###### รีวิว Ishiya (Shiroi Koibito) Chocolate Factory โรงงานช็อกโกแลต ณ ฮอกไกโด ######
สวัสดีค่าาาาา
หลังจากรีวิวทริปฮอกไกโดมาแล้วดังนี้
วันนี้ก็จะพาไปที่เที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของฮอกไกโดนะคะ นั่นก็คือ โรงงานช็อกโกแลตนั่นเอง ซึ่งไกด์บางคนก็จะเรียกว่า Ishiya Chocolate Factory หรือบางคนก็จะเรียกว่า Shiroi Koibito Factory ค่ะ แต่ถ้าใน google map ต้องหาด้วยคำว่า Shiroi Koibito Park นะคะ ถึงจะเจอ
พิกัดค่ะ อยู่ห่างจากตัวเมืองซัปโปโรราวๆ ครึ่งชั่วโมงนะคะ
สำหรับข้อมูลอื่นๆ ภาคภาษาไทยไปดูที่เว็บไซต์นี้ได้นะคะ
//www.shiroikoibitopark.jp/thai/
ที่นี่เปิดเวลา 9:00~18:00 น.(เข้าชมก่อนเวลา 17.00 น., ร้านค้าปิดเวลา 19.00 น.)
* อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามโอกาสพิเศษ ซึ่งรวมทั้งช่วงวันหยุดสิ้นปีและวันปีใหม่
สำหรับการเดินทางด้วยบริการสาธารณะก็มีตามนี้นะคะ
โดยรถไฟใต้ดิน
ลงที่สถานีมิยาโนะซาวะของรถไฟใต้ดินสายโทไซ (ประมาณ 20 นาทีจากสถานีโอโดริ)
โดยรถประจำทาง
จากสถานีรถประจำทางเจอาร์ซับโปโร (ทิศทางไปยังโอตารุ)
ลงรถที่จุดจอดรถนิชิมาชิ คิตะ 20-โจเมะ (รถบัสชูโอหรือรถบัสเจอาร์)
พอเข้าไปในปาร์ค ก็เลี้ยวขวาไปก่อนนะคะ ไปจอดรถกันก่อนแล้วค่อยเดินย้อนมาที่ตัวอาคารค่ะ
ด้านหน้าของปาร์คก็จะมีการประดับประดาค่ะ แต่ถ้าเป็นหน้าหนาวก็จะเน้นพวกไฟเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งถ้าไปตอนกลางวันก็ไม่เห็นความสวยงามของไฟอะนะคะ แต่ถ้าใครชอบหิมะก็คงฟินอยู่
แต่ถ้าเป็นในฤดูอื่น อย่างฤดูร้อน ก็จะมีดอกไม้และต้นไม้ให้ชื่นตามตามภาพนี้นะคะ
หันหน้าไปแบบนี้ จะเห็นหอนาฬิกา (ที่จะมีการแสดงจากพวกหุ่นต่างๆ ในทุกๆ เวลาที่ครบชั่วโมงเป๊ะๆ) ทางซ้ายมือ ส่วนขวามือจะเป็นส่วนของโรงงานและมิวเซียมที่เราจะเข้าไปชมกันค่ะ แต่การจะเข้าชมต้องเดินไปทางซ้ายมือตรงฝั่งเดียวกับหอนาฬิกาก่อนนะคะ เป็นทางเข้าค่ะ จากนั้นถึงจะเดินข้ามมาฝั่งขวาหละ
เอาโชว์ตอนครบแต่ละชั่วโมงมาให้ดูนะคะ ตอนเราไปหิมะตกพอดีเลยค่ะ ลมแรงมากๆ แหะๆ
VIDEO
ให้ดูแบบภาพนิ่งด้วยค่าาา
เอาล่ะค่ะ เลี้ยวซ้ายไปฝั่งด้านหอนาฬิกาเพื่อเข้าชมด้านในกันดีกว่านะคะ
ถ้าใครจะเข้าห้องน้ำ เข้าไปปุ๊บจะอยู่ทางซ้ายมือเลยค่ะ ห้องน้ำสวยดีด้วยหละ แล้วจากนั้นไกด์ก็เอาโบรชัวร์มาให้นะคะ แล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่แจกขนมสุดฮิตของโรงงานแห่งนี้ให้คนละชิ้นด้วยค่ะ ส่วนค่าเข้าก็ตามภาพเลยนะฮับ ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็กสามขวบขึ้นไป 200 เยน ต่ำกว่านั้นไม่ต้องเสียค่าเข้าค่ะ
เข้าไปจะเจอโถงของทางโรงงานก่อนนะคะ จะมีแถวแยกระหว่างมาส่วนตัวกับมากรุ๊ปค่ะ มาส่วนตัวจะเป็นช่องซ้ายมือสุดนะคะ
ที่นี่ถ้าใครสนใจเค้ามีบริการถ่ายรูปแล้วทำลงกล่องช็อกโกแลตให้ด้วยนะคะ กล่องเป็นกล่องเหล็กค่ะ อันนี้เป็นอันหนึ่งที่เราทำให้ลูกค้าเราบ่อยๆ แหละ (สำหรับกรุ๊ปที่มีงบประมาณน่ะนะคะ)
จากนั้นก็ขึ้นไปที่ชั้นบนกันค่ะ ก็จะเป็นโซนให้บริการถ่ายรูปของคนที่เข้ามาชม และจำหน่ายซึ่งมีหลายราคาด้วยกันนะคะ
จากนั้นก็ขึ้นบันไดไปซึ่งจะอยู่ตรงลานข้างๆ น้ำพุแบบที่เห็นค่ะ
น้ำพุนี้ผลิตโดย บริษัทรอยัลดอลทัน ของประเทศอังกฤษในราวปี ค.ศ. 1870 น้ำไหลลงสู่พื้นผิวเซรามิคหลากสีสันที่สว่างด้วยโคมไฟที่ติดตั้งไว้ใต้น้ำนะคะ ถือว่าสวยเลยหละค่ะ
วิธีการเดินของที่นี่เค้าให้ตามรอยเท้าแมวไปค่ะ 555
จากนั้นก็เป็นทางเดินเข้าสู่ทางเชื่อมระหว่างอาคารหลังนี้กับอาคารหลักอีกฝั่งแล้วค่ะ
ซึ่งตรงทางเชื่อมนี่ก็มีตู้โชว์สิ่งของต่างๆ ที่น่าชมเช่นกันค่ะ คือถ้าใครชอบดูละเอียดๆ บอกได้เลยว่าที่นี่มีสองชั่วโมงขั้นต่ำค่ะ
สถานที่นี้สวยนะคะ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเลย บันไดยังแอบสวยอ้ะ ชอบๆ
จากนั้นก็เดินขึ้นไปชั้นสามกันค่ะ ก็จะเจอช่องทางเดินแบบนี้นะคะ ดูลูกศรให้ดีนะคะ เพราะจะเป็นทางเข้าทางหนึ่งทางออกทางหนึ่งนะคะ
จากนั้นก็จะเป็นโซนของการเข้าชมโรงงานแล้วค่ะ แต่ก่อนจะไปถึงก็มีบอร์ดอธิบายขั้นตอนการทำรวมทั้งอุโมงค์ช็อกโกแลต (ที่มืดมาก ถ่ายรูปยากมาก ถ้าไม่ใช่ OMD ไม่น่าจะถ่ายคนด้วยได้ค่ะ เหอๆ)
ไปดูโซนแรกกันค่ะ ซึ่งจะเป็นบอร์ดอธิบายเรื่องของวัตถุดิบที่ใช้ทำของโรงงานที่นี่นะคะ
จากนั้นก็เป็นช่องที่เราสามารถจะดูสายพานการผลิตขนมและช็อกโกแลตของที่นี่ได้ค่ะ แล้วก็เดินออกไปตามทางเดินแต่คนละช่องทางตามที่บอกไว้ก่อนหน้านี้นะคะ
จากนั้นก็ขึ้นบันไดไปอีกชั้นค่ะ ก็จะเป็นโซนของการทำกิจกรรมนะคะ เป็นคอร์สทำคุ้กกี้ค่ะ อันนี้เสียค่าใช้จ่ายต่างหากเพิ่มเติมค่ะ การทำคุกกี้ชิโรอิโคอิบิโตะรูปหัวใจขนาด14ซม.โดยใช้ส่วนผสมและช็อกโกแลตแบบเดียวกันกับที่ใช้ในสินค้าตามปกติ แล้วยังใส่ข้อความของตัวเองได้ด้วย
ค่าใช้จ่ายสำหรับคุกกี้ 1 ชิ้นต่อคน ¥ 972 (รวมภาษี, ไม่รวมค่าเข้า)
จากนั้นก็จะเป็นส่วนของ Chocolate Lounge ค่ะ
ซึ่งตรงนี้เราสามารถที่จะไปนั่งดื่มหรือกินอะไรได้ โดยจะสั่งเป็นอลาคาร์ทก็ได้นะคะ (ให้พนักงานพาไปนั่งนะคะ รอที่เคาน์เตอร์ก่อนค่ะ) หรือจะซื้อแพ็คเก็จเค้าก็มีหลายแพ็คเก็จด้วยกันค่ะ เช่น ช็อกโกแลตฟองดูว์ หรือทีเซ็ตที่จะเป็นราคา 2160 เยนต่อเซ็ตนะคะ มีชาและขนมให้ค่ะ แล้วก็เคยอ่านเจอที่เว็บหนึ่งมีบุฟเฟต์เค้ก 1500 เยนต่อคนด้วยค่ะ แต่ในเว็บเค้าไม่มีแล้วง่ะ
ตู้เค้กจะอยู่ตรงทางเข้าเลยนะคะ จะส่องๆ ก่อนก็ได้ค่ะ ที่นั่งจะมีทั้งโซนด้านในและริมหน้าต่างที่เห็นหอนาฬิกาได้ค่ะ แต่ว่างยากมากๆ
วันนั้นเราไปเพื่อดื่มช็อกโกแลตกันค่ะ ราคาแก้วละ 540 เยนรวมภาษีนะคะ
ช็อกโกแลตร้อนที่นี่จะมีสามรสนะคะ คือ เรกูลาร์ ดาร์ค และไวท์ค่ะ จะเป็นแก้วพร้อมฝาปิด มีไซรัปมาให้สำหรับดาร์คด้วยค่ะ ส่วนไวท์นี่มีซอสสตรอเบอร์รี่มาให้ สำหรับใครที่ไม่กินหวานมากๆ แนะนำดาร์ค (ที่ก็หวานระดับหนึ่ง) นะคะ
กินเสร็จต้องเอาแฟ้มที่มีใบเสร็จไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์ทางออกนะคะ จากนั้นก็ไปชมพิพิธภัณฑ์กันต่อค่ะ ระหว่างทางเดินก็เลยเห็นว่ามีลิฟท์ด้วยค่ะ
พ้นจากลิฟท์ไปก็ลงบันไดกันไปค่าา ยังคงเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์อยู่นะคะ
จะมีทั้งแผ่นเสียง เครื่องเล่นแผ่นเสียง จนถึงก่อนจะลงบันไดไปร้านค้าชั้นล่าง ที่เสาจะมีรูปเหมือนเป็นทะเลสาบรูปหัวใจด้วยค่ะ จำไม่ได้แล้วว่าไกด์เล่าว่าเกี่ยวกับการตั้งชื่อช็อกโกแลตหรือโรงงานอะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ แหะๆ
แต่เรายังไม่เดินลงไปชั้นล่างค่ะ เดินไปที่อีกฟากก่อน ไปดูอีกโซน ซึ่งน่าจะเป็นที่สะสมพวกของเล่น โมเดลต่างๆ นะคะ
จากนั้นก็ลงไปที่ชั้นล่างกันค่าา
ลงบันไดไปปุ๊บ ทางซ้ายมือจะเป็นร้านค้านะคะ ซึ่งก็สามารถเลือกซื้อบิสกิตช็อกโกแลตสุดฮิตได้จากตรงนี้ค่ะ รวมทั้งเค้กม้วน (อิชั้นเรียกชื่อเค้าไม่ถูก) ของดังของเค้าด้วย แต่ถ้าจะซื้อกลับบ้าน แนะนำให้ไปซื้อที่สนามบินจะดีกว่าหอบหิ้วกลับจากที่นี่นะคะ (แต่ก็ต้องลุ้นว่ายังมีอยู่หรือเปล่าด้วยนะ 555)
ส่วนตรงเสาตรงกลางจะมีโถตัวคลีโอเน่ (Clione / Sea Angle) ที่คล้ายๆ นางฟ้าค่ะ ตัวจิ๋วมากๆ
ซึ่งก็ได้ข้อมูลจากเว็บนี้ บอกเล่าไว้ว่า
นางฟ้าทะเล หรือ Sea Angel มีชื่อวิทยาศาสตร์ Clione limacina จัดอยู่ในกลุ่มของหอยที่ไม่มีเปลือก (mollusc) ลำตัวมีความยาวสูงสุดเพียงแค่ 5 เซนติเมตรเท่านั้น แต่ความยาวโดยเฉลี่ยของมันคือ 1 เซนติเมตร
ลักษณะและความสวยงามอัน เป็นที่มาของชื่อ คือมีปีกบางใสเวลาว่ายน้ำ เมื่อขยับปีกเหมือนพญาอินทรีที่กางปีกอันทรงพลังร่อนบินอยู่กลางเวหา แต่น่ารักและอ่อนช้อยดุจนางฟ้า จึงมีชื่อเรียกว่า นางฟ้าทะเล
กับ ลีลาที่สวยเปรียบ เสมือนนางฟ้าแห่งท้องทะเล แต่ในความเป็นจริงมันเป็นสัตว์ที่มีสัญชาติของนักล่าที่มีความว่องไว เมื่อพบเหยื่อมันจะรีบไล่ต้อนให้จนมุม แล้วใช้หนวดพิเศษมีลักษณะ คล้ายตะขอที่แหลมคมยื่นจากปาก ฉีกเหยื่อออกจากเปลือกแล้วกลืนเหยื่อเข้าไปทั้งตัว
อาหารโปรดคือ ผีเสื้อทะเล (สัตว์น้ำที่เปรียบเสมือนเป็นญาติสนิทของมันจัดอยู่ในกลุ่มหอยที่ไม่มีเปลือก) และมันจะกินอาหารเพียงชนิดเดียวเท่านั้น
ความสามารถพิเศษอีกอย่างคือ สัตว์น้ำทะเลลึกชนิดนี้สามารถเก็บกรดไขมันไว้ได้ในปริมาณมาก จึงสามารถอาศัยอยู่ใน ทะเลโดยไม่ต้องกินอาหารได้นานกว่า 1 ปี
นางฟ้าทะเล จะพบในทะเลเปิดหรือบริเวณแนวชายฝั่งในเขตหนาวเย็นและเขตอบอุ่นที่มีอุณหภูมิ เฉลี่ย 2 องศาเซลเซียสตลอดเวลา อยู่ในเขตน้ำเย็นทั่วโลก เช่น กรีนแลนด์, แคนาดา, เดนมาร์กอเมริกาเหนือ และ ญี่ปุ่น ตลอดจนขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้
ดังนั้น จึงเป็นเรื่องค่อนข้างยากที่จะนำนางฟ้าทะเลมาเลี้ยง ที่บ้านให้เป็นปลาสวยงามอย่างเช่นปลาทะเลตัวอื่นๆ
ภาพลักษณ์นางฟ้าผู้งดงามจะเปลี่ยนเป็นซาตานทันทีเมื่อมันกำลังกินเหยื่อ หัวของมันจะแยกออกแล้วส่งหนวดยาวๆออกมารัดเหยื่อไว้แน่นจนแน่ใจว่าเหยื่อหนีไม่รอด
ส่วนทางขวามือจะเป็นส่วนของ Candy Labo ค่ะ จะขายลูกกวาดสูตรดั้งเดิม ถุงเล็กอยู่ที่ 216 เยนค่ะ
สรุปสำหรับที่นี่นะคะ
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไปฮอกไกโดก็ควรไปเที่ยวชมหละค่ะ มีอะไรหลายอย่างให้ชมเยอะเลย ถ้าเป็นคนที่ชอบแนวพิพิธภัณฑ์แล้วก็อย่างที่บอกนะคะว่าน่าจะให้เวลากับที่นี่อย่างน้อยๆ สัก 2 ชั่วโมงค่ะ แล้วก็เผื่อเวลาสำหรับการนั่งดื่มช็อกโกแลต ขนมและช็อปปิ้งสักหน่อยนะคะ คือ สำหรับเราเองถ้าไปเที่ยวเองคงใช้เวลาที่นี่อย่างน้อยก็สามชั่วโมงหละค่ะ แต่สำหรับการทำทัวร์ที่ส่วนใหญ่จะเน้นเที่ยวเยอะๆ ครบๆ ก็คงจะให้เวลาขนาดนั้นไม่ได้ง่ะนะ (ดีว่าเราไปเซอร์เวย์กับอีกครั้งนี่พากรุ๊ปเหมาไปที่ทำโปรแกรมสบายๆ ก็จะให้ลูกค้าได้ดื่มและกินขนมได้ค่ะ)
ก็หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับใครที่จะไปเที่ยวฮอกไกโดกันนะคะ
ปฏิทินธรรม
วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2560 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่) 1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37 เวลา 06.30-10.30 น. ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่ //www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447
2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/
วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560
1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)
วันอาทิตย์ที่ 12 และ 26 กุมภาพันธ์ 2560 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน) 1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14 กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts
วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560
1. 14 กุมภาพันธ์ - ฟังพระธรรมเทศนา และ เจริญสมาธิภาวนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดย พระครูมงคลญาณ (หลวงปู่คำพอง ปญฺญาวุโธ)วัดป่านานาชาติ เมืองอัลดี้ รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ณ ห้องทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม (9501) ชั้น 5 อาคาร 9 (บุญสม สุวชิรัตน์) คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(บางเขน)
วันศุกร์และเสาร์ที่ 17 - 18 กุมภาพันธ์ 2560
1. งานมุฑิตาสักการะอายุวัฒนมงคล 103 ปี หลวงปู่บุญฤทธิ์ บัณฑิโต
ณ สวนทิพย์ ปากเกร็ด นนทบุรี
วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 25 และ 26 กุมภาพันธ์ 2560 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)
1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด
ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
https://www.facebook.com/bogboon/photos/a.479376905439284.105742.335629013147408/701496553227317/?type=1&theater
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ1,469,696+ 4206930=5676626 /12639/1406 ถ้าท่านใดต้องการโหวต หมวดนี้เหมาะสมที่สุดนะคะ Travel Blog
Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2560
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2560 19:38:16 น.
36 comments
Counter : 9981 Pageviews.
สวัสดียามเช้าครับคุณเต้ย
ชอบที่นี่ครับ
ชอบส่วนพิพิธภัณฑ์ของเก่า
โดยเฉพาะของเล่น
เดินดูกับหมิงหมิงอยู่พักใหญ่เลย
และผมยังวิ่งไปด้านนอก
ไปถ่ายภาพวิวภูเขาตรงสนามบอล ซึ่งสวยมาก
โหวต Travel blog ครับ
ปล. ใช่ครับ นิมมานฯมีร้านชิคๆเยอะไปหมด
แต่ผมไม่ค่อยได้ไปเพราะหาที่จอดรถยาก
และอยู่ไกลบ้านมากครับ 5555