ภูหินร่องกล้า ........ ในสไตล์น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา ^ ^
|
อุ ท ย า น แ ห่ ง ช า ติ
ภูหินร่องกล้า
|
เด่นตระหง่าน ทอดตัวสงบนิ่ง
โ ต้ ส า ย ล ม ห น า ว
บนระดับความสูงเหนือหนึ่งพันเมตร
ท้าทายนักเดินทางคนแล้วคนเล่า ให้แวะเวียน
ขึ้นสัมผัส หินร่องกล้า
สัมผัสสุดยอดขุนเขาแห่งหนึ่่งของประเทศ
|
และก็เหมือนทุกครั้ง ผมเลือกที่จะขึ้นสู่ภูหินร่องกล้าด้วยเส้นทางอันสูงชันทางฝั่งทิศตะวันออก หรือที่รู้จักกันดีว่าฝั่งหล่มเก่า
|
|
เส้นทางไต่ภูหินฝั่งนี้ ให้ความ
ตื่นเต้น
ตื่นตา
ตื่นใจ
แก่ผมเสมอ แต่สำหรับผู้ที่ไม่ชำนาญเส้นทางภูเขา
และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ มักได้รับคำแนะนำให้เลือกใช้เส้นทางขึ้นลงทางฝั่งตะวันตก หรือฝั่งนครไทยแทน หรือไม่ก็ใช้ฝั่งนี้เป็นฝั่งลง
|
ฝั่งหล่มเก่า ฝั่งเหลี่ยมเขา
16.879985,101.101595
ถ้าอยากเห็นเหลี่ยมภูสวย ๆ ยิ่งใหญ่ ๆ ต้องฝั่งนี้ครับ
เนื่องจากเทือกภูแห่งนี้ ยกตัวสูงชันขึ้นทางด้านทิศตะวันออก แล้วค่อย ๆ ลาดเอียงลงไปทางด้านทิศตะวันตก
สมัยนี้มีภูทับเบิกเป็นแม่เหล็กยักษ์ดึงดูดผู้คน
ทำให้คลื่นคนหลั่งไหลมาฝั่งหล่มเก่าเยอะมาก
ใครรักสงบหน่อยขอแนะนำที่นี่ ดอยน้ำเพียงดิน
16.875992,101.108844
จุดกางเต้นท์ที่ทำเลสุดยอดอีกจุดหนึ่ง ระดับความสูง 1200 เมตร ได้ชมวิวริมผา แล้วยังได้ชมมุมงามของภูทับเบิก
|
|
ยอดภูทับเบิก
ยอดภูสวรรค์
ดอยน้ำเพียงดิน มองข้างบนชมวิวทับเบิก ( ภาพบน )
มองข้างล่างชมวิวทะเลภูเขา( ภาพล่าง )
กางเต็นท์นอนที่นี่ จะได้บรรยากาศแบบที่ว่านี้จริง ๆ
|
สู่ความ เ วิ้ ง ว้ า ง อัน ว่ า ง เ ป ล่ า
มีอยู่ปีหนึ่ง ผมมายืนที่นี่ มองวิวมุมนี้
ปีนั้นแล้งจัด มองลงไปมีแต่ความรกร้าง เป็นทะเลภูเขาหัวโล้น
บางปีมายืนอยู่ตรงนี้กลางฤดูฝน ท้องทะเลภูเขาแปรเปลี่ยนเป็นผืนกำมะหยี่เขียวขจี
ของแปลงกระหล่ำ
แต่สมัยนมนานกาเลมาแล้ว ที่นี่คงเป็นผืนป่าเขาสุดอุดมสมบูรณ์
กาลเวลาผ่านไป สรรพสิ่งเปลี่ยนแปลง
|
ลานกางเต็นท์ ใต้ดงสนสามใบ
อันที่จริงตั้งใจนอนบนภูทับเบิก แต่ต้องผิดหวังเป็นครั้งที่สอง ภูทับเบิกนี่มากี่ครั้งกี่ครั้งก็คนเยอะ แย่งกันกิน แย่งกันใช้ เห็นสภาพนักท่องเที่ยวที่กางเต็นท์กันเรียงรายกันเต็มทาง ท่ามกลางฝุ่นดินปลิวคุ้งจากล้อรถยนต์ที่ขับไปขับมา อนารถใจ เลยย้ายที่มายัง ลานกางเต็นท์สุดนุ่ม ใต้เงาดงสนสามใบ ณ ที่ทำการ อช.ภูหินร่องกล้า
ตอนแรกก็ว่าจะนอนที่หน่วยทับเบิกเลย แต่หน้านี้หน้าหนาว โอกาสเห็นทะเลหมอกนั้นไม่ง่าย เพราะทะเลหมอกที่ขึ้นชื่อของที่นี่จะอยู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว
|
จะกระซิบบอกให้ กางเต็นท์นอนที่นี่มันวิเศษอย่างไร
ด้วยขนาดเนื้อที่ใต้ร่มเงาป่าสนที่กว้างใหญ่หลายไร่
แบ่งซอยพื้นที่ให้รถเข้าถึงได้สะดวก บริเวณกางเต็นท์เป็นสัดส่วนสวยงาม
ทำให้แม้นนักท่องเที่ยวมากันมากมาย ก็ยังดูไม่แออัด ที่วิเศษเหนืออื่นใด ป่าสนอันร่มครื้มนี้ ทำให้เต็นท์ของเรากางอยู่ใต้ร่มเงาตลอดทั้งวัน แดดจะแรงขนาดไหนก็แทบส่องลงมาไม่ถึงพื้นเลย
แบบนี้สิสุดยอด หาไหนปาน
|
อากาศที่เย็นสบาย ต่ำกว่า 20 องศา
ประกอบกับความเมื่อยล้า อ่อนเพลีย จากการ
รับหน้าที่เป็นพลขับ อดหลับอดนอนมาตลอดคืน เมื่อจัดการกางเต็นท์เรียบร้อยในตอนบ่าย ๆ
ผมก็พักผ่อนนอนยาาาว ตื่นมากินมื้อค่ำนั่งยาาาวอีกนิด ชมดาวอีกหน่อย แล้วพักผ่อนต่อ
เช้าวันใหม่จึงกระฉับกระเฉงเป็นพิเศษ เนื่องจากชาร์ตไฟมาเต็มที่่ ทริบนี้ต้องการมาพักผ่อนนอนหลับจริง ๆ แต่กลัวลูกสาวจะเบื่อ เราจึงจัดโปรแกรมเล็ก ๆ ขึ้นนั่นคือ
เดินทางสู่เส้นทางชมลานหินปุ่ม เส้นทางสุดฮิตอันดับหนึ่งของที่นี่
|
|
มีบางอย่างหายไป !?!
ป่าสนสองใบ หายไปไหน !!
ถัดไปทางตำแหน่ง 9 - 12นาฬิกาของดงสนสามใบที่กางเต็นท์ของเรา ในอดีตบริเวณนั้นคือ ทุ่งป่าสนสองใบ ต้นสนสูงชลูด แตกกิ่งก้านสาขาที่ปลายยอด คล้ายร่มฉัตร ป่าสนแบบเดียวกับที่เราเห็นเป็นสัญลักษณ์บนภูกระดึงนั่นแหละ ต่างกันกับสนสามใบ ที่ต้นเตี้ยกว่าครึ่ง ลักษณะกิ่งขึ้นเป็นทรงพุ่ม ดูไม่สง่างามเหมือนสองใบ
สนสองใบ ยืนต้นเดียวก็สวยเด่น
สนสามใบ ต้องรวมกันเป็นกลุ่มจึงจะดูสวย
ถ้าเปรียบเทียบคำว่า ป่า กับคำว่า สวน ในความรู้สึกผมว่า สนสองใบคือป่าสน สนสามใบคืนสวนสน
อารมณ์มันต่างกันเยอะ เวลามองสวนสน มันเหมือนมองป่าปลูก
สนสามใบปลูกง่าย โตไว จึงเป็นพืชที่นิยมปลูกทดแทนบนที่สูงเกินหนึ่งพันเมตรและพื้นดินปนทราย
ผิดกับสนสามใบ โตช้า ปลูกยาก และสาเหตุที่มันหายไปจากที่นี่นัย ๆ ว่า
มีอยู่ปีหนึ่งบริเวณนี้เกิดไฟป่า ยังความสูญเสียใหญ่หลวง
ไม่เหลือสนสองใบให้เห็นเลยแม้แต่ต้นเดียวในปัจจุบัน
|
แล้วนี่สนอะไร ไม่ใช่สองใบ ไม่ใช่สามใบ
นี่มัน 4 ชัด ๆ
สนสี่ใบ จริงหรือเนี่ย!
เป็นไปได้ยังไง นับยังไงก็ได้สี่ หยิบขึ้นมากี่อัน ๆ ก็นับได้สี่
ความจริงวิธีดูว่าเป็นสนกี่ใบนั้น นอกจากดูลักษณะทรงต้น ลักษณะกิ่งก้าน ลักษณะการแตกร่องลึกหนาบางของเปลือกลำต้นแล้ว อีกวิธีที่ง่ายแสนง่ายคือ ก้มลงหยิบใบของมันขึ้นมานับ จำนวนของใบที่นับได้ก็คือคำตอบ นับได้สองก็สนสองใบ นับได้สามก็สนสามใบ แต่นี่ผมยืนอยู่ใต้ต้นสนที่ผมเข้าใจว่าเป็นสนสามใบ แต่นับยังไง ๆ ก็ได้สี่ ผม งง ครับ
|
เอาหล่ะครับ ไปเที่ยวกัน
รถติดหน่อยนะคร๊าาบ คนมันเยอะ Long Weekend
เส้นทางเดินเท้า สู่ผาชูธง ลานหินปุ่ม
เส้นทางชมธรรมชาติ และรำลึกประวัติศาสตร์สมรภูมิรบ
โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ บล๊อคภูหินนี้จขบ.จะแบ่งออกเป็นสองตอน เพราะไม่อยากเป็นภาระให้เพื่อน ๆ ต้องโหลดนาน
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชม คอมเม้นท์ของทุกท่านเป็นกำลังใจสำคัญ ที่ทำให้จขบ.สนุกกับการผจญพายุโค๊ดHTML & CSS Style sheet ต่อไป
| Create Date : 08 มีนาคม 2553 |
| Last Update : 30 ตุลาคม 2553 13:12:47 น. |
|
138 comments
|
| Counter : 10379 Pageviews. |
 |
|
น่าไปสุดๆๆเลย 
แวะมาชวนไปทานข้าวด้วยกันคะ 
>
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 186 คน [
ไปมาสองสามครั้ง คนไม่เยอะขนาดนี้เลย^^
ยกเว้นภูทับเบิกเยอะจริงๆ แทบไม่มีที่กางเต็นท์เลย