอนเข้าพรรษา ปี ๕๒ ได้มั้ง
ไปเปลี่ยนที่ มาบุญครอง พี่เค้าพาไป โดยใช้เจ้า วีสาม กับ เจ้าโฟนวัน
ไปแลกมา เจ้าวีสาม เค้าให้แลก หนึ่งพันบาท (จากหกพันห้าร้อยใช้มา
เกือบสองปี) กับเจ้าโฟนวัน เค้าให้แลก ห้าร้อยบาท (จากพันกว่าๆ ใช้มา
เกือบปีหนึ่ง) รวมแลกได้พันห้าร้อยบาท เสียดาย วีสาม มาก
แล้วได้ไอโมบาย สองซิมมาแทน เพิ่มเงินไปอีก เจ็ดร้อย เพราะตัวนี้
ราคาสองพันสองร้อย ใช้ได้สองซิม แถมซิมทรูทูฟ ให้หนึ่งซิม
แล้วก็แวะกินข้าวเที่ยงกันที่ฟูด มาบุญครองนั่นล่ะ จำได้ว่ากินหอยทอด
นี่หน้าตาเจ้า ไอโมบาย ๒๒๒ ใช้ได้สองซิม ใช้จนหน้ากาก ลอกหมดล่ะ
แล้วก็นั่งรถไฟฟ้ามาลงอนุเสาวรีย์ เพราะพี่เค้าจอดรถไว้แถวนั้น
พี่ก็เลยขับรถมาส่งถึงแปดริ้ว ออกมานอกเมืองอีกหลายกิโล
ระหว่างทางที่นั่งรถมาก็ใส่ซิมที่ได้มา แต่โทรออกไม่ได้ เพราะไม่มีเงิน
มีแต่ซิมให้มาเปล่าๆ พร้อมเบอร์ พอมาถึงบ้านก็ทิ้งซิมไปเลยมั้ง
เพราะไม่ได้ใช้ ใช้มาก็ดีนะไอโมบาย แต่ถึงคราวทำตกครั้งแรก
ตั้งแต่ได้ใช้มา ไอโมบายก็มีปัญหาตลอดเลย เครื่องดับเอง
ใส่กระเป๋ากางเกงก็ดับ บางทีวางไว้เฉยๆ ก็ดับ เริ่มเจอปัญหาอีกล่ะ
แต่ก็ทนใช้มา สลับกับเจ้า N96 เปลี่ยนกัน
จนถึงวาระที่ต้องเปลี่ยนอีกครั้ง เพราะไม่ไหวกับเจ้าไอโมบาย
เหมือนถูกย้อมแมวแกะกล่องอ่ะ ยังคิดอยู่ทุกวันนี้ เพราะซื้อมาจาก
มาบุญครอง แต่ก็ทนใช้กันมา กระเทือนนิดหน่อยไม่ได้เลย ดับทันที
เหมือนขั้วแบตจะหลอม แต่ทุกวันนี้เครื่องไอโมบายก็ใส่สองซิม
ซิมของดีแทคเป็นแบบรายปี และซิมของทรูมูฟแบบรายปี
เหมือนกัน แต่ไม่ค่อยมีใครโทรมาหรอก นอกจากคนโทรผิดมา
แต่ก็เปิดเครื่องใส่ซิมไว้ตลอด เพราะเอาไปแลกคงไม่มีใครเค้าให้แลก
แล้วล่ะสภาพแบบนี้ เก็บไว้ดูเล่นๆ ดีกว่า
เปลี่ยนครั้งสุดท้ายนี่ตอนงาน TME 2011 เมื่อต้นปี เดือนกุมภาพันธ์ ๕๔
นี่เอง เห็นว่ามันราคาถูกแล้วตรงกับการใช้งานของเรา เลยเปลี่ยนอีกครั้ง
กับเจ้า wellcom A66 หมดไปสองพันแปดร้อยกว่าๆ ใช้งานอีเมลล์ได้
เล่นเวป แชท เฟสบุคได้ กล้อง เพลง ถูกใจก็ตรงที่ระบบสัมผัสนี่ล่ะ
พิมพ์ข้อความได้ง่ายและไว แป้นสี่แถว เหมือนคอมพิวเตอร์
แต่ตอนนี้มันพิการใช้งานอีเมลล์ไม่ได้กับเข้าเวปฮอตเมลล์ไม่ได้
แต่ที่ใช้งานบ่อยที่สุดก็น่าจะเป็น อีบัดดี้ เพราะชอบแชท คงอีกนานนะ
กว่าจะเปลี่ยนใหม่ ตัวนี้ก็เจอแค่ปัญหาแบตหมดไวเท่านั้น
บางทีก็เปิดพันทิพ อ่าน เขียนบล็อกได้นิดหน่อย สั้นๆ เคยทดสอบเขียน
แต่มันเปิดดูคลิป ได้ด้วย เปิดดูคลิปบ่อย หน้าตาของเจ้า wellcom A66
ไม่รู้ว่าจะได้เปลี่ยนใหม่อีกตอนไหน แต่ตอนนี้ก็ถูกใจ ใช้อยู่ทุกวัน
เขียนบล็อกไป เริ่มหิวแล้วดิ น้ำย่อยทำงาน ไปแอบถ่ายรูปกับข้าวมา
วันนี้มีแพนงหมู แต่ต้องกินกับข้าวต้มก่อน เพราะว่าหุ่งข้าวยังไม่สุก
ปลาอินทรีทอด และก็ปลาทูของเจ้าเหมียว
ต้องกินข้าวก่อนแล้ว หิว หอมกลิ่นแพนงมาก
ปลาอินทรีทอด กินกับข้าวต้ม
และสุดท้ายปลาทูทอดของเจ้าเหมียว มันก็กินปลาทูเก่งเหมือนกันนะ
วันนี้เขียนยาวเหยียดเลย แต่ไม่ไหวแล้วล่ะ เพราะหิวข้าว กินข้าวก่อน
ค่อยเจอกันใหม่ กินข้าวด้วยกันนะ
| Create Date : 18 มิถุนายน 2554 |
| Last Update : 18 มิถุนายน 2554 10:57:27 น. |
|
3 comments
|
| Counter : 2378 Pageviews. |
 |
|
|
ไปกินมั่งดิ