Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 
4 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

ทำไงดี เมื่อลูกพูดช้า

ทำไงดี เมื่อลูกพูดช้า

“เดี๋ยวนี้เด็กพูดช้าลง”
“เด็กสมัยนี้พูดไม่ค่อยชัด”

คุณได้ยินคำพูดประโยคประมาณนี้บ่อยครั้งเหมือนดิฉันไหมคะ ?

แรกๆ ก็เฉยๆ ยังเข้าใจว่าคุณพ่อคุณแม่เหล่านี้อาจจะคิดไปเอง
เพราะอยากให้ลูกพูดได้เร็ว หรือมีความคาดหวังในตัวลูกค่อนข้างสูง ก็เลยเข้าใจว่าลูกของตนมีปัญหา
แต่พอได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแก้ไขการพูด ปรากฏว่าปัจจุบันนี้
เด็กไทย มีปัญหาเรื่องการพูดเป็นอย่างมาก มีทั้งเด็กพูดช้า เด็กไม่ยอมพูด หรือเด็กพูดไม่ชัด
ซึ่งก็มีอีกหลายกรณีคือพูดไม่ชัดเป็นคำๆ หรือพูดไม่ชัดเป็นตัวอักษร หรือพูดไม่ชัดทุกคำ

และ...กลายเป็นปัญหาใหญ่ของคนเป็นพ่อแม่ยุคนี้ไปซะแล้ว

หลานชายของดิฉันก็มีปัญหาเรื่องพูดช้าเหมือนกัน ปัจจุบันอายุ 3 ขวบเศษก็ยังพูดเป็นคำๆ
ยังไม่สามารถสื่อเป็นประโยคด้วยคำพูดได้ ต้องอาศัยความใกล้ชิด และเข้าใจการสื่อสารด้วยท่าทางประกอบ

ความจริงดิฉันเห็นความไม่ปกติของเจ้าหลานชายคนนี้ตั้งแต่เมื่อประมาณขวบเศษ คือไม่สนใจที่จะพูด
ไม่ออกเสียงอีกต่างหาก แม้ผู้ใหญ่ในบ้านจะพยายามพูดด้วยก็ไม่พูดด้วย

ดิฉันได้แต่บอกน้องชายและน้องสะใภ้ให้ขยันพูดกับลูก ฝึกให้ลูกออกเสียงบ้าง
จนกระทั่งเขาอายุได้ 2 ขวบก็ยังไม่ยอมพูด ในขณะที่ป้าคนนี้พูดมากขึ้นเรื่อยๆ
พยายามพูดให้พ่อแม่ของหลานตระหนักว่าลูกยังไม่พูดก็ต้องร้อนใจบ้าง พาไปหาหมอก็ยังดี
จนดูเหมือนดิฉันเป็นพี่ใจร้าย เจอน้องทีไรบ่นเรื่องไม่ยอมพาหลานไปหาหมอสักที

จนกระทั่งในที่สุดเมื่อเจ้าหลานชายดิฉันอายุได้ 2 ขวบเศษ น้องชายและน้องสะใภ้ก็เลยพาลูกไปหาหมอ
ซึ่งผลปรากฏก็คือเป็นเด็กพูดช้า ก็เลยต้องฝึกให้พูด โดยเข้าโปรแกรมฝึกกับนักแก้ไขปัญหาเรื่องการพูด
เพราะทุกอย่างปกติหมด ไม่มีปัญหาเรื่องการได้ยิน หรือมีส่วนอื่นผิดปกติ

หลานชายดิฉันต้องเข้าโปรแกรมฝึกการพูด และต้องกลับมาฝึกที่บ้านอย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้เบาใจได้บ้าง
แต่ก็ไม่วายที่จะทำให้ป้าคนนี้หงุดหงิดเพราะความไม่เดือดร้อนใจด้วยเหตุผลที่ว่า “ถึงเวลาก็พูดได้เอง”
และด้วยถ้อยคำที่พยายามบอกว่า “เด็กต่างจังหวัดก็เป็นแบบนี้ ยังมีเด็กแถวบ้านโตกว่านี้ก็ยังพูดไม่ได้เลย
เพราะเขาปากหนัก ถ้าถึงเวลาก็จะพูดเอง”

สุดท้ายดิฉันต้องล่าถอยมาเองเพราะไม่อยากไปยุ่งกับเขามากจนเกินไป
ทำไงได้ ก็ด้วยความที่ตัวเองอยู่กับข้อมูลเรื่องสื่อครอบครัว
ก็เลยพยายามยัดเยียดให้คนรอบข้างตระหนักถึงข้อมูลและองค์ความรู้ที่น่าจะเกิดประโยชน์ต่อการเลี้ยงดูลูกน้อย

ความจริงมีอีกหลายกรณีที่เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวที่ลูกมีปัญหาเรื่องการพูด
และก็มีไม่น้อยที่อาจจะไม่ได้ตระหนักถึงความสำคัญ หรืออาจจะดูเบาต่อปัญหาเรื่องนี้น้อยเกินไป

ฉบับนี้ก็เลยอยากเขียนถึงเรื่องพัฒนาการทางด้านภาษาของเด็ก

โดยปกติเด็กจะมีพัฒนาการทางด้านภาษาและการพูดอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่ แรกเกิด จนกระทั่งสามารถใช้ภาษาได้ใกล้เคียงกับผู้ใหญ่เมื่ออายุ 7 ขวบขึ้นไป

การที่มนุษย์คนหนึ่งจะพัฒนาทักษะทางภาษาและการพูดได้นั้นต้องขึ้นอยู่กับ
การเลี้ยงดู และสภาพแวดล้อมจากพ่อแม่ และผู้ใกล้ชิดเด็กอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ

ปริมาณของคำศัพท์ที่เด็กเรียนรู้และพูดได้ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเมื่อเด็กอายุประมาณ 10-12 เดือน
จนถึงสองพันกว่าคำ และสามารถใช้ภาษาได้ใกล้เคียงกับผู้ใหญ่
พูดคุยโต้ตอบกับคุณพ่อคุณแม่ได้อย่างเหมาะสมเป็นเรื่องเป็นราวเมื่ออายุ 7 ขวบขึ้นไป

กรณีที่เด็กพูดช้า คือเด็กที่มีพัฒนาการด้านภาษาและการพูด ไม่เป็นไปตามวัย เช่น เด็กอายุ 2 ขวบยังพูดเป็นคำๆ
ชนิดที่สื่อความหมายไม่ได้ หรืออายุ 3 ขวบแล้วยังพูดเป็นประโยคสั้นๆ ไม่ได้
คนเป็นพ่อแม่ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ จะต้องสังเกตลูก อย่างใกล้ชิด


สาเหตุของ การพูดช้า มีหลายประการ แต่หลักๆ มีดังนี้

ประการแรก เด็กขาดการกระตุ้นทางภาษาที่เหมาะสม
เช่น ผู้เลี้ยงดูเด็กไม่ค่อยได้พูดกับเด็ก ซึ่งจะทำให้เด็กขาดทักษะในการเรียนรู้ด้านการพูด
หรือไม่เปิดโอกาสให้เด็กพูด เช่น เด็กอยากได้อะไร แค่ชี้ผู้ใหญ่ก็หยิบให้ โดยเด็กไม่ต้องพยายามออกเสียง

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการทางด้านภาษาของเด็ก
ยิ่งในยุคปัจจุบัน ผู้ใหญ่มักปล่อยให้เด็กอยู่กับทีวี ยิ่งทำให้เด็กขาดการปฏิสัมพันธ์ ยิ่งทำให้เด็กพูดช้าลง

ประการที่สอง เด็กมีความผิดปกติบางอย่าง เช่น หูตึง หูหนวก
ซึ่งอาจเกิดจาก ภาวะการตั้งครรภ์ผิดปกติ ส่งผลถึงการได้ยิน เช่น แม่เป็นโรคหัดเยอรมัน ขณะตั้งครรภ์
หรืออาจเป็นโรคที่เกิดขึ้นในภายหลัง เช่น โรคหูน้ำหนวก โรคสมองอักเสบ ฯลฯ

ประการที่สาม มีความผิดปกติจากโรคทางพันธุกรรม เช่น กลุ่มอาการดาวน์ (Down Syndrome)
หรือเกิดจาก ภาวะการคลอด เช่น ขาดเลือดไปเลี้ยงสมองในขณะคลอด
หรือเกิดจาก ภาวะโรคติดเชื้อในสมองหรือได้รับสารพิษ เป็นต้น

ประการต่อมา เด็กมีความเครียดหรือกังวล
ซึ่งอาจเกิดจากสภาพการเลี้ยงดูในครอบครัว ทำให้ไม่กล้าพูด กลัวที่จะพูด

ประการสุดท้าย ภาวะออทิสติก ซึ่งมักจะมีอาการร่วมกับสมาธิสั้น
มักจะพูดช้าหรือไม่พูด หรือพูดสื่อสารอย่างมีความหมายไม่ได้

ฉะนั้น เมื่อพบว่า ลูกพูดช้า คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรพาเด็กไปพบแพทย์
เพื่อตรวจหาสาเหตุของการพูดช้า ซึ่งจะเป็นประโยชน์ ในการวางแผนช่วยเหลือให้เหมาะสมกับเด็กได้ทันท่วงที

กรณีที่พบว่า เด็กพูดช้าจากหูพิการ หรือมีความผิดปกติทางการได้ยิน
เด็กก็จะต้องใส่ เครื่องช่วยฟัง (Hearing aid) ก่อนแล้วจึงจะฝึกพูด

สำหรับเด็กที่ต้องแก้ไขปัญหาเรื่องการพูดด้วยการฝึกพูด นักแก้ไขการพูดจะใช้เทคนิคต่างๆ ในการกระตุ้นให้
เด็กเปล่งเสียง เลียนแบบเสียงและเชื่อมโยงเสียงให้เป็นคำที่มีความหมาย
ดยยึดหลักการเรียนรู้และพัฒนาการทางการพูดของเด็กปกติเป็นแนวทาง

การกระตุ้นด้านการพูดจำเป็นต้องเริ่มโดยเร็วที่สุด ยิ่งเร็วเท่าไร ยิ่งเป็นผลดีต่อตัวเด็กเท่านั้น

นอกจากจะสอนให้เด็กเปล่งเสียงต่างๆ แล้ว นักแก้ไขการพูดจะสอนให้เด็กเรียนรู้คำศัพท์ต่างๆ ที่ต้องใช้พูดใน
ชีวิตประจำวัน ให้เด็กได้เรียนรู้คำศัพท์ต่างๆ ตามความเหมาะสมกับระดับอายุของเด็ก
จากนั้นจึงสอนให้เด็กเรียนรู้ที่จะนำคำเหล่านั้นมาสร้างเป็นประโยคที่ถูกต้อง
เรียนรู้ที่จะเรียงลำดับประโยคต่างๆ เพื่อเล่าเรื่องต่อเนื่องกันตั้งแต่ต้นจนจบ
เพื่อให้เด็กได้ใช้การพูดของตนในการสื่อสารกับบุคคลอื่นในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง

จากสภาพการณ์ในปัจจุบัน ท่ามกลางความเร่งรีบ และสังคมตัวใครตัวมัน
ทำให้เด็กยุคสมัยนี้มักจะพูดช้าเพราะไม่ค่อยมีใครคุยด้วย หรือไม่ก็ถูกปล่อยให้อยู่กับทีวี หรือ พี่เลี้ยง
ยิ่งถ้าพี่เลี้ยงใช้ภาษาอื่นด้วยแล้ว ยิ่งจะเป็นปัญหาสำหรับเด็กเพิ่มขึ้นไปอีก

โดยเฉพาะพ่อแม่ในสังคมชนบทมักจะปล่อยเรื่องการพูดของลูกให้เป็นเรื่องตามธรรมชาติ
หากลูกพูดช้าหรือพูดไม่ชัดก็มักจะจบลงที่ว่าเมื่อถึงเวลาก็พูดได้ หรือก็พูดชัดได้เอง

ในขณะที่พ่อแม่คนเมืองกลับมีปัญหาอีกแบบ ก็คือ พ่อแม่ไม่มีเวลาอยู่กับลูก ไม่มีเวลาได้ฝึกพูดกับลูก
หรือไม่ลูกก็ถูกปล่อยให้อยู่กับผู้อื่น หรืออยู่กับเทคโนโลยีมากกว่า

และสุดท้าย...ไม่ว่าเด็กจะพูดช้า หรือพูดไม่ชัด ก็เป็นหน้าที่ของคนเป็นพ่อแม่
หรือผู้เลี้ยงดูเด็กนั่นแหละค่ะที่ต้องตามแก้ปัญหาและช่วยเหลือลูก

อย่าลืมว่า ปัญหาเรื่องลูกพูดช้า หรือพูดไม่ชัด ก็ยังดีกว่าลูกพูดไม่รู้เรื่องนะคะ

โดย สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน




 

Create Date : 04 มิถุนายน 2552
0 comments
Last Update : 4 มิถุนายน 2552 20:00:31 น.
Counter : 1283 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.