" เรื่องราวต่างๆเป็นดั่งทองคำในเทพนิยาย เมื่อคุณแจกจ่ายไปมากขึ้น คุณก็ได้รับกลับมามากขึ้น " พอลลี แมคไกวร์
Group Blog
 
 
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
12 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
0123. 28 เมษายน 2544 คำกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในรายการ “นายกฯ ทักษิณพบประชาชน” ท

คำกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ในรายการ “นายกฯ ทักษิณพบประชาชน”

ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย คลื่น F.M. 92.5

เวลา 08.00 วันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2544

---------------------------------------------------------------

สวัสดีครับ พี่น้องชาวไทยที่รักทั้งหลาย วันนี้เป็นวันแรกที่ผมได้มาออกอากาศเพื่อจะได้พูดกับ พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ วัตถุประสงค์เพื่อต้องการจะเล่าให้พี่น้องฟังว่า รัฐบาลที่พี่น้องได้มอบหมายให้มาทำงาน แต่ละสัปดาห์ไปทำอะไรกันบ้าง พี่น้องจะได้เข้าใจว่าว่ารัฐบาลกำลังทำงานเรื่องอะไร มีอะไรเป็นปัญหา ที่เราจะได้ร่วมมือร่วมใจกันในการที่จะรวมพลังในการเดินไปด้วยกัน เพราะผมถือว่าปัญหา ของชาติวันนี้หนักหนาอยู่พอสมควร ถ้าหากพี่น้องชาวไทยมีความเข้าใจสภาพปัญหา และเราร่วมกันในการแก้ปัญหาร่วมกันเดิน ผมมั่นใจว่าไม่มีอะไรเหลือบ่ากว่าแรงฝีมือคนไทยทั้งประเทศแน่นอน

ผมเลือกวันนี้เป็นวันแรกในการที่มาพบกับพี่น้องประชาชน เพราะถือว่าวันนี้เป็นวันสำคัญพิเศษ ถ้าเรานับย้อนหลังไปจากวันนี้เมื่อ 51 ปีที่แล้ววันที่ 28 เมษายน 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเข้า พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสตามราชประเพณีกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นที่ปลาบปลื้มปิติโสมนัสยิ่งแก่พสกนิกรโดยทั่วหน้า ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่ถึงขวบดี ผมถือว่าวันนี้เป็นวันที่ชาวไทยทั้งหลายถือเป็นวันมหามงคลยิ่ง เนื่องในมหามงคลสมัยคล้ายวันราชาภิเษกสมรสครบ 51 ปี ผมจึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยทุกคนตั้งจิตพร้อมน้อมอธิษฐาน น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขอเชิญคุณพระศรีรัตนตรัยพระสยาม เทวาธิราช และอานุภาพแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดอภิบาลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญมีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใด ขอจงทรงสมดังพระราชหฤทัยปรารถนา สถิตเป็นร่มโพธิ์ทองของเหล่าพสกนิกรไทยพร้อมรัตน์ติกาลเทอญ

พี่น้องที่เคารพครับ รัฐบาลนี้ได้เข้ามารับงานอย่างเป็นทางการ มีอำนาจสั่งการหลังจากที่ได ้แถลงนโยบาย ในสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถือว่าวันนี้เกือบสองเดือนยังไม่ถึงสองเดือนดี แต่รัฐบาลก็ได้มาดูปัญหาของประเทศทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมได้เชิญข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มาพูดคุยกัน ทุกกระทรวง ทบวง กรมได้มีการศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นกับประเทศวันนี้ ต้องขอเรียนพี่น้องตามตรงว่า ยังมีปัญหาที่ต้องแก้เยอะ และวันนี้ที่ผมได้เคยกราบเรียนไปว่าประเทศเราถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นมิติทางด้านการบริหาร มิติในเรื่องของความคิดในการที่จะมองการพัฒนาประเทศใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการค้าการลงทุน เป็นสิ่งที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงมากหลายจุด ผมกำลังดูความรอบคอบเพราะการเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้งถ้าไม่รอบคอบจะมีผลเสียหายต่อประเทศ เพราะฉะนั้นจะต้องใช้เวลากับสิ่งเหล่านี้ในเบื้องต้นมากหน่อย ผมได้เร่งทำงานที่เป็นภารกิจ หลักอันแรกคือการแก้ไขปัญหาความยากจน สิ่งที่ได้ทำกันอยู่คือเรื่องการพักหนี้เกษตรกรที่ทำไปแล้วเมื่อวันที่ 1 เมษายน เกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชนประมาณ 2 ล้าน 1 แสน 2 หมื่นครอบครัว ถือเป็นจำนวนมากพอสมควร และเรากำลังดูหลาย ๆ ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับหนี้สินเกษตรกร ส่วนเรื่องกองทุนหมู่บ้านมีการออกระเบียบ กรรมการหมู่บ้านในระดับรัฐบาลแล้ว จะมีการจัดสัมมนาถึงวิธีปฏิบัติกันในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ หลังจากนั้นจะได้ให้มีการจัดตั้งกรรมการของหมู่บ้านทุกหมู่บ้าน เมื่อกรรมการพร้อมเข้าใจว่าคงประมาณ เดือนกรกฎาคมจะมีการกระจายเงินสู่ทุกหมู่บ้าน เพื่อให้เป็นเงินสำหรับการสร้างอาชีพให้กับพี่น้องที่อยู่ในชนบท เพราะวันนี้สิ่งที่สำคัญคือกำลังซื้อของประชาชนขาด อาชีพการจ้างงานต่าง ๆ มีปัญหาหมด ฉะนั้น การกระจายเงินสู่ประชาชนนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่ว่าเงินเหล่านี้เป็นเงินที่หมู่บ้านต่าง ๆ จะจัดการกันเอง ไปบริหารกันเอง เป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เป็นการกระจายอำนาจด้วยการจัดการเรื่องการเงินลงไปสู่ชนบท

เรื่องที่เป็นปัญหาอีกเรื่องคือราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ซึ่งเราขอแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ เพราะบางฤดูกาลมีผลผลิตมากกว่าความต้องการ ซึ่งการแก้ไขอย่างเป็นระบบจะต้องดูกันหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตลาดในต่างประเทศ การแปรรูป ซึ่งขณะนี้กำลังวางระบบอย่างเป็นระบบ เราจะเจอปัญหาเฉพาะหน้าบ้างหลายเรื่อง เช่น เรื่องมันสำปะหลัง ข้าว การตรวจสต็อกข้าวก็ได้ผลดีทำให้ขณะนี้การประกันการแทรกแซงราคาถึงมือเกษตรกรมากขึ้น เราเป็นห่วงมากคือรัฐบาลมีเงินน้อย ยิ่งเมื่อมีเงินน้อยแล้วไม่ถึงมือประชาชน ยิ่งถือว่าเป็นอันตรายมาก เราพยายามปรับกลไกเหล่านี้เพื่อให้ถึงมือประชาชน เข้าใจว่าช่วงนี้ราคาข้าวที่ประชาชนขายได้ถึงเกวียนละ 4,200 บาทแล้ว เพราะรัฐบาลรับจำนำราคาข้าวไว้ที่ 4,300 บาทต่อเกวียน แต่การรับจำนำนั้นเกษตรกรนั่งคิดว่าถ้า 4,000 กว่าขายได้ราคาก็ขายขาดไปเลย ซึ่งปรากฏว่าราคาที่รัฐบาลตั้งไว้เพื่อกระตุ้นให้ราคาข้าวดีขึ้น แต่เกษตรกรก็มาใช้บริการในการจำนำไม่มากเท่าที่ควร เพราะเนื่องจากสามารถขายได้ราคา เราก็พยายามจะทำในเรื่องนี้อีกหลายจุด เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังตอนที่ผมไปต่างประเทศ

ปัญหาตกค้างที่รัฐบาลได้ทำคือ การแก้ปัญหาของสมัชชาคนจน ปัญหาของเกษตรกรภาคต่าง ๆ ซึ่งได้มารวมตัวเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้เขาอยู่ที่บริเวณรอบทำเนียบรัฐบาลเป็นเวลานานมาก ซึ่งรัฐบาลได้ไปพบปะพูดคุยทำความเข้าใจปัญหาต่าง ๆ และรับปัญหาของเขามาแก้ไข ปัญหาอะไรที่แก้ได้ก่อนก็แก้ให้เขาเลย อันไหนที่ใช้เวลาแก้เขาก็ยอมรับกัน และตัวแทนโดยเฉพาะผู้นำ ทางรัฐบาลก็เชิญชวนให้มาร่วมกันคิดในการปรับวิธีการบริหารในการแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งจะได้มีผู้ที่เข้าใจปัญหามาช่วยกันคิดมาช่วยกันปรับนโยบายทุกอย่าง เพื่อให้การบริหาร การแก้ปัญหาคนจนเป็นไปอย่างเรียบร้อย ส่วนปัญหาที่รัฐบาลกำลังทำอยู่อีกเรื่องคือ เรื่องระบบเศรษฐกิจเราได้ทำทั้งการแก้ปัญหาเรื่องการเงินและการสร้างรายได้ให้ประชาชน ท่านคงจำได้ว่าเราได้ตั้งบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย หรือ ทีเอเอ็มซี ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาหนี้สิน เงินส่วนใหญ่ที่ต้องใช้คือการแก้ปัญหาหนี้เสียในระบบธนาคารที่รัฐได้ไปยึดมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วหลายธนาคาร เราต้องใช้เงินตัวนี้ 1.1 ล้านล้านโดยประมาณ ส่วนหนี้เสียที่อยู่ในระบบธนาคารของเอกชนอีกจำนวนหนึ่งซึ่งน้อยกว่ามาก เราต้องการให้ระบบหนี้เสียออกจากระบบธนาคารเพื่อไม่ให้เป็นภาระ ธนาคารจะได้กลับมาทำงานได้อีกครั้งหนึ่ง ไม่เช่นนั้นท่านผู้ฝากเงินกลายเป็นผู้ที่ต้องรับดอกเบี้ยต่ำเพื่อไปช่วยต้นทุนของธนาคารในการไปอุ้มผู้ที่มีปัญหาหนี้สินคือพวกหนี้เสียทั้งหลาย ทำให้ระบบการเงินไม่ปกติ ระบบดอกเบี้ยเงินบาทต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินสหรัฐฯ ซึ่งผิดปกติ และมีสภาพคล่องเหลืออยู่ในระบบมากถึง 6 แสนล้านบาท รัฐบาลกำลังหาทางดูดซับสภาพคล่องตัวนี้ออกมา เพื่อเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมไปเชียงใหม่ไปจัดสัมมนาระดมสมองเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งได้ตัดสินใจในปัญหา

สำคัญหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการที่ทำให้เชียงใหม่และภูเก็ตเป็นเมืองปลอดภาษี เรามองว่าถ้าใครจะไปฮ่องกงไปแค่เชียงใหม่ก็พอ ไปสิงคโปร์ไปแค่ภูเก็ตก็พอ แล้วขณะเดียวกันคนต่างประเทศมาถึงแทนที่เขาจะไปช็อปปิ้งที่สิงคโปร์ เขาไปช็อปปิ้งที่ภูเก็ตเขามีอะไรดี ๆ เยอะ หรือแทนที่เขาจะซื้อของต่างประเทศอย่างเดียว เขาก็สามารถซื้อของไทยได้ ทำให้การท่องเที่ยวของเราจะดีขึ้น เรามีการทำในหลายเรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เพื่อจะมีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของเรา เพราะท่องเที่ยวเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างรายได้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศให้กับประเทศไทยมาโดยตลอด และวันนี้เราคิดว่าต่างประเทศหลายประเทศพยายามที่จะดึงการท่องเที่ยวไปสู่ประเทศของเขา ซึ่งเราเหนือกว่าเขาอยู่แล้วเราต้องรีบทำให้ดีกว่าก่อนที่เราจะสู้เขาไม่ได้

เรื่องของภาคสังคมที่สำคัญคือเรื่องยาเสพติด ผมไปจัดระดมสมองที่เชียงรายคงจำกันได้ หลังจากนั้นมีการปรับปรุงกฎหมายหลายฉบับรวมทั้งการเปลี่ยนปรัชญาให้ผู้เสพย์เป็นผู้ป่วย เพื่อที่จะให้ลูกหลานเราที่ติด ยาเสพติดวันนี้ แทนที่จะนำเขาไปขังคุกนำเขามาเข้าบำบัดรักษาให้เขาหลายดีกว่า เพราะยาเสพติดอันตรายมาก ทำลายสมองเด็ก ถ้าหากเราไม่เอาจริงจังกับยาเสพติดลูกหลานเราโต ขึ้นมาวันข้างหน้าจะมีปัญหาทางสมองไม่ใช่ลักษณะของการติดยาธรรมดา สมองเสียหายมาก เมื่อสมองเสียหายแล้วอีกหน่อยโลกจะต้องแข่งขันกันโดยการใช้ปัญญาใช้ความคิด แล้วลูกหลานเราซึ่งจะเติบโตมาแทนพวกเราในอนาคตถูกทำลายสมองตั้งแต่วันนี้ นั่นคืออันตรายของประเทศอย่างมหาศาล ซึ่งผมถือว่าเรื่องนี้ปล่อยไว้อีกไม่ได้แล้ว จึงได้ใช้ทุกรูปแบบทั้งสกัดการนำเข้า สกัดการปราบปรามที่เด็ดขาด ทั้งการลงโทษที่เด็ดขาดและรวดเร็ว การบำบัดเด็กที่ป่วย ทั้งป้องกันไม่ให้เด็กที่ติดยาวันนี้ต้องกลับไปติดยา เรื่องนี้ผมเลยทำกันอย่างเต็มที่ ประมาณสัก 10 วันที่แล้วเราจับยาเสพติดครั้งใหญ่ได้สองครั้งติดต่อกันภายใน 10 วัน ครั้งแรกได้มา 7 ล้านกว่าเม็ด อีกครั้งได้ 6 ล้านกว่าเม็ด พร้อมเฮโรอีนอีก 4 กิโลครึ่ง ท่านลองดูสิว่าถ้า 2 ก้อนนี้มาถึงกรุงเทพฯ จะเป็นเงินประมาณ 1,500 ล้านบาทอย่างน้อย เพราะวันนี้เศรษฐกิจที่เกิดจากยาเสพติดเป็นเศรษฐกิจใต้ดินที่น่ากลัวมากกับประเทศ วันนี้ผมจึงต้องใช้ความเด็ดขาดเริ่มต้นให้มีการประหารชีวิตจริงตามคำพิพากษา เมื่อก่อนนี้เราพิพากษาเสร็จแล้วก็ไม่ได้ประหาร ฉะนั้น ผู้ค้ายาเสพติดเขามีความรู้สึกว่าโทษที่ได้รับเบาไป แต่รายได้มีมากเหลือเกิน ผมจึงต้องใช้ความเด็ดขาดตรงนี้เพื่อให้ทุกคนก่อนที่จะทำเรื่องเลว ๆ อย่างนี้จะได้คิดว่าชีวิตตัวเองก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน และผมจะตั้งศูนย์เป็นลักษณะตู้ไปรษณีย์ให้แจ้งเบาะแสใครร่ำรวยผิดปกติ ข้างบ้านมีท่าทางน่าจะร่ำรวยผิดปกติ ผมจะให้ท่านส่งเรื่องมาแล้วผมจะให้เจ้าหน้าที่ที่ผมไว้ใจไปเฝ้าและจับ ซึ่งผมได้ทำเรื่องนี้มาแล้ว 2 ครั้งภายใน 2 เดือน วันที่ 30 เมษายนนี้ ผมจะไปร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อทำลายยาเสพติดที่จับมาได้ ที่กองอยู่ที่สำนักงานอาหารและยามากมายและไม่ค่อยได้ทำลาย อันไหนที่เสร็จกระบวนการของศาลแล้วเราจะทำลาย มีกรรมการตรวจดูว่าเป็นของจริงนะ เพราะพี่น้องเคลือบแคลงว่าจับมาได้เยอะแยะแล้วเอาไปไหนหมด ก็จะทำให้ดูว่าที่จับได้นั้นยังอยู่และจะเริ่มทำลาย เมื่อทำลายก็จะให้มาดูว่านี่เป็นของกลางจริง เพื่อจะได้ให้รู้ว่าใครจะเอาของกลางไปไหนไม่ได้ เราจะมีระบบจัดเก็บระบบทำลายอย่างเป็นระบบ พี่น้องจะได้ไม่ต้องห่วงในเรื่องนี้ ส่วนเรื่องสถานบริการทั้งหลายนั้นผู้ประกอบการอาจจะต้องยอมเสียสละ เพราะลูกหลานของเราวันนี้ได้ไปเที่ยวสถานบริการก่อนวัยอันควรมากมาย เราคงต้องว่าไปตามกฎหมายคือกฎหมายไม่ใช่ไม่มี กฎหมายมีอยู่แล้วแต่การบังคับใช้ค่อนข้างจะหย่อนยาน ผมเลยต้องทำทุกอย่างให้เป็นกฎหมาย ในเรื่องกฎหมายผมให้คุณมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานมีคณะกรรมการที่มีความรู้มากมายมาช่วยดูกฎหมายของประเทศเราทั้งหมด อันไหนที่ล้าสมัยก็ให้เลิก อันไหนที่มีมานานแต่ยังต้องใช้อยู่และต้องปรับปรุงให้ทันสมัยก็ปรับปรุงเสีย เรื่องไหนที่ยังไม่มีกฎหมายก็ต้องบัญญัติขึ้นมาใหม่ อันนี้ได้เร่งทำกัน เข้าใจว่าอีกไม่นานคงจะมีการเสนอยกเลิกกฎหมายประมาณ 400 ฉบับอย่างน้อย เพราะเป็นกฎหมายเก่าที่ล้าสมัยและเป็นช่องทางให้ข้าราชการที่ไม่ดีไปเรียกร้องเงินทองจากผู้ประกอบการบ้าง จากประชาชนบ้าง ซึ่งเราต้องแก้กฎหมายที่ไม่ดีออกไป

ส่วนด้านสาธารณสุขนั้นรัฐบาลได้ปรับโครงสร้างวิธีการรักษาดูแลสุขภาพของประชาชน จากเดิมเราเป็นการบริการโดยจัดงบประมาณให้แต่ละโรงพยาบาลตามที่ขอมา แต่วันนี้เราเปลี่ยนใหม่ เราให้เขารับบริการตามจำนวนประชากรในเขตที่เขาต้องดูแลและคิดเป็นต่อหัวให้เหมาไปเลย เพราะฉะนั้นในส่วนประชาชนใครที่ไปโรงพยาบาลจะเสียเงิน 30 บาทต่อครั้ง ซึ่งเราได้ทดลองมาแล้ว 6 จังหวัด ที่ปทุมธานีวันแรกมีสุภาพสตรีคนหนึ่งไปกู้เงินมาเกือบ 2 หมื่นบาท เพื่อเตรียมไว้คลอดลูก แต่ปรากฏว่าคลอดวันที่ 1 เมษายน ซึ่งที่โรงพยาบาลปทุมธานีใช้นโยบาย 30 บาทพอดี ทำให้เสียเงินเพียง 30 บาท เงินที่กู้มาเลยไม่ได้ใช้ อันนั้นเป็นสิ่งที่เราต้องการให้พี่น้องประชาชนได้รับการดูแลสุขภาพอย่างถ้วนหน้า เพราะเท่าที่ผ่านมายังมีคนยากจนประมาณ 18 ล้านคน ที่เข้าถึงบริการสาธารณสุขได้ลำบาก สิ่งนี้จะเป็นจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่จากการที่เราทำเรื่องสาธารณสุขมาทั้งหมด

สำหรับวิธีการทำงานของข้าราชการ ผมค่อนข้างจะเปลี่ยนเยอะเหมือนกัน ขณะนี้กำลังจะมีการปรับเปลี่ยนกระทรวง ทบวง กรมซึ่งกระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ นั้น เราใช้คำพูดว่า มีการเปลี่ยนแปลงแบบปะชุนเหมือนปะชุนกางเกง ซึ่งกางเกงก็ทรงล้าสมัยแล้วแต่ยังปะชุนอยู่ ความจริงแล้วจะต้องตัดใหม่เปลี่ยนทรงใหม่ เรื่องนี้จึงกำลังดูกันอย่างละเอียดรอบคอบใช้วิชาการหลายส่วน ด้วยการเอาการบริการของประชาชนและการเปลี่ยนแปลงของโลกเป็นตัวตั้งในการที่จะจัดองค์กรการบริหารประเทศด้วยระบบกระทรวง ทบวง กรมใหม่ เรากำลังทำกันอยู่ ส่วนวิธีคิดวันนี้เราแก้ปัญหาชั่วคราว โดยการใช้ระบบการประชุมเรื่องสำคัญ ๆ ที่เกี่ยวพันกับภาครัฐภาคเอกชนเกี่ยวพันกับหลายกระทรวง ทบวง กรม ที่ผมเรียกว่า Work Shop หรือการระดมสมองก็เป็นการบริหารแบบลดกำแพงกั้นทางความคิด ทางความร่วมมือกันระหว่างกรมต่อกรม กระทรวงต่อกระทรวง รัฐกับเอกชน เอกชนกับรัฐ เราทลายกำแพงตรงนี้เพื่อให้เกิดความคิดร่วมกันการแก้ปัญหาร่วมกัน ผมทำแทบทุกสัปดาห์ สัปดาห์นี้ก็ทำเรื่องการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ หมายถึงเรื่องของการปรับโครงสร้างทั้งเกษตร อุตสาหกรรม และวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายนนี้จะมีการระดมสมองในเรื่องของแนวทางในการปรับปรุงการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมของบ้านเราใหม่ เพราะเรามีการปฏิรูปการศึกษาก็จริงอยู่แต่เป็นปฏิรูปทางกฎหมาย ในทางปฏิบัติทำแบบไหนอย่างไรไม่มีความชัดเจน เราจะระดมสมองวันพรุ่งนี้ เพราะผมเป็นห่วงเด็กไทยที่เติบโตมาแข่งขันกันในโลกที่ใช้ปัญญาใช้ความรู้ วันนี้ระบบการเรียนการสอน เด็กไทยเรียนหนัก ต้องเรียนพิเศษมาก ผลสุดท้ายจบมาแล้วยังมีปัญหาเรื่องระบบคิดเพราะวิธ ีการเรียนการสอนของเราผิด เราต้องเปลี่ยนวิธีการเรียนการสอนใหม่ เด็กเราวันนี้เครียดเข้าหายาเสพติด เพราะระบบการเรียนการสอนผิดจะต้องแก้ไขกันมากมาย

ด้านต่างประเทศผมเพิ่งเริ่มออกไปพบปะกับเพื่อนบ้านที่อยู่ต่างประเทศ เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมาได้ไปมาเลเซียได้มีโอกาสพบกับนายกรัฐมนตรีมหาเธร์และคณะรัฐมนตรีของมาเลเซียหลายคน ได้พูดคุยกันถึงความร่วมมือของไทยกับมาเลเซียไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยาพารา ปาล์มน้ำมัน กาค้าการลงทุนระหว่างกันว่า จะเพิ่มปริมาณ อย่างไร และไปที่เวียดนามได้ตกลงกันเรื่องข้าว มีการพูดคุยกันใกล้ชิด ผมพูดกับรัฐบาลเวียดนามว่าเกษตรกรไทยเป็นคนต้องลงทุน เสร็จแล้วขายของกำหนดราคาไม่ได้ พวกเราสองคนเป็นผู้นำเป็นนายกรัฐมนตรีไปขายของแทนเขาก็ไปขายขาดทุนอีก แล้วเมื่อไหร่เขาจะลืมตาอ้าปาก พอขาดทุนรัฐบาลแต่ละประเทศก็ต้องใช้เงินรัฐบาลเข้าไปอุดหนุน ตรงกันข้ามเท่ากับเป็นการทำให้โลกกินข้าวราคาถูก แต่รัฐบาลขาดทุน พวกเราขาดทุน เกษตรกรขาดทุน เพราะฉะนั้น เราต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ผมเลยบอกว่าดูตัวอย่างของกลุ่มผู้ค้าน้ำมันโอเปค เขาเจอกันทีไรน้ำมันราคาขึ้นทุกที ฉะนั้นเราต้องคุยกันเพื่อให้ราคาข้าวดีกว่านี้ พี่น้องของเราจะได้ไม่ลำบาก ไม่อย่างนั้นพวกเราก็ต้องทำงานเลี้ยงลูกไปตลอดอย่างนี้ไม่ไหว ก็เห็นพ้องต้องกันและผมก็ให้รัฐมนตรีพาณิชย์สองประเทศนั่งคุยกัน และวันที่ 15 พฤษภาคมนี้เขาจะคุยกันอีกรอบน่าจะจบเพื่อจะให้การแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำเป็นไปอย่างมีระบบ เรื่องต่างประเทศนั้นจะต้องเป็นเรื่องที่ควบคู่กับการแก้ปัญหาในประเทศ เพราะว่าความร่วมมือระหว่างกันนับวันจะจำเป็นและมีมากขึ้น วันที่ 8-10 พฤษภาคมนี้ ผมจะไปฮ่องกงผมจะพบกับประธานาธิบดีจีน เพราะวันที่ 19-22 พฤษภาคมนี้นายกรัฐมนตรีจีนก็จะมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ คงจะได้พูดคุยกันซึ่งผมได้พุดคุยเป็นการส่วนตัวมาบ้างแล้ว ก็จะพูดคุยกันเรื่องความร่วมมือ เข้าใจว่าจีนคงจะซื้อสินค้าเกษตรจากเราหลายตัว เดือนมิถุนายนนี้ผมจะไปอเมริกาเพื่อพูดคุยกับประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช จะเรียนท่านว่าเรื่องต่างประเทศเป็นเรื่องสำคัญพอ ๆ กับเรื่องในประเทศ ซึ่งผมจะพยายามทำหน้าที่ตรงนี้แทนพี่น้องประชาชน เพื่อให้เราได้ยืนอยู่บนเวทีโลกที่ไม่เสียเปรียบ และสร้างพันธมิตรทางด้านเศรษฐกิจที่เป็นเรื่องสำคัญ เพราะพันธมิตรในยุคใหม่ไม่เหมือนพันธมิตรในยุคเก่า พันธมิตรยุคใหม่นั้นเป็นพันธมิตรที่ต้องร่วมมือกันทางเศรษฐกิจเป็นหลัก ผมเชื่อว่าผมจะทำหน้าที่ตรงนี้อย่างเต็มที่ ทีนี้เรื่องของการบริหารบ้านเมืองนั้น คงต้องเปลี่ยนแปลงจากวิธีการ เดิม ๆ ที่เราบริหารราชการบ้างบริหารการเมืองบ้าง เราจะเปลี่ยนเป็นระบบการบริหารบ้านเมืองโดยคำนึงถึงภาคประชาชน ภาครัฐไปด้วยพร้อม ๆ กันไม่ได้ทำหน้าที่บริหารแค่รัฐบาลซีกเดียว ต้องมองปัญหาทั้งระบบไม่เช่นนั้น จะมีการแยกกันระหว่างรัฐกับประชาชน ซึ่งจะทำให้ไม่เหมาะสม

พี่น้องที่เคารพรักครับ วันนี้ปัญหาของชาติ ผมอยากให้พี่น้องได้เข้าใจตรงกันเหมือนกันแล้วเรา จะใช้ยุทธศาสตร์ที่เรียกว่าพลังแผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงพระนามว่า ภูมิพล ซึ่งแปลว่าพลังแผ่นดิน เราใช้พลังแผ่นดินตรงนี้มาช่วยกันดีกว่า ช่วยกันทำให้บ้านเมืองหลุดพ้น จากภาวะวิกฤตแล้วมาวางระบบใหม่ เพื่อให้ลูกหลานของเราได้เติบโตมาในระบบที่ทันโลก ทันเหตุการณ์เพราะว่าเราอยู่คนเดียวไม่ได้แล้วในโลกนี้ เราเป็นประเทศเปิดโลกก็เปิด อีกหน่อยเป็นโลกที่ไร้พรหมแดนมากขึ้นทุกวัน ๆ ฉะนั้นเราต้องเตรียมตัวประเทศเรา เตรียมระบบเราให้ลูกหลานของเรานั้นเติบโตมาในสภาพที่ดีระบบที่ดี ผมไม่อยากให้รุ่นผมต้องอาศัยบุญเก่าของบรรพบุรุษที่ทำไว้และอยู่ไป วัน ๆ หนึ่ง ซึ่งไม่น่าจะเกิดประโยชน์อะไรต่อประเทศ เสียโอกาสต่อประเทศมาก ยิ่งวันนี้พี่น้องประชาชน เลือกผมเข้ามาด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ผมถือว่าเป็นทั้งกำลังใจ และเป็นทั้งการมอบหมายภารกิจ อันยิ่งใหญ่ที่ผมจะต้องใช้ทั้งสติปัญญา สมาธิในการแก้ปัญหา ถึงแม้จะมีแรงเสียดทานใด ๆ เกิดขึ้น พี่น้องครับผมมั่นคงครับ ผมดำรงความมุ่งหมายในการแก้ไขปัญหาของชาติ ผมจะไม่ค่อยสนใจต่อเรื่องเหล่านี้ ผมจะทำหน้าที่ของผมไป เรื่องส่วนตัวที่เกิดขึ้นกับผม ๆ ถือว่าผมมีความมั่นใจในองค์กรตรวจสอบ ของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้น ท่านไม่ต้องวิตกในส่วนนี้ ผมจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานด้วยปัญญา และสมาธิทุ่มเทแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สนใจแรงเสียดทาน ใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ผมอยากจะขอร้องให้พี่น้องทุกคนคือวันนี้ภายใต้ระบอบรัฐธรรมนูญเราให้สิทธิประชาชนมาก แต่ทุกคนต้องมีหน้าที่ด้วยเรามีสิทธิ แต่สิ่งที่ตามมาคือมีหน้าที่ หน้าที่ของความเป็นพลเมือง เราคงต้องช่วยกันว่าเราจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อชาติ ถ้าเราคิดอะไรเราคำนึงถึงชาติมาก่อนเราจะได้ทุกคน แต่ถ้าเราคิดว่าเอาเรามาก่อน บางทีเราได้วันนี้แต่เสียวันหน้าเพราะว่าชาติมีปัญหา ฉะนั้นถ้าเราคิดว่าชาติมาก่อน ผมมั่นใจว่าเราทั้งหมดรวมพลังกัน 62 ล้านคน เราจะนำชาติไปสู่ความมั่งคั่งอีกครั้งหนึ่ง พี่น้องคนไทยจะได้ฟื้นจากความลำบากวันนี้ รัฐบาลได้เริ่มต้นการแก้ปัญหาโดยแก้ปัญหาความยากจนก่อน เพราะเนื่องจากเป็นปัญหาที่สำคัญในการจะสร้างรากฐานสำคัญของประเทศ ถ้าตราบใดคนที่เป็นเกษตรกรของประเทศยังยากจนอยู่ ประเทศจะมั่นคงได้ยาก เราต้องทำพร้อม ๆ กันครับ ปัญหาความยากจน ปัญหาเกษตรกร ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาภาคธุรกิจภาคการเงิน และปัญหาการบริหารการจัดการ ทิศทางในการดำเนินการของประเทศของการค้ากับต่างประเทศต้องปรับใหม่หมด ก็กราบเรียนพี่น้องประชาชนครับ วันนี้ผมอาจจะพูดยาวนิดหนึ่งเพราะเป็นครั้งแรก แต่ต่อไปผมคิดว่าจะขอพูดกับพี่น้องประชาชนประมาณ 10 ถึง 15 นาที โดยเล่าให้ฟังว่า แต่ละสัปดาห์รัฐบาลได้ทำอะไร มีเหตุการณ์อะไรที่พี่น้องประชาชนควรจะทราบ เพื่อเราจะได้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมีพลัง วันนี้ผมขอใช้เวลามากไปนิดหนึ่ง ต่อไปผมคงจะไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาที่สถานีทุกวันเสาร์เหมือนวันนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยต้องเดินทางมาด้วยตัวเอง ต่อไปผมจะใช้ระบบโทรศัพท์ ผมจะอยู่ต่างจังหวัดอยู่ต่างประเทศใช้โทรศัพท์เข้ามา เพราะอยากจะเล่าให้พี่น้องประชาชนทราบทุกสัปดาห์ว่า รัฐบาลของพี่น้องที่ได้เลือกเข้ามาด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น กำลังทำอะไรให้พี่น้องประชาชนอยู่ เพื่อจะได้เข้าใจและเราจะได้ใช้พลังแห่งแผ่นดินนี้แก้ปัญหาของชาติด้วยกัน เพื่ออนาคตของลูกหลานเราครับ ขอขอบคุณครับ

-------------------------------
Resource:
//www.thaigov.go.th/webold/news/speech/thaksin/sp28apr44.htm


Create Date : 12 มีนาคม 2551
Last Update : 12 มีนาคม 2551 14:32:12 น. 0 comments
Counter : 973 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

moonfleet
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




ไม่มีสิ่งใดจะเกิดขึ้นมาได้ หากไม่เคยเป็นความฝันมาก่อน
New Comments
Friends' blogs
[Add moonfleet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.