168 .. เปลี่ยนมุมมอง
เปลี่ยนมุมมอง
เขียนโดย รินใจ จาก เว็บ tamdee.net
มีเรื่องเล่าว่าชายหนุ่มพา ผู้เฒ่าอินเดียนแดง ไปเดินกลางกรุงนิวยอร์ก ในเช้าวันนั้นบาทวิถีคลาคล่ำด้วยผู้คน ส่วนท้องถนนก็มีรถราขวักไขว่ เสียงดังพูดกันแทบไม่ได้ยิน
เดินไปได้สักพัก ผู้เฒ่าอินเดียนแดงก็หยุด เงี่ยหูฟัง เหมือนกับได้ยินอะไรสักอย่าง แล้วก็ชวนชายหนุ่มข้ามถนนไปที่สวนสาธารณะอีกฟากหนึ่ง
เขาสอดส่ายสายไปตามพื้นดินอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ชี้ให้ชายหนุ่มดูหลุมเล็กๆ ข้างพุ่มไม้
"นั่นไง จิ้งหรีด" เขาบอกพร้อมรอยยิ้ม
"ลุงทำได้ไง ? รอบตัวมีแต่เสียงอึกทึกเอ็ดตะโร ลุงได้ยินเสียงจิ้งหรีดอีกฟากถนนได้ยังไง?" ชายหนุ่มแปลกใจ
"ไม่ยากหรอก มันขึ้นอยู่กับความสนใจ ถ้าไม่เชื่อ ฉันจะทำอะไรให้ดู"
ว่าแล้วผู้เฒ่าก็หยิบเหรียญดอลล่าร์ออกมาจากกระเป๋า แล้วโยนลงพื้น
สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาชายหนุ่ม ก็คือ ทันทีที่เหรียญกระทบพื้นดัง "กริ๊ง" ผู้คนที่กำลังเดินอยู่บนสองฟากถนนก็ชะงัก และหันมามองต้นกำเนิดของเสียงทันที
ผู้เฒ่าไม่ได้มีความสามารถพิเศษไปจากผู้คนในกรุงนิวยอร์ก เพียงแต่ว่าความสนใจของเขาแตกต่างจากคนทั่วไปเท่านั้นเอง
แต่จะเป็นจิ้งหรีดหรือเงินก็ตาม ถ้าสนใจสิ่งนั้นเป็นพิเศษ ประสาทหูหรือตา ก็จะทำงานได้ไวมากหากสิ่งนั้นปรากฏขึ้นมา เสียงดังรบกวนแค่ไหน ประสาทก็สามารถแยกแยะจนได้ยินเสียงจิ้งหรีดหรือเสียงเงินได้ไม่ยาก
เรื่องนี้จริงเท็จอย่างไรขึ้นอยู่กับผู้เล่า แต่ในชีวิตประจำวัน เหตุการณ์ทำนองนี้เห็นได้ไม่ยาก
เวลาเอาแผ่นเอ็กซเรย์ให้ผู้ป่วยดู เขามองแทบไม่เห็นอะไรเลย แต่ถ้าให้หมอดู หมอจะเห็นหัวใจ ปอด ตับ ข้อกระดูก และอวัยวะภายในอื่นๆ ได้อย่างชัดเจน ยิ่งมีความรู้เรื่องกายวิภาคมากเท่าไร ก็ยิ่งเห็นรายละเอียดในแผ่นเอ็กซเรย์ได้มากเท่านั้น
ความรู้หรือความสนใจทำให้ประสาทไว สามารถเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น แต่ก็ต้องระวังเพราะบ่อยครั้งสิ่งที่มีอยู่ในใจ อาจทำให้ประสาทรับรู้บิดเบี้ยว จนเห็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง หรือคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
คนที่กลัวงู เข้าป่าก็มักจะเห็นงู แม้ป่าจะไม่มีงู แต่ตาก็มองรากไม้ให้กลายเป็นงูจนได้
คนที่กลัวอ้วน ก็มักจะเห็นไขมันส่วนเกินกระจุกตรงโน้นตรงนี้เต็มไปหมด ทั้งๆ ที่คนอื่นเห็นว่าสมส่วนดีแล้ว
ถ้าเป็นคนชอบระแวง ก็มักเห็นคนอื่นมีพิรุธ ท่าทางไม่น่าไว้ใจ เขาคุยเล่นกัน ก็มองว่าเขากำลังนินทาตัวเองอยู่ ตาของคนเราชอบมองอะไรต่ออะไรให้เข้ากับความคิดหรือสิ่งที่มีอยู่ในใจเสมอ
นักจิตวิทยาผู้หนึ่งเคยพาชายแปลกหน้าไปพบนักศึกษา 5 กลุ่ม โดยแนะนำชายผู้นั้นแตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่ม คือ แนะนำว่าเป็นนักศึกษาบ้าง ผู้ช่วยอาจารย์บ้าง อาจารย์บ้าง อาจารย์อาวุโสบ้าง และสุดท้ายก็แนะนำว่า เป็นศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
หลังจากนั้นก็ถามนักศึกษาว่า ความสูงของชายผู้นั้นประมาณว่าสักเท่าใด
ปรากฏว่า ตัวเลขสูงที่สุด มาจากกลุ่มที่ได้รับการแนะนำว่า ชายผู้นั้นเป็นศาสตราจารย์ และตัวเลขต่ำสุดมาจากกลุ่มที่ได้รับการแนะนำว่า ชายผู้นั้นเป็นนักศึกษา
พูดอีกอย่างก็คือ คนเรามีแนวโน้มที่จะมองคนที่มีสถานภาพสูงว่า มีความสูงมากกว่าความเป็นจริง และมองคนที่มีสถานภาพต่ำกว่า มีความสูงน้อยกว่าความเป็นจริง
ทั้งหมดนี้บอกเราว่า ความรู้สึกนึกคิดในใจนั้นมีส่วนกำหนดการรับรู้ของเรามาก ไม่ว่าชอบหรือชัง ติดใจหรืออยากผลักไส ตลอดจนความรู้ ความเชื่อ และค่านิยมต่างๆ ล้วนมีอิทธิพลต่อตา หู จมูก ลิ้น และกายของเรามาก
เวลารู้สึกติดลบกับใคร เรามักเห็นเขาเป็นตัวปัญหา ทำอะไรดูไม่เข้าท่าไปหมด ปัญหาในครอบครัวและที่ทำงาน บ่อยครั้งก็เกิดจากอคติในใจเรานี่เอง
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์อาจจะดีขึ้นได้ หากเราลองทักท้วงความนึกคิดเดิมๆ ว่า เขาอาจไม่เป็นอย่างที่เรานึกก็ได้
ถ้ารู้สึกว่ายังทำยาก ก็ลองเปลี่ยนมุมมองดูว่า "วันนี้เขาทำอะไรที่ดีๆบ้าง
อะไรที่ไม่ดี ก็มองข้ามไปก่อนสักวันสองวัน คอยรับรู้หรือจดจำแต่เรื่องดีๆ ที่เขาทำ บางทีเราอาจพบว่า เขาทำสิ่งดีๆ มากมาย
เป็นแต่เราไม่ค่อยเห็น เพราะใจไปมีอคติกับเขา ก็เลยเห็นแต่เรื่องไม่ดีของเขา
แก้วที่มีน้ำครึ่งแก้ว เรามองได้สองอย่าง มองว่ามีน้ำพร่องครึ่งแก้วก็ได้ หรือน้ำเต็มครึ่งหนึ่งก็ได้ ถ้าคุณมองเห็นแต่น้ำพร่อง ลองมองให้เห็นอีกด้านหนึ่งดูบ้าง จิตใจจะรู้สึกเป็นบวกมากขึ้น
กับลูกของเรา และตัวเราเองก็เช่นกัน หากรู้สึกไม่เชื่อมั่นในตัวลูกหรือตัวเองขึ้นมา ลองเปลี่ยนมุมมองดูบ้าง แล้วอาจจะพบว่าลูกเราน่ารักกว่าที่คิด ส่วนตัวเราเองก็เก่งอย่างที่นึกไม่ถึง
ธรรมสวัสดี
ร่มไม้เย็น ค่ะ
Create Date : 01 สิงหาคม 2554 |
Last Update : 30 มีนาคม 2558 12:25:36 น. |
|
59 comments
|
Counter : 4183 Pageviews. |
|
|
|
การเปลี่ยนมุมมองแล้วทำให้เราคิดบวก
และมีชีวิตที่มีความสุขขึ้น
ก็เป็นสิ่งที่น่าทำมากๆเลยนะคะ
วันนี้กรุงเทพฝนตกทั้งวันเลย
คุณป้าระวังเป็นหวัด
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ