“ปาฏิหาริย์ไม่ใช่การเดินบนน้ำ หรือบินอยู่บนอากาศ แต่ปาฏิหาริย์คือการเดินอยู่บนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว”

ติช นัท ฮันท์

377 .. กลับมาสนใจธรรมะ ... เริ่มต้นอย่างไรดี









กลับมาสนใจธรรมะ เริ่มต้นอย่างไรดี




โดย พระไพศาล วิสาโล //www.visalo.org/QA/Q560617_2.htm






ปุ จ ฉ า



กราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่เติบโตมาในครอบครัวที่อยู่ในศาสนาพุทธ คุณพ่อคุณแม่ถือเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีมาก หมั่นเข้าวัดฟังธรรม สวดมนต์ปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอมาตั้งแต่ดิฉันจำความได้ แล้วยังสั่งสอนและคอยหาธรรมะมาเล่ามาสอนดิฉันเสมอๆ จนตอนนี้ดิฉันอายุ 35 ปีแล้ว ได้รับฟังธรรมจากครูบาอาจารย์บ้างตามซีดี และตามคำสอนของคุณพ่อคุณแม่ แต่ในช่วงวัยรุ่นและช่วงแรกของชีวิตการทำงาน ดิฉันห่างจากพุทธศาสนาไปมาก เพราะให้ข้ออ้างว่าตนไม่มีเวลา ไม่สนุก ไม่ใช่เรื่องที่สนใจ และเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว ตอนอายุ 28 ก็ได้แต่งงาน ซึ่งถือว่าโชคดีมากที่มีสามีเป็นคนดีมีธรรมะและสนใจในพระพุทธศาสนาและพระธรรม



แต่สองสามปีมานี้ ดิฉันกลับมาสนใจธรรมะอีก และพยายามฟังเทศน์รวมถึงสนทนาธรรมกับคุณพ่อคุณแม่เมื่อมีโอกาส เมื่อเกิดความทุกข์ใจหรือความเครียด ก็จะพยายามข่มใจและตั้งสติว่าควรทำอย่างไร แต่บางทีดิฉันก็ไม่สามารถทำตามที่ได้ฟังมาตามคำสอนของพระพุทธศาสนาได้ เช่น เรื่องดิฉันกับสามีตั้งใจว่าจะไม่มีลูก (เนื่องจากติดปัญหาสุขภาพ และคิดว่าการเลี้ยงเด็กสมัยนี้ยากมาก) แต่ดิฉันก็กลัวว่าแก่ไปจะลำบาก จะอยู่คนเดียวไม่ได้ (ด้วยความที่เป็นคนขี้กังวล มักกลัวและพะวงกับเหตุการณ์ในอนาคตที่ยังไม่เกิด รู้ว่าควรอยู่กับปัจจุบัน แต่ก็ทำไม่ได้)



แต่คุณพ่อคุณแม่ก็แนะนำให้หัดนั่งสมาธิ หัดที่จะอยู่คนเดียว แม้ดิฉันรู้ แต่ก็รู้สึกว่ายากเหลือเกินที่จะต้องทำแบบนั้น. หรือบางครั้งดิฉันโมโหเรื่องงานที่ไม่เป็นไปดั่งใจ ก็รู้ว่าไม่ควรทำแบบนั้น ควรฝึกสติ ตามให้ทัน แต่ทำยากเหลือเกิน ดิฉันควรเริ่มอย่างไรดีคะ










วิ สั ช น า



การนั่งสมาธินั้นไม่ยากหรอก ที่ยากเพราะคุณตั้งความหวังไว้สูงเกินไป เช่น นั่งแล้วใจต้องสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน ทั้ง ๆ ที่ นั่งแค่ไม่กี่นาที หรือฝึกได้ไม่นาน คุณอาจจะเริ่มด้วยการทำวันละ 10 นาทีก็ได้ และควรทำทุกวัน ไม่ว่าจะมีงานมากแค่ไหนก็ตาม ขณะที่ทำก็วางความคาดหวังต่าง ๆ ไว้ก่อน (เช่น อยากให้จิตสงบ) ยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่ไม่ผลักไสหรือกดข่มมัน หากคุณทำอย่างต่อเนื่อง จะพบว่า 10 นาทีไม่นานเลย อีกทั้งยังอยากจะทำให้นานกว่านั้น ต่อไปอาจจะทำได้ถึง 1 ชั่วโมงได้โดยไม่ต้องฝืนใจเลย



นอกจากนั้น ก็ควรฝึกสติในชีวิตประจำวัน กล่าวคือเวลาทำอะไร ใจก็อยู่กับสิ่งนั้น อย่าปล่อยใจลอยหรือหาเรื่องคิด หาไม่คุณจะถูกความวิตกกังวลเล่นงานไม่เลิกรา การเจริญสตินั้นมีหลักง่าย ๆ ว่า ตัวอยู่ไหน ใจอยู่นั่น เรียกว่า อยู่กับปัจจุบัน ใจจะเผลอคิดไปอดีตหรืออนาคต รู้ตัวว่าเผลอเมื่อไหร่ก็พาใจกลับมาอยู่กับสิ่งที่ทำอยู่ในขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ ล้างจาน กวาดบ้าน สามารถใช้เป็นโอกาสในการเจริญสติได้ทั้งนั้น ต่อไปก็จะเอามาใช้กับการงานที่ต้องใช้ความคิดได้ด้วย ช่วยให้ไม่เครียดกับงาน และไม่กังวลกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ถ้าทำสม่ำเสมอ ก็จะเห็นผลได้ในเวลาไม่นาน.




















ขอขอบคุณ
ภาพ.......จากอินเตอร์เน็ท
และเครื่องแต่งบล็อก ..... จากบล็อกชมพร / บล็อกญามี่


  ธรรมสวัสดี



ร่มไม้เย็น ค่ะ




 

Create Date : 19 กันยายน 2556
0 comments
Last Update : 26 กันยายน 2556 20:59:10 น.
Counter : 4235 Pageviews.


ร่มไม้เย็น
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 127 คน [?]







เริ่มเขียน Blog เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2551


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยม เมื่อเวลา 18.15 น.



Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
19 กันยายน 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ร่มไม้เย็น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.