" เรื่องราวต่างๆเป็นดั่งทองคำในเทพนิยาย เมื่อคุณแจกจ่ายไปมากขึ้น คุณก็ได้รับกลับมามากขึ้น " พอลลี แมคไกวร์
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2556
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
27 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 

001. ภาพยนต์ เรื่อง CLOUD ATLAS.



000. ภาพประกอบภาพยนต์เรื่อง CLOUD ATLAS.


สิ่งที่ได้จากการชมภาพยนต์เรื่องนี้

1. สิ่งที่ดีที่ท่านได้ทำ สิ่งที่ไม่ดี(เลว)ที่ท่านได้กระทำไป จะกลายเป็นอนาคตของท่าน.

2. สังคมของสิ่งมีชีวิตหรือมนุษย์ต่างมีลำดับชั้นในสังคม สัตว์ตัวที่แข็งแรงกว่าหรือฉลาดกว่าจะเป็นผู้ปกครองหรือกินสัตว์ตัวที่อ่อนแอกว่าเสมอ.

3. อิสระภาพเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับสิ่งที่มีชีวิต(มนุษย์/คน) แต่น่าเสียดายที่มนุษย์จะรู้ว่าอิสระภาพเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็ต่อเมื่อเขาได้สูญเสียอิสระภาพนั้นไปแล้ว.

4. ความรักสำคัญกว่าความตาย.

5. จากอุทรมารดา เกิดมาแล้วก็ตายไป มนุษย์เราทั้งหลายต่างมีความเกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน และ นับภพนับชาติไม่ถ้วน.



----------------------------------------------------------------------------





001. ภาพประกอบภาพยนต์เรื่อง CLOUD ATLAS.

การกล่าวถึง ภาพยนต์เรื่อง CLOUD ATLAS.

Cloud Atlas หยุดโลกข้ามเวลา (M Pictures)

กำหนดฉาย : 29 พฤศจิกายน 2555
แนว : ไซไฟ
นักแสดง : ทอม แฮงค์, ฮัลลี เบอร์รี, จิม สเตอร์เกส, จิม บรอดเบนท์, ซูซาน ซาแรนดอน, ฮิวจ์ แกรนท์, ฮิวโก้ วีฟวิง, ดูนา เบย์
ผู้กำกับ : ทอม ไทเควอร์, แอนดี้ วาโชว์สกี้, ลานา วาโชว์สกี้
อำนวยการสร้าง : สเตฟาน อาร์นด์

จุดเด่น

ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่รวบรวมเอานักแสดงระดับแม่เหล็กของแวดวงฮอลลีวูดไว้มากที่สุดมาร่วมสร้างสีสัน นำโดย นักแสดงเจ้าของรางวัลอคาเดมี อวอร์ด "ทอม แฮงค์" จากภาพยนตร์เรื่อง Philadelphia และ Forrest Gump, ฮัลลี เบอร์รี จากภาพยนตร์เรื่อง Monster's Ball, จิม บรอดเบนท์ นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ จากภาพยนตร์เรื่อง Iris, ซูซาน ซาแรนดอน เจ้าของรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง Dead Man Walking ร่วมด้วย ฮิวโก้ วีฟวิง, จิม สเตอร์เกส, ดูนา เบย์, เบน วิชอว์, เจมส์ ดิ อาร์ซี, โจว ชุน, คีธ เดวิดและเดวิด เจซี และ ฮิวจ์ แกรนท์ ซึ่งนักแสดงแต่ละคนต่างก็ได้สวมหลายบทบาทขณะที่เรื่องราวเคลื่อนตัวผ่านกาลเวลา

ภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนบทและกำกับโดย ลานา วาโชว์สกี้, ทอม ไทเควอร์ และแอนดี้ วาโชว์สกี้ ก่อนหน้านี้ พี่น้องวาโชว์สกี้เคยร่วมงานกันในฐานะมือเขียนบท / ผู้กำกับไตรภาคแหวกแนว Matrix ซึ่งรวมแล้วทำรายได้ไป 1.6 พันล้านเหรียญในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก ส่วน ทอม ไทเควอร์ ได้รับรางวัลอินดีเพนเดนท์ สปิริต อวอร์ด และได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลบาฟตา อวอร์ด ในฐานะผู้กำกับ / มือเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Run Lola Run และล่าสุด เขาก็เพิ่งกำกับทริลเลอร์รางวัลเรื่อง Perfume: The Story of a Murderer

เรื่องย่อ

Cloud Atlas สร้างขึ้นจากนิยายเบสท์เซลเลอร์โดย เดวิด มิทเชล Cloud Atlas ได้สำรวจถึงการที่การกระทำและผลแห่งการกระทำของปัจเจกบุคคลส่งผลต่ออีกหนึ่งชีวิตทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต แอ็คชั่น ปริศนาและความรักได้ร้อยเรียงกันอย่างน่าสนใจในเรื่องราวนี้ เมื่อชีวิตหนึ่งได้ถูกหล่อหลอมจากฆาตกรกลายเป็นวีรบุรุษ และความเมตตาเพียงครั้งด้วยได้ส่งผลไปอีกหลายร้อยปีข้างหน้า กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการปฏิวัติขึ้นในอนาคตไกลโพ้น



----------------------------------------------------------------------------






002. ภาพประกอบภาพยนต์เรื่อง CLOUD ATLAS.


-----------------------------------------------------------------------------





003. ภาพประกอบภาพยนต์เรื่อง CLOUD ATLAS.


การกล่าวถึงภาพยนต์เรื่อง Cloud Atlas

จาก คอลัมน์ "หนังช่างคิด" OLDBOY บางคูวัด 13 ธันวาคม 2555
Cloud Atlas : ขบถข้ามภพ วัฏจักรแห่ง “รัก-โลภ-ดี-เลว”

จากนวนิยายแสนจะซับซ้อน (เมฆาสัญจร-Cloud Atlas, David Mitchell สำนักพิมพ์มติชน) นำเสนอเรื่องราว 6 ช่วงเวลา หรือจะตีความให้เป็น 6 เรื่อง 6 ชาติภพ (ซึ่งแทบไม่มีใครเชื่อว่าจะเอามาทำหนังได้รู้เรื่อง) ถูกนำมาทำบทดัดแปลง สร้างและกำกับภาพยนตร์ออกมาโดย 3 ยอดฝีมือนั่นคือ

แอนดี้ วาโชสกี้ (Andy Wachowski) ลานา วาโชสกี้ (Lana Wachowski) 2 พี่น้องผู้สร้างไตรภาคสุดล้ำอย่าง The Matrix จับมือกับ ทอม ไทเควอร์ (Tom Tykwer) ผู้สร้างชื่อจากงานภาพยนตร์เรื่อง Run Lora Rua

ซึ่งเล่าเรื่องเก็บรายละเอียดที่ยุ่งยาก กระจัดกระจาย ให้มารวมเป็นก้อนเดียวกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

โดยมิได้แยกเป็น 6 เรื่องหรือนำมันมาจัดเรียงลำดับเวลาแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ยอมรับแต่โดยดีว่า แม้จะเตรียมความพร้อม ทำการบ้านมาระดับหนึ่ง (แต่ไม่ได้อ่านหนังสือ) ดูจนจบ ครบ 3 ชั่วโมงแล้วเซลส์สมองอันจำกัดของผม ทำความเข้าใจได้ประมาณ 60% เท่านั้น

ต้องมาตามอ่านบทวิเคราะห์เฉลยอีกพอสมควรจึงจะกระจ่างทะลุ โดยเฉพาะประเด็น ใครเป็นใครในชาติไหน ทำอะไร เพื่ออะไร และส่งผลอะไรต่อมา (อันนี้วิเคราะห์ไว้ละเอียดมาก แต่สปอย์แหลก เปิดเผยเนื้อหาทั้งหมดทั้งสิ้นเลย //www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A13009015/A13009015.html)

แต่ท่ามกลางความมึนตึ้บเพราะสมองต้องทำงานหนักนั้น มีประโยคสำคัญ มีถ้อยคำที่สรุปประเด็น ตลอดจนฉากหลายฉาก บรรยากาศของภาพยนตร์ที่ทำให้เกิดคำต่าง ๆ มากมายผุดเข้ามาในหัวทั้งระหว่างและหลังจากชมภาพยนร์ Cloud Atlas

ความรัก...รักแท้, ความกล้า...ความกลัว, ความเสียสละ...ความโลภ, ทุ่มเทอุทิศตน...การเอาตัวรอด

สัตว์ใหญ่กินสัตว์เล็ก, แข็งแรงกว่า มีอำนาจมากกว่า = อยู่รอด, สังคมอยู่กันด้วยโครงสร้าง ลำดับชั้น, สำนึกขบถ การกระทำนอกกรอบที่ครอบไว้ เป็นอันตรายต่อ “ความมั่นคง” ของระบบกดขี่ ฯลฯ

หากจะเล่าสรุปเรื่องราวย่อๆ คงต้องใช้พื้นที่อีกมากมาย เอาเป็นประเด็นที่ผมเก็บช้อน ร่อนตะแกรงมาได้ตามสติปัญญาอันจำกัดก็คือ

ไม่ว่าจะยุคไหน ย้อนไปกี่ร้อยกี่พันปี พื้นฐานของมนุษย์ก็ตั้งมั่นอยู่บนกิเลศ ความต้องการ การเอาตัวรอด ที่พัฒนาไปเป็นความโลภ ความต้องกรที่ไร้ขีดจำกัดมากขึ้นเรื่อยๆ (และนั่นดูเหมือนจะเป็นมูลเหตุสำคัญที่ทำให้อารยธรรมของมนุษย์ล่มสลายไปในที่สุด)

ไม่ว่าจะยุคไหน สมัยใด ผู้ที่เข้มแข็ง ก็นิยมใช้อำนาจกดขี่ เอาเปรียบผู้ที่อ่อนด้อยกว่า ไม่ว่าจะเป็นยุคคนขาวค้าทาสคนดำ หรือถอยกลับไปสู่ยุคป่าเถื่อนที่มนุษย์กินมนุษย์ด้วยกัน

ไม่ว่าจะยุคไหน โลกดำรงอยู่บนความไม่เท่าเทียมเสมอมา ไม่ว่าจะแบ่งชั้นกันด้วยสีผิว เชื้อชาติ ศาสนาความเชื่อ รสนิยมทางเพศ ไปจนถึงจุดคลุมเครือยุคที่ผลิต “มนุษย์สังเคราะห์” ขึ้นมาเพื่อ “ใช้ประโยชน์” แล้วก็ทิ้งไปเหมือนเศษขยะ เศษอาหาร!

แต่ไม่ว่าจะยุคไหน พลังของ “ความรัก” ก็มักกระทำให้เกิดเรื่องที่เหนือความคาดหมายได้เสมอ

และไม่ว่าจะยุคไหน สมัยใด ในรูปแบบการกดขี่ที่เข้มข้นขนาดไหน “สำนึกขบถ” ความพยายามที่จะแหกกรอบ “โค่นล้ม” หรือ “ลุกขึ้นสู้” ก็จะถูกจุดประกาย ส่งต่อไปด้วยวิธีการต่างๆ เสมอเช่นเดียวกัน

แม้ความพยายามที่จะ “ต้านระบบ” มักนำไปสู่ความสูญเสีย ต้องการความเสียสละมากมาย แต่ก็ไม่เคยขาดผู้รับช่วง เช่นเดียวกับสำนึกเพรียกหา “ความเท่าเทียม” และ “เป็นธรรม” ก็เหมือนเชื้อโรคร้ายที่ใช้ยาแรงเพียงใดก็รักษาไม่สำเร็จ

แง่มุมเหล่านั้นวิ่งพล่านในความคิดของผมอย่างสนุกสนานหลังจากชมภาพยนตร์เรื่องนี้ แม้จะมีอีกหลายส่วนของสมองถูกแบ่งไปขบคิดเรื่องราวความรัก ความซื่อสัตย์ เสียสละ ตลอดจนการสร้างบรรยากาศที่แตกต่าง ขัดแย้ง กลมกลืน เหนือชมภาพยนตร์ 6 เรื่อง 6 ยุค 6 สไตล์ไปพร้อมกัน (แล้วยังดันรู้เรื่องอีก)

มีแง่มุมโรแมนติกที่จรรโลงหัวใจในหลายเส้นเรื่อง มีมุกตลกเสียดสีสังคมที่สอดแทรกเป็นระยะๆ มีช่วงเวลาที่ฉุดให้เราเข้าไปตื่นเต้นและร่วมลุ้นไปกับตัวละครในช่วงเวลานั้นๆ และแน่นอน

มีปรัชญาคม ๆ ที่นึกถึงทีไรก็อึ้งและสะอึก กับวัฏจัหรแห่งความจริงเหล่านั้น

ยังไม่นับความบันเทิงในการติดตามบทบาทแต่ละรูปแบบของดาราดังอย่าง ทอม แฮงก์, ฮิวจ์ แกรนต์, ซูซาน ซาเรนดอน, ฮัลลี เบอร์รี, จิม สเตอร์เกส, จิม บรอดเบนท์, ฮิวโก้ วีฟวิง, ดูนา เบย์ ฯลฯ ว่าโผล่ออกมาฉากนี้ อีจะเป็นตัวอะไรว้า

ที่ไม่ชอบใจอย่างแรงก็เรื่องเดิม ๆ นั่นคือชื่อเรื่องในพากษ์ไทย “หยุดเวลาข้ามภพ” เป็นชื่อที่ไม่ได้บออกอะไรในความเป็นหนังเรื่องนี้เล้ยยย

อ้อ แล้วก็ขี้เกียจคิดต่อในโจทย์ข้อยากกว่านั้นว่า ตกลงมันเป็นปรัชญาพุทธ เรื่องกรรม การเกิดใหม่ชดใช้กรรม ฯลฯ









004. ภาพประกอบภาพยนต์เรื่อง CLOUD ATLAS.






005. ภาพประกอบภาพยนต์เรื่อง CLOUD ATLAS.






006. ภาพประกอบภาพยนต์เรื่อง CLOUD ATLAS.






007. ภาพประกอบภาพยนต์เรื่อง CLOUD ATLAS.







008. ภาพประกอบภาพยนต์เรื่อง CLOUD ATLAS.








 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2556
0 comments
Last Update : 27 พฤษภาคม 2556 14:35:58 น.
Counter : 4505 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


moonfleet
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




ไม่มีสิ่งใดจะเกิดขึ้นมาได้ หากไม่เคยเป็นความฝันมาก่อน
New Comments
Friends' blogs
[Add moonfleet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.