“ปาฏิหาริย์ไม่ใช่การเดินบนน้ำ หรือบินอยู่บนอากาศ แต่ปาฏิหาริย์คือการเดินอยู่บนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว”

ติช นัท ฮันท์
172 .. ราคาของความสะดวกสบาย










ราคาของความสะดวกสบาย




เขียนโดย พระไพศาล วิสาโล จากหนังสือ เส้นโค้งแห่งความสุข – สดับทุกข์ยุคบริโภคนิยม


จัดพิมพ์โดย มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นำมาจาก เว็บ khonnaruk.com





มีนิทานเล่าว่า ชายหนุ่มผู้หนึ่งมาฝึกบำเพ็ญตบะกับอาจารย์ หลังจากฝึกมาได้หลายปี อาจารย์เห็นว่าศิษย์มีความสามารถแก่กล้าแล้ว จึงอนุญาตให้ไปบำเพ็ญพรตแต่ผู้เดียวในอีกแคว้นหนึ่ง



หนุ่มผู้นั้นมาปลูกกระท่อมนอกหมู่บ้าน แล้ววันหนึ่งก็พบว่าเสื้อของตนซึ่งมีอยู่เพียงตัวเดียว มีรอยหนูกัด พอปะชุนแล้ว วันต่อมาหนูก็ยังมากัดอีก เป็นเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาคิดหาทางแก้อยู่หลายวัน ในที่สุดก็ไปหาแมวมาปราบหนู แต่เมื่อได้แมวมา เขาก็ต้องไปหานมมาเลี้ยงแมวด้วย หลังจากไปขอนมวัวจากชาวบ้านอยู่เดือนหนึ่ง ก็คิดว่าแทนที่จะเดินไปขอนมในหมู่บ้าน สู้หาวัวมาเลี้ยงดีกว่า



ครั้งหาวัวมาเลี้ยงแล้ว ก็ต้องหาหญ้าให้มันด้วย เนื่องจากไม่ต้องการเสียเวลาบำเพ็ญพรต เขาก็เลยไปจ้างลูกสาวชาวบ้านมาเกี่ยวหญ้าให้วัว ผ่านไปหลายเดือนเงินที่ขอทานจากชาวบ้านก็ร่อยหรอไปเกือบหมด ก็เลยหาทางออกด้วยการแต่งงานกับสาวเสียเลย จะได้ไม่ต้องเสียเงินจ้าง



เมื่อมีสาวมาอยู่แล้ว ก็ต้องช่วยกันทำมาหากิน ในที่สุดก็เลยเลิกบำเพ็ญพรต กลายมาเป็นพ่อค้า หากินจนร่ำรวย แล้ววันหนึ่งอาจารย์ก็มาเยี่ยม พอเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ อาจารย์ก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ชายผู้นั้นอธิบายว่า "นี่เป็นวิธีที่ผมจะรักษาเสื้อของผมน่ะครับ"




นิทานเรื่องนี้สอนอะไร ?

























แน่นอนนิทานเรื่องนี้ไม่ได้สอนว่า อย่าริมีเสื้อ หรืออย่ารักษาเสื้อ แก่นของเรื่องน่าจะอยู่ตรงที่ วิธีการรักษาเสื้อ มากกว่า



การรักษาเสื้อนั้นมีหลายวิธี แต่ตัวเอกในเรื่องรักษาเสื้อด้วยการหา "เครื่องทุ่นแรง" หรือวิธีที่ทำให้เหนื่อยน้อยที่สุด เช่น หาแมวมาจัดการกับหนู แทนที่จะทำตู้ใส่เสื้อ หรือทำกับดักหนู แต่ปรากฏว่าวิธีดังกล่าวแม้จะแก้ปัญหาหนึ่งได้ กลับสร้างปัญหาใหม่เพิ่มขึ้นมาแทน และเมื่อแก้ด้วยวิธีที่คิดว่าสะดวกสบายที่สุด ก็มีปัญหาใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก



จนในที่สุดชีวิตก็ค่อยๆ คลาดเคลื่อนจากจุดหมายเดิมจนผันแปรไป กลายเป็นว่าแทนที่เสื้อจะช่วยรับใช้ชีวิตนักพรต กลับต้องละทิ้งชีวิตนักพรตเพื่อรับใช้เสื้อ



นิทานเรื่องนี้ ไม่ได้มุ่งเตือนสตินักบวชเท่านั้น หากยังเป็นอุทาหรณ์สอนใจคนทั่วไปด้วย เพราะถ้ามองให้ลึกแล้ว นิทานเรื่องนี้สอนว่า ความสะดวกสบายนั้นไม่ได้มาเปล่าๆ เมื่อได้ความสะดวกสบายในเรื่องหนึ่ง ก็ต้องเกิดความไม่สะดวกสบายในอีกเรื่องหนึ่งพ่วงติดมา



ถึงไม่ต้องวุ่นวายกับหนู แต่ก็ต้องวุ่นวานกับแมวแทน แม้ไม่ต้องเหนื่อยเพราะเดินไปขอนม แต่ก็ต้องเหนื่อยกับการเกี่ยวหญ้ามาเลี้ยงวัวแทน กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความสะดวกสบายนั้นมักมาพร้อมกับภาระเสมอ



จะพูดว่าไม่มีอะไรได้มาเปล่าๆ ก็ได้ อย่างที่ฝรั่งเรียกว่า no free lunch น่าแปลกก็ตรงที่ทั้งๆ ที่ใครๆ ก็พอจะรู้ว่าในชีวิตนี้ไม่มีอะไรได้มาเปล่าๆ แต่พอมาถึงเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย คนจำนวนไม่น้อยกลับคิดว่า เรามีแต่จะได้อย่างเดียว ไม่มีเสียเลย "เสีย" ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเสียเงินเพื่อซื้อมันมาเท่านั้น แต่เรายังต้องเสียอย่างอื่นอีกด้วย เช่น เสียวลา เสียความสุข เพราะต้องคอยพะวงถึงมัน เป็นต้น



ตัวอย่างชัดเจนก็คือ รถยนต์ เราได้รับความสะดวกสบายจากรถยนต์หลายอย่าง โดยเฉพาะการทุ่นเวลาในการเดินทาง แต่ใครที่มีรถยนต์ก็ย่อมรู้ว่า มันนำภาระและความไม่สะดวกสบายมาให้แก่เจ้าของหลายอย่าง



ไหนจะต้องดูแลรักษาและเช็ดล้างเป็นอาจิณ ไหนจะต้องวุ่นวายกับการหาที่จอดรถ ไหนจะต้องมีภาระการเงินเพิ่มขึ้น และไหนจะต้องคอยป้องกันไม่ให้ใครมาทำอะไรมัน (เช่น ขูดสี หรือลักขโมย) รวมเงินทองและความสุขสบายที่หดหายไปแล้ว ก็ไม่แน่ใจว่าจะคุ้มกับเวลาที่ประหยัดไปหรือไม่



และถ้าคิดกันจริงๆ แล้ว ก็น่าสงสัยว่า รถยนต์ช่วยทุ่นเวลาหรือทำให้เราเสียมากขึ้นกันแน่ เพราะทุกวันนี้เราเสียเวลาเพราะรถของเรามากมายหลายทาง นอกจากจะเสียเวลาในการเช็ดล้างและดูแลรักษา การซ่อมแซม การหาที่จอดรถ เรายังเสียเวลาเพื่อหาเงินมาเป็นค่าน้ำมัน ค่าอะไหล่ ค่าประกัน ค่าจอดรถ รวมทั้งค่าผ่อนส่ง หรือค่าออกรถ



ในสหรัฐอเมริกา เคยมีการคำนวณพบว่าคนอเมริกันเสียเวลาไปกับรถยนต์วันละ 32 กิโลเมตร นั่นหมายความว่ารถยนต์ช่วยให้คนอเมริกันเดินทางด้วยความเร็วเพียง 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ช้ากว่าการขี่จักรยานด้วยซ้ำ



นี่ว่าเฉพาะอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น ในชีวิตเรายังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายนับไม่ถ้วน น่าคิดว่าสิ่งที่เราต้องสูญเสียไป เพราะความสะดวกทั้งหลายเหล่านี้รวมกันแล้วจะมีมากมายสักเพียงใด แต่เชื่อว่ามีอย่างน้อย 2 อย่างที่ได้รับผลกระทบนั่นคือ เวลาและความสุข






















เคยสงสัยไหมว่า ในสังคมที่เจริญมั่งคั่ง เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ผู้คนกลับมีเวลาว่างน้อยกว่าชาวบ้านในชนบทที่แทบไม่มีเครื่องทุ่นแรงทุ่นเวลาเลย ทั้งๆ ที่คนกลุ่มหลังต้องเดินด้วยเท้า ทำนาด้วยแรงของตน จะกินน้ำก็ต้องไปหาบ กว่าจะได้กินข้าวก็ต้องรอเป็นชั่วโมง แต่เขากลับมีเวลาให้กับครอบครัวอย่างเหลือเฟือ สามารถนอนเอกเขนกได้เป็นวัน ในขณะที่คนในเมืองไม่มีเวลาแม้กระทั่งกินข้าวพร้อมหน้ากันทั้งบ้าน แถมยังนอนไม่เต็มอิ่ม ถามว่าเวลาของเขาไปไหนหมด ?



ส่วนหนึ่งก็เพราะ เสียเวลาไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลาย ไม่ว่ารถยนต์ โทรทัศน์ วีดิโอ โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ ไหนจะเสียเวลากับการเสพสิ่งเหล่านั้น และไหนจะเสียเวลาหาเงินเพื่อซื้อสิ่งเหล่านั้นมาเสพ



ในทำนองเดียวกัน เมื่อชีวิตยุ่งเหยิงวุ่นวายจนแทบไม่มีเวลาเป็นของตนเองแล้ว ความสุขจะเพิ่มขึ้นได้อย่างไร มีแต่จะลดลง



ถ้าสิ่งอำนวยความสะดวกทำให้ชีวิตมีความสุขเพิ่มขึ้นตามปริมาณสิ่งเสพแล้ว คนร่ำรวยมีชีวิตที่หรูหราอู้ฟู่ ก็ย่อมมีความสุขมากกว่าคนทั่วไป แต่ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่า คนรวยมีสิทธิเป็นโรคประสาทหรือฆ่าตัวตายไม่น้อยไปกว่าคนทั่วไป ยิ่งเอาสถิติของประเทศร่ำรวยมาเทียบกับของประเทศยากจนก็จะเห็นว่า คนรวยเป็นโรคประสาทหรือฆ่าตัวตายมากกว่าคนจน



สิ่งอำนวยความสะดวกช่วยให้ชีวิตมีความสุขในระดับหนึ่งเท่านั้น นี้คือเหตุผลประการหนึ่งที่คนพอมีพอกิน มีความสุขมากกว่าคนที่หาเช้ากินค่ำ แต่ถ้ามีสิ่งอำนวยความสะดวกมากเกินขีดหนึ่งไปแล้ว ความสุขมีแนวโน้มจะลดลง เพราะต้องคอยห่วงกังวลกับการดูแลรักษามัน



ถ้าคุณมีเครื่องเสียงราคานับล้านๆ ถึงมันจะบรรเลงเพลงได้ไพเราะเสนาะโสดเพียงใด ความสุขของคุณจะหายไปโดยพลัน หากมีเด็กปราดเข้ามาหามันอย่างไม่ประสีประสา มันให้ความสะดวกสบายแก่เรา แต่มันก็เป็นภาระแก่เราด้วยในเวลาเดียวกัน



สิ่งอำนวยความสะดวกยังเรียกร้องต้องการความใส่ใจจากเราอีกหลายอย่าง นอกจากต้องคอยห่วงพะวงถึงมันแล้ว ยังต้องคอยคิดปรับแต่งมันให้ดีขึ้นวิเศษขึ้นไม่ได้หยุด เพราะผู้ผลิตอุปกรณ์เหล่านี้ไม่เคยอยู่เฉย แต่จะหมั่นผลิตอุปกรณ์เสริม (หรือ Accessories) เพื่อล่อลูกค้าให้ซื้อไปต่อเติมเข้ากับอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วเสมอๆ หรือทดแทนส่วนประกอบเดิมที่ "ล้าสมัย"



ใครที่ซื้อคอมพิวเตอร์สักเครื่องแล้วหยุดเพียงเท่านั้น แทบจะนับตัวได้ ส่วนใหญ่เมื่อมาแล้วก็ต้องหาเรื่องซื้ออะไรต่ออะไรไม่ได้หยุด อาทิ ลำโพง ไมโครโฟน สแกนเนอร์ และกล้องดิจิตอล มาประกอบ ไม่ต้องพูดถึงโปรแกรมหรือซีดี ที่มีให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว



กล่าวอีกนัยหนึ่ง สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ ปลุกเร้าความต้องการของเราไม่ได้หยุด ทำให้เกิดความทุกข์ที่ต้องบำบัดด้วยการดิ้นรน แสวงหาสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ แต่ได้มาแล้วก็ไม่เคยหยุดหรือพอใจเสียที



ความไม่รู้จักพอของนักเล่นคอมพิวเตอร์ ชวนให้นึกถึงนิทานจีนเรื่องตะเกียงงาช้าง เรื่องมีว่า



กษัตริย์พระองค์หนึ่ง เดิมเสวยพระกระยาหารด้วยตะเกียบไม้ แต่อยู่มาวันหนึ่งทรงอยากได้ตะเกียบงาช้าง เสนาบดีคัดค้านอย่างไรก็ไม่เป็นผล ครั้นได้ตะเกียบงาช้างแล้ว พระองค์ก็เริ่มไม่พอพระทัยเครื่องเคลือบดินเผา จึงให้หาถ้วยชามที่ทำจากนอแรดและหยกมาใช้แทน ต่อมาแทนที่จะเสวยถั่วและผักดังแต่ก่อน พระกระยาหารก็เปลี่ยนมาเป็นอาหารเลอรส เช่น ตีนหมีและลูกเสือดาว ไม่นานก็ทรงทิ้งฉลองพระองค์ที่ทำจากผ้าเนื้อหยาบ และให้รื้อวังที่สร้างอย่างสามัญ เปลี่ยนมาใช้ฉลองพระองค์ไหมอย่างดี และสร้างวังใหม่อย่างวิจิตรพิสดาร นับแต่นั้นก็ทรงหมกมุ่นอยู่ในความสำราญ ไม่ใส่ใจในราชกิจ ซ้ำยังทรงลุแก่อำนาจ ราษฎรเดือดร้อนอย่างยิ่ง จนในที่สุด ก็ลุกฮือและขับพระองค์ออกจากราชบัลลังก์



สิ่งอำนวยความสะดวกมีแนวโน้มที่จะเป็นเช่นนี้ ใครที่หลงไปกับมัน ก็ง่ายที่จะเป็นทุกข์เพราะมัน และคนที่จะหลงมันได้ง่ายที่สุด ก็คือ คนมีเงิน เพราะเงินเปิดโอกาสให้เราเข้าครอบครองมันได้ง่ายขึ้น



เพราะเหตุนี้ คนร่ำรวยจึงมีโอกาสที่จะทุกข์ได้มาก เคยมีการสอบถามความเห็นของคนอเมริกันที่ถูกล็อตเตอรี่จำนวน 1,000 คนในรอบ 10 ปี ปรากฏว่ามีน้อยคนที่บอกว่ามีความสุขเพิ่มขึ้นหลังจากได้เงินรางวัล ส่วนใหญ่ยอมรับว่ามีความสุขน้อยลงหลังจากได้เงินรางวัลไปแล้ว 6 เดือน ทั้งๆ ที่มีเงินทองและสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น



ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า เศรษฐีใหม่ที่ร่ำรวยอย่างรวดเร็วจากราคาหุ้นประเภทไฮเทคที่พุ่งพรวดในสหรัฐอเมริกา มักจะมีปัญหาทางจิตใจคล้ายๆ กัน คือ รู้สึกวิตกกังวลอย่างมากว่าเงินมากมายมหาศาลของตนนั้น จะหายวับไปอย่างรวดเร็วพอๆ กับตอนที่ได้มา



ทั้งยังรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้างมากขึ้น เพราะมีช่องว่างกับเพื่อนเก่า จนมีปัญหาแม้แต่เวลาจะพูดเรื่องพื้นๆ เช่น รถยนต์ การซ่อมบ้าน นอกจากนั้นสถานภาพที่เปลี่ยนไป ยังทำให้มีเรื่องต้องครุ่นคิดตัดสินใจมากขึ้น แม้แต่จะซื้อของขวัญให้ใคร ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว



หลายคนยอมรับว่า ตนมีความสุขมากกว่าตอนที่มีเงินน้อยกว่านี้ ความทุกข์ใจที่เกิดกับเศรษฐีพันล้านนี้ บางคนเรียกว่า "โรครวยฉับพลัน"

























สิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงแต่จะก่อปัญหาแก่บุคคลเท่านั้น หากยังสามารถสร้างภาระแก่สังคมได้มาก กล่องโฟมเป็นตัวอย่างง่ายๆ มันช่วยให้เราพกพาอาหารได้สะดวกขึ้น แต่ก็สร้างปัญหาในการกำจัดขยะ แถมยังเป็นอันตรายต่อบรรยากาศโลก และส่งผลถึงสุขภาพของเราในที่สุด



ลองพิจารณาดูจะพบว่า มีปัญหามากมายในสังคมที่เกิดขึ้นเพราะการคำนึงถึงแต่ความสะดวกสบาย ไม่ต้องดูอื่นไกล ดูอย่างการแก้ปัญหาจราจร วิธีที่นิยมใช้กันทุกวันนี้ก็คือ การสร้างถนน หรือขยายผิวถนนเพิ่มขึ้น แน่ล่ะวิธีนี้ทำให้เราสะดวกสบายกว่าการแก้ปัญหาโดยวิธีควบคุมปริมาณรถยนต์ หรือการกดดันให้ผู้คนหันมาใช้บริการขนส่งมวลชนกันมากๆ แต่ในขณะที่เราเดินทางได้สะดวกสบาย เพราะการสร้างถนน เราก็สูญเสียความสะดวกสบายอีกหลายอย่าง อาทิ ความสบายในการหายใจอากาศที่บริสุทธิ์ หรือความสะดวกในการเดินทางด้วยจักรยาน หรือด้วยการเดินเท้า



ทั้งนี้เพราะยิ่งสร้างถนน คนก็ยิ่งใช้รถกันมากขึ้น ขณะเดียวกันการระดมสร้างถนนยังทำให้เกิดความไม่สะดวกอีกหลายอย่าง เช่น ลำคลองเน่าเหม็น ทั้งนี้เพราะเมื่อคลองถูกถมเป็นถนนจนแทบไม่เหลือ ย่อมเกิดปัญหาการระบายน้ำเสีย และเป็นเพราะการถมคลองนี้เอง ในที่สุดก็ทำให้น้ำท่วมได้ง่าย ฝนตกทีน้ำก็ท่วมถนนจนจราจรแน่นขนัด



กลายเป็นว่าความสะดวกสบายในการเดินทางไปๆ มาๆ ก็หดหายไปเพราะการสร้างถนนอย่างไม่บันยะบันยัง ทั้งนี้ยังไม่ต้องพูดถึงการสูญเสีย เสรีภาพในการสัญจรด้วยเรือ และการสูญเสียเงินตราต่างประเทศอย่างมหาศาล เพราะการนำเข้ารถยนต์และน้ำมันเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจตามมา



และบางอย่างที่เราสูญเสียนั้น อาจมีคุณค่าหรือมี "ราคา" แพงกว่าความสะดวกสบายที่เราได้รับด้วยซ้ำ เช่น ความสงบสุขในชีวิต หรือเวลาที่จะให้แก่ตนเองและครอบครัว ความราบรื่นในสังคม รวมไปถึงความบริสุทธิ์สะอาดของสิ่งแวดล้อม




เพราะฉะนั้น ก่อนที่เราจะอ้าแขนรับความสะดวกสบายอะไรสักอย่าง ควรไต่ตรองให้ถี่ถ้วนว่า มีอะไรบ้างที่เราจะต้องสูญเสียไปเพื่อแลกกับความสะดวกสบายดังกล่าว























ธรรมสวัสดี



ร่มไม้เย็น ค่ะ






Create Date : 23 สิงหาคม 2554
Last Update : 30 มีนาคม 2558 12:27:35 น. 71 comments
Counter : 6206 Pageviews.

 
ขอบคุณมากค่ะ ได้ข้อคิดในการนำมาใช้กับชีวิตประจำวันได้ดีมากค่ะ อิอิ
ขออนุญาตคัดลอกไปแบ่งปันต่อในบล็อคด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ


โดย: แม่ออมบุญ วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:10:35:10 น.  

 
จากปัญหาปลายทาง
มองย้อนกลับไปต้นทาง

มีทั้งได้ และ เสีย มิใช่น้อยเลยนะคะ


โดย: ณ ขณะหนึ่ง วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:11:13:27 น.  

 


โดย: imagewing_zero วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:11:45:39 น.  

 
สวัสดีค่ะป้ากุ๊ก
เข้ามาอ่านข้อคิดดีๆค่ะ ทุกวันนี้สังคมเป็นแบบนั้นจริงๆค่ะ


โดย: phunsud วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:13:00:46 น.  

 
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันกันนะคะ
คิดๆดูก็น่าเศร้าจัง เหมือนปฏิกิริยาลูกโซ่ ส่งต่อปัญหาไปเรื่อยๆ


โดย: Nagascales วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:13:06:03 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


แวะมาทักกันจ้าป้ากุ๊กไก่ที่รัก
ขอบคุณสำหรับโหวตนะคะ
ป.ล. สี่แผ่นดินเขามีแสดงการวันด้วยป้ากุ๊กน่าจะพอไปดูกับคุณจ๊ะได้นะคะ



โดย: หอมกร วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:13:08:45 น.  

 
สวัสดีครับป้ากุ๊ก
เป็นวัตถุทั้งสิ้น ทุกอย่างล้วน
อยู่ในบัญชีความต้องการ
ของคนยุคนี้ครับ คนที่ยังไม่มีก็อยากได้
คนที่มีอยู่แล้ว อยากเปลี่ยน อยากมีเพิ่ม
ไม่สิ้นสุดครับป้า ผมก็เหมือนกันครับ


โดย: panwat วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:13:27:58 น.  

 

สวัสดีวันอังคารค่ะป้ากุ๊ก

หนูมีรถ แต่ไม่อยากขับค่ะ เพราะขี้เกียจหาที่จอดรถ ดูยุ่งยากไปหมด อีกอย่างเป็นคนเอ๋อๆ จำทางไม่ค่อยได้ เลยไม่ขับรถซะเลย รูปกล้องที่ป้ากุ๊กเอามาลง...เคยเห็น แต่ไม่อยากได้ค่ะ คิดว่าถ้าเราฝีมือไม่ดี อะไรอยู่ในมือเราก็...เท่านั้นค่ะ ตอนนี้เห็นใครๆ ก็เรียกร้องอยากได้ 3G หนูไม่รู้ว่ามีประโยชน์มากมายแค่ไหน แต่ทำให้คนดิ้นรน เดือดร้อนกันเหลือเกิน....

วันก่อนดูในทีวี เค้าไปห้องสมุดเสียงของคนตาบอด เห็นว่า หนังสือเสียงส่วนมากมีแต่ของนักเขียนดังๆ ไม่ค่อยมีประเภทบทความน่าสนใจที่เค้าอยากอ่าน (หนูดูรายการ ล้อเล่นโลกค่ะ) เคยสัญญากับป้ากุ๊กไว้ จริงๆ ก็เหมือนสัญญาใจกับตัวเองด้วย ไม่ลืมนะคะ แต่ยังไม่ได้ทำเลย...รู้สึกผิดจังเลยค่ะ ยังทำไม่ได้ซักที






โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:13:44:27 น.  

 
สวัสดีครับป้ากุ๊ก เป็นบทความที่ดีมากๆครับขอแบ่งปันด้วยนะครับ^^

คิดไปแล้วจริงๆด้วยนะครับ ยิ่งมีอะไรมากขึ้นก็ทุกข์มากขึ้นการอยู่อย่างรู้เท่าทัน และใช้ชีวิตให้พอดีจำเป็นมากๆ
ต้องจุดยากันยุงไล่ความอยากไปเยอะๆครับ

ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ ^^ มีโอกาศก็แวะมาเที่ยวนะครับช่วงปีใหม่ อิอิ









โดย: วนารักษ์ วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:13:49:18 น.  

 
เอาขนมเบื้องมาฝากค่ะ..ร้อนร้อนกรอบกรอบ..ใส่น้ำส้มพริกดองเม็ดใหญ่...เข้ากันจัง



โดย: Calla Lily วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:16:19:46 น.  

 
จริงๆแลว ชีวิตก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าปัจจัยสี่
ขั้นพื้นฐานนะครับ แต่เราก็มาถึงจุดนี้ที่ทุกคนต้อง
ตะเกียกตะกายกับการดำรงชีวิตมาก เค้าว่าที่เราเป็น
เช่นนี้เพราะมนุษย์ฉลาดน่ะครับ แฮ่ๆ เจงๆ นะ หนูหล่อ
ไม่ได้ขี้ฮกนะเออ

ว่าจะชวนเพื่อนๆกลับไปอยู่กับปัจจัยสี่ขั้นพื้นฐาน
แค่คิดก็รู้คำตอบแล้วววว ตัวเองนี่แหละ มันเคยตัว
ข้องอยู่กับอะไรๆที่ไม่จำเป็นตั้งเยอะแยะ

มาหาทางทำการบ้านด้วยครับ ยังขาดอยู่ตั้งสาม อิอิ
จะต้องให้ทัน เหอๆ ขำตัวเองนะครับเนี่ย



โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:16:29:54 น.  

 
ป้ากุ๊กคะ คิดถึงค่่ะ
Photobucket


โดย: kimmybangkok (kimmybangkok ) วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:17:20:32 น.  

 
สวัสดีตอนเย็นคะป้ากุ๊กไก่
ของทุกอย่างไม่ได้หามาได้ง่าย ๆ เมื่อต้องการสิ่งหนึ่งก็ต้องแลกด้วยสิ่งหนึ่งเสมอ
แบบนี้ก็เหมือนกับการแลกกันเลยสิคะ
อยากได้วิชาก็ต้องขยันฝึกฝน
อยากสอบผ่านก็ต้องอ่านเยอะ ๆ และเข้าใจ.....
เอ๋อ่านเยอะแต่ลืมเข้าใจคะ....


โดย: aenew วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:17:29:21 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณป้ากุ๊กไก่..
รูปแม่-ลูกที่เพื่อนๆส่งเข้ามา..
ประทับใจอ้อมแอ้มทุกๆรูปเลยค่ะ
เลือกไม่ถูก เลยขอลงมติเป็นว่า..
จะให้เพื่อนๆในบล็อคลงคะแนนเลือกกันเอง
แบบโหวตคะแนนเลือกรูปที่ประทับใจ
เพื่อนคนหนึ่ง เลือกได้ 3 ครั้งหรือ 3 รูป
หรือจะเทคะแนนให้รูปเดียว 3 คะแนนเลย
ก็ตามแต่เพื่อนๆจะตัดสินกันค่ะ
หมดเขตสิ้นเดือนสิงหาคมนี้นะค่ะ
แล้วเรามารวมคะแนนกัน
จะส่งคะแนนทางหลังไมค์ก็ได้นะค่ะ


รูปแรกที่ส่งกันเข้ามา
เป็นรูปของคุณสุนันยากับลูกชาย
อ้อมแอ้มขอเรียกรูปนี้เป็น BG.1นะค่ะ
คุณสุนันยาแต่งกลอนไพเราะมากๆ
ลูกชายก็หล่อไม่เบา
ใครชอบรูปนี้โหวตมาได้เลยนะค่ะ


รูปที่ 2 เรียกว่า BG 2.
เป็นรูปของบัณฑิตสาวรามคำแหง
คุณดอกไม้บานริมรั้ว
ถ่ายรูปกับคุณแม่ยังสวยปิ๊งเชียวค่ะ
เพื่อนๆชอบรูปนี้ ก็โหวตกันเข้ามาได้นะค่ะ


รูปที่ 3 เรียกว่า BG 3.
เป็นรูปของคุณครูเกศ (เกศสุริยง)
คุณครูสอนนาฎศิลป์ที่อ่างทอง
เป็นบุคคลที่น่ายกย่องท่านหนึ่งเชียวค่ะ
ทำขนมเค็ก ก็อร๊อยอร่อยค่ะ..
ใครชอบรูปนี้ ก็โหวตกันเข้ามาได้นะค่ะ


รูปที่ 4 เรียกว่า BG 4.
เป็นรูปของคุณธัญ(tanjira)
ถ่ายคู่กับคุณแม่ หวานน่ารักค่ะ
คุณธัญเป็นมิตรที่ดีคนหนึ่งค่ะ
เล่น Facebook จะเจอคุณธัญ เป็นประจำ
ใครชอบแม่-ลูกคู่นี้ ก็โหวตมาได้นะค่ะ


รูปที่ 5.เรียกว่า BG 5.
เป็นรูปของคุณชาลี (Sierra Whiskey Charie)
เต๊ะท่าเลียนแบบคุณแม่ค่ะ
คุณแม่ของคุณชาลีจะคิดท่าใหม่ๆ
ให้คุณลูกเเอ๊คชั่นตามค่ะ น่ารักจริ๊ง..
คุณชาลีทำกับข้าวเก่งทั้งคาวและหวาน
เพื่อนๆคนไหนชอบเธอ..ก็โหวตมาได้นะค่ะ



รูปที่ 6. เรียกว่า BG 6.
เป็นรูปคุณนายแคทคนสวยใจดี
ถ่ายกับลูกชายทั้ง 2 พระหน่อหล่อทั้งคู่
ดูไม่ออกว่าเป็นแม่-ลูกกัน..
นึกว่าเป็นพี่สาวควงน้องชายไปทำบุญ
เพื่อนๆเลือกโหวตได้ตามอัธยาศัยค่ะ


รูปที่ 7 เรียกว่า BG 7.
เป็นรูปของคุณมิลเมและคุณแม่ค่ะ
คุณแม่-คุณลูกกินกันไม่ขาดเลยนะค่ะ
น่ารักจริงๆค่ะ..
รักมิลเม ก็โหวตให้มิลเมด้วยนะค่ะ


รูปที่ 8 เรียกว่า BG 8.
เป็นรูปคุณส้ม (iamorange)กับลูกๆทั้ง 2
คุณแม่ยังสวยปิ๊ง คุณลูกก็แสนจะน่ารัก
บล็อคของคุณส้มเป็นเรื่องท่องเที่ยว
พักผ่อนสบายๆแบบครอบครัว 4 คน
แถมอาหารรสเลิศ หรูน่ารับประทานค่ะ
รักคุณส้ม ก็โหวตให้คุณส้มด้วยนะค่ะ


รูปที่ 9 เรียกว่า BG 9.
เป็นรูปครอบครัวของคุณTangibleค่ะ
ดูแล้วช่างเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก
ใครชอบบล็อคนี้ก็โหวตกันมาได้นะค่ะ

สำหรับเพื่อนๆที่อยากส่งรูปแม่-ลูกมาอีก
ยังส่งได้เรื่อยๆถึงสิ้นเดือนนะค่ะ
มีความสุขมากๆในการชมภาพถ่ายนะค่ะ


โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:17:33:41 น.  

 
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog


วันนี้ มัวแต่ชมรถคันงาม...
มันงามได้ใจ


นาถบอกเพื่อนๆ ที่มาหลังไมค์ ถึงบล็อกคุณภาพ อย่างบล็อกคุณป้า คุณสิน คุณไฮกุ คุณก๋า
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ น้องไก่วา ฯลฯ

อยากให้เพื่อนๆ ไปอ่าน เขาแทบทั้งหมดบอกว่า
เรียกยาก รอนานมาก
เขาไม่สะดวกไปรออ่าน เสียดายแทนเพื่อนๆ ค่ะ


ที่ไหนมีอะไรได้มาเปล่าๆ
ยิ่งเป็นความสะดวกสบายด้วยแล้ว
ค่าแลกเปลี่ยน มีราคา มีมูลค่าทั้งนั้น

แม้แต่ไมตรี
ยังต้องนำไมตรีที่มากกว่าไปแลกเลยค่ะ



โดย: nart (sirivinit ) วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:17:46:45 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณป้ากุ๊กไก่

เนื้อเรื่องอ่านแล้วได้ข้อคิดดีดีมากมาย
และภาพประกอปก็สวยมากค่ะ

ขออนุญาตโหวตให้คุณป้าในบล๊อคธรรมะนะคะ
และขอให้คุณป้ามีความสุข
สุขภาพแข็งแรงด้วยค่ะ


โดย: Suessapple วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:18:33:33 น.  

 
ได้ข้อคิดดี ๆเลยค่ะ ป้ากุ๊ก ..
เข้าเรื่องคล้าย ฆ่าหนูตัวเดียว เผาทั้งบ้าน นะคะป้ากุ๊ก ..เรื่องซื้อรถ มาเป็นภาระ เจอกับคนใกล้ตัวเลยค่ะ
แฟน .... จะไปไหนทีกลัวรถเลอะ กลับมาเช็ด ..
บางทีฝนตก จะไม่ไปกลัวรถเปียก .
.เรา ปล่อยวางนะ ไม่ยึดติด อะไรคือความสุข ก็จะทำ ..
พูดไปทะเลาะกันอีก .
.เพราะเราไม่ใช่คนเช็ด ปัญหา เหมือนๆ กัน นะ..
ก็สบายดีนะค่ะ.. ทั่วไป แต่เมื่อคืน ท้องเสียค่ะ
ถ่าย ไปหลายรอบ วันนี้ เลย เพลีย แต่หยุดแล้ว..

ทาน มื้อเย็น อร่อยนะคะ..


โดย: tifun วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:18:54:36 น.  

 
หวัดดีค่ะป้ากุ๊กไก่

ยังไม่ค่อยจะเสบยเลย ยังปวดท้องค่ะ
25 นี้ต้องเช็คกับหมอเฉพาะทางอีกรอบ เซ็ง....ค่ะ
เลยไม่ได้เข้าบล๊อกอีกตามเคย
สุขภาพยังไม่อำนวยเลย
มาแล้วก็เลยโหวดให้ค่ะ
และต้องขอบคุณป้าด้วย ที่ไปโหวดให้อย่างสม่ำเสมอ
เอาเปรียบป้าตลอดเลย
เน็ตที่บ้านมีปัญหา คนก็มีปัญหา ยุ่งเหยิงดีค่ะ

ป้ารักษาสุขภาพนะคะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:20:03:32 น.  

 
ชอลเรื่องเล่าเรื่องแรกมากเลยครับป้ากุ๊กไก่
อ่านซ้ำกี่ครั้งก็ยังชอบครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:20:21:47 น.  

 
หวัดดีค่ะป้ากุ๊กไก่
สบายดีนะค่ะ .. ไม่ได้แวะมาธุจ้าตั้งนานเลย
ช่วงนี้งานยุ่ง ๆ ค่ะ เหนื่อยมากกก มาถึงบ้านก็อยากนอนอย่างเดียวเลย

แต่คิดถึงเพื่อน ๆ บล็อกเสมอค่ะ ..

สองพี



โดย: SongPee วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:21:00:25 น.  

 
โหวตค่ะป้ากุ๊ก

..........................

หลับฝันดีค่ะ


* พายุ *

หวิวหวิวหวีดคร่ำร้อง.........................เรียบลม
เวิ้งสุดปลิวเทียบระดม.......................ดื่นล้น
ฝนโปรยเรื่อยเข้าผสม.......................สู่ฝั่ง โพ้นเนอ
เชื่อมฝั่ง,รูปผ่านพ้น..........................เพียบท้นขอบถนน

สายฝนคลื่นวาดคุ้ง...........................คืบขนาน
ตาที่แล้งจำจาร................................เจ็บสะอื้น
โพล้เพล้เกาะโน้นปาน........................แปลกถิ่น
รอยเรียบสนิทเปียกชื้น.......................ช่อชั้นล้วนพิศวง

หลงท่ามคลื่นวิชชุเยื้อง.......................เยือนครวญ
แววกระหน่ำล้วนเรรวน........................ร่วมรู้
น้ำค้างคลื่นผสมหวน...........................หันจับ
หนักยุคมาเดินสู้.................................สบช้ำมองสมัย

ภัยวัฏฏะรอบหล้า...............................ลือกระแส
มัวหม่นยากปรับแปร...........................ปราบร้าย
คิดหมายมาดเผลอแผล.......................ผลักผ่าน
อุโฆษคร่ำเดินท้าย.............................ทุกข์เข้ามาหา

พายุขบวนเคลื่อนครื้น..........................คอยเคียง
เผยมอดไหม้มาเมียง...........................มุ่งล้อม
เจ็บจารจ่อมชิดเฉียง.............................ฉากนั่น
เสมือนสั่นโศกยืนพร้อม........................พากย์เศร้าโรยละโหย


โดย: ญามี่ วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:21:26:45 น.  

 
ราคาความสะดวกสบายของเรื่องนี้แพงได้ใจ โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณป้ากุ๊กไก่ที่หาเรื่องราวดี ๆ มาฝากกันประจำนะคะ โหวตให้เรียบร้อยแล้วค่ะ


โดย: haiku วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:21:38:18 น.  

 

แล้วราคาของความสะดวกสบายที่ป้ากุ๊กซื้อ
ณ But now ตอนนี้ซื้ออะไรคะ ?


โดย: อุ้มสี วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:22:49:46 น.  

 
ข้อคิดเยี่ยมมากๆค่ะป้ากุ๊กไก่
ถ้ามองแบบฉุกมาคิดคงดีมากๆ เลยนะคะ


โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:23:22:44 น.  

 
เห็นแล้วก็เกิดกิเลสเนอะคุณป้า อยากได้หมดทุกอย่างเลย อิอิ แต่ก็ภาระทั้งนั้นว่าไหม แค่ปากท้องนี่ก็วุ่นวายแล้ว คนเราก็มักไม่รู้จักพอสักที อยากได้โน่นอยากได้นี่ไม่มีสิ้นสุด

คุณป้าเป็นไงบ้างจ้า สบายดีใช่ไหมเอ่ย วันนี้นึกขึ้นได้ว่ามีบ้านอยู่ เลยแวะเข้าไปเยี่ยมน่ะจ๊ะ

รักษาสุขภาพด้วยน๊า


โดย: maxpal วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:23:32:04 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณป้าร่มไม้
ไม่ได้คุยกันนานโขเลยค่ะ เป็นจริงอย่างว่าเลยค่ะคนเราพอได้สบายเรื่องนึงก็มักต่อยอดขึ้นไปเรื่อยๆค่ะตราบที่โลกเราเจริญขึ้นมีคนคิดสิ่งของที่อำนวยความสะดวกมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเป็นไปตามสมควรแก่กำลังของแต่ละคนด้วยค่ะว่าจะไปได้สูงแค่ไหนระดับไหน ยิ่งเทคโนฯปัจจุบันวิ่งเร็วมาก โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์มีแต่รุ่นใหม่ๆออกมาแข่งกันไม่เว้นแต่ละวัน





โดย: busabap วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:23:42:45 น.  

 
ภาพไม่มาซะแล้ว วิชาชีพบล้อกกลับเข้าบล้อกหมด มาใหม่นะคะ



โดย: busabap วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:23:52:20 น.  

 


วันนี้เห็นภาพแปลกๆในหน้าเวป google ครับ เลยเอามาฝากคุณป้านะครับ


โดย: veerar วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:0:33:26 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับป้ากุ๊กไก่










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:5:43:24 น.  

 
ป้ากุ๊กขา..

สดชื่น ยามเช้า นะคะ

รถ สวยๆทั้งน้านเลยค่า อิอิอิ


-


โดย: พิรุณร่ำ วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:7:22:49 น.  

 
ขอบคุณครับ อนุโมทนาสาธุครับ


โดย: shadee829 วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:8:05:36 น.  

 
อ่านแล้วได้ข้อคิดที่ดีมากเลยครับ


โดย: คนเคยผ่านมหาสมุทร วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:8:10:47 น.  

 
อ่านแล้วพยักหน้าหลายอันเลยหละค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:8:15:44 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดีเช้าวันพุธ
เริ่มเช้าวันใหม่ด้วยความสุขค่ะป้ากุ๊กไก่


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:8:19:57 น.  

 







อรุณสวัสดิ์เช้าวันพุธค่ะ พี่กุ๊กไก่ จงใช้สติปัญญาในการทำงาน และใช้ความเมตตาต่อผู้คน


โดย: KeRiDa วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:9:03:33 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
-------------------------------------
ขอบคุณ, ขอบคุณที่แอด, thanks, thanks for add, comment hi5
[widget.sanook.com - *More Feel*]
หายไปเสียหลายวัน ด้วยงาน ด้วยไม่สบายนิดหน่อย เลยไม่ได้เข้าblogเลย พรุ่งนี้ต้องเตรียมซ้อมการแสดงชุดใหม่ที่จะต้องแสดงในงาน"กินขนม ชมแม่น้ำ"ที่ตลาดเก่าศาลเจ้าโรงทอง วิเศษฯ งานเข้ามาเยอะทีเดียว วันนี้ว่างเลยรีบมาทักทายหวังว่าคงสบายดีนะคะป้ากุ๊ก


โดย: เกศสุริยง วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:9:45:07 น.  

 
รวยจน ทุกข์ได้เท่ากัน

ทุกข์คนละแบบ

แต่ถามใคร คงต้องขอรวยไว้ก่อน หลายคนคิดว่า ถ้าจะทุกข์ก็ขอทุกข์แบบคนรวยดีก่า อิอิ

ป้ากุ๊กสบายดีนะคะ คิดถึงคร่า


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:9:51:37 น.  

 
นตฺถิ ราคสโม อคฺคิ นตฺถิ โทสสโม กลิ
นตฺถิ ขนฺธสมา ทุกฺขา นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ

ไม่มีไฟใดเสมอด้วยราคะ ไมีมีโทษใดเสมอด้วยโทสะ
ไม่มีทุกข์ใดเสมอด้วยเบญจขันธ์ ไม่มีสุขใดเสมอด้วยความสงบ

มีความสุขกับความสงบที่สร้างเองได้ ตลอดไป...นะคะ



คิดถึงป้ากุ๊ก และคุณยาย มาก...นะคะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:11:31:33 น.  

 
สวัสดีครับป้ากุ๊ก

อ่านแล้ว บางครั้งก็อมยิ้มไปด้วยนะครับป้ากุ๊ก

มีความสุขมากๆครับป้า


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:11:50:18 น.  

 


ทุกอย่าเปรียบกันไม่หมดหรอก





โดย: mamamodern IP: 101.108.105.108 วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:12:49:21 น.  

 
แวะมาอ่านธรรมะดีๆจากป้ากุ๊กค่ะ ขอบคุณนะคะ


โดย: เรือนเรไร วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:14:11:44 น.  

 
สวัสดียามเย็นครับป้ากุ๊ก

ช่วงนี้งานผมยุ่งหน่อยเพราะไม่มีคนช่วย เลยลืมโน่นลืมนี่เก่งครับ วันนี้อากาศร้อนเพลียมาก เลยต้องกระตุ้นด้วยกาแฟหน่อยครับ


โดย: find me pr วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:16:53:28 น.  

 

พาไข่เจียวรสไส้อั่วมาเยี่ยมค่ะ



โดย: โสมรัศมี วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:19:28:13 น.  

 

สวัสดียามค่ำๆค่ะ ป้ากุ๊กไก่

ไม่มีสิ่งใดได้มา โดยไม่ต้องเสียอะไร

ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับข้อคิดเตือนใจ

มีความสุขและรักษาสุขภาพมากๆนะคะ



โดย: lastmoon วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:20:26:40 น.  

 
สวัสดีค่ะป้ากุ๊กไก่

ตัวเองต้องบอกเลยว่า ของบางอย่างเราก็ตระหนี่
เพราะคิดว่า ไม่จำเป็นต้องซื้อหาเพราะว่าบางทีของเก่า
มันก็ยังใช้ได้ แต่ว่าของบางอย่าง ก็ต้องทำใจ เหมือนว่า
"ยอม" สักหน่อย เป็นการแลกเปลี่ยนกันระหว่าง
สิ่งที่เสียไป และสิ่งที่ได้มา ถ้าหากว่าไม่เดือดร้อน
มากนักก็ยอมเลยค่ะ แต่ว่าก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้น
ไม่บ่อยนักในยุคแห่งการประหยัดเช่นนี้ค่ะ 55+


โดย: JewNid วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:22:52:24 น.  

 
น้องเวียงพิงค์แวะมาเยี่ยมและทักทายนะคะ..
ขอบคุณสำหรับ ธรรมะข้อคิดนะคะ..
ขอโหวตให้คะ..


โดย: Mein Schatz วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:5:19:14 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับป้ากุ๊กไก่










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:5:52:19 น.  

 






อรุณสวัสดิ์เช้าวันพฤหัสบดีค่ะ พี่กุ๊กไก่ คนเราแค่ไม่ทุกข์ ก็เรียกว่า " สุข" แล้ว จริงไหมค่ะ


โดย: KeRiDa วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:8:55:15 น.  

 
เป็นบทความที่ดีมากครับ

"ในสังคมที่เจริญมั่งคั่ง เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ผู้คนกลับมีเวลาว่างน้อยกว่าชาวบ้านในชนบทที่แทบไม่มีเครื่องทุ่นแรงทุ่นเวลาเลย ทั้งๆ ที่คนกลุ่มหลังต้องเดินด้วยเท้า ทำนาด้วยแรงของตน จะกินน้ำก็ต้องไปหาบ กว่าจะได้กินข้าวก็ต้องรอเป็นชั่วโมง แต่เขากลับมีเวลาให้กับครอบครัวอย่างเหลือเฟือ"

เห็นด้วย ๆๆๆ


โดย: อัสติสะ วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:9:01:15 น.  

 
สวัสดีค่ะป้าดวง
กราบขอบคุณสำหรับกำลังใจเรื่องงานค่ะป้า
ตอนนี้อ้อลาออกจากงานเก่าแล้วค่ะ
วันนี้ทำงานวันสุดท้าย

มีงานหลายที่เรียกอ้อไปสัมภาษณ์ค่ะป้า
อ้อสวดมนต์ภาวนา หวังว่าจะได้งานใหม่
ที่ทำแล้วสบายใจมากกว่าเก่าค่ะ



โดย: ladysamui วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:10:02:10 น.  

 
สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา ขนฺตฺยาเยว วฑฺฒนฺติ เต
กุศลธรรมทั้งปวงย่อมเจริญเพราะขันติเท่านั้น

มีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมด้วยบารมีแห่งขันติ ตลอดไป...นะคะ




โดย: พรหมญาณี วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:10:43:23 น.  

 


สวัสดีวันพฤหัสค่ะป้ากุ๊ก






โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:16:19:07 น.  

 
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ให้ข้อคิดที่ดีมากค่ะ
เกิดกับชีวิตจริงของหลายๆคน

Have a nice day naka ป้ากุ๊กไก่


โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:20:48:20 น.  

 
ราตรีสวัสดิ์ครับคุณป้ากุ๊กไก่



โดย: panwat วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:23:30:28 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับป้ากุ๊กไก่











โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:5:26:18 น.  

 
อ่านเพลินดีครับ
แถมยังมีรูปให้สบายตายด้วย

ช่วงนี้ฝนกลับมาอีกแล้วนะครับ
ป้ารักษาสุขภาพด้วย


โดย: peeradol33189 วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:7:22:05 น.  

 
แวะมาทักทายคุณป้า และขอให้แข็ง แรง ๆนะครับ



โดย: find me pr วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:7:47:19 น.  

 








อรุณสวัสดิ์เช้าวันศุกร์ค่ะ พี่กุ๊กไก่ ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง


โดย: KeRiDa วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:8:49:15 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณป้ากุ๊กไก่
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีดีที่นำมาฝากกันเสมอนะคะ

เรื่องรถก็พูดลำบากเหมือนกันนะคะ
มันก็เหมือนเป็นปัจจัยที่ห้าของคนกรุงไปแล้ว
ยิ่งถ้าบ้านอยูไกลแหล่งขนส่งมวลชนดีดีด้วยล่ะก็

พรุ่งนี้ได้หยุดอีกแล้ว
พักผ่อนมีความสุขมากๆนะคะ คุณป้าขา



โดย: nLatte วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:9:23:37 น.  

 
สวัสดียามสายครับ



โดย: คนเคยผ่านมหาสมุทร วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:10:46:45 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะที่แวะทักทายกันค่ะ
คุณป้ากุ๊กไก่


ชีวิตคุณแคทตอนนี้งานรุ่มเร้าจนไม่มีเวลาแวะมาเลยค่ะ
คิดถึงเสมอค่ะ


โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:11:22:10 น.  

 
อตฺตโนปิ ปเรสญฺจ อตฺถาวโห ว ขนฺติโก
ผู้มีขันติ ชื่อว่านำประโยชน์มาให้ ทั้งแก่ตนทั้งแก่ผู้อื่น

มีความสุขในขันติอันสร้างได้ด้วยตนเอง ตลอดไป...นะคะ




โดย: พรหมญาณี วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:11:24:00 น.  

 
แค่เห็นรถก้อบรรลุสัจธรรมแล้วคะป้ากุ๊กว่า นกอยากได้สักคัน ฮ่าๆๆๆ


โดย: แม่อ้วนคนสวย วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:11:31:00 น.  

 
สวัสดีอีกรอบค่ะ

เราเองที่ได้ไปเที่ยวศาลากลางที่นี่ ก็เพราะเคยพานศ.ไปอะค่ะ ไม่งั้นก็คงไม่รู้ว่าเที่ยวที่นี่ได้ด้วยน่ะค่ะ แหะๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:12:49:08 น.  

 
สวัสดีค่ะป้ากุ๊ก
เจ้าความสะดวกสบายนี่มันสวยซะจริง ๆ นะคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:16:18:07 น.  

 
ป้ากุ๊ก สวัสดีวันสุข
ขอให้สุขมากๆค่ะ


โดย: Nagascales วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:18:02:17 น.  

 


ป้ากุ๊กคะ สวัสดีวันศุกร์ค่ะ





โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:18:12:28 น.  

 


 border=





อรุณสวัสดิ์เช้าวันเสาร์ค่ะ พี่กุ๊กไก่


โดย: KeRiDa วันที่: 27 สิงหาคม 2554 เวลา:8:56:33 น.  

 
สวัสดีวันเสาร์ค่ะป้ากุ๊ก

ช่วงนี้แทบไม่ได้เข้ามาเล่นบล๊อกเลยมัวแต่ยุ่งๆกับงานที่นุงนัง นังนุงค่ะ ^ ^

ฝนตกหนักบ้างบางวัน แต่แดดก็ร้อนแผดเผาน่าดู รักษาสุขภาพด้วยค่ะ


โดย: ดอกไม้หน้าฝน วันที่: 27 สิงหาคม 2554 เวลา:12:46:14 น.  

 
ขอบคุณที่มาอ่านค่ะป้ากุ๊ก

............................

พรุ่งนี้วันอาทิตย์ได้นอนนานๆชอบไหมคะ อิอิ ฝันดีค่ะ



* ยามเย็น *

หมอกโอบไอล่องเร้นเฉกเช่นสาย
แดดส่องกลายไหม้มอดยากกอดหา
ลับแลบังฉากฉายรำบายมา
อัศจรรย์ไคลคลายามลาเรือง

ตะวันว้างกลางทะเลระเหระหน
ถวิลรนเนาหนี้ในสีเหลือง
รอยร้อยอ่อนรำบายใช่หมายเคือง
จับนัยเนืองโศกศัลย์ตะวันรอน

ใจประจักษ์มั่นคงไม่สงสัย
บาดอาลัยให้ตั้งแต่สั่งสอน
ตะวันลาประเทศเลยเขตนคร
ตรึง,ตามตอนแสงลับไม่กลับมอง

หงอยเหงามาระวางในหว่างวิถี
งำอย่างดีไม่ให้เงามาเฝ้าต้อง
เคว้งคว้างซุกให้ใคร่ดังใจปอง
จินต์จ่อมจองประสมระดมคราง

หมายมนตราหมื่นหนุนให้คุ้นเร่า
กวาดไกวเหงาไกลกมลไม่หม่นหมาง
ตะวันลับอยู่เย็นให้เห็นบาง
อะคร้าวบ้างภิรมย์อารมณ์เพลิน


โดย: ญามี่ วันที่: 27 สิงหาคม 2554 เวลา:20:51:36 น.  

 
หลับฝันดี,ราตรีสวัสดิ์,sweet dream,glitter,ทักทาย
[widget.sanook.com - *More Feel*]
ป้ากุีกสบายดีนะคะ เรื่องชุดละครนั้น ส่วนมากแล้วจะไม่ค่อยซักกันค่ะใช้วิธีผึ่งแดดมากกว่า เพราะซักแล้วดิ้นที่ใช้ปักจะดำอ่ะค่ะ แต่พอดิ้นหมองแล้ว จะใช้ไซยาไนด์ลงบนดิ้นจะทำให้เงาเหมือนเดิมแต่ต้องอาศัยความชำนาญในการทำค่ะป้ากุ๊ก หลับฝันดีนะคะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 27 สิงหาคม 2554 เวลา:21:48:02 น.  

ร่มไม้เย็น
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 127 คน [?]







เริ่มเขียน Blog เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2551


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยม เมื่อเวลา 18.15 น.



Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
23 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ร่มไม้เย็น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.