ตรงนี้เป็นจุดที่มีประตูหินโชว์อยู่ค่ะ คุณไกด์บอกว่า เวลาฉุกเฉินมันจะมีวิธีกลิ้งมาปิดไว้ได้อย่างเร็ว คนที่จะตามมาก็จะลำบากกว่าจะเปิดได้ค่ะ
จากจุดนี้ก็เข้าอุโมงค์อีกครั้งค่ะ 555 สามารถดูความแคบและความเตี้ยได้จากในคลิปนะคะ
จะมีเสียงบ่นก่นด่าเป็นระยะค่ะ 5555 (ไปเจอกับกลุ่มนักเรียนด้วยค่ะ เลยมีช่วงติดขัดเป็นช่วงๆ นะคะ) ซึ่งอุโมงค์ช่วงนี้เป็นอุโมงค์แคบที่ยาวที่สุดในเมืองนี้ แต่ก่อนไปถึงอุโมงค์ปากทางจะเป็นทางเดินที่ถ้าเรามองไปข้างๆ จะเห็นช่องเล็กๆ ที่คนสมัยนั้นนำเหยือกไวน์มาตั้งเก็บไว้ และในอุโมงค์ที่ยาวที่สุดนี้ จะมีช่องเล็กๆ ด้านข้างซ้าย-ขวาไว้ใส่เทียนให้แสงสว่าง และระหว่างทางจะมีช่องลม ซึ่งเราโผล่หัวเข้าไปดูได้ จะเห็นช่องลึกลงด้านล่างไปมากกก และมองขึ้นบน ช่องเล็กๆ นี้ก็เจาะขึ้นไปถึงพื้นดิน นั่นเป็นช่องที่ส่งอากาศให้เมืองทั้งเมือง...จุดที่ผ่านอุโมงค์สายย่อที่ยาวที่สุดมานั้น นับเป็นจุดที่ลึกที่สุดที่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
พ้นจากอุโมงค์และบันได...ค่ะ มีบันไดให้เดินลงด้วยค่ะ ก็จะเป็นไวน์เนอรี่อีกแห่ง ซึ่งอันนี้มีจุดที่เคยใช้เป็นที่วางถังหมักไวน์ด้วยนะคะ
จากนั้นก็จะเป็นอุโมงค์ให้เดินขึ้นแล้วค่ะ ซึ่งแสดงว่าการชมใกล้เสร็จสิ้นแล้วววว
จากนั้นจะเป็นห้องครัวและมีสโตนวอลล์อีกค่ะ แต่ทั้งหมดถ่ายด้วยวีดิโอนะคะ ไปดูในคลิปเอาแล้วกันเนาะ
ปิดท้ายที่นี่ด้วยครกของเขานะคะ เหมือนบ้านเราเลยเนาะ
ในส่วนของห้องน้ำหรือสุขาของที่นี่นะคะ จะสร้างในห้องที่ลึกที่สุด และด้วยความที่เมืองนี้มีแม่น้ำไหลผ่านนครใต้ดิน เขาจึงสร้างท่อเชื่อมต่อลงไปที่แม่น้ำได้เลย ส่วนกลิ่นก็จะลอยขึ้นข้างบนตามท่อระบายลมไปค่ะ นครใต้ดินแห่งนี้มีคนที่อยู่อาศัยรวมกันถึง ประมาณ 1 หมื่น – หมื่นสองพันคน และบางนครใต้ดินก็มีคนอยู่อาศัยประมาณ 7-8 พันคน นับว่ายิ่งใหญ่มาก และที่เราสามารถเดินลงมาชมได้นั้น คิดเป็นเพียงแค่ 8% ของทั้งนครแห่งนี้เท่านั้นเองหละค่ะ
สำหรับภาพความเคลื่อนไหว คลิกที่คลิปด้านล่างนี้ได้เลยฮ้าบบบบบ
และที่เที่ยวปิดท้ายทริปนี้ค่าาาGoreme Museum (พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่)
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme) พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เมืองเกอเรเม่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์
รถบัสเราวนไปจอดตรงใกล้ๆ ให้ค่ะ โดยระหว่างทางคุณไกด์ก็บอกว่า เดี๋ยวรถวนไปส่งนะ แต่ไม่ได้รับกลับจากจุดที่ไปส่ง ให้เดินมาที่ลานจอดรถ (ตอนขาไป ลานจอดรถจะอยู่ทางขวามือค่ะ) ตามเวลานัดหมายค่ะ
พอลงรถก็ผ่านเครื่องสแกนอีกเช่นเคยค่ะ
จากนั้นก็จะเห็นที่ขายตั๋วและที่ตรวจตั๋วแล้วค่ะ ส่วนเขาที่เห็นด้านหลังนั่นคือบรรดาสถานที่ต่างๆ ที่เราจะไปชมกันนะคะ
โดยบรรดาเนินเขาต่างๆ ที่เห็นในรูปทั้งหมดนี้ก็คือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งก็คือ โบสถ์ที่มีการขุดเข้าไปเป็นถ้ำแล้วสร้างเป็นโบสถ์นั่นเองค่ะ
ซึ่งมีด้วยกันหลายโบสถ์ โดยส่วนใหญ่ก็เข้าชมได้ฟรีทั้งหมด (เพราะซื้อตั๋วแล้ว) แต่บางที่ก็ต้องซื้อตั๋วเพิ่มต่างหากนะคะ
โบสถ์ต่างๆ เหล่านี้ก็ได้แก่
โบสถ์เซนต์บาร์บารา ภายในเจาะเป็นโพรงเพดานโค้ง มีรูปของเซนต์บาร์บาราและพระเยซูเป็นภาพประธานของโบสถ์ เซนต์บาร์บารา เป็นโบสถ์ในยุคแรกๆ ดังนั้น ภาพจึงเป็นสีแดงโมโนโทน ที่ช่างนำยางมาจากเปลือกไม้มาเขียนลงบนผนังหรือเพดานถ้ำ ก่อนจะฉาบทับบางๆ ด้วยปูน (เทคนิคการเขียนสีแบบนี้มีมาก่อนเทคนิคปูนเปียกหรือเฟรสโก ซึ่งเป็นเทคนิคที่นิยมใช้กันมากที่สุดในเกอเรเม่)
นอกจากนี้ยังมี โบสถ์มังกร (ชื่อพื้นเมืองคือ Yilani Kilise) ภายในโดดเด่นไปด้วยภาพของเซนต์เทโดออร์และเซนต์จอห์นบนหลังม้ากำลังต่อสู้กับมังกร สื่อสัญลักษณ์ถึงการต่อสู้กับสิ่งชั่วร้าย, โบสถ์แอปเปิ้ล ตั้งชื่อตามที่มีต้นแอปเปิ้ลปลูกไว้ด้านหน้าโบสถ์ ส่วนภาพเขียนเฟรสโกภายในโบสถ์ที่มีรูปหลักคือ พระแม่มารีและพระเยซูถูกตรึงกางเขนก็มีรูปต้นแอปเปิ้ลอยู่ด้วยเช่นกัน
เก็บภาพแบบกว้างๆ มาให้ดูก่อนหนึ่งรูปค่ะ
จากนั้นคุณไกด์ท้องถิ่นก็บอกเล่าข้อมูลแต่ละโบสถ์ (ก่อนหน้านั้นบนรถเล่าเรื่องคริสตประวัติมาแล้วค่ะ) ซึ่งก็จะบอกจุดเด่นของแต่ละโบสถ์ ภาพที่แตกต่างกัน (อย่างชายหนุ่มที่ปีนต้นไม้ แล้วพระเยซูเรียก จะมีโบสถ์หนึ่งที่วาดขึ้นต้นไม้คนละต้นกับในประวัติค่ะ) อันนี้อยากให้ตั้งใจฟังนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นการเที่ยวที่นี่จะไม่อินเลย จะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรค่ะ
สำหรับผังของโบสถ์ต่างๆ ที่นี่ก็ตามนี้เลยนะคะ
เครดิต https://www.darylstravels.com/turkey/goreme/goreme.html
โดยไกด์ให้เราเข้าไปทางกลุ่มโบสถ์ แถวๆ 2 ก่อนค่ะ แล้วก็ที่หมายเลข 7 ที่เป็นดาร์คเชิร์ชนี่แหละค่ะที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างหาก
เข้าโบสถ์แรกไป ถ่ายได้แค่ตรงนี้นะคะ ข้างในห้ามถ่ายแล้ว
บางจุดก็จะมีคำบรรยายเป็นป้ายเพิ่มเติมด้วยค่ะ
ส่วนภายในถ้ำต่างๆ ก็จะประมาณๆ นี้ค่ะ นี่ก็งง ห้ามถ่ายรูป แต่ทำไมเซิร์ชในกูเกิ้ลเจอฟระ มีคนแอบถ่ายงี้?
จากนั้นก็เดินไปยังโบสถ์อื่นๆ นะคะ แล้วก็เดินไปจนถึงหมายเลข 6 ในแผนที่บอกว่าเป็น refectory ซึ่งเป็นโรงรับประทานอาหารในสถานที่ทางศาสนานั่นเองหละค่ะ มีโต๊ะยาวที่นั่งได้ 20-40 คน มีเตา มีห้องครัว ฯลฯ ด้วยค่ะ
จากนั้นก็จะเป็นส่วนของ Dark Church แล้วค่ะ ที่เรียกว่าดาร์คเชิร์ช เพราะเป็นโบสถ์ที่แสงสว่างเข้าได้ค่อนข้างน้อยมากค่ะ มีลักษณะค่อนข้างทึบ ซึ่งทำให้ภาพวาดต่างๆ ของที่นี่จะสีค่อนข้างสว่าง (และชัด) กว่าโบสถ์อื่นๆ เป็นที่ที่เราไม่อยากให้พลาดนะคะ สวยมากๆ ค่ะ ถึงต้องจ่ายค่าเข้าเพิ่มก็จ่ายเถอะค่ะ คุ้ม 555
ตัวโดมเล็กๆ สี่โดมจะมีรูปของหัวหน้าทูตสวรรค์อันได้แก่ กาเบรียล มิคาเอล ราฟาเอลและอัซราเอลค่ะ
เดินขึ้นไปทางด้านบนก็จะมีจุดขายตั๋วเข้าดาร์คเชิร์ชอยู่นะคะ ราคา 10 ลีราห์ค่ะ ถ่ายรูปได้แต่ด้านนอกเช่นกันนะคะ
พ้นจากดาร์คเชิร์ชมา จะมีจุดหนึ่งค่ะที่เป็นจุดที่เห็นวิวได้สวยงามอลังการมากกก เพื่อนร่วมทริปหยุดถ่ายรูปกันตรงนี้พักใหญ่ๆ เลยค่ะ
จุดต่อไปเป็นโบสถ์เซนต์แคทเธอรีนแล้วค่ะ ข้อมูลก็ตามนี้เลยมีสี่ภาษานะคะ แต่ว่าถ่ายได้แต่ข้างนอกเช่นกัน อ้อ ที่มีออดิโอไกด์ด้วยนะคะ ใครอยากรู้เรื่องเยอะๆ ก็เช่าออดิโอไกด์เพิ่มได้ค่ะ
จุดต่อไปเป็น Sandal Church ค่ะ โบสถ์นี้ได้ชื่อตามที่มีการพบรอยเท้าสองรอยที่พื้นนะคะ มีสองชั้น ที่ชั้นล่างมีโต๊ะยาว และที่สุดปลายโต๊ะมีรูปยอดฮิตคือ พระกระยาหารมื้อสุดท้าย รวมทั้งมีรูปวาด 12 รูปที่เกี่ยวพันกับประวัติพระเยซูค่ะ สามภาพเป็นภาพเกี่ยวกับชีวิตวัยเด็กของท่าน สองภาพตอนโต และอีกเจ็ดภาพจะเป็น his passion และการฟื้นคืนพระชนมชีพค่ะ
เขาให้เราขึ้นไปที่ชั้นบนนะคะ ต้องขึ้นบันไดไปตามภาพค่ะ ส่วนชั้นล่างเหมือนเป็นร้านให้ดื่มชาได้ด้วยนะคะ
จบการชมทั้งหมดก็เริ่มทยอยเดินไปที่ลานจอดรถค่ะ ระหว่างทางมีร้านขายของที่ระลึกของทางพิพิธภัณฑ์ด้วย แต่ดูเวลาแล้วไม่ทัน เลยอดดูเลยค่ะ
ก่อนถึงลานจอดรถมีอีกโบสถ์ด้วยค่ะ วิ่งเข้าไปดูอย่างไวเลย แต่ไม่ได้มีอะไรเด่นนะคะ ชื่อ Buckle Church ค่ะ
แต่ในป้ายก็บอกว่าสำคัญสำหรับศิลปะแบบไบแซนไทน์ค่ะ สนใจก็อ่านข้อมูลจากป้ายด้านล่างแล้วกันนะคะ 555
เดินไปลานจอดรถกันค่าาา ระหว่างทางก็มีทั้งร้านให้ดื่มชากาแฟ ร้านขายของที่ระลึกท้องถิ่นต่างๆ นะคะ เห็นมีหลายคนสอยมาหลายอย่างเหมือนกันค่ะ
สำหรับเอนทรี่นี้ก็มีแต่เพียงเท่านี้นะฮับบบบบบ
เอนทรี่หน้าจะพาไปดูไฟลท์ขากลับกรุงเทพฯ กันค่าาา
ปฏิทินธรรม
วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2562
1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)
วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2562 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)
1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น.
ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447
2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/
วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 2562
1. ตักบาตรพระกรรมฐาน
ณ ปราสาทจตุรมุข วัดสังฆทาน นนทบุรี (กิจกรรมทุกวันเสาร์ที่สองของเดือน)
วันอาทิตย์ที่ 13 และ 27 ตุลาคม 2562 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)
1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts
วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2562
1. ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระป่า 9 วัด เสาร์ที่ 3 ของทุกเดือน
ณ บ้านลานเสียงธรรม
เลขที่ 7/44 หมู่4 ซอยนาคนิวาส 40 แขวงเขตลาดพร้าว กทม
วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562 (จัดทุกอาทิตย์ที่สามของเดือน)
1. ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2562
1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน)
เมตตารับบาตรโดย
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์
วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 26-27 ตุลาคม 2562 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)
1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัย
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
1469696+7413456=8883152/14277/1875
ประกาศ
ท่านใดประสงค์จะโหวต โหวตได้นะคะ แต่เจ้าของบล็อกนี้จะไม่ได้โหวตกลับให้ทุกคนที่โหวตค่ะ จะโหวตเฉพาะบล็อกที่เราอยากโหวตให้เท่านั้นนะคะ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาเองว่าจะโหวตให้บล็อกนี้หรือไม่ค่ะ
ยิ่งเมื่อนึกถึงการก่อสร้างอาคารใต้ดินแบบนี้ในสมัยอดีต
ยิ่งทึ่งในความสามารถเชิงช่างและสถาปนิกเลยครับ
ภาพห้องหับต่างๆทำให้นึกถึงโดราเอมอน
ตอนที่สร้างห้องใต้ดิน สภาพห้องคล้ายๆกันเลยครับ
โหวตครับ