###### รีวิวเมืองโอตารุ Otaru - ชมคลอง ไอศกรีม 7 สี เค้กเลอเตา พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ######
สวัสดีขอรับบบบบบบบบ
หลังจากรีวิวทริปฮอกไกโดมาแล้วดังนี้
สำหรับเอนทรี่นี้จะพาไปยังอีกเมืองที่ใครที่ไปฮอกไกโดก็มักจะไม่พลาดเมืองนี้นะคะ ด้วยความที่มีเสน่ห์หลายๆ อย่างนั่นเอง นั่นก็คือเมืองโอตารุค่ะ
และแน่นอนว่าเป็นฉากหนึ่งของหนังเรื่องแฟนเดย์เช่นกันนะคะ กับซีนในพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีนั่นเองฮับ
เอาหละค่ะ มาดูกันว่าโอตารุมีอะไรเนาะคะ สำหรับที่แรกที่ไปโอตารุแล้วต้องไปสักการะ เย้ยย ไม่ใช่ ต้องไปถ่ายรูปเช็คอินกันก็แถวๆ นี้เลยค่ะ คลองโอตารุนั่นเองค่ะ ซึ่งตรงจุดนี้ก็มีอาคารศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวด้วยนะคะ
ถ้าต้องการโหลดแผนที่่ท่องเที่ยวของเมืองนี้ก็เชิญที่ลิงก์นี้เลยนะคะ
//otaru.gr.jp/wp-content/uploads/2012/06/otrmap2014_en.pdf%C2%A0
หน้าตาคลองโอตารุค่ะ ซึ่งข้อมูลจากลิงก์นี้ ก็บอกไว้ว่า
Otaru Canal
小樽運河
คลองที่มีความสวยงามซึ่งไหลผ่านกลางเมืองโอตารุ เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง ริมคลองตกแต่งด้วยโคมไฟสไตล์วิคตอเรียนและมีอาคารโกดังที่สร้างจากอิฐเป็นแนวยาวไปตามคลองได้บรรยากาศโรแมนติกมากๆ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปียังใช้เป็นหนึ่งในสถานที่จัดงานเทศกาล Otaru Snow Light Path Festival ซึ่งจะมีการประดับตกแต่งด้วยโคมไฟทั่วทั้งเมือง
ที่เมืองแห่งนี้มีคลองก็เพราะโอตารุเป็นเมืองท่าการประมงและการค้าของเกาะฮอกไกโด นอกจากนั้นถือว่าเป็นศูนย์กลางการค้าและเศรษฐกิจ มีธนาคารต่างๆมากมาย ในอดีตได้ชื่อว่าเป็น "North of Wall Street" เลยแหละค่ะ
สร้างปี ค.ศ. 1923 เพื่อเป็นเส้นทางลำเลียงสินค้าจากทะเลสู่เมืองท่าแห่งนี้ ยังเห็นโกดังสินค้าเก่าแก่เป็นอนุสรณ์ เป็นที่จัดงาน Otaru Snow Light Path หรือ งานจุดเทียนตามทางเดิน โพรงหิมะ ลอยดวงประทีบในคลองที่สวยงาม จัดขึ้นต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี (ช่วงเดียวกับ Sapporo Snow Festival) มีสะพาน Asakusa ทอดผ่าน เมื่อข้ามสะพานแล้วเลี้ยวขวา จะพบ ร้านบุฟเฟ่ต์ขาปูแกะเนื้อมาให้เสร็จสรรพชื่อดัง ชื่อ Asakusabashi Beer Hall 浅草橋ビアホール อยู่ในโกดังชื่อว่า Otaru Unga Shokudo 小樽運河食堂
จากนั้นก็ให้ไกด์พาไปยังร้านหนึ่งที่ถ้ามาโอตารุแล้วมีโอกาสลองก็จะดีมากค่ะ กับไอศกรีมเรนโบว์นั่นเองงงงง
ราคาอันละ 550 เยนนะคะ มีช้อนให้ตักต่างหากด้วย เจ็ดสีนี่เจ็ดรสชาติเลยนะคะ แฮร่
ราคาก็ตามนี้ค่ะ ถ้ากินไม่ถึงเจ็ดสี หรือกินแค่อันใดอันหนึ่งก็ราคาตามภาพเลยฮับบบบ
จากนั้นก็เดินผ่านอาคารที่มีเรือกลางอาคารแบบนี้ไป มีชุดสไตล์เวนิสให้เช่าด้วยนะเอ้า 55555 แต่ไม่ได้ลองค่ะ
จากนั้นเดินทะลุอาคารไปจะเจอถนนที่มีร้านรวงสองข้างทางนะคะ เดินไปพักหนึ่งก็เลี้ยวซ้ายเข้าอาคารนี้ค่ะ เพื่อแวะไปกินทาร์ตไข่นะฮับ
ทาร์ตไข่อันละ 320 เยนมั้งคะถ้าจำไม่ผิด รสชาติดีทีเดียวค่ะ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับ must eat สำหรับเราง่ะนะ
ออกมาแล้วเดินต่อไป เจอเลอเตาอีกสาขาทางขวามือ เก็บภาพมาแค่ภายนอกค่ะ
ถัดไปเป็นร้านขายของน่ารักๆ นะคะ ไม่ได้เข้าไปดูเช่นกันค่ะ (แนะนำว่าถ้าใครอยากมาชิลล์ ดูโน่นนี่ให้ครบ หาเวลามานอนโอตารุสักคืนก็ได้ค่ะ)
เดินต่อไปค่าาา ถนนที่ว่าจะมีร้านสองข้างทางประมาณในภาพนี้หละนะคะ
ผ่านพวกร้านทำแก้วต่างๆ ไป มีแก้วแบบที่เวลาใส่เครื่องดื่มแล้วจะเปลี่ยนสีที่ลายแก้วด้วยนะคะ (ญี่ปุ่นชอบเล่นอะไรกับอุณหภูมินะคะ ปากกาลบได้ก็หนึ่ง ร่มโดนฝนก็หนึ่ง ชอบอ้ะ ไอเดียเก๊ เก๋) ส่วนรูปล่างเป็นร้านปลาหมึกที่ไกด์เชียร์ค่ะ แต่เป้าหมายเราไม่ใช่ก็เลยไม่ได้แวะฮับ ส่วนอีกฝั่งก็มีร้านขายไวน์ด้วยนะคะ
อีกหนึ่งร้านของที่โอตารุค่ะ กับชูว์ครีมร้านนี้นั่นเองงงงง Kitakaro แต่แต่แต่...หมดค่าาาาาาาาา แงๆๆ รสฮิตหมด เหลือแต่รสกาแฟ ซึ่งไม่ค่อยอร่อยว้าวง่า
อีกหนึ่งเป้าหมายค่ะ (มาโอตารุ สิ่งหนึ่งที่ต้องทำคือ มากินฮ้าบบบบบบบบบ 555) กับร้านเลอเตานั่นเอง สาขานี้จะอยู่หัวมุมถนนก่อนข้ามไปพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีเลยนะคะ
ชั้นล่างจะเป็นส่วนของการขายของและผลิตภัณฑ์ของร้านค่ะ แต่เราขึ้นไปที่ชั้นสองซึ่งเป็นโซนนั่งรับประทานนะคะ จะขึ้นลิฟท์หรือบันไดก็ได้นะฮับ
หน้าตาของชั้นสองค่าาา สงบกว่าข้างล่างเยอะเลย แฮร่...
เมนูฮ้าบบบบ ราคาก็มาตรฐานเค้าหละนะคะ
มานี่ต้องสั่งเจ้านี้นะคะกับ Double Fromage ค่ะ ที่อร่อยและออริจิฯ คือตัวขวา (ชีส) ตัวช็อกโกฯ นี่มาเพิ่มทีหลัง เนื้อเนียนแน่นด้วยชีสมาก กินกับชาร้อนนี่ฟินมากกกกกกกก (ส่วนเบียร์นั่นเราจะไม่พูดถึง เอ่อ..มีคนกินเบียร์กะเค้กดั้วะ 5555)
จากนั้นก็ข้ามไปฝั่งที่เป็นพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีค่า จากในภาพ ฝั่งขวาอาคารใหญ่นะคะพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี จะเห็นว่าด้านหน้ามีนาฬิกาไอน้ำด้วยนะคะ แต่เราจะไปอาคารซ้ายก่อนฮับบบบ
เห็นโตโตโร่มั้ยยยยยยยยยย ที่นี่มีของจิบลิขายนั่นเองค่าาาา
ด้านในฮับบบบ ข้างล่างจำไม่ได้แล้วว่ามีอะไร แต่เราขึ้นไปชั้นบนกันค่าาา
ของที่ระลึกจากหนังของจิบลิเต็มเลยค่าาาา มีไพ่ด้วยง่าาา อยากได้ๆๆๆ กรี๊ดๆ (สรุปซื้อไพ่มาสำรับหนึ่งค่ะ 555)
นอกจากนั้นก็มีกล่องดนตรีเพลงประกอบหนังของจิบลิด้วยนะคะ แต่อันนี้ไม่ได้ซื้อแหละ แง้วๆๆ
เสร็จสรรพก็ออกมากันค่ะ ไปที่พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีกันต่อ
สำหรับหอนาฬิกาไอน้ำนี่จะพ่นไอน้ำพร้อมบรรเลงเพลงทุก 15 นาทีนะคะ เป็นหอนาฬิกาที่รัฐบาลแคนาดามอบให้ญี่ปุ่น ออกแบบโดย Raymond Saunders ค่ะ
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิด 09.00-18.00 น. (ศุกร์ เสาร์ เปิดถึง 19.00 น.) เข้าชม ฟรี
เปิดเข้าไปปุ๊บ ใกล้ๆ ประตูทางขวามือมีโบรชัวร์ด้วยนะคะ มีหลายภาษาเลย
ภายในค่ะ ด้านล่างจะเป็นสถานที่ขายกล่องดนตรีในแบบต่างๆ ตามภาพนะคะ มีหลายราคาอยู่ค่ะ นี่คือที่ถ่ายทำฉากในแฟนเดย์ที่เด่นชัยทำกล่องดนตรีทางร้านเขาแตกนั่นแหละนะคะ
ถ่ายรูปกล่องดนตรีประเภทต่างๆ มาให้ดูนะฮับบบ ยิ่งงานสวยก็ยิ่งแพงอะนะ
เดินเข้าไปด้านใน จะเจอบันไดสำหรับขึ้นไปชั้นบนนะคะ มามะ ตามไปดูกันค่าาา ว่ามีอะไรรอเราอยู่
ชั้นบนโซนแรกยังเป็นพวกที่ขายกล่องดนตรีอยู่ค่ะ แต่แบบจะไม่เหมือนกันกับด้านล่างนะคะ
แต่เราชอบการเก็บภาพโดยรวมของที่นี่จากชั้นสองหละ เราว่าสวยดีอ้ะ
จากนั้นก็เดินลัดเลาะต่อไปค่ะ ไปยังทิศทางด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ที่เราเข้ามาเมื่อกี๊นะคะ จะเริ่มเห็นกล่องดนตรีโบราณแล้วค่ะ
แล้วก็เริ่มได้เห็นกล่องดนตรีราคาเกือบสองหมื่นเยน (เกือบแปดพันบาทไทย) ยังค่ะ ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้
ตรงนี้จะเป็นแบบจำลองวิวัฒนาการกล่องดนตรีค่ะ เดี๋ยวพาไปเจาะดูกันนะคะ
ก็มีทั้งเครื่องเล่นแผ่นเสียงในบ้าน กล่องดนตรีแบบเร่ นาฬิกาดนตรี ฯลฯ ไปเรื่อยๆ ค่ะ
และแล้ววววววววววววววว กล่องดนตรีราคา 16 ล้านนนนนนนนนนนนเยน บ้าไปแล้ววววววว
ยัง ยังไม่หมด อันนี้ 21 ล้านนนนนนนนเยน บร๊ะเจ้า
ส่วนอันนี้เบาะๆ ค่ะ (หลังจากตกใจตาโต) สองล้านกว่าๆ เท่านั้นเอ๊ง (ก็ราวเจ็ดแปดแสนบาทนะคะ)
ส่วนอันนี้เกือบๆ หกล้านเยน (ราวสองล้านสี่แสนบาทค่ะ)
หลังจากตื่นตะลึงกับราคากล่องดนตรีที่ซื้อบ้านที่เมืองไทยได้แล้ว ก็ลงมากันค่ะ เห็นโปสเตอร์โฆษณางานที่โอตารุพอดี มีทุกเดือนกุมภาฯ นะคะ เป็นงานหนึ่งที่เราอยากไปมากๆ เลยแหละ
สรุปสำหรับโอตารุนะคะ
เราว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์หลายอย่างค่ะ ที่จริงยังมีซูชิร้านดัง มีถนนช็อปปิ้งอีก แต่ด้วยเวลาเราก็ไม่พอแล้วง่ะนะคะ เลยได้แต่พาเที่ยวเท่านี้ อย่างที่บอก ถ้าใครอยากเก็บครบๆ เที่ยวแบบไม่รีบมาก มีเวลากินโน่นนี่ ก็แนะนำให้มาค้างที่โอตารุดีกว่าค่ะ (แต่ที่พักจะน้อยกว่าซัปโปโรง่ะนะ) หรือถ้าเที่ยวแค่พอทำเนา ก็ไปเช้า-เย็นกลับก็ยังโอเคค่ะ
ปฏิทินธรรม
วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2560 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่) 1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37 เวลา 06.30-10.30 น. ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่ //www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447
2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/
วันเสาร์ที่ 7 มกราคม 2560
1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)
วันอาทิตย์ที่ 8 และ 22 มกราคม 2560 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน) 1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14 กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts
วันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2560
1. ชมรมพุทธธรรมกรรมฐาน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยขอเชิญร่วมทำบุญถวายพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เวลา 07.00 น.
ณ อาคาร 15 หอประชุมมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 28-29 มกราคม 2560 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)
1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด
ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.479376905439284.105742.335629013147408/701496553227317/?type=1&theater
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ1,469,696+ 4080321=5550017 /12594/1367
Create Date : 21 มกราคม 2560
30 comments
Last Update : 21 มกราคม 2560 23:18:17 น.
Counter : 6183 Pageviews.
55555555555555
แต่บ้านนี้ต้องโหวตให้เลย
ตามมาสักพักแล้วรู้สึกว่า
"บ้านนี้มีของ" เป็นบล็อกคุณภาพ ชอบรูปสวย REAL ไม่เฟคค่ะ