2เท้าจะก้าวไปเดินทอดน่องย่องภูกระดึง .. ตอนที่2 เที่ยวทุ่งชมผาหมากดูก
หลังจากลุ้นระทึกเหตุการณ์เผชิญหน้าช้างป่าจนหน้าตาตื่นและมายืนเป็นหนึ่งในผู้พิชิตภูกระดึงบนหลังแปสำเร็จ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
ตอนที่1 จากตีนภู สู่หลังแป
บล็อกตอนที่แล้วรีวิวเส้นทางเดินขึ้นภูกันอย่างยาวเหยียดจึงขอขยายความการเดินทางวันแรกต่อในบล็อกตอนที่2นี้ ดังนั้นบล็อกตอนนี้จะไม่ยาวยืดย้วยเหมือนตอนแรกนะ จากที่ราบยอดภู ณ หลังแป การเดินทางต่อไปเป็นอย่างไร บ่ายสาม แดดอ่อนลมโกรก อากาศบนความสูงหนึ่งพันสองร้อยกว่ากำลังเย็นสบาย เสียงสายลมรีดผ่านร่องลูกสนเกิดเสียงดังดึงดึงระรื่นหูยิ่งนัก นี่แหละๆ เสน่ห์ภูกระดึง ระยะทางจากนี้ไปสู่เป้าหมายปลายทางศูนย์บริการฯวังกวางยังอยู่อีก 3.5กิโลเมตร มีจักรยานให้เช่าปั่นอ้อมไปทางผาหมากดูกระยะทาง 4.2กิโล เราเลือกเดินเท้าเพราะไม่ถนัดปั่น เอาล่ะ เดินทางกันต่อ โย่ว
ออกเดินมาได้สักครึ่งกิโลก็มีรถคันหนึ่งสวนทางมา ป๊าดดด นั่นนั่น ลูกหาบของเรานั่งอยู่บนรถ! คงรอเราจนสุดจะทนแล้ว ด้วยเหตุว่าอุตส่าห์กำชับนักหนาให้เรารีบขึ้นมาเพราะพี่เค้าอยากจะรีบลงไปหาครอบครัว คือว่าลูกหาบเมื่อหาบสัมภาระให้นักท่องเที่ยวแล้วจะต้องอยู่รอพบนักท่องเที่ยวเพื่อยืนยันแท็กป้ายให้ตรงกันและชำระเงินกันที่ศูนย์ฯวังกวาง เอาล่ะเจอกันแล้วขอชำระเงินกันตรงข้างรถนี้แล้วกัน อิอิ ตังค์ทอนไม่มีไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องทอน ถือเป็นค่าเสียเวลาคอย แล้วเราก็โบกมือบ๋ายบายพี่ลูกหาบ พร้อมสำทับไปให้ระวังช้างป่าด้วย เพราะนั่นล่ะหนึ่งในสาเหตุที่พวกเราขึ้นมาช้า พี่แกก็ใจดีสีหน้าไม่มีหงุดหงิดเลยนะครับ ซึ้ง
คราวนี้ก็เดินชิลชิลกันได้แล้ว ไม่มีลูกหาบมากดดัน ฮี่ แต่ว่าเดินไปๆ ชักจะยังไงแฮะ ทางโล่งตรงแหน่ว แดดแจ๋ลมสงบ เดินๆไปชักเพลีย และก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเส้นทางจักรยานมันต้องปั่นอ้อมไปทางผาหมากดูกซึ่งไกลกว่าทางนี้ราว 700เมตร เพราะว่าเส้นทางนี้มันพื้นทรายหนามากหลายช่วง ปั่นไม่ออกแน่ เราเริ่มหมดแรงเดิน มองเห็นน้องๆสามคนเดินตัวปลิวอยู่ข้างหน้า เอ่อ คุณน้องๆ! ตะกี้เราออกสตาร์ทก่อนนี่นา ทำไมน้องแซงไปไกลจังแว้
เดินโอ้เอ้โต๋เต๋ไปถึงเมื่อไหร่ก็ช่างดีกว่าเน้อะ อยู่ไม่อยู่ก็มีเสียงรถแว่วมาจากด้านหลัง หันไปมอง เฮ้ย!!! นั่นรถคันที่ไปส่งลูกหาบกำลังย้อนกลับมา ขอโบกซะเลย แหม่ รถจอดเลยพื้นทรายหนาไปหน่อยให้เราออกแรงวิ่งนิดๆ เหลือที่นั่งว่าง 3 ที่พอดีคนเลย โฮะๆ นั่งโขยกเขยกไปหน่อยเดียวแซงน้อง 3 คนฉิว นั่งตัวปลิวกระเด้งๆ แป๊บเดียวก็มาถึงยังจุดหมายจนได้ ในเวลา 4โมงสิบนาที รวมเวลาตั้งแต่เริ่มเดินจากตีนภูเมื่อตอนเก้าโมง ทั้งหมดก็ใช้เวลาไปเบาะๆ 7ชั่วโมงเต็มเก่งจริงวุ้ยศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หน่วยพิทักษ์ฯที่ลย.1 วังกวางพิกัด N16.88714 E101.787876
ตรงเข้ามาศูนย์ฯ มายื่นใบเสร็จค่าที่พัก แล้วก็ขอเช่าเครื่องนอน จนท.แนะนำว่าถุงนอนอุ่นกว่าผ้าห่มนะ ผมเลยเลือกถุงนอนทั้งที่ตอนแรกเล็งว่าจะเช่าเป็นผ้าห่มใหญ่
ราคาเครื่องนอนต่างๆ ถุงนอน 30บาท/คืน แผ่นรองนอน 20บาท/คืน หมอน 10บาท/คืน ผ้าห่มใหญ่ 50บาท/คืน ผ้าห่มเล็ก 30บาท/คืน
ชำระเงินล่วงหน้ามอบบัตรปปช.ไว้มารับคืนขากลับ แล้วผมก็ลืมบัตรไว้บนภูกระดึงนี้แหละในวันกลับ นึกได้อีตอนเดินถึงตีนภูแล้ว แต่ว่าคืนเครื่องนอนครบเน้
เสร็จสรรพก็เดินตัวปลิวมาอาคารลูกหาบ เจอตราชั่งกับเป้ ไม่ต้องมองหาให้เมื่อยเหลืออยู่ชุดสุดท้ายเป็นของใครไปไม่ได้นอกจากของพวกเรานั่นเอง อิอิ เครื่องนอนต่างๆก็รับกันได้ที่นี่ที่เดียวกัน อีทีนี้ล่ะครับรับเครื่องนอนครบก็เป็นไอ้บ้าหอบฟางหอบกันพะรุงพะรังเลย เดินหาทำเลนอนเต้นท์กันต่อไป
เต้นท์กางเป็นโซนมากมาย โซนละประมาณ 100หลัง! เราเลือกโซนโดยสำรวจหาทำเลที่หลบแดดเช้าเผื่อพรุ่งนี้ตื่นสาย จนท.บอกว่าหลังไหนเปิดอยู่แปลว่าว่าง ปรากฏว่าว่างเพียบ ก็นี่ภูกระดึงในวันธรรมดาๆ นี่นา ได้แล้วๆ เต้นท์หลังนี้ ขอบอกว่าเห็นแบบนี้ไม่เล็กนะ ผมเดินเข้าไปยืนตัวตรงหัวชนเพดานพอดี นอนคนเดียวกลิ้งได้ซำบายหล่ะ ส่วนน้องๆก็เลือกเต้นท์ตรงข้าม เรียกว่าไหนๆแล้วขออยู่ละแวกเดียวกันไปเลยจะได้เป็นหูเป็นตาดูแลกันได้ เห็นรองเท้าหูหนีบขาดๆอยู่หน้าเต้นท์ ปล่อยไว้งี้แหละจะได้เป็นจุดสังเกตเพราะเต้นท์มันเหมือนกันไปหมด
เที่ยวทุ่งชมผา ไปดูดวงตะวันลับฟ้าที่ผาหมากดูกขอประเดิมโปรแกรมเที่ยววันแรกก่อนค่ำ ตอนนี้ห้าโมงเย็นกิจกรรมที่เหมาะคือไปดูดวงอาทิตย์ตก จีพีเอสให้ข้อมูลว่า sun จะ set 18:13น. อีกหนึ่งชั่วโมงสินะ ทันแหละ ผาหมากดูกคือจุดชมตะวันตกดินที่ใกล้ที่สุดและยอดฮิตติดอันดับอยู่ห่างจากศูนย์ฯวังกวางไปทางทิศใต้ห่างไปประมาณ 2,100เมตร เดินทางราบๆ น่าจะใช้เวลาสักครึ่งชม.ถึง งั้นไปกันเลย เตรียมไฟฉายเสื้อหนาวกันเรียบร้อย มีป้ายบอกทางชัดเจน ทางกว้างขวางพื้นเป็นพื้นดินปนทรายเดินนุ่มๆ เป็นทางหลักสำหรับปั่นจักรยานด้วย บรรยากาศฟินฟิน จะเดินทอดน่องก็เหมาะ จะปั่นจักรยานชมวิวก็เหมาะ แต่อาจจะปั่นล้อฟรีไม่ค่อยได้อาจจะต้องออกแรงนิดๆ ดีไม่ดีน่องโป่ง
นั่น มีจักรยานปั่นมาคันนึง พอเห็นเข้าก็อิจฉาอยากปั่นมั่ง เพราะว่าแข้งขาเริ่มล้าเดินมาทั้งวัน ดีแต่ว่ากล้ามเนื้อเริ่มอยู่ตัว และซัดยาคลายกล้ามเนื้อแก้ปวดไปสองขนานแล้วที่เต้นท์ ทั้ง Gofen ทั้ง Mydocalm ขอบคุณ sleeping prince ที่ให้คำแนะนำมานะที่นี้ :)
ครึ่งชั่วโมงตามคาดเราก็มาถึง สังเกตเห็นขอบหน้าผาแล้วครับอันเป็นสัญญาณว่าทางเดินเจียนจรดขอบภูกระดึงด้านทิศใต้ ตลอดด้านทิศใต้ของภูกระดึงนี้จะเป็นแนวหน้าผาสูงชันทั้งสิ้นเป็นเส้นทางชมธรรมชาติที่สวยงามตลอดทางเริ่มจากผาแรกคือผาหมากดูกนี้เลียบผาไปเรื่อยๆจะผ่านผาจำศีล ผานาน้อย ผาเหยียบเมฆ ผาแดง กระทั่งผาหล่มสักที่สวยงามมีชื่อเสียงที่สุดดังไกลไปถึงต่างแดน สำหรับวันนี้เราขอมาให้ถึงแค่ผาหมากดูกนี้ก่อน
ตะวันโย้มาโน่นแล้ว มีเวลาราว 30-40นาทีก่อนที่จะลับขอบฟ้า และช่วงเวลาท้องฟ้าเปลี่ยนสีสันที่ 15-25นาทีหลังจากนั้น บริเวณผาหมากดูกมีร้านค้าร้านอาหารประมาณสี่ถึงห้าร้านใครหิวก็นั่งโซ้ยได้เลยสนนราคาไม่แพง ร้านตรงนี้ปิดดึกเพราะจะคอยนักท่องเที่ยวที่กลับจากดูดวงอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสักซึ่งระหว่างเดินกลับทางบังคับให้ต้องมาผ่านผาหมากดูก ซึ่งส่วนใหญ่จะเดินมาถึงราวๆ สองถึงสามทุ่ม
อ้าว น้องที่เดินแซงเราที่หลังแปก็มานั่งฟินๆชมแสงสุดท้ายอยู่ที่นี่ด้วย ที่ขอบหน้าผามองไปตรงหน้าเห็นผาจำศีลอยู่ในระยะสายตา ถัดไกลออกไปน่าจะเป็นผานาน้อยหรือผาเหยียบเมฆไม่แน่ใจ ที่แน่ๆมองไม่เห็นผาหล่มสักหรอกเพราะว่าอยู่ไกลออกไปตั้ง 7กิโลเมตร ตอนนี้ได้เวลานายน้ำฟ้าเดินแบกขาหามุมตั้งกล้องก่อนนะครับ
มาชมวิว sunset ณ ผาหมากดูกกันครับ บรรยากาศห่อหุ้มตอนนี้ก็ลมเบาๆเย็นลงเรื่อยๆ อีกสักประเดี๋ยวตอนเดินกลับคงต้องงัดเสื้อกันหนาว ถุงมือ ออกมาใส่กันแล้ว ขาตั้งกล้องเริ่มเย็นเฉียบ ภูกระดึงในวันธรรมดาคนน้อยดี ใครขี้เหงาอกหักไม่แนะนำให้มาเดินคนเดียวนะครับเดี๋ยวจะทำใจไม่ได้วางแผนกระโดดหน้าผามีหวังได้เปลี่ยนชื่อหน้าผา ฮา
6โมงครึ่ง ย่ำค่ำ สิ้นสุดรายการเที่ยวสำหรับวันแรกด้วยความอ่อนล้านิดๆ เราเดินฝ่าความหนาว น่าจะสิบหกสิบเจ็ดองศากลับทางเดิม ทางเดินที่คล้ายๆทรายชายหาดบนเกาะเสม็ดสว่างไสวใต้แสงจันทร์วันใกล้ขึ้นสิบห้าค่ำ หิ่งห้อยบินเล่นรอบตัวแต้มสีสันเพิ่มความโรแมนติกดี แต่เวลานี้ขาจะยกไม่ขึ้นแล้วสืบเนื่องจากเราข้ามมื้อเที่ยงที่ซำแคร่ไปด้วย หิวโฮกแล้วล่ะทีตะกี้อยู่ริมผามีร้านก็ไม่ยักจะหิวนะ ทั้งเมื่อยทั้งหิว แผนการสุดท้ายของวันขอจบลงด้วยการพาตัวเองกลับเต้นท์แล้วอาบน้ำให้สดชื่นเปลี่ยนชุดสบายๆแล้วเดินไปหาร้านน่านั่งสักร้านรับประทานมื้อค่ำ (พร้อมกับออนเฟสบุ๊ค อิอิ แหม่ สัญญาณบนภูนี้ AIS 3Gเพียบ ค่ายอื่นไม่รู้ ) ว่าแต่ว่าอ่านป้ายระยะทางกลับเห็นตัวเลข 2กิโลเมตรกว่าแล้วรู้สึกจะเป็นลมยังไงก็ไม่รู้ อ่ะ สู้สู้วุ้ยกระซิบบอกตัวเอง
จบตอนที่ 2 โปรดติดตามตอนต่อไปเร็วๆนี้จ้า
ลิงค์ตอน 3 เ อื่ อ ย เ ฉื่ อ ย
Create Date : 06 มีนาคม 2557 |
Last Update : 13 มีนาคม 2557 5:14:04 น. |
|
110 comments
|
Counter : 8204 Pageviews. |
|
|