20 กิโลเมตรจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ฝ่าความมืดมาแบบไม่ต้องกลัวหลง เพราะส่วนใหญ่คุณจะมีเพื่อนร่วมทาง ขับตามคันหน้าไปครับ รถทุกคันที่ออกจากศูนย์ในช่วงเช้ามืดล้วนหันเข็มทิศสู่พะเนินทุ่งทั้งสิ้น
พ้นด่านมานิดหน่อยร้อยเมตรเศษ ถ้าคุณมากลางวันนะ จะพบกับวิวของอ่างเก็บน้ำห้วยสามยอดสวยๆ อยู่ฝั่งซ้าย ความยาวช่วงถนนเลียบอ่างราวครึ่งกิโลอ่างเก็บน้ำห้วยสามยอด
แน่นอน คุณขับผ่านมันไปในความมืด แต่ขากลับลงมาคุณต้องเห็นแน่และตอนที่เห็นแล้วรู้สึก โอย สวยจังเลย อยากจอดถ่าย ก็ให้ขับเลยไปก่อนครับ จอดแถวหลังด่านแล้วเดินย้อนมาสะดวกกว่า ข้างๆ อ่างเก็บน้ำมีซอยด้วย และสองภาพนี้ผมได้จากเดินเข้าไปหามุมในซอย เดินนิดเดียวครับ สิบเมตรแค่นั้น
ถัดจากอ่างเก็บน้ำมาราว 2.5 กิโล คุณจะเจอกับ โอ้ว ว้าว
อุโมงค์ต้นไม้ อุโมงค์ต้นไม้ที่มีความยาวกว่าหนึ่งกิโล สวย แน่นอน คุณฝ่าความมืดมา คุณจะวิ่งผ่านอุโมงค์ต้นไม้ไปด้วยแสงไฟหน้ารถ เก็บไว้เป็นจุดแวะตอนขากลับครับ ตอนขับกลับเล็งมุมสวยกันดีดีอย่าลืมมองผ่านกระจกมองหลังด้วย บางทีมุมสวยก็ซ่อนอยู่ในมุมมองย้อนกลับ
35 กิโลเมตรจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หรือ 15 กิโลจากด่านเขาสามยอด เราก็มาถึงแค้มป์บ้านกร่าง เส้นทางขึ้นพะเนินทุ่งจะเปิดให้รถขึ้นเที่ยวแรกสุด ตีห้าครึ่ง ณ แค้มป์บ้านกร่าง นั่นแปลว่ารถคันแรกที่จะได้ขึ้นก่อนจะเป็นพวกที่มาค้างที่บ้านกร่างนั่นเอง ส่วนพวกที่วิ่งตรงมาจากศูนย์บริการตั้งแต่ตีห้ายังไงก็ไม่ทันพวกบ้านกร่าง แต่ยังไงก็เป็นเที่ยวแรก
อยากจะขอร้องสักนิดคือนับตั้งแต่ด่านเขาสามยอดมานี่ ถือว่าเรากลับเข้ามาอยู่ในเขตอุทยานฯอีกครั้งหลังออกจากเขตตอนออกมาจากศูนย์ และเส้นทางสายนี้ยิ่งเข้าใกล้แคมป์บ้านกร่างเพียงไรยิ่งมีสัตว์ป่ามากขึ้น ควรขับรถให้ช้าลงพอที่จะหยุดรถได้กะทันหันหากสัตว์ใหญ่ตัดหน้ารถ โดยเฉพาะช่วง 5 กิโลสุดท้ายก่อนแค้มป์จะมีสัตว์เยอะมาก บ่อยครั้งเค้าจะเดินตัดถนน มีอยู่หนหนึ่งผมเจอเข้ากับกระทิงระยะประชิดเกือบเบรคไม่ทัน โป่งสัตว์ริมทางก็อยู่บริเวณนี้ มีป้ายเขียนว่าดงกระทิง เลยดงกระทิงไปนิดข้างทางด้านซ้ายมีต้นไม้ใหญ่มากสามต้น ลักษณะแปลกแตกต่างจากต้นอื่น เรียกต้นฉัตรป่าสีดา ถ้้าผ่านมาตอนเย็นๆ พลบค่ำ นั่งเฝ้าได้เลย จะเห็นฝูงนกตระกูลนกเงือกบินมาที่ต้นนี้เยอะมากเวลาขึ้นจากบ้านกร่าง รอบแรก 05.30-07.30 รอบที่ 2 13.00-15.00 ส่วนเวลาลงจากบนพะเนินทุ่ง รอบที่ 1 09.00-10.00 รอบที่ 2 16.00-17.00 หลังผ่านเหล็กกั้นแค้มป์บ้านกร่างขึ้นมา ทางก็จะเปลี่ยนเป็นเส้นทางแคบขึ้นเขาผิวทางไม่ดี ช่วงนี้ต้องขอบอกว่าไม่เหมาะกับรถเก๋งแล้วนะครับ ตัวเลือกอีกทางคือจอดเก๋งทิ้งไว้ที่แค้มป์บ้านกร่างแล้วใช้บริการรถสองแถวที่มาจอดให้บริการอยู่ สนนราคาเท่าไหร่ขออภัยจริงๆ ไม่ได้สังเกตมา ทางขึ้นที่แคบและบางช่วงชัน ขับสวนลำบาก ที่นี่จึงออกกฏควบคุมการจราจรขึ้นลง โดยให้เดินรถทางเดียวผลัดกัน
ถึงแล้ว จุดชมวิวทะเลหมอก กม.36
เราแล่นตรงมาจนถึงกม.36 ความจริงจะจอดชมที่ กม.30 เลยก็ได้ แถวๆ แค้มป์พะเนินทุ่งนั่นแหละ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ขึ้นมาแล้วทั้งทีต้องเก็บทั้งสองกม.
คลิบ
VIDEO
แต่ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าโอกาสที่คุณจะโชคดีได้เห็นทะเลหมอกที่นี่มีถึง 60-70 % ถ้าไม่ดวงกุดจริงๆ แต่ก็ใช่ว่าดุ่มๆ มาจะสมหวังทุกรายนะครับ บางทริปผมไปก็ไร้หมอก บางทริปมีแต่บาง บางทริปมีแต่หมอกวายเร็ว ทริปที่อลังการที่สุดคือมีมาอย่างหนาแน่นฟูฟ่องแถมวายช้า คือสิบเอ็ดโมงยังไม่วาย ว่างั้น เอาเป็นว่าไม่ว่าจะทะเลหมอกที่ไหนต้องเผื่อใจไว้ด้วยว่าถ้ากินแห้วแล้วเรายังคงต้องยิ้มได้ หัวเราะได้ มีความสุขได้
ที่สุดทางของถนนตรงที่เลยกม. 36 ไปเกือบๆ โลจะเป็นลาดชันยาวลงไปสู่ลานจอดรถตรงนี้ถ้ารถกำลังไม่ดีพออย่าเสี่ยงขับมากลับรถนะครับ ให้พยายามกลับรถกันตรงเลยจุดชมทะเลหมอกมาหน่อย เพราะเนินตรงนี้ชันยาวและโค้งเล็กน้อยอีกต่างหากแต่ผิวทางไม่ใช่ลาดยาง ต้องตะกรุยกรวดขึ้นมา ผมเอาโรดิโอไปยังส่งไม่ขึ้น ลองตั้งสองสามหนก็ไม่ไหวสุดท้ายต้องใส่เกียร์โฟล์ถึงจะเอารถขึ้นมาได้ และตรงนี้เองก็เป็นจุดเริ่มเดิมเทรลสู่น้ำตกทอทิพย์ ระยะทางเดินเทรลประมาณ 3 กิโล ใช้เวลาเดินไปกลับ 3-4 ชั่วโมง ใครชื่นชอบเดินเทรล และอยากชมน้ำตกและมีเวลาเยอะพอก็ลองดูได้ เหมาะสำหรับคนที่ค้างบนนี้
ผืนป่าเขียวๆ สุดอุดมสมบูรณ์บริเวณรอบๆ แอ่งทะเลหมอก ปัจจัยสำคัญในกระบวนการผลิตหมอก
แอ่งทะเลหมอกพะเนินทุ่งมีอยู่สองจุดที่นิยมๆ นะครับ
อีกหนึ่งจุดยอดนิยมก็คือตรงนี้
จุดชมวิวทะเลหมอก กม.30 แอ่งตรงแถวแคมป์พะเนินทุ่งนั่นเลย อยู่บริเวณกม.30 มีลานจอดรถแล้วก็เป็นลาดขึ้นเนินเตี้ยๆ ไปร้อยกว่าเมตร ก็จะพบลานชมวิวทะเลหมอกกว้างใหญ่ พร้อมป้ายจุดชมวิวพะเนินทุ่งที่นทท.ใครมาก็มักมาถ่ายภาพเช็คอินกันกับป้ายนี้
ดอกหญ้าเขียวๆ ล้อเล่นลมแถวๆ จุดชมวิวทะเลหมอก กม.30
บนแค้มป์พะเนินทุ่งมีร้านอาหารและมุมกาแฟด้วยนะ นี่เป็นรายการอาหาร ดูหมอกเสร็จหิวๆ สั่งกินบนนี้ได้บรรยากาศดี
ราคาขอบอกถูกกว่าฟาสฟู้ดในห้าง
นอกจากนี้บนนี้ยังเหมาะจะมากางเต็นท์นอนแค้มป์ อากาศดี อุณหภูมิจะต่ำกว่าที่แค้มป์บ้านกร่างมาก ถ้าเป็นไปได้ก็อยากแนะนำให้มากางนอนสักคืนตื่นมาก็ลุ้นทะเลหมอกกม.30 ได้เลยใกล้ๆ เดินไปถึง
ขากลับลงมาจากพะเนินทุ่งอาจแวะพักเมื่อยที่แคมป์บ้างกร่าง มีร้านจำหน่ายอาหารเครื่องเดิมเช่นกัน ที่แคมป์บ้านกร่างขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งดูผีเสื้อและดูนกที่ดีที่สุดแหล่งหนึ่งของไทย นั่งกินน้ำกินข้าวเฉยๆ เดี๋ยวก็มีนกสวยๆ แปลกๆ หาไม่ได้ง่ายๆ ในที่อื่น บินโฉบมาเกาะต้นไม้ให้เห็นกันใกล้ๆ ตระกูลนกเงือกอย่างพวกนกแก๊กนี่มาแบบไม่กลัวคนเลย ลงมาป้วนเปี้ยนหาของกินในมือเราเลย นกพญาไฟ แซงแซวหางปลา โพระดก เขาเขียวเปล้า แม้แต่ไก่ป่า ผมก็เคยเจอที่นี่แบบมาทริปเดียวเจอหลากหลายมาก พวกค่างแว่นนี่เคยวิ่งไล่กันเป็นฝูงๆ ข้ามหัวผมไปเลยตอนนอนเล่นที่ศาลาเฉยเลย
สะพานแขวนแก่งกระจาน
ถ้าคุณลงมาบ่าย กลับออกมาที่แถวอ่างเก็บน้ำแก่งกระจานเย็นๆ แดดร่มๆ จะแวะถ่ายรูปเล่นกับสะพานแขวนก็ไม่เลว นี่เป็นอีกหนึ่งจุดแวะยอดนิยม
ใครเวลาเหลือเยอะจะลองนั่งเรือทัศนาจรชมวิวในอ่างเก็บน้ำก็ได้ มีจอดบริการอยู่หลายลำ
ก่อนกลับบ้านลองขับผ่านขึ้นมาบนสันเขื่อนแก่งกระจาน ซึ่งจะมีวิวทิวทัศน์เหนือสันเขื่อนสวยมากๆ และยังเป็นจุดส่งตะวัน ชมวิวอาทิตย์ตกและแสงสุดท้ายของวันได้อย่างดี ก่อนปิดทริปเล็กๆ บึ่งรถกลับกรุงเทพ
วิวยามเย็นๆ ณ อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนแก่งกระจาน
จำได้ว่า เคยไปเที่ยวพะเนินทุ่ง 2-3 ครั้ง
ไปเล่นน้ำตกทอทิพย์ สวยค่ะ
แต่ไม่เคยค้างที่นั่นเลย
มากกว่า 20 ปีล่ะ..อิอิ
หมดโหวตแล้นะคะ ..
พรุ่งนี้ค่อยกดให้คะ