ทริปดงนาทาม - สามพันโบก ตอนที่ 1 ... ตระการตาดงนาทาม
กู้ดมอร์นิ่งไทยแลนด์ อรุณรุ่ง ณ ผาแต้ม อุทยานแห่งชาติเส้นแวงตะวันออกสุดเขตแดนสยาม
"วันนี้นายน้ำฟ้ามีโอกาสมาสัมผัสบางส่วนเสี้ยวของอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 74 ของไทยผาแต้มอ.โขงเจียม, อ.ศรีเมืองใหม่, อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานีขณะนี้ผมกำลังยืนอยู่ที่บริเวณหน้าผาที่ชื่อว่าผาแต้ม N15.397666 E105.509163 alt.>200m. ชื่อเดียวกับชื่ออุทยานฯ เราออกเดินทางกันมาจากกรุงเทพเมื่อคืนนี้สองทุ่ม เวลาตอนนี้ 6:14น. กลางเดือนพย. ดวงอาทิตย์ขึ้นมาโน่นแล้วครับดูจากจีพีเอสเค้าโผล่พ้นขอบฟ้ามาตอน 5:57น. ขึ้นมา17นาทีแล้วและวันนี้ ที่นี่ เรากำลังเห็นดวงตะวันก่อนคนที่กรุงเทพถึง 17นาทีเช่นกัน ดวงตะวันขึ้นมาจากขอบฟ้าฝั่งลาว เฉียงไปด้านซ้ายมือของเราซึ่งเป็นทิศตะวันออก ตลอดแนวผาแต้มข้างหน้าเรานี้ทอดตัวแนวออกตกหันหน้าตรงสู่ทิศใต้ ข้างหน้าเราจะเห็นลำน้ำโขงไหลทอดตัวเป็นพรหมแดน ฝั่งข้ามโขงโน่นเป็นแผ่นดินประเทศลาวส่วนที่ยื่นเว้าเข้ามาในโอบล้อมของประเทศไทย ความยาวสักราวสิบห้ากิโล กว้างราวเจ็ดกิโล"
มาดูการเดินทางคร่าวๆ กัน เราเดินทางมาอช.ผาแต้มได้หลายทิศทาง แต่ถ้ามาเริ่มต้นจากตัวจังหวัดอุบลราชธานีล่ะก็ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 217 ขับมุ่งหน้าอ.พิบูลมังสาหาร ต่อเนื่องเข้าทางหลวงหมายเลข 2222 สู่อ.โขงเจียม เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2112 ขับไปสักพักจะเจอป้ายแยกขวาเข้าสู่ผาแต้ม ระยะทางรวมจากตัวจังหวัดทั้งสิ้นราว 76 กิโลเมตร (ส่วนระยะทางจากกทม.-อุบล ประมาณ 600กิโลเมตรจ้ะ)
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ที่เที่ยวเยอะจริงๆ ผาแต้ม ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ เสาเฉลียงผาแต้ม หาดวิจิตรา ผาเมย ผาเจ็ก ดงนาทาม น้ำตกสร้อยสวรรค์ น้ำตกแสงจันทร์(ลงรู) น้ำตกทุ่งนาเมือง เถาวัลย์ยักษ์ น้ำตกห้วยนาเมืองใหญ่ ภูน้ำถ้ำ ผาหินฝน ถ้ำโบกโลง เสาเฉลียงภูจ้อมก้อม หินโยกมหัศจรรย์ ผาแดง พลาญหินถ้ำไฮ เสาเฉลียงคู่ โหง่นแต้ม เนินสนสองใบ น้ำตกชะปัน น้ำตกกิ๊ด ถ้ำปาฏิหารย์ หินเต่าชมจันทร์ น้ำตกห้วยผอก ผาชะนะได แก่งมโนราห์ ผากะปั่น ผาหินแตก ถ้ำฝ่ามือแดง น้ำตกกวางโตน น้ำตกช้อย สวนหินภูกระบอ ภูสมุย ภูโลง เสาเฉลียงใหญ่ เยอะเน้อะ ดังนั้นทริปนี้เราจึงได้แค่สัมผัสเพียงบางส่วนเสี้ยวของอช.แห่งนี้ สีีแดงคือที่ที่เราแวะเที่ยวในครั้งนี้ ส่วนสีขาวนั้น...ฝากไว้ก่อนมีโอกาสจะมาอีก
แผนที่แสดงเส้นทางท่องเที่ยวของทริปนี้
จากผาแต้ม สู่ น้ำตกสร้อยสวรรค์ใต้ผาแต้มที่เรายืนอยู่นี้มีภาพเขียนสียุคก่อนประวัติศาสตร์แต่่ว่าทริปนี้เรามีเป้าหมายอื่นรออยู่ข้างหน้าอีกเยอะ หนึ่งในนั้นคือไปถ่ายทุ่งดอกไม้ที่ดงนาทามในพื้นที่อช.ผาแต้มนี้เอง แต่ก่อนจะถึงดงนาทามขอพามาชมน้ำตกสร้อยสวรรค์ที่อยู่ห่างจากผาแต้มเพียง 21 กิโลเมตร เท่านั้น
ว่ากันว่าที่มาของชื่อสร้อยสวรรค์มาจากการที่น้ำตกนี้เกิดจากสายน้ำ 2 สายไหลตกลงมาบรรจบกันดูเหมือนสายสร้อย ที่เห็นอยู่นี่เป็นสายขวาครับไหลมาตามห้วยสนม ความพิเศษอีกอย่างของสร้อยสวรรค์นี้ก็คือ ลานเหนือน้ำตกไม่ไกลจากนี้มากนักคือทุ่งดอกไม้ หรือที่เรียกว่าดงนาทาม คำว่านาทามมาเป็นภาษาพื้นถิ่นแปลว่านาที่มีน้ำท่วมขังทั้งปี เดี๋ยวเราจะไปกัน ตามมาครับ
คำว่า"ดงนาทาม" ดูเหมือนความหมายของคำนี้จะหมายถึงที่ไหนก็ได้ในแถบนี้ที่เป็นลานหินลานดินกว้างๆมีน้ำท่วมขัง มีดอกไม้ทุ่งขึ้นเต็มไปหมด ตรงหน่วยพิทักษ์ 1 สร้อยสวรรค์นี้ก็มีดงนาทาม แบ่งออกเป็น 6 แปลง แปลงที่พวกเราได้ไปสัมผัสกันคือ 1 กับ 2 ที่เหลือจากนี้คือ 3-6 ดูจากแผนที่แล้วน่าจะเดินไกลอยู่ ที่เส้นทางผาชะนะไดตอนเหนือจากนี่ขึ้นไปก็มีดงนาทามขนาดใหญ่ ขนาดที่เรียกว่าเอาไปตั้งเป็นชื่อหน่วยกันเลยล่ะ นั่นคือหน่วยพิทักษ์ดงนาทาม
ดงนาทาม ณ หน่วยพิทักษ์ฯผาแต้มที่ 1 สร้อยสวรรค์
วะวะว้าว ทุ่งดอกไม้ละลานตา ดุสิตา มณีเทวา สร้อยสุวรรณา ทิพเกสร สรัสจันทร บานสระพรั่งกระจายเต็มทุ่ง
จากน้ำตกสร้อยสววรรค์พวกเราเดินต่อมาอีกไม่ไกลทางเดินสู่ทุ่งดอกไม้ทำไว้อย่างดี ข้ามฝายเล็กๆเหนือห้วยสร้อยมาหน่อย เลี้ยวขวาอีกนิดก็เจอแล้วทุ่งดงนาทาม ดอกไม้เล็กๆหลากชนิดบานสะพรั่งเต็มทุ่งสุดลูกหูลูกตารอต้อนรับการมาเยือนของพวกเรา โอ้เย่ ขอสนุกกับการถ่ายภาพทุ่งดอกไม้ก่อนนะครับ
กระดุมทอง ดุสิตา มณีเทวา
แมลงปอล้อลม บนทะเลดอกไม้ ด ง น า ท า ม
กระดุมทอง ทิพเกสร
แดดช่างเป็นใจ จากร้อนแรงพลันหายเข้ากลีบเมฆ ทำให้ถ่ายเพลินกันไปเลย ระหว่างนี้มาทำความรู้จักชื่อดอกไม้กันหน่อย เจ้าดอกไม้เหล่านี้เค้ามีชื่อเดิมก่อนจะมีชื่อใหม่ไฉไล ดุสิตา มีชื่อแต่เดิมว่าหญ้าข้าวกล่ำน้อย มณีเทวา ชื่อกระดุมเงิน สร้อยสุวรรณาชื่อดอกหญ้าสีทอง ทิพเกสร ชื่อหญ้าสีฝอยเล็ก สรัสจันทร ชื่อแต่เก่าก่อนคือหญ้าหนวดเสือ ยังมีดอกแก้มอ้นสีชมพูคล้ายชบาภาพด้านซ้ายเจ้านี่ไม่ได้มีชื่อใหม่ ลำพังชื่อเดิมก็บานตะไทอยู่แล้วเช่นหงอนไก่อันแดง คืนหน ขี้อ้น โอ้ย เยอะไปไหน
แก้มอ้น
ดอกอะไรเอ่ย! เหลืองๆกลมๆหนามๆ หญ้าดอกขาว ผู้ที่ตอบถูกคือ รัณณา(คห.37 ครับ) อ่ะ ใครเซียนดอกไม้วานบอกหน่อย ที่นำมาให้ทายกันเพราะว่า ฮี่ หาข้อมูลในเนทไม่เจออ่ะ หายังไงก็หาไม่ได้สักที อุตส่าห์โทรกลับไปถามจนท.แถวนั้นแล้วนะก็ยังไม่ได้คำตอบอีก
สร้อยสุวรรณา
ดุสิตา
พวกเราเพลินกับการถ่ายดอกไม้อยู่ชั่วโมงเศษกับแปลงดอกไม้แปลงแรกและแปลงที่สองเท่านั้น ข้างในลึกเข้าไปอีกยังมีแปลงที่สามสี่ห้าหกซึ่งพื้นที่ใหญ่กว่านี้มาก แต่ตัดสินใจไม่เข้าไปเพราะคิดว่าข้างในนั้นคงจะคล้ายๆกับข้างนอกนี้
ลีลาดอกหงอนนาค
แดดเริ่มร้อน ท้องเริ่มร้องเริ่มได้ยินเสียงโคกครากจากท้องของใครบางคน เริ่มมีคนหิวกันบ้างแล้วล่ะ ดูเวลาก็ปาไปสิบเอ็ดโมง เต็มอิ่มพอสมควรกับการถ่ายภาพดงนาทาม ทริปนี้ถ้ามีเวลาเราจะย้อนกลับมาอีกที เดินทางกันต่อกันดีกว่า เรายังมีจุดหมายอื่นที่ต้องไปอีกเยอะ ที่สำคัญคือหิวหิว
จากน้ำตกสร้อยสวรรค์ สู่ น้ำตกแสงจันทร์ (ลงรู)
น้ำตกแสงจันทร์อยู่ห่างออกไปจากที่นี่เพียง 28 กิโลเมตร เองไม่ไกลเลย ขับออกจากที่นี่ไปถนนใหญ่เลี้ยวขวาขึ้นแยกบ้านนาโพธิ์กลางแล้วเลี้ยวขวาอีกทีสู่หน่วยพิทักษ์ฯผาแต้มที่ 3 คันท่าเกวียนเลี้ยวไปตามป้ายไม่นานก็ถึง สุดทางเป็นลานจอดกว้างขวางมีเพิงอาหารเล็กๆอยู่ตรงนั้นเดี่๋ยวเราจะไปฝากท้องกันที่นั่นซัดก๋วยเตี๋ยวกันคนละชามสองชาม
ไหลลงรู
ดูกันชัดๆครับว่าสายน้ำไหลมาถึงโตรกผาก่อนทิ้งตัวลงสู่เบื้องล่างเค้ามาเจอรูตรงนี้ก่อน รูอันเกิดจากการกัดเซาะของน้ำกระทำต่อหินทรายผ่านกาลเวลาอันยาวนาน ดูกันพอเข้าใจแล้วก็เดินลงกันเลยครับ มีทางลงสู่เบื้องล่างนั่นใกล้ๆกันนี้
โว้วโว้ว ถึงท้องจะร้องแต่ขอเก็บภาพน้ำตกกันก่อนล่ะครับ กางขาถ่ายกันขะมักเขม้น มุมใครมุมมันพื้นที่ถ่ายกว้างพอสมควร
ด้านหลังน้ำตกสามารถเดินเข้าไปถ่ายย้อนออกมาด้วย
กระผม นายน้ำฟ้านักท่องเที่ยวตัวกระจิ๊ดริดในโลกใบแสนใหญ่
จากลงรู สู่ ผาชะนะได
อิ่มเอมกับถ่ายภาพและอิ่มหนำกับมื้อเที่ยง ณ เพิงหมาแหงน เดินทางต่อกันเลย จากนี้เป้าหมายต่อไปปลายทางของวันนี้คือ ผาชะนะได ที่ที่จะได้เห็นตะวันขึ้นและตกก่อนใครในสยาม ระยะทางจากลงรูสู่ผาชะนะได 34 กิโลเมตร รถตู้ของเราเข้าไปไม่ถึง เราจัดหารถกระบะไว้รับช่วงต่อแล้ว นัดเปลี่ยนรถกันที่หน่วยพิทักษ์ฯผาแต้มที่4 ห้วยทราย จากนี่ถึงห้วยทราย 16 กิโลและจากห้วยทรายต่อไปยังหน่วยดงนาทาม 18 กิโล เดินเท้าต่ออีก 700 เมตรก็ถึงผาชะนะได
ณ หน่วยพิทักษ์ฯผาแต้มที่ 4 ห้วยทรายN15.582323 E105.54715พร้อมกันแล้วครับรถกระบะเจ้าถิ่น เปลี่ยนรถถ่ายสัมภาระกันที่นี่ แต่ก่อนอื่นผมขออาบน้ำอาบท่าที่นี่ให้ชื่นใจก่อนละครับเพราะว่าอากาศร้อน มาทริปนี้ต้นหนาวแบบนี้กลับไม่ได้สัมผัสอากาศหนาวๆเย็นๆเลย อากาศโลกเราเดี๋ยวนี้แปรปรวนไปมาก
สู่ ผาชะนะได
หนึ่งชั่วโมงเต็มๆกับระยะทางเพียง 18 กิโลเมตรบนเส้นทางธรรมชาติ นั่งกระดอนไปกระดอนมา แต่ต้องยอมรับมากๆว่าพี่คนขับฝีมือดีจริงๆ สภาพทางดูแล้วน่าจะต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อมากกว่าแต่พี่แกรถขับสองธรรมดาแถมยังเดิมๆไม่มีแต่งทุกคนพร้อมใจกันยกนิ้วให้เลย ในที่สุดเราก็มาถึงหน่วยดงนาทามอันเป็นที่ตั้งของผาชะนะไดและพร้อมกับได้มัคคุเทศก์ท้องถิ่นติดรถมาด้วยหนึ่งท่าน
หน่วยพิทักษ์ผาแต้มที่5 ดงนาทาม N15.622877 E105.611663
สี่โมงกว่าแล้วดวงอาทิตย์วันนี้จะลับขอบฟ้าราวๆห้าโมงครึ่ง มาเร่งมือกางเต็นท์กันดีกว่าครับมีเวลาเหลือเราจะเดินไปผาชะนะไดรอชมแสงสุดท้ายของวันกันที่นั่น
ข้างลานกางเต็นท์ตรงชายขอบป่าเห็นมีดงดอกกระดุมบานไปทั่วอยู่สองสามดง เต็นท์กางเสร็จแล้วมีเวลาอยู่หน่อยก่อนเดินสู่ผาขอสาละวนถ่ายเจ้าดอกกระดุมงามๆกันสักหน่อยล่ะครับ
ผาชะนะไดเส้นแวงตะวันออกที่ 105องศา 37ลิบดา 17ฟิลิบดาN15.620681 E105.617617 alt.>400m.ในที่สุดเราก็มาถึงริมขอบผาชะนะได ที่ที่จะเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นก่อนใครและตกก่อนใครในสยาม ระยะทางเดินจากแค้มป์ของเราตรงโน้นมาถึงนี่ประมาณ 700 เมตร เดินง่ายๆสบายๆ เบื้องหน้าของเราเป็นทิศตะวันออกครับ สำหรับตอนนี้ถ้าจะชมดวงอาทิตย์ก็คงต้องหันหลังกลับไปมองยังทิศที่เดินมา แสงสุดท้ายจับขอบฟ้า มองจากผาชะนะได
สำหรับวันแรกของทริปนี้คงต้องลาไปด้วยเวลาเพียงเท่านี้ เดี๋ยวเรากินมื้อเย็นกันเสร็จคงต้องขออาบน้ำอาบท่าให้เย็นสบายตัวอีกที แล้วก็คืนนี้จะเดินไปกลางลานหินทรายกว้างๆชมดาวบนท้องฟ้าโล่งๆ และลองถ่ายแสงดาวกัน
เป็นคืนที่ดวงดาวเกลื่อนฟ้ามาก ทางช้างเผือกปรากฏชัดสว่างเป็นสาย มีดาวตกให้ดูให้นับกันนับสิบๆดาว และนี่คือภาพจับแสงดาวผลงานนายขอบฟ้าเพื่อนร่วมทริปผู้สามารถของเราบันทึกภาพไว้ด้วยเลนส์ฟิชอายตากล้องหนึ่งเดียวในคืนนี้ที่บันทึกภาพดาวไว้ได้ไฉไลที่สุด ลาไปด้วยภาพนี้เลย รอติดตามชมตอนต่อไป "สู่สามพันโบก" เร็ววันนี้ครับ
ฝากร่องรอยให้รู้ว่าท่านมาเยี่ยมเยือนเรา น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา นะครับ ^___^
Create Date : 03 ธันวาคม 2555 |
Last Update : 8 ธันวาคม 2555 16:37:52 น. |
|
51 comments
|
Counter : 12845 Pageviews. |
|
|
...พรุ่งนี้จะมาละเมียดละมัยอ่านนะคะ