Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 
19 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

ลูกไม่รักดี เป็นแบบนี้เพราะเหตุใด

ลูกไม่รักดี เป็นแบบนี้เพราะเหตุใด

“พ่อแม่เลี้ยงลูกได้แต่ตัว” เป็นคำกล่าวที่ได้ยินกันอยู่เสมอ
สำหรับตัวผู้เขียนแล้วเชื่อว่า คงไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ต้องการจะเลี้ยงลูกให้โตแต่ตัวอย่างเดียว เท่านั้น
แต่อยากจะเลี้ยงดูฟูมฟักลูกๆของเราให้เติบโตในทุกๆด้าน
ไม่ว่าจะทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สติปัญญาและความประพฤติต่างๆ
แต่เพราะด้วยวิธีการเลี้ยงลูก (ที่ผิดๆ) ของพ่อแม่บางคนนั้น
อาจส่งผลให้ลูกกลายเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมไม่ดี จนบางทีอาจถึงขั้นเป็น “ลูกไม่รักดี” เลยก็เป็นได้

“ลูกไม่รักดี” มีพฤติกรรมเช่นไรบ้าง

1. ไม่ร่ำเรียนหนังสือ เช่น ลูกที่แต่งชุดนักเรียนออกจากบ้าน แต่ไปยังไงก็ไปไม่ถึงโรงเรียนสักที
เพราะแวะไปเที่ยวบ้านเพื่อน ไปเที่ยวเตร่ตามห้างสรรพสินค้า หนีไปเล่นเกมคอมพิวเตอร์
เวลาสอบไม่เข้าสอบ ตกซ้ำชั้นทุกปีก็ยังไม่แยแส แบบนี้เรียกว่าลูกไม่รักดี
แต่พ่อแม่อย่าคิดว่า ลูกที่เรียนไม่เก่ง เป็นลูกไม่รักดี เพราะลูกบางคนเขาพยายามตั้งใจเรียนแล้ว
ตั้งใจอ่านหนังสือสอบแล้ว ก็ยังสอบตกบ้างผ่านบ้าง
กรณีนี้พ่อแม่ต้องคอยให้กำลังใจเขา และคอยเสริมในสิ่งที่เขายังบกพร่องอยู่

2. ทำตัวเกะกะเกเร หากพ่อแม่คนไหน มีลูกเป็นหัวโจก เป็นนักเลงอันธพาล ชอบหาเรื่องวิวาท
คงต้องใจสั่นไม่เป็นสุขทุกวัน เพราะต้องคอยกังวลว่า วันนี้มีใครต้องเดือดร้อน เพราะลูกเราบ้าง
ลูกแบบนี้เป็นลูกที่ทำลายอนาคตพ่อแม่ ทำให้พ่อแม่เสื่อมเสีย
เพราะนอกจาก ต้องคอยตามสะสางปัญหาให้ลูกไม่เว้นแต่ละวัน จนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว
มักจะไม่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใด เพราะใครๆก็กลัวจะได้รับความเดือดร้อน จึงไม่อยากข้องเกี่ยว

3. ติดอบายมุข ทั้งเหล้า บุหรี่ ยาเสพติด การพนัน ซึ่งทำให้เสียสุขภาพ เสียการเรียน เสียเงินทอง เสียอนาคต
หากกลัวว่าลูกจะติดอยู่ในวังวนนี้ พ่อแม่ต้องสอนให้ลูกรู้ถึงโทษของสิ่งเหล่านี้ เพื่อให้เขารู้สึกกลัว
เช่น พาลูกไปโรงพยาบาล เพื่อไปดูปอด หรือตับของคนที่เสียชีวิต เพราะติดเหล้าติดบุหรี่
ที่แพทย์เก็บรักษาไว้ในโหลดอง หรือหาหนังสือ หรือข่าวเรื่องของคนที่ติดการพนันจนหมดตัว
ไม่มีแม้แต่ที่จะซุกหัวนอน ให้ลูกได้ดูได้อ่าน

4. ริรักจนฉุดไม่อยู่ พ่อแม่ที่มีลูกเข้าสู่วัยรุ่นมักกลุ้มใจกับปัญหาลูกมีรักก่อนวัยอันควร
จริงๆแล้วตามธรรมชาติของเด็กวัยนี้ มักให้ความสนใจกับเพื่อนต่างเพศ
แต่บางคนสนใจมากจนควบคุมอารมณ์ ความรู้สึก และการกระทำของตัวเองไม่ได้ จึงเกิดความผิดพลาดเสียหาย
เช่น มีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งจนตั้งครรภ์ เกิดเป็นปัญหาครอบครัว และปัญหาสังคมต่อไป

5. ทำร้ายพ่อแม่ ไม่ว่าจะทางกาย หรือจิตใจ เช่น ทุบตีเตะต่อยพ่อแม่ ด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย
พูดจาเสียดแทงทำร้ายจิตใจ หรือไม่เชื่อฟังคำสอน
ลูกประเภทนี้น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะทำร้ายได้แม้กระทั่งผู้ให้กำเนิด
จึงน่าเชื่อได้ว่า จะสามารถทำสิ่งต่างๆที่ผิดได้ โดยไม่รู้สำนึก ว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ผิด


ลูกไม่รักดี เพราะพ่อแม่เลี้ยงผิดวิธี

1. ตามใจลูกจนเสียคน
พ่อแม่ประเภทนี้เป็นพ่อแม่ที่ไม่เคยขัดใจลูก ลูกอยากได้อะไรอยากทำอะไรก็ตามใจ
แม้เป็นสิ่งไม่ดีก็ไม่เคยปฏิเสธ ไม่ตักเตือนสั่งสอนในสิ่งที่ถูกที่ควร ไม่เคยตำหนิแม้ลูกทำผิด
เป็นต้นว่า ถ้าลูกไม่อยากไปโรงเรียน เพราะเบื่อที่ครูเคร่งครัดก็ไปหาโรงเรียนใหม่ให้
ลูกอยากไปเที่ยวกลางคืนไม่กลับบ้านก็ไม่เป็นไร เมื่อไหร่อยากกลับ ให้โทรศัพท์ไปบอกเดี๋ยวจะขับรถไปรับ
ลูกอยากได้เงินเท่าไหร่ แม้ไม่มีก็ไปหยิบยืมหามาให้ ดังนี้ แล้วไม่ว่าลูกต้องการสิ่งใดเขาจะบีบบังคับพ่อแม่จนได้
พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกเป็นเจ้านายเช่นนี้ ต้องช้ำใจ เพราะลูกจะเห็นพ่อแม่เป็นเหมือนคนรับใช้ เช่นกัน

2. บังคับลูกจนอึดอัด ครอบงำจนลูกกระดิกตัวไม่ได้
พ่อแม่เลี้ยงลูก เหมือนลูกเป็นคอมพิวเตอร์ที่พ่อแม่ใส่ข้อมูลไว้ให้ อะไรที่นอกเหนือไปจากคำสั่งที่พ่อแม่ตั้งไว้
นั่นคือ ลูกไม่เชื่อฟัง ลูกอกตัญญู ลูกไม่เชื่อง ซึ่งลูกที่ถูกเลี้ยงแบบกดไว้เช่นนี้
หากเขามีโอกาสเป็นอิสระสักนิด เขาอาจเตลิดเปิดเปิงแบบกู่ไม่กลับได้เลยทีเดียว

3. ปล่อยปละละเลย
มักเป็นพ่อแม่ที่ให้ความสำคัญกับตัวเองมาก มีชีวิตอยู่กับตัวเอง จนไม่สนใจความเป็นอยู่ใดๆของลูก
พ่อแม่ประเภทนี้เลี้ยงลูกเหมือนเป็นพนักงานบริษัท คือ ถึงเวลาสิ้นเดือนก็ให้เงินเดือน
แล้วให้ลูกไปจัดการชีวิตตนเอง ทำให้ลูกไม่มีความผูกพันกับพ่อแม่เลย
ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะทำอะไรเขาจะไม่สนใจพ่อแม่ เพราะเขาคิดว่าพ่อแม่ก็ไม่เคยสนใจเขาเช่นเดียวกัน

4. ทำไม่ดีเป็นตัวอย่าง
เช่น พ่อแม่พูดกันเอง หรือพูดกับลูกด้วยถ้อยคำไม่ไพเราะ ลูกก็จะติดมาพูดกับพ่อแม่ได้ เพราะเห็นเป็นเรื่องปกติ
หรือพ่อแม่ไม่เคยไปเยี่ยม หรือไม่เคยไปดูแลปู่ ย่า ตา ยายในยามเจ็บป่วยเลย
ลูกก็จะไม่รู้ว่า ลูกที่ดีนั้น มีหน้าที่ต้องคอยปรนนิบัติพ่อแม่เมื่อเจ็บป่วย

5. ไม่รู้จักวิธีอบรมสั่งสอน
สิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับความรู้ของพ่อแม่ ไม่ใช่ว่าพ่อแม่ไม่มีการศึกษาจะสอนลูกไม่ได้
เพราะพ่อแม่บางคนไม่ได้เรียนหนังสือเลย ก็ยังเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จเป็นคนดีมีคุณธรรมได้มากมาย
แต่เป็นเพราะพ่อแม่บางคนไม่รู้วิธีว่าจะสั่งสอนลูกอย่างไร บางทีพูดไม่เป็น บอกไม่เป็น ซึ่งน่าเห็นใจมาก
เพราะลูกมักจะไม่เกรงใจพ่อแม่ เห็นพ่อแม่เหมือนหัวหลักหัวตอ ดังนั้นพ่อแม่ต้องกล้าพูด กล้าตักเตือนลูก
ไม่ต้องกลัวเกรงลูก อย่าลืมว่า ลูกจะเป็นคนที่รักดีได้นั้น ก็มาจากการอบรมสั่งสอนของพ่อแม่นั่นเอง

พ่อแม่ทุกคนย่อมหวังให้ลูกเป็นคนที่ดี ดีทั้งต่อตนเอง ต่อพ่อแม่และต่อสังคม
แต่หากลูกของเราเป็น หรือทำสิ่งใดที่ไม่ถูกต้อง
ในฐานะของคนเป็นพ่อแม่แล้วคงรู้สึกผิดหวัง และเสียใจเป็นธรรมดา
ผู้เขียนอยากเป็นกำลังใจให้พ่อแม่ทุกคน อย่าท้อแท้ แต่ให้ทบทวนถึงสาเหตุที่ทำให้ลูกเป็นเช่นนี้
ไม่ว่าปัญหาจะเกิด เพราะความบกพร่องของพ่อแม่เอง หรือเกิดจากตัวลูกก็แล้วแต่
ให้เรียนรู้ที่จะแก้ไขด้วยใจที่เปิดกว้าง ด้วยความรัก ความเข้าใจ ความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน
การแบ่งปัน และการให้โอกาส เชื่อว่าลูกของเราจะเป็น “ลูกที่รักดี” ได้อย่างแน่นอน

ผู้จัดการ ออนไลน์



สารบัญ เรื่อง แม่และเด็ก
คลิกดู ที่นี่ค่ะ





 

Create Date : 19 มิถุนายน 2552
1 comments
Last Update : 19 มิถุนายน 2552 21:48:25 น.
Counter : 1280 Pageviews.

 

Thank you so much ka.

 

โดย: CrackyDong 19 มิถุนายน 2552 22:12:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.