198 .. โกรธยากหายเร็ว
โกรธยากหายเร็ว
เขียนโดย ดังตฤณ คอลัมน์ จากใจ บก.ใกล้ตัว Lite Talk นิตยสารธรรมะออนไลน์ รายปักษ์ ฉบับที่ 63
คนโกรธยาก คือพวกที่ไม่ทำให้โลกนี้แย่ลงกว่าที่เป็นอยู่ และเป็นพวกเดียวที่จะทำให้โลกนี้เย็นลงได้
บุญที่ทำให้เป็นคนโกรธยาก ไม่ใช่บุญจากการให้ทรัพย์เป็นทาน แต่เป็นบุญที่ต่อยอดจากทรัพยทานขึ้นมาเป็นอภัยทาน กล่าวคือ เมื่อไม่หวงทรัพย์ได้แล้วก็ควรที่จะฝึกเลิกหวงความแค้น ความพยาบาทอาฆาตด้วย
ผู้ไม่ฝึกอภัยไว้แต่เนิ่นๆ เรื่องเล็กก็ฉุนขาด อาละวาดได้หมด นานไปก็เป็นคนโกรธง่ายหายยาก แม้จะสั่งสมทรัพยทานไว้มาก มีความรู้ในการสร้างสุขแค่ไหน หรือกระทั่งเจริญสติมานานนมเพียงใดก็ตาม
การเจริญสตินั้น หากเอาแต่ดูกาย เอาแต่พยายามนิ่ง ไม่เห็นความเป็นอนิจจังของจิต ไม่รู้จักยอมรับตามจริงว่ากำลังโกรธ ไม่ใจเย็นพอจะเห็นความหายไปของโทสะ อย่างนี้ก็เป็นพวกมีมานะอัตตา ยังอยากข่มคนอื่นได้อยู่ เป็นเหตุให้ "โกรธเพื่อกู" ไม่เลิก
สำหรับคนที่สะสมความโกรธมามากแล้ว ขี้โมโหไปแล้ว จะเริ่มต้นแก้กันอย่างไรได้?
ก็เริ่มจากการเพิ่มความเย็นให้ตัวเอง เช่น ด้วยการสวดอิติปิโสทุกวัน ถ้าวันละหลายรอบแล้ว ก็ดูความสงบสุขทางใจที่แตกต่างกันในแต่ละรอบไปด้วย ก็เรียกว่าได้เจริญสติ เห็นความต่างทางใจไปในตัว
ถ้าทำได้ทุกวัน จนรู้สึกเหมือนคนมีทุน ไม่ใช่ไร้ทุน คุณจะสังเกตเห็นความร้อนตอนโกรธได้ง่ายขึ้น เพราะมันขัดกันกับความเย็น ไม่เข้าพวกกันกับความเย็นที่เราตุนไว้มากแล้ว
เห็นบ่อยๆเข้าว่า ร้อนตอนโกรธเป็นอย่างไร ในที่สุดคุณจะสามารถเห็นความไม่เที่ยงของความร้อนได้ ร้อนมากตอนโกรธ แล้วในเวลาต่อมาก็เห็นร้อนลด ร้อนน้อย และกระทั่งร้อนหาย
นี่แหละขั้นตอนในการเปลี่ยนตัวเองได้ในชาติเดียว จากความเป็นคนขี้โมโห โกรธง่าย กลายเป็นคนเยือกเย็น โกรธยาก
กล่าวโดยภาพรวม เราต้องอาศัยความโกรธนั่นแหละเป็นบทฝึก เราต้องออกจากทางร้อนด้วยการผ่านทางร้อน ไม่ใช่ด้วยการกระโจนไปหาสระน้ำเย็นๆแบบพรวดพราด
ธรรมชาติของจิตพร้อมไหลลงต่ำ ไม่ต้องฝึกก็โกรธได้ เกิดมาปุ๊บก็ขัดเคืองได้ปั๊บ แต่สายลมแห่งการอภัยที่จะมาเป่าไฟโกรธให้ดับลง ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเอง ต้องฝึกเป่า ต้องโตขึ้นสักหน่อย และฝึกสร้างกันนานๆ
แต่ช่วงแรกๆจะพบว่า ถ้าทำได้ครั้งหนึ่งก็จะเป็นกำลังให้ครั้งต่อไป และจะพบว่าแรงลมแห่งการอภัย มีพลังหนักแน่นขึ้นเรื่อยๆ
มายิ้มบรรเจิดในโลกที่กำลัง มืดหม่น อนธการ กันเถอะ
เมื่อถูกกระทบแล้วไม่โกรธเป็นปกติ สะท้อนว่ามีกุศลจิตเป็นปกติ
รอยยิ้มอันบันดาลจากกุศลจิต คือรอยยิ้มที่บรรเจิดที่สุดที่มนุษย์จะยิ้มได้
ในโลกที่กำลังโหยหารอยยิ้มกันอยู่ทุกวันนี้
ธรรมสวัสดี
ร่มไม้เย็น ค่ะ
Create Date : 17 มกราคม 2555 |
Last Update : 28 มีนาคม 2558 16:19:59 น. |
|
64 comments
|
Counter : 4812 Pageviews. |
|
|
|