526 .. เสียงอ่านสามก๊ก ฉบับแปลใหม่ # 47 (141-143)
เสียงอ่านสามก๊ก ฉบับแปลใหม่ # 47
ลำดับที่ 141-143
ก่อนจะเป็นเสียงอ่านสามก๊ก ฉบับแปลใหม่..... ขอเชิญเปิดอ่านที่นี่ค่ะ
ขอเชิญฟังเสียงอ่าน สามก๊ก ฉบับแปลใหม่
ลำดับที่ 141-143 ค่ะ
ลำดับที่ 141
ลำดับที่ 142
ลำดับที่ 143
ขอเชิญติดตามตอนต่อไปในลำดับที่ 48 ค่ะ
ตัวละครหลักในสามก๊ก
ข้อมูลจาก.....วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ภาพวาดจูล่ง สมัยราชวงศ์ชิง
จูล่ง - วีรบุรุษแห่งเสียงสาน
จูล่ง (จีนตัวย่อ: 子龙; จีนตัวเต็ม: 子龍; พินอิน: Zǐlóng) เป็นตัวละครในวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่อง สามก๊ก ที่มีตัวตนจริง ชื่อจริงว่า เตียวหยุน (จีนตัวย่อ: 赵云; จีนตัวเต็ม: 趙雲; พินอิน: Zhào Yún) เป็นแม่ทัพคนสำคัญของเล่าปี่ และเป็นหนึ่งในห้าทหารเสือ จูล่ง ได้รับฉายาว่าเป็น "สุภาพบุรุษจากเสียงสาน" เกิดในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 2 ประมาณปี ค.ศ. 161 ที่อำเภอเจินติ้ง เมืองเสียงสาน มีแซ่เตียว (จ้าว) ชื่อ หยุน (แปลว่าเมฆ) ชื่อรอง จูล่ง หรือ จื่อหลง (แปลว่าบุตรมังกร) สูงประมาณ 6 ศอก (1.89 เมตร) หน้าผากกว้างดั่งเสือ ตาโต คิ้วดก กรามใหญ่กว้างบ่งบอกถึงนิสัยซื่อสัตย์ สุภาพเรียบร้อย น้ำใจกล้าหาญ สวมเกราะสีขาว ใช้ทวนยาวเป็นอาวุธ พาหนะคู่ใจ คือ ม้าสีขาว
ประวัติ
จูล่งเดิมเป็นชาวเมืองเสียงสาน ต่อมาได้มาเป็นทหารของอ้วนเสี้ยว แต่อ้วนเสี้ยวหยาบช้าไร้น้ำใจ จูล่งจึงหนีไปอยู่กับกองซุนจ้านเจ้าเมืองปักเป๋ง โดยที่ขณะนั้นกองซุนจ้านได้ทำศึกกับอ้วนเสี้ยว จูล่งยังได้ช่วยชีวิตกองซุนจ้านไว้แล้วสู้กับบุนทิวถึง 60 เพลง จนบุนทิวหนีไป ต่อมาจูล่งได้มีโอกาสรู้จักกับเล่าปี่ ทั้งสองต่างเลื่อมใสซึ่งกันและกัน เมื่อกองซุนจ้านฆ่าตัวตายเพราะแพ้อ้วนเสี้ยว จูล่งจึงได้ร่อนเร่พเนจรจนมาถึงเขาโงจิวสัน ซึ่งมีโจรป่ากลุ่มหนึ่งมีหุยง่วนเสียวเป็นหัวหน้า หุยง่วนเสียวคิดชิงม้าจากจูล่ง จูล่งจึงฆ่าหุยง่วนเสียวตายแล้วได้เป็นหัวหน้าโจรป่าแทน ต่อมากวนอูได้ใช้ให้จิวฉองมาตามหุยง่วนเสียวและโจรป่าไปช่วยรบ จิวฉองเมื่อเห็นจูล่งคุมโจรป่าจึงคิดว่าจูล่งคิดร้ายฆ่าหุยง่วนเสียว จิวฉองจึงขับม้าเข้ารบกับจูล่ง ปรากฏว่าจิวฉองต้องกลับไปหากวนอูในสภาพเลือดโทรมกาย ถูกแทงถึง 3 แผล (สำนวนสามก๊กฉบับวณิพกของ ยาขอบ) จิวฉองเล่าว่าคนผู้นี้มีฝีมือระดับลิโป้ ดังนั้นกวนอูกับเล่าปี่จึงต้องรุดไปดูด้วยตนเอง เมื่อได้พบกันจูล่งก็เล่าความจริงทั้งหมด ตั้งแต่นั้นมาจูล่งก็ได้เป็นทหารเอกของเล่าปี่ จูล่งเคยรบชนะม้าเฉียว และยังเคยทะเลาะกับเตียวหุยตอนอยู่กับกองซุนจ้าน จนเกือบสังหารเตียวหุยแต่กวนอูมาขวางไว้
ในปี พ.ศ. 751 จูล่งสร้างวีรกรรมครั้งสำคัญคือ ฝ่าทัพรับอาเต๊า บุตรชายของเล่าปี่ที่เกิดจากนางกำฮูหยิน ซึ่งพลัดหลงกับเล่าปี่ที่ทุ่งเตียงบันโบ๋ จูล่งทำการครั้งนี้เพียงคนเดียว ท่ามกลางทหารและองครักษ์มากมายของโจโฉที่ยกทัพลงทางใต้หวังรวบรวมแผ่นดิน และได้ฆ่าทหารเอกและทหารเลว ของโจโฉมากมาย ตั้งแต่ 03.00 น. จนถึง 15.00 น. ของอีกวัน จนโจโฉ ถึงกับถามชื่อขุนพลผู้นี้ ซึ่งจูล่งได้ตอบโจโฉว่า "ข้าชื่อจูล่ง แห่งเสียงสาน" โจโฉประทับใจในความกล้าหาญของจูล่ง จึงสั่งไม่ให้ใช้เกาทัณฑ์ยิง ทำให้จูล่งสามารถอุ้มเอาอาเต๊าหนีกลับมาหาเล่าปี่ได้ และครั้งหนึ่งจูล่งได้ไปชิงตัวอาเต๊าคืนมาจากซุนฮูหยิน ที่ต้องกลของซุนกวนที่หวังจะดึงไปเป็นตัวประกันที่ง่อก๊ก
ภายหลังเมื่อจูล่งติดตามเล่าปี่เข้าเสฉวนและรับตำแหน่งแม่ทัพร่วมกับฮองตงไปทำศึกชิงเขาเตงกุนสันที่ฮันต๋ง จูล่งก็สร้างวีรกรรมสำคัญช่วยเหลือฮองตงซึ่งกำลังเสียทีตกอยู่ในวงล้อมกองทัพของโจโฉและตีฝ่าออกมาได้ เมื่อโจโฉนำทัพไล่ตาม จูล่งก็นำทหารเข้าไปในค่ายและตนเองแต่ผู้เดียวออกมาขี่ม้าถือทวนอยู่หน้าค่าย โจโฉเกิดความระแวง จูล่งจึงอาศัยโอกาสนั้นให้ทหารที่ซุ่มอยู่เข้าตีทั้งสองด้านไล่ทัพโจโฉจนต้องถอยร่นไป เมื่อเล่าปี่มาตรวจค่ายที่จูล่งทำศึกก็ออกปากยกย่องจูล่งว่า มีดีไปทั้งตัว ซึ่งหมายถึงมีความกล้าหาญไปทั่วทั้งตัว
จูล่งเป็นผู้ที่ติดตามเล่าปี่ตลอด แม้จะไม่ได้สาบานเป็นพี่น้องกันเหมือน กวนอูและเตียวหุย แต่จูล่งก็เรียกกวนอูและเตียวหุยว่า "พี่สองและพี่สาม" แต่กับเล่าปี่ จูล่งจะเรียกว่า "นายท่าน" เมื่อครั้งเล่าปี่ต้องการแก้แค้นให้กวนอูและเตียวหุยซึ่งถูกง่อก๊กสังหาร จูล่งเป็นผู้ที่คัดค้านและแนะนำเล่าปี่ว่า ควรละความแค้นส่วนตัว และปราบวุยก๊กของโจผี ซึ่งเป็นผู้ที่ประชาชนมองว่าเป็นศัตรูแผ่นดินตัวจริง แต่เล่าปี่ไม่ฟัง เมื่อเล่าปี่นำกองทัพไปพ่ายแพ้ที่อิเหลง จูล่งซึ่งเป็นทัพหลังและเตรียมพร้อมไว้ก่อนจึงพาเล่าปี่หนีกลับมาพำนักที่เมืองเป๊กเต้เสีย ก่อนเล่าปี่จะสิ้นใจได้เรียก ขงเบ้งเข้าพบ และเรียกจูล่ง ตรัสด้วยคำพูดว่า "ท่านกับเรานั้นเป็นเพื่อนต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา แต่มาบัดนี้ ชะตากรรมกำลังพรากเราสอง ขอให้ท่านนึกถึงน้ำใจเก่าก่อน ช่วยเหลือบุตรเราและท่านขงเบ้ง ฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่นอัญเชิญราชวงศ์ฮั่นกลับสู่ราชธานีลกเอี๋ยงด้วย"
หลังจากที่เล่าปี่เสียชีวิตลง จูล่งเป็นทหารสังกัดของขงเบ้ง เมื่อยามศึกก็ยังสู้แม้ตัวเองจะแก่แล้ว มีครั้งหนึ่ง ก่อนรบศึกกับฝ่ายวุยก็ก ช่วงนั้นขงเบ้งเลือกทหารให้ไปรบ แต่กลับไม่เลือกจูล่ง เพราะขงเบ้งเห็นว่าจูล่งแก่แล้ว แต่จูล่งกลับแย้งขี้นมา และได้เป็นทัพหน้าสมใจ แม้ในวัยชราแล้วจูล่งก็ยังสามารถนำทหารเข้าต่อสู้และเอาชัยเหนือแม่ทัพหนุ่มๆของข้าศึกได้ จูล่งเสียชีวิตอย่างสงบในเมืองฮั่นจง เมื่อปี พ.ศ. 772 หลังจากที่จูล่งตาย ขงเบ้งได้รำพันออกมาว่า "แขนซ้ายข้าขาดแล้ว" และเป็นลมสิ้นสติไปด้วยความเสียใจ
จูล่ง ถือได้ว่าเป็นตัวละครที่ผู้อ่านสามก๊กโดยส่วนมาก โปรดปราน ชื่นชมมากที่สุดในบรรดาตัวละครทั้งหมดในเรื่อง เนื่องจากเป็นผู้ที่มีรูปลักษณ์การแต่งกายสง่างาม ฝีมือสัประยุทธ์เป็นเลิศ และมีความซื่อสัตย์ ทำการโดยไม่เห็นแก่ลาภยศ ทั้งมีสติปัญญาเป็นเยี่ยม
ข้อแตกต่างระหว่างนวนิยายกับประวัติศาสตร์
ในจดหมายเหตุชีวประวัติจูล่งของเฉินโซ่ว ซึ่งเป็นบันทึกประวัติศาสตร์สามก๊ก มีข้อแตกต่างกับเรื่องราวของจูล่งในนิยายบางจุด เช่น ในประวัติศาสตร์นั้นจูล่งไม่เคยเป็นทหารของอ้วนเสี้ยว แต่อยู่กับกองซุนจ้านมาแต่แรก และจูล่งก็เข้ามาอยู่ในกองทัพของเล่าปี่หลังจากได้พบกับเล่าปี่ครั้งแรก แต่ยังเป็นเพียงทหารชั้นผู้น้อย จูล่งช่วยเหลืออาเต๊าที่ทุ่งเตียงปันจริง แต่ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ที่เขาช่วยแย่งอาเต๊ากลับมาจากซุนฮูหยิน
จูล่งมีบุตรชาย 2 คน ซึ่งปรากฏตัวออกมาในตอนที่มาแจ้งข่าวแก่ขงเบ้งว่าจูล่งถึงแก่ความตายแล้วก็ไม่ปรากฏบทบาทใดๆอีก นอกจากกล่าวว่าบุตรคนโตคือเตียวต๋งได้รับตำแหน่งของจูล่งต่อมา ส่วนบุตรคนรองคือเตียวกองได้เป็นแม่ทัพคอยติดตามเกียงอุยออกศึก และไม่ได้มีการกล่าวถึงแน่ชัดว่าจูล่งมีบุตรตั้งแต่เมื่อใด (แต่ตัวละครอื่นๆในสามก๊กก็แทบไม่มีบันทึกเรื่องราวเหล่านี้ แม้กระทั่งเล่าปี่เอง ในจดหมายเหตุชีวประวัติชีซีก็ยังมีจุดที่แสดงว่าเล่าปี่เคยมีบุตรมาก่อนอาเต๊าหลายคน แต่นิยายไม่ได้กล่าวถึงเลย)
เกี่ยวกับภรรยาของจูล่ง เหตุที่ได้รับความสนใจกันมากนอกเหนือจากเพราะบทบาทของบุตรชายทั้งสองคนซึ่งออกมาหลังจากจูล่งสิ้นแล้ว อาจเพราะมีนิยายสามก๊กในฉบับของ Zhou Dahuang ซึ่งมีชื่อว่า Fan Sanguo Yanyi (反三國演義)ซึ่งเป็นการเสริมเติมฉบับของหลอก้วนจง และแต่งให้ปรากฏบทบาทของภรรยาจูล่ง นั่นคือ ม้าหยุนลู่ (Ma Yunlu) บุตรีของม้าเท้งและเป็นน้องสาวของม้าเฉียว ซึ่งมีความเก่งกล้าสามารถในการรบไม่แพ้พ่อและพี่ชาย โดยกล่าวว่าด้วยความเก่งกล้าและห้าวหาญในการรบและขี่ม้าของเธอทำให้บิดารู้สึกกังวลว่าเธอจะไม่อาจหาสามีที่คู่ควรได้ จนกระทั่งอายุ 22 ปี เธอจึงได้พบกับจูล่ง แล้วจึงแต่งงานกัน โดยมีเล่าปี่เป็นพยาน และขงเบ้งกับหวดเจ้งเป็นพ่อสื่อให้ จากนั้นเธอก็ช่วยเหลือสามีทำงานรับใช้เล่าปี่และจ๊กก๊กอย่างเต็มกำลัง
จูล่งตัวจริงในประวัติศาสตร์มีตำแหน่งทางทหารยศต่ำสุดในบรรดา 5 ทหารเสือ ซึ่ง 5 ทหารเสือนี้เป็นเพียงการยกย่องของเล่าปี่ต่อขุนพลทั้ง 5 ของตนเองว่ามีความเก่งกล้าสามารถอย่างสูง แต่ไม่ได้เป็นตำแหน่งทางทหารอย่างเป็นทางการ โดยจูล่งควบตำแหน่งองครักษ์ของเล่าเสี้ยนด้วย ซึ่งตำแหน่งทางทหารของจูล่งหลังจากได้รับการยกย่องเป็น 5 ทหารเสือคือ General Guardian of Distant (นายพลผู้พิทักษ์ดินแดน) ภายหลังจากขงเบ้งยกทัพบุกภาคเหนือ ตำแหน่งของจูล่งขณะนั้นและเป็นตำแหน่งสูงสุดขณะมีชีวิตคือ Marquis of Shunping และได้เลื่อนยศขึ้นอีกหลังจากสิ้นไปแล้ว เป็น Lord of Shunping ซึ่งมีบันทึกว่าระหว่างเล่าปี่มีชีวิตอยู่ มีเพียงหวดเจ้งคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับการอวยยศย้อนหลัง ส่วนจูล่งกว่าจะได้รับการอวยยศก็คือปีค.ศ.261 (ในนิยายกล่าวว่าเล่าเสี้ยนอวยยศย้อนหลังให้หลังจากจูล่งสิ้นในปีนั้น)
ในจดหมายเหตุสามก๊ก ระบุว่าในปีเจียนอันที่ 24 หลังจากเล่าปี่สถาปนาตนเองเป็น ฮั่นจงอ๋องแล้ว ก็ตั้ง กวนอูเป็นแม่ทัพหน้า เตียวหุยเป็นแม่ทัพขวา ม้าเฉียวเป็นแม่ทัพซ้าย และฮองตงเป็นแม่ทัพหลัง ไม่ปรากฏชื่อของจูล่งเลย การยกย่อง 5 ทหารเสือจึงปรากฏเพียงในนวนิยาย 3 ก๊กเท่านั้น จูล่งจึงถือเป็นขุนพลผู้อาภัพเมื่อเทียบกับผลงานมากมายที่เขาได้ทำเอาไว้ แม้ภายหลังเมื่อมีการอวยยศย้อนหลังนั้น เล่าเสี้ยนอวยยศย้อนหลังให้เพียง กวนอู เตียวหุย ม้าเฉียวและฮองตงเท่านั้น จนกระทั่งเกียงอุยเข้ามาทักท้วงว่าจูล่งมีผลงานมากมายรวมถึงช่วยเล่าเสี้ยนตอนเป็นทารกออกมาจากกองทัพโจโฉ จึงควรอวยยศย้อนหลังให้จูล่งด้วย เล่าเสี้ยนจึงได้มีการอวยยศย้อนหลังให้จูล่งด้วย
ขอขอบคุณ วรรณไว พัธโนทัย ผู้แปลและเรียบเรียงสามก๊ก ฉบับแปลใหม่
ขอขอบคุณ สำนักพิมพ์ธรรมชาติ ผู้จัดพิมพ์วรรณกรรมเรื่องนี้
ขอขอบคุณ ห้องสมุดคอลฟิลด์เพื่อคนตาบอด มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ผู้จัดทำเป็นหนังสือเสียง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ขอขอบคุณภาพจากทุกเว็บที่เกี่ยวเนื่องกับสามก๊ก
ขอขอบคุณเครื่องแต่งบล็อก จากบล็อกชมพร / บล็อกญามี่
และขอขอบคุณ คุณ treetree6969 ผู้จัดทำวิดีโอนี้
สาขา Book Blog
ร่มไม้เย็นค่ะ
Create Date : 06 มกราคม 2558 |
|
0 comments |
Last Update : 6 มกราคม 2558 21:31:25 น. |
Counter : 6877 Pageviews. |
|
|
|