สวัสดีค่ะ ปุ้ยเองค่าาา วันนี้ปุ้ยจะมาชวนคุยกันต่อจากบล็อกที่แล้ว เกี่ยวกับเรื่องเทคนิคการดูแลผิวของสาวๆ วัย 30+ ให้ดูสดใส แข็งแรง และดูอ่อนกว่าวัยค่ะ ซึ่งเมื่อบล็อกที่แล้ว เราได้เรียนรู้การดูแลและเมกอัพผิวประจำวันกันไปแล้ว ดังนั้นในคลิปนี้ ปุ้ยจะมาเสริมในเรื่องของการดูแลผิวระหว่างสัปดาห์ และการปรับผิวให้เนียนเด้งแบบสวยทันใจ ขอตั้งชื่อเทคนิคในวันนี้ ว่า เทคนิค “เผยผิวใหม่ ไร้ริ้วรอย ในเวลาไม่กี่นาที” ซึ่ง เราจะมีตัวช่วย คือ Olay Regenerist Instant Fix เซ็ทนี้มาด้วยกัน 2 ขั้นตอนง่ายๆ ทำได้เองที่บ้าน STEP 1 : PREP ผลัดผิวใหม่ด้วย Regenerist Exfoliate & Renew System Resurfacer ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้อย่างอ่อนโยน เปลี่ยนผิวให้เรียบเนียน ริ้วรอยบางๆ ดูลดเลือน สีผิวแลดูสม่ำเสมอขึ้น และให้ผิวที่ดูเปล่งประกาย ภายใน 2 นาที STEP 2 : PRIME ปรับผิวให้เรียบเนียนยิ่งขึ้นด้วย Regenerist Wrinkle Relaxing Cream ช่วยให้ริ้วรอยดูลดเลือนได้ภายใน 10 นาที ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มที่เทคนิคแรกกันเลย โดยทั่วไปแล้วกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ โดยทั่วไปมีอายุประมาณ 28 วัน แต่เมื่ออายุมากขึ้นหรือขาดการดูแลผิวที่ดี จะทำให้วัฎจักรของผิวยาวนานขึ้น การผลัดเซลล์ผิวจะช้าลงลงไปถึง 5-6 สัปดาห์ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผิวไม่เรียบเนียน เกิดริ้วรอย และหมองคล้ำ แลดูไม่สดใส ดังนั้นเราจึงต้องอาศัยตัวช่วย นั่นก็คือ Regenerist Exfoliate & Renew System Resurfacer ชุดผลัดเซลล์นี้ จะกระตุ้นให้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวเข้าสู่ภาวะสมดุลใกล้เคียงปกติ คือ ทุก 3-4 สัปดาห์ดังเดิม ซึ่งจะไม่ได้ทำให้ผิวบางลงแต่อย่างใดค่ะ แต่จะช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยเล็กๆ รูขุมขน และแผลเป็นหลุมสิว ดูตื้นขึ้น ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้นนั่นเองค่ะ ซึ่งในเซ็ทนี้จะมี 2 ตัวที่ช่วยประสานการทำงานกันค่ะ Microdermabrasion Treatment  เป็นสครับเนื้อเนียนละเอียด สีเหลืองๆ หลักการทำงาน ก็คือ การผลัดเซลล์ผิวที่อ่อนโยนต่อผิว โดยใช้ผงเกล็ดอัญมณี (Derma Crystal) ที่มีความละเอียดสูง ช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นบนหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก เพื่อกระตุ้นให้ผิวหนังสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทน วิธีใช้งาน: - ทาบางๆ ลงบนผิวที่สะอาดและแห้งสนิททาให้ทั่วใบหน้า เสมือนกับการทามาส์กผิวหน้า - นวดวนแบบเบาๆ ทั่วใบหน้า เป็นเวลา 1 นาที โดยหลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา และไม่ควรใช้น้ำหนักแรงจนเกินไป ขณะใช้ก็จะรู้สึกอุ่นๆ บนผิวหน้าค่ะ Derma Peel Serum  เป็นเซรั่มเนื้อใสๆ ที่เข้มข้นและอุดมไปด้วยกรดแลคติก (Lactic acid) วิธีใช้งาน: - บีบเนื้อเซรั่มลงที่ปลายนิ้ว - นวดทับบนผิวที่มีสครับจากขั้นตอนแรก ก็จะเกิดโฟมสีขาวขึ้น และจะรู้สึกอุ่นๆ ขึ้นด้วย - เพิ่มเซรั่มทาลงไปทีละนิดๆ ให้ทั่วผิวหน้า - เมื่อโฟมจางลง ก็นวดผลิตภัณฑ์เบาๆ เป็นเวลา 1 นาที - ล้างออกด้วยน้ำอุ่นให้สะอาดและซับหน้าให้แห้งค่ะ สครัปเซ็ทนี้ใช้ไม่ยากค่ะ ปริมาณในการใช้ต่อครั้ง ไม่ต้องเยอะ เพียงแค่ทาบางๆ ให้ทั่วผิวหน้า แล้วนวดแบบเบาๆ เท่านั้น กลิ่นไม่ฉุน และไม่แสบผิว (ถ้าไม่ถูนวดแรงเกินไป) ที่สำคัญเลยต้องล้างให้สะอาด ไม่ให้ตกค้างอยู่บนผิว จะตามด้วยโฟมล้างหน้า หรือไปอาบน้ำเลยก็ได้ค่ะ และไม่ควรใช้เกินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ส่วนสาวๆ ที่มีผิวแพ้ง่าย ให้ทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ที่ผิวหน้านะคะ ถ้าในขั้นตอนแรกรู้สึกแสบผิว ให้ลดแรงนวดหรือลดเวลาลง แตะน้ำผสมลงไป หรือครั้งต่อไปใช้บนผิวหน้าที่เปียกเล็กน้อยเพื่อลดการเสียดสี ซึ่งคำแนะนำเหล่านี้มีเขียนไว้อย่างละเอียดข้างกล่องผลิตภัณฑ์ ทั้งวิธีใช้ คำแนะนำและคำเตือนค่าาา มาพูดถึงผลลัพธ์กันบ้าง ปุ้ยลองสังเกต ความเปลี่ยนแปลงหลังการใช้สครัปนี้นะคะ ที่เห็นชัดๆ เลยคือ •    ผิวหน้าดูกระจ่างใส ขึ้นแบบเห็นๆ เลย •    ผิวดูเรียบเนียน เมื่อลองใช้มือลูบสัมผัส รู้สึกว่าเทคเจอร์ละเอียดขึ้น •    สิวเสี้ยนเล็กๆ ที่เป็นหัวขาวๆ หายไปทันที และสิ้วเสียนหัวดำๆ ค่อยๆ ลดลงในครั้งที่ 3-4 •    ร่องริ้วรอยลึก และรูขุมขนดูตื้นขึ้น พิสูจน์ด้วยรูป Before-After เลยค่ะ (กรุณาคลิ๊กที่รูปเพื่อดูรูปขยายค่ะ) เปรียบเทียบ บริเวณปีกจมูกและคางที่มักจะพบสิวเส้ยน เม็ดเล็กๆ รูปนี้ใช้สครัปครึ่งหน้า เทียบกันให้ดูค่ะ ตอนนี้ผิวก็เริ่มยิ้มได้แล้วค่ะ ต่อไปเรามาต่อกันด้วยขั้นตอน สุดพิเศษ คือ ปรับผิวให้เรียบเนียนยิ่งขึ้นด้วย Regenerist Wrinkle Relaxing Cream ซึ่งเค้าเครมว่า 88% ของผู้ใช้พิสูจน์แล้วว่า ช่วยปรับผิวให้ดูเรียบเนียนและเปล่งประกายขึ้นได้และ 73% รู้สึกพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ในครั้งแรก อย่างนี้ต้องลองแล้วค่ะ Regenerist Wrinkle Relaxing Cream เป็นเนื้อเจลที่กึ่งโปร่งแสง และมีความยืดหยุ่นมากค่ะ กลิ่นหอมรู้สึกผ่อนคลายเวลาใช้ด้วย ที่ปุ้ยชอบคือ ขวดผลิตภัณฑ์เป็นสีเงินเงา ฝาแดง ดูหรูหรามาก เนื้อครีมลื่น เบา เกลี่ยง่าย และไม่เป็นคราบ (ถ้าไม่ทาเยอะจนเกินไป) สามารถทาเมกอัพทับได้สบายๆ แถมยังไม่ทำให้ผิวมัน ไม่เหนียวเหนอะหนะด้วย บอกเลยว่าแค่เนื้อผลิตภัณฑ์ก็หลงรักแล้วค่ะ เทคนิคที่ใช้ คือ ทาริงเคิล รีแลกซิ่ง ครีม ลงบางๆ ทั่วบนผิวหน้า 1 รอบ จากนั้นก็ทาซ้ำลงไปในบริเวณที่มีปัญหาริ้วรอยมากเป็นพิเศษ แล้วก็รอให้เนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิว ไม่เกิน 10 นาที เท่านั้นค่ะ ผลลัพธ์ที่ได้ คือ ผิวที่เนียนเด้ง ดูเต่งตึง หลังการใช้จะรู้สึกว่าผิวนุ่ม เนียนเรียบขึ้นในทันที โดยที่ไม่ทิ้งความมันหรือความรู้สึกเหนอะหนะไว้บนผิวหน้าเลย คือไม่รู้จะอธิบายยังไง มันสุดยอดมากๆ รู้สึกประทับใจจริงๆ ดูจากรูปด้านล่างนะคะ ผิวบริเวณหน้าผากของปุ้ย จะมีริ้วรอยจางๆ และเห็นรูขุมขนชัดเจน แต่พอใช้ ริงเคิล รีแลกซิ่ง ครีม แล้ว ผิวเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนและริ้วรอยหายไปในพริบตา อย่างน่ามหัศจรรย์ แถมนุ่มและชุ่มชื้นขึ้น แล้วก็สีผิวดูกระจ่างขึ้นเลยทันที ส่วนผิวใต้ดวงตา จะมีริ้วรอยจางๆ เป็นเส้น เฉียงลงมา (เห็นรึเปล่าน้าาา) แล้วพอทา ริงเคิล รีแลกซิ่ง ครีม ผิวก็ดูเต่งตึง เนียนเด้งขึ้นทันที เส้นริ้วรอยถูกเติมเต็ม มองไม่เห็นเลย รูขุมขนก็เบลอไปเลยค่ะ ชอบจังเลยค่ะ เฉลย เหตุผลที่ เจ้า ริงเคิล รีแลกซิ่ง ครีม ทำได้อย่างนั้น ก็คือ เนื้อผลิตภัณฑ์มีไมโครฟิลเลอร์ (Polyethylene) ที่มีอนุภาคขนาดเล็กจะเข้าไปเติมเต็มร่องริ้วรอยลึก ทำให้ผิวดูเรียบเนียน รูขุมขนและริ้วรอยดูลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัด ใช้เทคโนโลยีการกระจายแสง (Light-Diffusing Technology) ที่ช่วยทำให้ผิวของเราเปล่งประกายและเรียบเนียนยิ่งขึ้น พร้อมด้วยคุณค่าการบำรุงผิวด้วยสารสกัดอะมิโน เปปไทด์ คอมเพล็กซ์ ( Amino peptide complex) ที่จะซึมซาบเข้าสู่ผิว ตรงเข้าฟื้นบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ถือว่าเป็นสุดยอดตัวช่วย สำหรับสาวๆ วัน 30อั๊พ อย่างเราเป็นที่สุดเลยค่ะ ปุ้ยเองยอมรับเลยว่าประทับใจกับเซ็ทนี้มาก อยากนำมาแชร์ให้ลองใช้กันค่ะ ที่สำคัญ อย่าลืมมีวินัยในการดูแลสุขภาพผิว โดยทำความสะอาดผิวและบำรุงใช้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ พักผ่อนและดื่มน้ำมากๆ ด้วยนะคะ ขอให้สาวๆ วัย 30 อั๊พทุกคน มีผิวที่สวยสดใส แข็งแรง สุขภาพดีกันถ้วนหน้านะคะ วันนี้ไปแล้วค่ะ พบกันใหม่คลิปหน้า บั้ยบายค่าาาา ฝากติดตามผลงานของปุ้ยที่ www.Facebook.com/likePuYisme นะคะ ขอบคุณค่ะ ขอขอบคุณผลิตภัณฑ์ โอเลย์ รีเจนเนอริส และ FAN PAGE OLAY Thailand OLAY Regenerist Advanced Anti-Aging Exfoliate & Renew System Resurfacer  1,899 บาท OLAY Regenerist Wrinkle Relaxing Cream 1,099 บาท รูป Face Shot by Vruth-Bunnag Pack Shot by PuYisme VDO Production by ภาพจำ โปรดักชั่น

สวัสดีค่าาาา ปุ้ยเองค่ะ ในบล็อกนี้ขอมาเอาใจสาวๆ วัย 30 อั๊พรุ่นราวคราวเดียวกับปุ้ยกันบ้างค่ะ ด้วยการแชร์เทคนิคดูแลผิวให้สวยสดใส ดูอ่อนวัย เค้าว่ากันว่า ผู้หญิงจะสวยที่สุดตอนช่วงอายุ 30 จริงมั้ยคะ?! ปุ้ยว่าจริงนะ เพราะผู้หญิงวันนี้ สวยพร้อมด้วยคุณวุฒิ-วัยวุฒิ ทั้งในเรื่องงาน และเรื่องการสร้างครอบครัว แต่สาวๆ ในวันนี้มักจะไม่ค่อยมีเวลาที่จะใส่ใจดูแลผิว เพราะมีหน้าที่ภาระที่ต้องรับผิดชอบมากขี้นนั่นเองค่ะ วันนี้ปุ้ยจะมาแชร์เทคนิคง่ายๆ ใช้เวลาไม่มาก เป็นเทคนิคที่จะช่วยให้สาววัย 30 อัพ มีผิวที่สวย สดใส และยังคงดูอ่อนวัยค่ะ ซึ่งจะมีทั้งเทคนิคการดูแลผิว และการเมกอัพแบบเบาๆ

มาเริ่มตั้งแต่ตื่นนอนเลยค่ะ

• ICE TREATMENT ตื่นนอนเดินไปที่ตู้เย็น หยิบน้ำแข็งมา 1 ก้อนค่ะ 
ใช้ก้อนน้ำแข็ง มาถูนวดที่ผิวหน้า
  วิธีนี้จะช่วยทำให้เราสดชื่น ตื่นรับวันใหม่ที่สดใส และช่วยให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้น ผิวก็จะได้รับการบำรุงได้มากขึ้นค่ะ
  TIPS:  โดยเริ่มจากริมฝีปากก่อน เพื่อให้ผิวปรับอุณหภูมิตามน้ำแข็ง แล้วจึงค่อยๆ นวดวนเป็นวงกลมไปทั่วๆ ผิวหน้าและเปลือกตา 

  จากนั้นก็ไปอาบน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน ระหว่างนี้ผิวก็จะกลับสู่อุณหภูมิปกติได้พอดี
• DAY MOISTURIZER ทาครีมบำรุงผิวในตอนเช้า เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของสารกันแดด จะได้จบในขั้นตอนเดียว
  
ปุ้ยใช้ Olay Total Effects 7 in One Day Cream Normal SPF15 (อ่านรีวิวผลการทดลองใช้ คลิ๊กลิงค์)
  TIPS:  แต้มครีมลงที่ผิวหน้า 5 จุด แล้วนวดผิวด้วยนิ้วมือ ช่วยให้ซึมได้ดีขึ้น
• HAND TREATMENT ใช้ความอบอุ่นจากฝ่ามือ 
  TIPS:  กดลงที่ผิวหน้าเบาๆ ช่วยผลักครีมลงสู่ผิว

จากนั้น เราจะมาเมกอัพผิวด้วย 5 ขั้นตอนกันค่ะ

1. CONCEALER ใช้คอนซีลเลอร์ ปกปิดจุดบกพร่องต่างๆ บนผิว เช่น รอยคล้ำใต้ตา รอยแดงข้างปีกจมูก รอยดำจากฝ้ากระ รอยคล้ำเปลือกตา   
2. SETTING POWDER เซ็ทผิวด้วยแป้งฝุ่นเนื้อชิมเมอร์ ที่จะช่วยกระจายแสง พลางตาทำให้ริ้วรอย รูขุมขน และจุดบกพร่องต่างๆ ดูน้อยลงไป
   หรือถ้าใครต้องการการปกปิดก็ใช้แป้งทูเวย์ปัดลงบนผิวด้วยแปรงขนนุ่มๆ จะช่วยให้ผิวดูเนียนขึ้นแบบไม่ดูหนาเตอะ
   แล้วค่อยตามด้วยแป้งฝุ่นที่มีชิมเมอร์อีกรอบค่ะ
3. SKIN HIGHLIGHT ใช้ไฮไลท์ หรือแป้งที่สีอ่อนกว่าสีผิว มีชิมเมอร์เล็กน้อย
   ปัดบริเวณ ใต้ตา ทีโซน ร่องแก้ม เปลือกตา และโหนกคิ้ว จะช่วยเพิ่มความสดใสใหใบหน้า และพลางร่องผิว ริ้วรอย จุดหย่อยคล้อยดูตื้นขึ้น
4. FACE CONTOUR ใช้คอนทัวร์ หรือแป้งสีเข้มกว่าสีผิว มาคัดโครงหน้า
   บริเวณใต้ขากรรไกร ใต้โหนกแก้ม  บริเวณขมับ และปีกจมูก โดยใช้แปรงรูปร่างแบนๆ จะช่วยให้เส้นโครงหน้าชัดเจนขึ้น 

   เทคนิคนี้ จะช่วยพลางให้ใบหน้าดูยกกระชับและมีมิติมากขึ้น
5. BLUSH & LIPGLOSS ปัดแก้มให้ดูชมพูระเรื่อ และทาลิปกลอสแวววาวบนเรียวปาก ช่วยให้ผิวดูสดใสแข็งแรง มีเลือดฝาด ดูสุขภาพดี

เพียงเท่านี้ ผิวหน้าก็จะดูสดใส อ่อนวัยขึ้น พร้อมที่จะออกไปสวัสดีเช้าวันใหม่ได้แล้วค่ะ
ส่วนใครที่อยากเขียนคิ้ว ทาตา ทาปากก็จัดเบาๆ ตามถนัดกันเลยค่ะ  ระหว่างวันถ้ารู้สึกว่าผิวแห้ง ก็ใช่เสปรย์น้ำแร่ ฉีดเบาๆ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและสดชื่นขึ้นค่ะ

ส่วนตอนกลางคืน ก่อนนอน ก็

• MAKEUP CLEANSING ล้างเมกอัพให้สะอาด ด้วย Cleansing Water หรือ Cleansing Oil แล้วตามด้วยโฟมหรือสบู่ล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว
• SKIN EXFOLIATION เพิ่มการนวดผิวด้วยแปรงล้างหน้า หรือฟองน้ำล้างหน้า ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ให้เผยผิวใหม่ที่สดใสได้ไวขึ้น
• NIGHT MOISTURIZER ทาครีมบำรุงผิวสูตรกลางคืน เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์เยอะๆ ใช้นิ้วนวดวน ช่วยผลักเนื้อครีมลงสู่ผิว
  ปุ้ยใช้ Olay Total Effects 7 in One Anti-ageing Night Cream
  TIPS:  ใช้นิ้วนวดวนๆ ช่วยผลักเนื้อครีมลงสู่ผิว จบท้ายด้วยใช้ความอบอุ่นจากฝ่ามือ กดลงที่ผิวเบาๆ ทำให้ผิว เพื่อช่วยให้ผิวผ่อนคลายก่อนนอนค่ะ

และในระหว่างสัปดาห์ แนะนำให้สครัปผิวและมาร์สด้วยก็จะช่วยให้ผิว สดใสแข็งแรง ซึ่งปุ้ยจะมาสาธิตให้ดูกันในบล็อกหน้าค่ะ
ที่สำคัญเลย อย่าลืมดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะคะ

นี่ละค่ะ คือ เทคนิคง่ายๆ ที่นำมาฝากกันในวันนี้
ถ้าสาวๆ มีวินัยในการดูแลผิวทุกวัน ผิวของเราจะสุขภาพดี ดูอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอค่ะ
วันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว พบกันใหม่ในคลิปหน้า บ๊ายบายค่ะ

ฝากติดตาม Follow ผลงานของปุ้ยได้ที่ www.facebook.com/likePuYisme ขอบคุณค่ะ

ขอขอบคุณ www.facebook.com/OlayThailand
ผลิตภัณฑ์ Olay Total Effects 7 in One Day Cream Normal SPF15
โอเลย์ โททัล เอฟเฟ็คส์ 7 อิน 1 เดย์ครีม นอร์มอล
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยทั้ง 7 ประการ:

1) ริ้วรอยบางและรอยเหี่ยวย่น 2) สีผิวไม่สม่ำเสมอ 3) จุดด่างดำจากวัยที่เพิ่มขึ้น
4) ผิวหยาบไม่สม่ำเสมอ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน 5) ผิวแห้ง บำรุงเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
6) ลดความหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวดูกระจ่างสุขภาพดี 7) รูขุมขนกระชับเล็กลง

ผลิตภัณฑ์  Olay Total Effects 7 in One Anti-ageing Night Cream
โอเลย์ โททัล เอฟเฟค แอนตี้เอจจิ้ง ไนท์ครีม
ผลิตภัณฑ์ บำรุงผิวหน้า ช่วยลดเลือนริ้วรอยทั้ง
7 ประการ:

1) ริ้วรอยบางและรอยเหี่ยวย่น 2) สีผิวไม่สม่ำเสมอ 3) จุดด่างดำจากวัยที่เพิ่มขึ้น
4) ผิวหยาบไม่สม่ำเสมอ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน 5) ผิวแห้ง บำรุงเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
6) ลดความหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวดูกระจ่างสุขภาพดี 7) รูขุมขนกระชับเล็กลง


รูป Pack Shot by PuYisme
Face Shot by ภาพจำ โปรดักชั่น
VDO Production by ภาพจำ โปรดักชั่น

สวัสดีค่ะ หลังจากที่ห่างหายจากงานฮาวทูมานาน วันนี้จะกลับมาในลุคสาวออฟฟิตสวยท้าแดด พอดีได้โจทย์มาจากนีเวีย... ให้แต่งหน้าไปคุยงานกับลูกค้าในวันที่แดดจ้าๆ ปุ้ยก็เลยจัดลุคนี้เลยค่ะ ได้แรงบันดาลใจของลุคนี้จาก นางเอก "กระรัต" ในเรื่องสามีตีตรา แม้ว่าจะลาจอไปซักพักใหญ่แล้ว แต่ลุคเมกอัพของเธอก็ยังเป็นที่ปลื้มของปุ้ยที่สุดในช่วงนี้ เพราะดูแล้วแต่งง่าย สวยหวาน แกมเสน่ห์ แล้วยังทนน้ำ ทนแดด ทนน้ำตาได้อีกมากมายเหมาะกับช่วงปลายร้อนต้นฝนแบบนี้มากๆ จึงหยิบมาทำฮาวทูให้ดูกันค่ะ สำหรับลุคนี้ ชื่อว่า “สาวออฟฟิศ” ไปพบลูกค้าตอนเที่ยงแดดเปรี้ยงๆ ลุคนี้เป็นลุคที่แต่งง่ายๆ ดูดีได้ไม่ยาก จุดเด่นของลุคอยู่ที่ดวงตา ซึ่งการให้โทนสีดวงตาเป็นเอิร์ทโทนดู​ธรรมชาติ แต่ว่ากิมมิกของลุคจะเน้นที่ขนตาปลอม เพื่อให้ดวงตาดูโดเด่น สวยหวาน และน่าสนใจ ส่วนสีสันของลุคนั้นอยู่ที่พวงแก้มและริมฝีปาก สาวๆ สามารถเลือกโทนสีที่ชอบและประยุกต์ช้ได้ตามสไตล์ของตัวเองได้เลย เริ่มต้นลุคด้วยรูป ก่อนและหลังแต่งหน้า เทียบให้ดูยั่วน้ำลายกันก่อนค่ะ STEP 01 MAKE-UP BASE ขั้นตอนแรกเราจะเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า โดยการป้องกันผิวหน้าจากแสงแดด และลงเมกอัพเบส เพื่อช่วยเมกอัพติดทนตลอดวัน ปุ้ยเลือก ผลิตภัณฑ์กันแดดสูตรเซรั่มสำหรับผิวหน้า (1) NIVEA SUN WHITENING PERFECT PROTECT MILK GLOW SERUM SPF 50 ที่ผสมเมคอัพเบส เนื้อน้ำนมใช้ง่าย ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะ เหมาะสำหรับใช้ทุกวัน เพื่อผิวกระจ่างใสเป็นธรรมชาติ ให้ผิวไม่มีหมองคล้ำค่ะ How-to: เขย่าขวดให้เนื้อน้ำนมผสมเข้ากันดีก่อน เทผลิตภัณฑ์ลงที่หลังฝ่ามือ เพื่อจะได้ควบคุมปริมาณได้ แต้มผลิตภัณฑ์ลงที่ใบหน้าเป็น 5 จุด ในปริมาณที่น้อย เกลี่ยให้กระจายทั่วใบหน้า ถ้าไม่ทั่ว ก็ค่อยๆ เพิ่มลงไปทีละนิด (ไม่แนะนำให้ลงผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่มากในครั้งเดียว) รอผลิตภัณฑ์เซ็ทตัวกับผิวหน้าประมาณ 1-2 นาที เพียงเท่านี้ผิวก็พร้อมสำหรับเมกอัพในขั้นตอนต่อไปแล้วค่ะ STEP 02 MAKE-UP FOUNDATION การทารองพื้นสำหรับการออกงานกลางแจ้ง ให้ผิวเนียนและไม่มีปัญหาเรื่องผิวเยิ้มเป็นคราบระหว่างวัน เราควรเป็นรองพื้นชนิดน้ำ ปุ้ยเลือกรองพื้น (2) ที่มีเนื้อยืดหยุด ปกปิดปานกลาง แต่ให้เทคเจอร์ที่ดูเป็นธรรมชาติ How-to:  แต้มเนื้อรองพื้นลงที่ผิวในปริมาณที่น้อย แล้วค่อยๆ เพิ่มทีละนิด วิธีการคือ ใช้นิ้วมือค่อยๆ กดๆ รองพื้นให้กระจายออกในวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ (หลีกเลี่ยงการใช้นิ้วปาด) เพื่อให้รองพื้นเกาะติดผิวได้แน่นขึ้น รอรองพื้นเซ็ทตัวประมาณ ครึ่งนาที  และอย่าลืมที่จะปกปิดรองคล้ำใต้ดวงตา/จุดบกพร่องบนผิวด้วยปุ้ยเลือกคอนซีลเลอร์ (3) ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวรอบดวงตา แล้วตามด้วยคอนซีเลอร์ (4) ที่ให้ระดับการปกปิดมากขึ้นอีกหน่อย ทับลงไปในจุดที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษ สุดท้ายเซ็ทผิวด้วยแป้งฝุ่น (5) เนื้อละเอียดๆ แทนการใช้แป้งทูเวย์ค่ะ เพราะรองพื้นชนิดน้ำ+แป้งฝุ่น จะช่วยให้ผิวเนียน ป้องกันปัญหา แป้งเป็นคราบระหว่างวันได้ดีค่ะ STEP 03 EYEBROW คิ้วเข้มหนาตามลุคของกะรัต ต้องเข้มหนากว่าปกติหน่อยนึงค่ะ แต่ถ้าใครไม่คุ้นชิน ก็สามารถเขียนคิ้วตามปกติได้่เลย How-to:  ปุ้ยเริ่มต้นวาดโครงคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้วของ (6) ที่เนื้อนุ่มและให้เส้นเล็ก การลงดินสอเขียนคิ้วก่อนซึ่งจะช่วยให้ติดทนได้ดีทั้งวัน จากนั้นใช้ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นเขียนทับลงไป โดยระบายไล่นำหนัก จากหางคิ้วไปหัวคิ้ว เข้มไปอ่อน และให้หัวคิ้วหนากว่าหางคิ้ว (เลือกใช้ยี่ห้อที่เราถนัด ปุ้ยใช้ (7)  สีเข้มสุดตรงหางคิ้ว ส่วนหัวคิ้วปุ้ยใช้สีอ่อนสุด แต่ถ้าใครไม่ชอบคิ้วเค้มลองใช้ (8) ดูค่ะ) สุดท้ายใครที่อยากเน้นเส้นขนให้ชัดเหมือนกะรัตก็ใช้มาสคาร่าคิ้ว ปัดขนคิ้วในแนวตั้งขึ้นด้านบน แนะนำให้ใช้มาสคาร่าคิ้วแบบใสๆ ค่ะ จะเซ็ทขนคิ้วได้ดี ในรูปปุ้ยพลาดใช้แบบมีสีเลยไม่ค่อยเหมือนกะรัตเท่าไหร่นัก STEP 04 EYESHADOW BASE ขั้นตอนของอายชาโดวเบส ถือว่าสำคัญไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยให้อายชาโดวติดทนทั้งวัน รวมทั้งยังป้องกันปัญหาอายชาโดวและอายไลเนอร์ร่วงลงมาใต้ตา กลายเป็นหมีแพนด้าระหว่างวันได้ด้วยค่ะ How-to: เริ่มด้วยการทาอายชาโดวเบส (9) แต้มเนื้อเบสลงที่เปลือกตาบน แล้วใช้นิ้วค่อยๆ กดให้กระจายทั่วเปลือกตา (หลีกเลี่ยงการปาดไปมา เพราะทำให้เป็นคราบ) แต้มเบสที่เปลือกตาล่าง 3 จุด หัว กลาง และหางตา แล้วใช้นิ้วนางค่อยๆ แตะๆ กดๆ ให้กระจายไปทั่วเปลือกตาล่าง เลือกอายชาโดวสีพื้นเกลี่ยให้ทั่วเปลือกตาทั้งบนและล่างเลยค่ะ สำหรับอายชาโดวสีพื้นในลุคนี้ปุ้ยใช้ (10) ผสมกับสีอ่อนใน (11) ซึ่งอายชาโดวสีพื้นสามารถเลือกได้ตามสไตล์ของตนเอง ถ้าชอบลุคหวานๆ ก็เลือกโทนอมชมพู ถ้าชอบลุคที่ดูเป็นหวานๆ เป็นผู้ใหญ่ก็เลือกสีม่วงพลัม ถ้าชอบลุคที่ดูเก๋ๆ ก็โทนสีฟ้าเทาหรือเขียวเทา แต่ถ้าชอบลุคเปรี้ยวๆ สามารถใช้โทนสีส้มได้ค่ะ เคล็ดลับสำคัญที่หลายคนมักจะมองข้าม คือ การทาอายชาโดวเบสและอายชาโดวสีพื้นที่เปลือกตาล่างด้วย เทคนิคนี้จะช่วยป้องกันปัญหาแพนด้าอย่างดีเลยหละค่ะ STEP 05 MIDIUM EYESHADOW เลือกสีน้ำตาลเข้มระดับกลางมาสร้างมิติเงาให้เบ้าตา ปุ้ยเลือกสีกลางจากสีด้านซ้ายใน (12) How-to: โดยใช้แปรงสำหรับเบลนด์สีรูปโดม (ถ้าไม่มีใช้นิ้วนางของเราแทนได้) แตะอายชาโดวนิดเดียว มาเบลนด์สีเบาๆ ค่อยๆ ไ่น้ำหนักจากบริเวณหางตาไล่เข้ามาด้านในประมาณ 30%  และสูงประมาณ 50% ของเปลือกตา STEP 06 DARK EYESHADOW เลือกสีน้ำตาลเข้มมากขึ้นกว่าขั้นตอนที่แล้วอีก 2 ระดับ มาสร้างมิติเงาบริเวณหางตา ปุ้ยเลือกสีเข้มจากสีด้านขวาใน (12) How-to:โดยใช้แปรงหัวเล็กลง ปุ้ยใช้แปรงรูปโดมที่หัวเล็กลงมาอีก (ถ้าไม่มีใช้นิ้วนางของเราแทนได้) แตะสีอายชาโดวมาเล็กน้อย แล้วเบลนด์สี ไล่น้ำหนักจากบริเวณหางตาไล่เข้ามาด้านในประมาณ 10%  และสูงประมาณ 20% ของเปลือกตา ใช้แปรงหัวแบนๆ แตะสีน้ำตาลเข้ม มาสร้างมิติเงาชิดเส้นขอบตาบน และบริเวณหางตาด้านล่าง ใช้แปรงหัวแบนๆ แตะสีน้ำตาลเข้ม มาสร้างมิติเงาชิดเส้นขอบตาบน How-to:ใช้แปรงหัวเล็กๆ แบนๆ (ถ้าไม่มีใช้คอตต้อลบัดได้) แตะสีอายชาโดวมาเล็กน้อย แล้ว เบลนด์สีไล่จากหางตาเข้ามา เป็นแนวเส้นจางๆ จนถึงปลายตาดำ ความหนาของเส้นประมาณ  2-3 มม. STEP 07 EYELINER อายไลเนอร์ในลุคนี้ เน้นเส้นบางคม และหางไม่ยาวมากค่ะ How-to:  ใช้อายไลเนอร์ชนิดปากกา (13) วาดเส้นได้ง่าย ให้เส้นที่คมชัด เราจะลากเส้นบางๆ ไม่ต้องหนา ลากให้ชิดแนวขอบตา เริ่มจากหัวตาจรดที่ปลายหางตา จากนั้นต่อความยาวเส้น ให้เลยหางตาออกมา 0.5 ซม ไม่ตวัดสูง เอาแค่ลากต่อออกมาตรงๆ แบบนี้จะให้ลุคที่ดูหวาน แต่มีเสน่ห์ ดูไม่จงใจจนเกินไปนัก ใช้เจลไนเนอร์ เนื้อนุ่มๆ (14) สำหรับขอบตาด้านใน ใช้แปรงแตะเนื้อเจล แล้วปาดกับขอบขวดให้ขนแปรงเรียบ จากนั้นค่อยวาดถมเส้นใต้ฐานขนตาให้เต็ม เพื่อให้ลุคที่ดูสมบูรณ์แบบ STEP 08 EYELASHES กิมมิกของลุคนี้อยู่ขนตา ซึ่งจะทำให้ดวงตาสีเอิร์ธโทนดูน่าสนใจขึ้นอีกหลายเท่าตัว  How-to:  ดัดขนตาและปัดมาสคาร่าก่อน เพื่อไม่ให้ขนตาจริงกับขนตาปลอมแยกชั้นกัน เลือกขนตาที่เป็นช่อห่างๆ กันติดทั้งด้านบนและล่าง โดยด้านบนปุ้ยเลือกใช้ขนตา 2 ชิ้น ติดผสมกัน ชิ้นแรกลงไปก่อน คือ (15) เป็นขนตาที่มีช่อจังหวะชัดเจน ติดขนตาบนอีกชิ้นทับลงไป (16) เป็นขนตาที่มีช่อเส้นบางๆ เรียงสลับจังหวะดูเป็นธรรมชาติ พอติดทับลงไป จะช่วยทำให้เห็นเส้นขนตาชัดเจน แต่เพิ่มความนุ่มนวล ดูหวานขึ้น ส่วนขนตาล่างนั้น ปุ้ยเลือก (17) เป็นขนตาล่างแบบช่อเล็กๆ ที่ช่อห่างๆ กัน เทคนิคการติดขนตาล่าง ตัดแบ่งครึ่ง แล้วค่อยนำมา วางต่อกันใต้แนวขนตาล่างของเรา ช่วยให้รู้สึกไม่ตึงๆ บริเวณใต้ตา STEP 09 HIGHLIGHT การไฮไลท์ เพิ่มความสดใส ให้ใบหน้าดูโดดเด่น เลือกไฮไลท์เนื้อละเอียดสีสว่างกว่าสีผิว (19) ใช้แปรงปัดแป้งขนาดเล็กให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่จะปัด How-to: ปัดไฮไลท์ลงบริเวณ ทีโซน ใต้ดวงตา ร่องแก้มและคาง​ (ที่ทำมาร์คไว้ในรูปค่ะ) STEP 10 CONTOUR+SHADING คอนทัวร์และเฉดดิ้ง สร้างโครงเงา และมิติ ช่วยให้้ใบหน้าคมชัด และปรับรูปหน้าให้ดูกระชับขึ้น How-to: เลือกเฉดดิ้งสีเข้มกว่าสีผิว ซัก 2-3 ระดับ (20 หรือ 21) ใช้แปรงขนสัตว์ที่มีความหยาบ ขนาดตามพื้นที่ที่ปัด พื้นที่บริเวณขอบหน้า ให้ปัดจากขอบเข้ามาด้านใน ปัดไลน้ำหนักบริเวณกรอบหน้า ขมับและใต้โหนกแก้ม ส่วนบริเวณปีกจมูกนั้น แตะเฉดดิ้งครั้งเดียว ปัดไล่น้ำหนักจากปีกจมูกขึ้นไปยังสันจมูก​ เทคนิคคือ ค่อยๆ ปัดสีทีละนิด แล้วเพิ่มให้เข้มขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะพอใจ ไม่ควรปัดลงไปทีเดียวให้เข้มเลย STEP 11 CHEEKS & LIPS สีสันของลุคนี้ อยู่ที่แก้มกับเรียวปากค่ะ  ปุ้ยเลือกโทนสีส้ม ให้ลุคหวาน สดใส มีเสน่ห์ “ เลือกโทนสี ของแก้มและปาก ให้แม็ทกัน แก้มปุ้ยใช้ (22) แล้วปัดทับด้านบนด้วย (23) ให้ดูกลมกลืนและหวานขึ้น ส่วนเรียวปากเลือกลิปสติกเนื้อแม็ท ให้ลุคดูเป็นผู้ใหญ่ และช่วยให้ติดทนตลอดทั้งวัน ปุ้ยใช้ สีส้ม (24) แล้วทับตรงกลางด้วย (25) ที่สีสดส้มกว่า” แต่ถ้าใครอยากได้ลุคโทนชมพูของกระรัตก็แนะนำแก้มสี LAURA MERCIER [ Rose Petal ] หรือ M.A.C [ Dainty ] ส่วนลิปสติกแนะนำ BOBBI BROWN Creamy Matte Lip [ 4 True Pink ] How-to:  ปัดแก้มบริเวณเหนือพวงแก้ม เน้นให้สูงกว่าลุคทั่วไปนิดนึง เป็นกิมมิกของลุคนี้​ ทำให้ดูหวานๆ ซึ้งๆ ส่วนเรียวปาก ก็ลิปสติกเนื้อแม็ท ใช้นิ้มแตะเนื้อลิปสติกแล้วมาแตะๆ เกลี่ยให้ทั่วปาก เทคนิคนี้จะให้สี แต่ไม่เก็บเนื้อลิปสติกส่วนเกินไว้ที่ริมฝีปาก จึงทำให้ไม่หลุดเวลารับประทานเครื่องดื่มหรืออาหาร ช่วยให้ติดทนตลอดทั้งวัน เพียงเท่านี้ก็เสร็จแล้วค่ะสำหรับลุค “สาวออฟฟิศ” ไปพบลูกค้าตอนเที่ยงแดดเปรี้ยงๆ เรามาดู Finishing Look กันค่ะ หวังว่าฮาวทูลุคนี้จะมีประโยชน์สำหรับสาวๆ ที่กำลังหาลุคสำหรับสวยท้าแดด ไม่กลัวฝนในฤดูกาลนี้กันนะคะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้สนับสนุน ลุคนี้จาก  NIVEA SUN WHITENING PERFECT PROTECT MILK GLOW SERUM SPF 50 ค่ะ สำหรับกิจกรรม “25 Looks สวยเวิร์คไม่แคร์แดด” ใครสนใจสามารถร่วมสนุก กดไลค์ พร้อมแชร์ลุคนี้ของปุ้ย ก็มีสิทธิ์ได้รับผลิตภัณฑ์ NIVEA Sun Perfect Protect ไปลองใช้กันฟรี ส่วนคนที่ร่วมส่งรูปอวดลุคของคุณตามโจทย์ประจำสัปดาห์ ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับ Central Gift Card มูลค่า 5,000 บาท ไปช้อปอัพลุคกันอีกด้วยนะคะ Product List 1) NIVEA SUN WHITENING PERFEcT PROTEcT MILK GLOW SERUM SPF 50 2) LUNASOL Skin Modeling Water Cream Foundation [OC02, OC03] 3) Sisley Phyto Cernes Éclat eye concealer [1] 4) RMK Super Basic Liquid Concealer [01] 5) CHANEL NATURAL FINISH LOOSE POWDER/ POUDRE UNIVERSELLE LIBRE [30 Neturel] 6) CLINIQUE Super Fine Liner for Brows [Soft Brown] 7) Anastasia Brow Powder Duo [Brunette, Gloden Blonde] 8) CANMAKE MIX EYEBROW [01] 9) NARS Smudge Proof Eyeshadow Base 10) NARS SINGLE EYESHADOW [ EDIE ] 11) NARS DUO EYESHADOW [ ALHAMBRA ] 12) NARS DUO EYESHADOW [ CORDURA ] 13) Coffret D'or Black Keep Liner WP 14) BOBBI BROWN Gel Eyeliner [Black Ink] 15) Mei Linda Fashion Lashes [ BK - 316 ] 16) LASO Fashion Lashes [ BK - 306 ] 17) Mei Linda Fashion Lashes [ 5471 ] 18)  ARTY PROFESSIONAL EYE PUTTI 19) Chanel - Poudre Douce Soft Pressed Powder No. 30 Rosee 20) The Face Shop Lovely Me:ex You and Face Blusher #10 Sandy Brown 21) LUNASOL SHADING CHEEKS [ 01 NATURAL BEIGE ] 22) LUNASOL COLORING CHEEKS [ 07 LIGHT CORAL ] 23) LUNASOL COLORING CHEEKS [ EX01 Sheer Gold Beige Pink ] 24) BOBBI BROWN Creamy Matte Lip Color [ 7 Pale Peach ] 25) M.A.C Sheen Supreme Lipstick [ SHEER MANDARIN ]

บล็อกนี้ ปุ้ยรวบรวมคำถามที่ สาวๆ มักจะมาถามกันบ่อยๆ ที่เพจ มาตอบเป็นประเด็นๆ และแนะนำไอเท็มที่ช่วยแก้ปัญหาได้ค่ะ หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ต่อสาวๆ นะคะ "ช่วยแนะนำรองพื้นที่ควบคุมความมันหน่อยค่ะ" ตอบ: จากประสบการณ์ยังไม่เคยเจอรองพื้นที่ช่วยควบคุมความมันได้ แม้จะเป็นรองพื้นชนิดแป้งก็ตาม อย่างดีที่สุด ก็ไม่ทำให้ผิวมันเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีทำให้ผิวมันน้อยลง แต่ถ้าใครเจอก็ช่วยแนะนำมานะคะ "หน้ามันเยิ้ม จะทำอย่างไรดีคะ" ตอบ: แนะนำให้ใช้เซรั่มของ SKIN THEORY ที่มีผลสามารถควบคุมความมันได้ค่ะ ควบคุมความมันได้ประมาณ 90 - 95%  ทาก่อนลงครีมกันแดด เฉพาะบริเวณที่ผิวมัน หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตานะคะ เพราะว่า มันจะทำให้ตาแห้งค่ะ ส่วนเมกอัพเบสที่ควบคุมความมัน มี MAC Prep + Prime Skin Base Visage ค่ะ  แต่ว่าอย่าใช้เยอะ เดี๋ยวจะทำให้รองพื้นเป็นคราบค่ะ ตัวนี้ควบคุมความมันได้ประมาณ 60 - 70%  แนะนำให้ใช้แป้งควมคุมความมัน ง่ายและดีกว่าการใช้เมกอัพเบส ซึ่งแนะนำ แป้งฝุ่นโปรงแสง Clinique Derma White Brightening Loose Powder ควบคุมความมันได้ประมาณ 80 - 90% ปุ้ยถือว่าตัวนี้เป็นสุดยอดแป้งฝุ่นควบคุมความมันเลย แป้งเนื้อละเอียดมาก เวลาทาลงที่ผิวจะรู้สึกเย็นๆ นิดๆ  ถ้า ใช้เสร็จแล้วต้องปิดฝากระปุกให้สนิท เพื่อยืดอายุการใช้งานนะคะ ไม่อย่างนั้นแล้วอนุของแป้งที่เป็นแค็ปซูลเก็บกับความเย็นจะเสื่อมสภาพ อีกตัวนึงที่แนะนำ คือ MAC Prep + Prime Transparent Finishing Powder ตัวนี้ก็คุมมันได้ดีในระดับนึงเลยค่ะ ใช้เป็น Finishing ช่วยเบลอรูขุมขนด้วยค่ะ ส่วนตัว Touch up กรณีที่อะไรก็เอาไม่อยู่ แนะนำ Smashbox Anti-Shine ควบคุมความมัน ได้ประมาณ 80 - 95% เวลาใช้ต้องใช้นิ้วนวดเนื้อครีมให้แตกตัวเป็นน้ำก่อน แล้วใช้วิธีตกๆ ลงที่ผิว ทำให้ผิวหน้าบริเวณนั้น ถึงกับแห้งเป็นเนื้อแม็ทไปเลย ข้อควรระวังต้องใช้ปริมาณที่น้อยมากๆ แค่ทำให้นิ้วมือชุ่มไม่ถึงกับเปียก แล้วตบเบาๆ ลงที่ผิว ไม่ควรปาดเพราะว่าทุกอย่างบนผิวจะกลายเป็นคราบๆ หลีกเลี่ยงการใช้เป็นสเต็บก่อนลงรองพื้นด้วย เพราะทำให้ผิวแห้งเป็นคราบ แนะนำให้ใช้ทรัชอัพเท่านั้นค่ะ ทั้งหมดที่แนะนำควรเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่เกิน 2 อย่างก็พอนะคะ  "ผิวหน้าแห้งลอกเป็นขุย มีอะไรช่วยได้" ตอบ: ปัญหาผิวแห้งเป็นขุย ลอกเป็นแผ่น ไม่ว่าเป็นคนผิวแห้งอยู่แล้ว หรือเพราะ เป็นจากการทายาแก้สิว หรือผิวขาดการบำรุง ก็ทำให้ประสบปัญหาทำให้รองพื้นไม่ติดหน้า จับตัวแห้งลอกเป็นคราบ แนะนำให้หาเซรั่มเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวมาลองทาค่ะ Skin Serum จาก Make Up Store ค่ะ  ตัว นี้เป็นตัวบำรุง เป็นเนื้อเจลที่มีความนุ่มและ ใช้ความชุ่มชื้นกับผิวมากๆ ทาแล้วผิวจะนุ่มๆ ลื่นๆ ทำให้เวลาลงรองพื้นและแป้งแล้วจะไม่เกิดขุยๆ หรือเป็นคราบ   "มีปัญหารองพื้นไม่ติดหน้าลอยออกมาเป็นคราบ" ตอบ: ปัญหาพวกนี้มักเกิดจากการที่เราขาดการดูแลผิวเป็นเวลานาน ทำให้ผิวดื้อรั้นไม่รับไม่เอาอะไรทั้งสิ้น วิธีแก้แบบเร่งด่วน คือ ก่อนรับปริญญา 1 สัปดาห์ให้สครับผิว แล้วมาส์กหน้าทุกวัน ควรใช้มาส์กที่ให้ความชุ่มชื้น หลีกเลี่ยงมาส์กที่ทำให้ผิวขาวหรือมีส่วนผสมของกรดผลไม้และวิตมินซี เพราะยิ่งทำให้ผิวแห้ง หลีก เลี่ยงการใช้สครับในคืนก่อนจะแต่งหน้า หรือ 2 วันก่อนแต่งหน้า เพราะจะทำให้ผิวแห้งมากค่ะ และการใช้เมกอัพเบสช่วยให้รองพื้นติดทนได้ดีขึ้น หรือใช้ Skin Serum จาก Make Up Store ก็ช่วยได้ค่ะ (แต่ให้ทาเฉพาะบริเวณที่มีปัญหาเท่านั้น หลีกเลี้ยงบริเวณที่ผิวมัน) "บริเวณใต้ตาคล้ำมาก เหมือนโดนของ" ตอบ: RMK Concealer ช่วยคุณได้ค่ะ เป็นคอนซีลเลอร์ขั้นเทพปกปิดได้ทุกอย่าง ควรหามาไว้ในครอบครองซักอัน แนะนำให้หาสีที่พอดีกับผิว แล้วซื้อแบบที่เป็น Refill เพราะตลับจริงแพงมาและแป้งในตลับไม่ค่อยได้ช่วยอะไรมากเท่ากับราคาที่เสีย (ตังค์) ไป อีกอย่างที่ช่วยให้หน้าหมองๆ ดูสดใสขึ้นได้ คือ เทคนิคการไฮไลท์ค่ะ "ตกบ่ายตากลายเป็นหมีแพนด้า เพราะอายไลเนอร์เจ้าปัญหา" ตอบ: ปัญหานี้จะหมดไป ถ้าหาก 1) งดใช้อายครีมในตอนเช้า เพราะอายครีมทำให้ผิวหนังใต้ตาผลิตน้ำมันออกมาตอนบ่าย 2) ทาอายชาโดวที่เปลือกตาล่างด้วย เพราะอายชาโดวเป็นเนื้อแป้งจะช่วยเซ็ทความมันบนผิวใต้ตาได้ค่ะ 3) เลือกอายไลเนอร์ที่ติดทน แนะนำ Maybelline Master Liner เป็นดินสอหมุนๆ ได้ค่ะ ส่วนพวกเจลไลเนอร์แนะนำของ Bobbibrown และดินสอกับเจลของ Clinique ก็โอเคค่ะ "ขนตาชอบหลุด อายมากๆ เลยค่ะ" ตอบ: ปัญหานี้แก้ที่กาวติดขนตาค่ะ หลีกเลี่ยงการใช้กาวที่แถมมากับขนตานะคะ มันไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ค่ะ ปุ้ยมี 2 ยี่ห้อที่แนะนำ คือ Arty กับ LashGrip Arty ซึ้อได้ที่เคาเตอร์ หรือตามร้านขายเครื่องสำอาง หาซื้อไม่ยากค่ะ ส่วน เคาเตอร์ LashGrip อยู่ที่ Paragon Beauty Hall ชั้น M แถวๆ ที่ขายถุงน่องกับน้ำหอมค่ะ

ถ้ามีคำถาม ข้อสงสัยหรือคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถไปถามได้ที่ Facebook นะคะ เพราะว่าเข้าเชคตลอดเวลาค่ะ