ดังนั้นจางจื๊อจึงแนะให้เราทำเรือของเราให้ว่างเปล่า หรือทำตนเป็น เรือเปล่า เพื่อจะได้ข้าม แม่น้ำอย่างสะดวกสบาย ไม่มีใครมาขัดขวางหรือกระทบกระทั่งด้วย
มองอย่างพุทธ เรือเปล่า ก็คือจิตที่ว่างเปล่าจากตัวตน หรือพูดให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือจิตที่ว่างเปล่าจากความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนนั่นเอง ผู้ที่มีจิตว่างเปล่าตามนัยดังกล่าวย่อมอยู่ในโลกนี้ได้อย่างราบรื่นและผาสุก แม้จะไม่ถึงกับปลอดพ้นจากการถูกตะโกนด่าว่าดังเรือเปล่าของจางจื๊อ แต่คำตะโกนด่าว่านั้นย่อมไม่อาจทำให้ทุกข์ได้ เพราะไม่มี ตัวตนออกไปรับคำด่า ใช่หรือไม่ว่าถ้ามีตัวตนหรือยึดมั่นถือมั่นใน ตัวกูเมื่อไร ก็อดไม่ได้ที่จะเอาคำด่านั้นมาเป็น ของกู เกิดความสำคัญมั่นหมายว่า ตัวกูถูกด่า หรือมี ตัวกูเป็นเป้าให้คำด่าว่านั้นเข้ามากระทบกระแทก
ตัวตนหรือความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนนั้นเป็นที่มาแห่งความทุกข์ทั้งหลายของมนุษย์ ไม่ใช่แค่ทุกข์เพราะถูกต่อว่าเท่านั้น หากยังทุกข์เมื่อประสบกับความสูญเสียพลัดพราก เพราะไปสำคัญผิดว่าสิ่งที่สูญเสียไปหรือบุคคลที่พลัดพรากไปนั้นล้วนเป็น ของกู แม้แต่เวลาเจ็บปวดทางกาย ก็ยังทุกข์ไปถึงใจ เพราะไปสำคัญมั่นหมายว่า กูเจ็บ ท่านอาจารย์พุทธทาสเปรียบ เทียบให้เห็นง่าย ๆ ว่า เมื่อมีดบาดนิ้ว ถ้าไปสำคัญมั่นหมายว่า มีดบาดฉันเมื่อไร จะเจ็บยิ่งกว่าเวลารู้สึกว่า มีดบาดนิ้วเสียอีก
ขอขอบคุณ
ภาพจาก....อินเตอร์เน็ต
ข้อคิดจาก...Facebook พระไพศาล วิสาโล - Phra Paisal Visalo 30 กันยายน 2557
https://www.facebook.com/visalo/photos/a.162484743778851.40257.162450523782273/1010426675651316/?type=3&theater
เครื่องแต่งบล็อกจาก.....บล็อกชมพร / บล็อกญามี่
ธรรมสวัสดี
ร่มไม้เย็นค่ะ
แวะมาอ่านธรรมะค่า
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog