9 เทคนิคสอนพี่เลี้ยงดูแลเรื่องนอนน้องหนู

เป็นธรรมดาสำหรับคุณแม่เวิร์คกิ้งมัมที่ไม่มีเวลาอยู่กับลูกตลอด 24 ชั่วโมง
โดยเฉพาะกับเรื่องนอนที่ต้องเป็นกังวลใจว่า ลูกจะนอนหลับพักผ่อนเพียงพอหรือไม่
ฉะนั้นเราจัดหาวิธี ที่ช่วยให้คุณแม่หายห่วงด้วยการเตรียมพร้อมข้อมูล ในสิ่งที่พี่เลี้ยงของลูกควรรู้และทำตามค่ะ

1. ลูกน้อยช่วง 3 เดือนแรกยังไม่รู้จักกลางวัน-กลางคืน
รวมทั้งกระเพาะอาหารก็ไม่สามารถเก็บนมไว้มากพอ ทำให้หิวบ่อย
ตื่นบ่อยทุก 2-3 ชั่วโมง ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน
ฉะนั้น การบอกพี่เลี้ยงให้เข้าใจแบบแผนการนอนของเด็กวัยนี้เอาไว้
เพื่อเป็นผู้ช่วยคุณแม่ในการจัดการงานบ้านหรือเรื่องต่างๆ ก็เท่ากับช่วยคุณแม่ผ่อนแรงเรื่องลูกไปด้วยค่ะ


2. เด็กส่วนใหญ่จะหลับช่วงตอนเช้า และตื่นอีกครั้งในตอนบ่ายหลังจากมื้ออาหารกลางวัน
ถ้าคุณแม่กังวลว่า การนอนกลางวันจะมีผลในช่วงกลางคืน ควรบอกพี่เลี้ยงกระตุ้นให้ลูกตื่นในช่วงบ่าย
หากิจกรรมให้ทำบ้าง เพื่อเข้านอนในตอนกลางคืนได้นานขึ้น


3. ส่วนช่วงกลางคืนก็สร้างบรรยากาศเงียบสงบ ไม่เปิดไฟสว่าง
ลดกิจกรรมที่ตื่นเต้นหรือโลดโผน เพื่อให้ลูกเรียนรู้ว่าเป็นเวลากลางคืน เวลาของการนอนหลับพักผ่อน


4. ให้พี่เลี้ยงสังเกตว่าหากลูกตื่นขึ้นมา 2-3 ครั้งแล้วสามารถนอนได้เองก็ควรปล่อย
แต่หากตื่นบ่อยจนผิดสังเกต ก็ควรดูว่าเพราะอะไร
เช่น หนาว ร้อนจนเกินไป หรือเปียกชื้น, หายใจไม่ออก มีน้ำมูกหรือไม่


5. พยายามจัดตารางการเข้านอน รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ให้เป็นเวลา
และทำให้เป็นกิจวัตรประจำวันอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ลูกคุ้นเคย


6. ฝึกลูกนอนในที่ของตัวเอง
ถ้าพี่เลี้ยงจะอุ้มก่อนนอน ควรวางลูกบนที่นอนขณะที่ลูกง่วงแต่ยังไม่หลับแล้วปล่อยให้หลับเอง
ไม่ควรอุ้มกล่อมหรือปล่อยให้ลูกดูดนมจนหลับ ที่สำคัญ ควรพาเข้านอนโดยที่พี่เลี้ยงอยู่ด้วย


7. ไม่ว่าจะนอนบนเตียง นอนในเปลหรือให้ลูกนอนในห้องของตัวเอง
สิ่งสำคัญที่สุด คือการที่ลูกได้นอนหลับสบายและปลอดภัย ก็เป็นกฎข้อบังคับที่ควรบอกกับพี่เลี้ยงค่ะ


8. ให้พี่เลี้ยงดูแลสิ่งแวดล้อมในห้องนอน
เช่น อากาศภายในห้อง ไม่ควรร้อนหรือหนาวจนเกินไป แต่ควรโปร่งสบาย อากาศถ่ายเทสะดวก
หรือใส่เสื้อผ้าที่หนาเกินไปก็ทำให้ลูกรู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัวได้
เพราะมีส่วนทำให้น้องหนูนอนหลับไม่เต็มอิ่ม โยเยร้องไห้และตื่นขึ้นมาได้


9. อาจให้พี่เลี้ยงบันทึกการนอนในแต่ละวันของลูก
เช่น นอนกี่ชั่วโมง ตื่นเพราะอะไร เพื่อช่วยให้คุณได้รู้นิสัยการนอน และความเปลี่ยนแปลงของลูก
สามารถนำไปใช้ประโยชน์ ปรับพฤติกรรมการนอนของลูกให้เหมาะสม

ประเด็นเรื่องนอนของลูกที่คุณแม่ควรเข้าใจก็คือ เด็กแต่ละคนอาจมีชั่วโมงการนอนต่างกัน
ลูกของคุณแม่ไม่จำเป็นต้องมีชั่วโมงการนอนได้ตามตำรา
ขอให้สังเกตว่า ถ้าลูกตื่นขึ้นมากินและนอนหลับเป็นเวลา อารมณ์ดีแจ่มใส ร่างกายและจิตใจเป็นไปอย่างปกติ
ก็ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใดค่ะ


ข้อมูลโดย : Mother&Care Vol.5 No.59 November 2009
ที่มา : //www.motherandcare.in.th


สารบัญแม่และเด็ก

Create Date : 20 มิถุนายน 2553		0 comments
Last Update : 20 มิถุนายน 2553 20:51:25 น.
Counter : 798 Pageviews.
Share Tweet