97 .. หลังบ้านมีธารใส
ห ลั ง บ้ า น มี ธ า ร ใ ส จากหนังสือ สายธารแห่งความสุข เขียนโดย รินใจ
นำมาจาก... เว็บ khonnaruk.com
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว สมัยคุณทวดยังเด็ก
มีชาวไร่ในแอฟริกาใต้คนหนึ่ง หลังจากทำมาหากินอยู่บนที่ดินอันแห้งแล้ง เต็มไปด้วยกรวดด้วยหินมาเป็นเวลาหลายปี วันดีคืนดีก็ได้ยินว่า มีคนพบเพชรไปทั่วประเทศ
เขาจึงขายที่ แล้วออกเดินทางเสาะหาเพชร
เขาค้นหาอยู่หลายปีแต่ก็ไม่พบเพชรสักเม็ด ในที่สุดก็สิ้นเนื้อประดาตัว และตายอย่างคนอนาถา
อยู่มาวันหนึ่ง ชายคนที่ซื้อที่ ต่อจากชาวไร่ผู้นั้น สังเกตเห็นหินลักษณะผิดธรรมดา 2 - 3 ก้อนในที่ดินผืนนั้น ด้วยความสงสัยเขาจึงนำมันไปล้างน้ำ แล้วก็ลองขัดดู
ปรากฏว่า ที่ดินผืนนั้น กลายเป็นเหมืองเพชรคิมเบอร์ลี่ อันเลื่องลือไปทั่วโลกมาจนทุกวันนี้
อะไรทำให้ชาวไร่ผู้น่าสงสารผู้นั้น พลาดโอกาสที่จะเป็นเศรษฐีเงินล้าน เราอาจโทษให้เป็นเรื่องของโชคชะตาที่แอบมาเล่นตลกร้ายกับเขา แต่ถ้าสรุปแบบนี้ก็จะไม่เป็นธรรมกับโชคชะตานัก
เพราะโชคนั้น อุตส่าห์มาช่วยเขาถึงขนาดรออยู่ใต้เท้าแล้ว แต่เขากลับมองไม่เห็น
ทำไมถึงมองไม่เห็น ก็เพราะจิตใจของเขาหมกมุ่นอยู่กับดินแดนอันไกลโพ้น จนลืมนึกถึงที่ที่ตนเองยืนอยู่ เขาฝันถึงเพชรตรงโน้นตรงนั้น แต่กลับไม่สนใจใยดีกับที่ดินของตัว ซ้ำกลับดูถูกดูแคลนจนขายทิ้งไปเลย
บ่อยครั้งที่เราก็ไม่ต่างจากชาวไร่ผู้นั้น เราทุกคนเปรียบดังผู้แสวงโชค โชคที่ว่า คือความสุขความเต็มอิ่มในชีวิต แต่เรากลับไปนึกว่ามันอยู่โน่น
เราต่างพากันไขว่คว้าหาความสุขตามศูนย์การค้า ตลาดหุ้น ผับ หรือเมืองนอก แต่เรากลับนึกไม่ถึงว่า โชคหรือความสุขนั้นรอเราอยู่แล้ว ตรงนี้ ตรงที่ที่เรานั่งอยู่หรือมีอยู่แล้วในครอบครอง
ของดีนั้นมักแอบอยู่ตรงมุมที่เราไม่นึกว่าจะมี ตรงที่ที่ขี้เหร่ ไม่น่าดู หรือเห็นซ้ำซากจำเจนั่นแหละ ลองสังเกตดูให้ดีๆ ทำใจให้สบาย เราอาจเห็นประพิมพ์ประพายของโชคส่องประกายจากมุมที่แสนธรรมดานั้น
หลายคนพบว่า บ้านที่ตัวเองเคยถือเป็นเพียงที่ซุกหัวนอนเท่านั้น เป็นแหล่งแห่งความสุขอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน
สมัยเศรษฐกิจเฟื่องฟู ก็ไปนึกว่าความสุขอยู่นอกบ้าน แต่เมื่อเงินหดหาย ไปไหนไม่สะดวกเหมือนก่อน ถึงรู้ว่า รอบโต๊ะกินข้าวในครัว หรือสนามหญ้าหน้าบ้าน ก็มีความสุขให้ตนชื่นชมสัมผัสได้อย่างเหลือเฟือ
เพียงแต่รู้จักชวนลูกหลานมาทำอาหารกินกันในวันหยุด หรือเลี้ยงสังสรรค์เบาๆที่บ้าน แทนที่จะไปฉลองกันตามภัตตาคารหรูอย่างแต่ก่อน
แต่ก็อย่าเพิ่งเพลินใจไปกับหน้าบ้านหรือในบ้านเท่านั้น อีกจุดหนึ่งที่สามารถยังความอิ่มเอมเปรมปรีดิ์ให้แก่เราได้ ก็คือหลังบ้าน
หลังบ้านมักเป็นบริเวณที่ขี้เหร่ที่สุดของบ้าน ไม่ค่อยมีใครอยากให้แขกเห็นหลังบ้านของตัว เพราะมักเป็นที่เก็บของเหลือใช้ หนักเข้ากลายเป็นกองขยะไปเลยก็มี แม้แต่เจ้าของบ้านยังไม่อยากเยี่ยมหน้าออกไปเห็นเลย
ไม่ฉลาดเลยถ้าเรารังเกียจหลังบ้าน จำบทเรียนจากชาวไร่ผู้ดูแคลนที่ดินของตัวได้ไหม คนเป็นอันมากพบว่า หลังบ้านกลายเป็นวิมานน้อยๆ เมื่อแปรสภาพหลังบ้านให้กลายเป็นสวนผักย่อมๆ เป็นที่ชุบชูใจในยามเย็น เมื่อได้พรวนดินและประคบประหงมชีวิตน้อยๆให้เกิดขึ้น
จำได้ว่าตอนเด็กๆ หลังบ้านช่างรกไปด้วยหญ้าและขยะ แถมติดกับท่อน้ำครำอีกด้วย แต่เมื่อพวกเราช่วยกันถางหญ้า จัดแต่งต้นไม้ และขนปฏิกูลไปทิ้ง พื้นที่น้อยๆก็กลายเป็นที่สังสรรค์ในยามค่ำคืนได้อย่างวิเศษ
แม้ท่อน้ำครำยังอยู่ แต่ความเพลิดเพลินบันเทิงใจบวกกับจินตนาการของเรา ก็ทำให้มันไม่ต่างอะไรจากลำธารใสในป่าลึก
ปฏิกูลและซากเน่าของพืชสัตว์ สามารถแปรสภาพเป็นดอกไม้งาม และผลไม้หวานอร่อยฉันใด มุมที่อัปลักษณ์อัปภาคย์ก็สามารถกลายเป็นสรวงสวรรค์ฉันนั้น
เชื่อหรือไม่ว่า หลังบ้านของทุกบ้านล้วนมีลำธารใสให้ชื่นชม เพียงแต่เราจะเห็นมันหรือเปล่าเท่านั้น..
ธรรมสวัสดี
ร่มไม้เย็น ค่ะ
Create Date : 27 เมษายน 2553 |
Last Update : 28 มีนาคม 2558 21:58:20 น. |
|
66 comments
|
Counter : 3023 Pageviews. |
|
|
สบายดีนะคะไม่ได้แวะมาเยี่ยมเยือนนานแล้ว
สุขอย่ารู้สร่างนะคะ