ภูหินร่องกล้า ...... เจาะลึก เส้นทางลานหินปุ่ม ผาชูธง


เส้นทางเดินเท้า สู่ผาชูธง ลานหินปุ่ม


เส้นทางชมธรรมชาติ และรำลึกประวัติศาสตร์สมรภูมิรบ


เนื้อความตอนนี้ตั้งต้นบนภูนะครับ สำหรับใครที่เพิ่งเข้ามาและประสงค์จะย้อนไปจุดเริ่มต้นที่ตีนภูอันน่าตื่นเต้น ก็ >> คลิกตรงนี้ << ได้เลยจร้า ^ ^



ตามมากันเลยครับ ทางนี้เลย
มาเร่ิมต้นกันที่หน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
ไปตามทางมุ่งหน้าหล่มเก่า ขับไปโลสอง เจอทางแยกก็เลี้ยวขวาไปโลสี่ ตามป้ายบอกทาง สุดทางเป็นลานจอดรถ จอดได้เยอะ แต่วันไหนวันหยุดคนแยะอย่างวันที่ผมไปนี้ จะเจอหางแถวยาวเหยียดออกมาไกลโข หากตั้งใจว่าต้องเข้าไปให้ได้แล้วหล่ะก็แอบรถไว้ริมทางแล้วลุยเลยครับ














ที่ลานจอดรถมีศาลาเพิงพัก เพิงร้านค้าขายของและห้องน้ำ

เข้ากันให้เรียบร้อยก่อนออกเดิน เพราะกลางทางไม่มีแล้ว อ้อ เตรียมน้ำดื่มไปด้วยสักคนละขวด รักษาความสะอาดกันด้วยน๊าอย่าทิ้งขวดเปล่า ถุงขนม กระป๋องต่าง ๆ ไว้กลางทางนา ช่วย ๆ กัน ^ ^











ระยะทางเดินเท้า
ทั้งสิ้นประมาณ
3 กิโลเมตร เดิน 3 ชั่วโมง
แบบไม่เร่งรีบ ทางเดินดีสะดวกสบาย เด็กเดินได้ผู้ใหญ่เดินดี
เส้นทางวงกลม
เดินวนซ้ายก็ได้ ขวาก็โอ ถึงที่หมายแล้วไม่ต้องย้อนทางเก่า
ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะวนซ้ายหรือขวาดี เลือกตามนี้


ต้องการไปยืนชูธงบนผาก่อน แล้วไปนั่งพักผ่อนบนลานหินปุ่ม
เลือกเดินวนขวาครับ
ตามเข็มนาฬิกา


หากต้องการนั่งเล่นชิว ๆ บนลานหินปุ่มก่อน แล้วค่อยไปตะกายผาชูธง
เลือกเดินวนซ้าย
ทวนเข็มนาฬิกา


สำหรับทริบนี้จขบ.ขอพาวนซ้ายนะเอิงเอย
























เริ่มด้วย
ทางเดินระแนงไม้
ที่ 100เมตรแรก


ทางเดินระแนงไม้ปูลอยขึ้นเหนือพื้น ตรงบริเวณที่ชื้นแฉะ ที่ที่เต็มไปด้วยมวลหมู่พรรณไม้ที่เปราะบาง เพื่อไม่ให้เกิดรอยเหยียบย่ำอันเป็นการทำลายธรรมชาติ
เอื้องที่เห็นนี่จขบ.ก็ไม่แน่ใจว่าเอื้องอะไร จะเป็นเอนอ้า หรือม้าวิ่งก็ไม่รู้ ใครทราบช่วยบอกทีนะครับ





















สัมผัสแรก
ลานหิน
ที่ 50 เมตรถัดมา












สิ่งที่น่าสนใจบริเวณนี้น่าจะเป็นลักษณะพื้นผิว ร่องรอยการกัดเซาะของสายน้ำ ที่กระทำต่อลานหินผ่านกาลเวลา บางทีคุณอาจเห็นสายน้ำเล็ก ๆ ไหลเอื่อยไปตามรอยเลี้ยวผิวหิน กะมอส ตะไคร่ ไลเคนขึ้นประดับพรมตามพื้นที่เปียกชื้นเป็นแผ่นกว้าง ถ้ามายามหน้าฝนรับรองไม่ผิดหวัง
















อนุสรณ์แห่งความแตกต่าง
ทางอุดมการณ์

ที่ 500เมตร


เลี้ยวออกไปนอกทางสักนิดจะเป็นทางเข้าไปดูสุสานนักรบ เป็นหลุมศพลักษณะเป็นนูนดิน มีป้ายชื่อ เป็นสหายนักรบที่ต่อสู้กับศัตรูต่างอุดมการณ์ จนพลีชีพอยู่บนเทือกภูแห่งนี้










ระหว่าง 500-800 เมตร
ทางเดินยังโปร่งโล่งสบายไปตามลานหินสลับทางดิน ช่วงนี้มองไปทางซ้ายจะแลเห็นผาชูธงอยู่ไกล ๆ เดินตัดตรงไปไม่ได้ มีหุบเขาขวางทางอยู่หนึ่งหุบ
หลายคนเห็นแล้วใจฮึกเหิมอยากเดินให้ถึงไวไว
แต่หลายคนก็เห็นแล้วท้อ ทำไมมันไกลเหลือเกิน


































หินช่องประตู
ที่ 880เมตร
คุณจะพบกับ
หินใหญ่สองก้อน มันวางตัวอยู่สองฝั่งทางเดิน แลไปก็เหมือนเป็นช่องประตู จขบ.ก็เลยเรียกตรงนี้ว่าหินช่องประตู คนนิยมแวะถ่ายรูปกันตรงนี้เยอะพอสมควร











พ้นหินช่องประตู ทางจะเปลี่ยนเป็นแนวป่า เป็นเนินเล็ก ๆ เดินไปสักพักพอพ้นแนวออกมาจะพบกับ
พลาญหินรูปทรงสวยงามแปลกตาอยู่เนินชันด้านขวามือ สวยราวประติมากรรม




ประติมากรรมธรรมชาติ
ที่ประมาณ 930 เมตร
















ใต้ประติมากรรมหินแห่งนี้ มันคือ
กำแพงเฟิร์น
ที่ยามหน้าฝนจะหนาแน่นไปด้วยดงเฟิร์นเขียวสวยงามเป็นแพกว้างยาวเหยียด ทริบหน้าหนาวอากาศแห้งแบบนี้ เราได้แต่ชมเฟิร์นแห้งหงิกหงอย สีส้มแดงกันไป แต่ก็สวยงามมีเสน่ห์ไปอีกแบบ ชิมิ















ลำธารใสไหลเย็น
ที่ 1.0กิโลเมตร

ทางช่วงนี้จะตัดผ่านแนวป่าอีกครั้งหนึ่ง ลักษณะเป็นหุบตื้น ๆ พอพ้นหุบเดินต่ออีกหน่อยจะสุดขอบแนวป่าเข้าสู่ลานหินอีกครั้ง















200 เมตรก่อนถึงลานหินปุ่ม
ภูมิประเทศเริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นป่าแคระที่ขึ้นแซมอยู่บนลานหินลักษณะเป็นลานหินที่มีร่องแตกลึก แบบเดียวกับที่พบบนลานหินแตก มีสะพานทอดข้ามร่องลึกของหินแตกเป็นระยะ ทางเดินเริ่มเข้าใกล้ขอบผาแล้วครับ

























ช่วงขณะหนึ่งที่หยุดพัก





แอบเห็นใบไม้อิงแอบกัน





แอบเห็นความงามบนความเสื่อมสลาย





ลานหินปุ่ม
ที่ 1500 เมตร








โอ้ ตาย ๆ คนมาจากไหนเต็มไปหมด

แล้วจะหามุมถ่ายยังไงกันดีหล่ะเนี่ย งือ







จากลานหินปุ่ม สู่ ผาชูธง
เส้นทางเลาะเลียบริมขอบผา
ขออนุญาตสลับคนนำทางนะครับ ให้ลูกสาวตัวน้อยฝึกนำทางมั่ง
ส่วนผมจะคอยเดินตาม อธิบายอยู่ข้างหลัง













ทางเดินจากลานหินปุ่ม สู่ ผาชูธง จะเลาะไปตามขอบภูที่ระดับความสูงประมาณ 1280เมตรจากระดับน้ำทะเล ตลอดเส้นทางเป็นแนวราบ มุ่งหน้าลงทิศใต้ ฉะนั้นวิวเปิดทางด้านขวามือของเราตอนนี้ก็จะเป็นทิศตะวันตก











เหล่านักท่องเที่ยวหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส
บ่งบอกถึงความสุขที่ได้รับจากบรรยากาศที่สวยงาม
และอากาศที่แสนเย็นสบาย
จขบ.เห็นกีต้าคลาสสิคสวนทางไปหลายตัว
หนุ่มสาวร้องเพลง ตีคอร์ดกันไปเบา ๆ ฟังแล้วก็เพลิดเพลินตามไปด้วย








กำแพงหิน
ที่ 2.0กิโลเมตร
ขอบผาช่วงนี้ยกตัวสูงดั่งกำแพง สมัยมาครั้งแรกเพื่อนเคยโดนผีผกค.หลอกมาแล้วที่ตรงนี้
ตอนนั้นเป็นปี 2528 หลังเปิดอุทยานแห่งนี้มาได้เพียง 3ปี เรียกว่ากลิ่นไอสงครามยังกรุ่น ๆ ขณะเดินแถวตอนเรียงเดี่ยวกัน ผมนำทางอยู่หน้าสุด ตอนนั้นใกล้ค่ำ เพื่อนคนท้ายสุดแซงพรวดเดียวขึ้นมาถึงหัวแถวเลย ตอนนั้นเดินกัน 20 คน เพื่อนแหกปากร้องห่มร้องไห้ บอกว่าเลือบขึ้นไปบนกำแพงนั่นเห็นคนนั่งถอดเสื้อ เลือดเต็มตัวนั่งอยู่บนนั้นแล้วหันมายิ้มให้ เล่นเอาขนลุกซู่ไปทั้งหมู่คณะ เดินตัวลีบสงบเสงี่ยมกันโดยพร้อมเพรียง












ดงเฟิร์นใหญ่
ที่ 2.1กิโลเมตร
ดงนี้มาหน้าไหนก็เขียวชอุ่ม แม้กระทั่งหน้าหนาวแบบนี้ และก็อดไม่ได้ที่จะต้องถ่ายรูปไว้ทุกที ความจริงตลอดสองข้างทางบริเวณนี้ก็เรียงรายไปด้วยเฟิร์นหล่ะครับ แต่ตรงจุดนี้มีลาดหินให้คุณก้าวฉับ ๆ ขึ้นไปยืนชมเฟิร์นมุมสูงได้










หน้าผาชมวิว
ที่ 2.2 กิโลเมตร

ถัดมานิดเดียวเส้นทางก็นำเราทะลุออกมายืนสูดโอโซนบนลานหินริมผากว้าง มองเห็นวิวขอบผาได้อย่างชัดเจนถนัดตา
ที่ใต้แผ่นผานี้เป็นโพรงถ้ำเล็ก ๆ ไม่สังเกตุดี ๆ อาจเดินเลย
แต่ผมไม่พลาด ก็ลองเลี้ยวเข้าไปเผื่อจะเจออะไรน่าสนใจ
และเจอจนได้ครับ เอ้า ! ใครบอกรักกับใครก็ดูเอาเด้อ เฮ้อ ๆ
























ที่ 2.3 กิโลเมตร
ผาชูธง

ในที่สุดเราก็มาถึง ผาชูธง
ตรงบริเวณนี้แหละครับ เป็นที่ที่สมัยนั้นผกค.จะมายืนโบกธงค้อนเคียวกันทุกครั้งที่ได้รับชัยชนะเหนือฝ่ายทหาร คนก็เยอะแยะมากมายอีกแล้วนะครับ
ทำไงได้ ก็ตรงนี้เป็นอีกไฮไลท์นึงของเส้นทางนี่นานะ













จุดแวะจุดสุดท้าย
บนเส้นทางริมขอบผา


หลังจากลงจากผาชูธง จะเป็นหน้าผาอีกแห่ง ตรงนี้เองเมื่อมองย้อนกลับไปเราจะได้เห็นผาชูธงกับลักษณะทำเลที่ตั้งของผา
ก็ถือเป็นจุดชมวิวผาชูธงที่ดีมากจุดหนึ่ง











จากนั้นเราก็มุ่งหน้าทิศตะวันออก กลับสู่ลานจอดรถ
ระหว่างทางจะมีจุดแยกไปเส้นทางชมที่หลบภัยทางอากาศ และสำนักอำนาจรัฐ และปรากฎการณ์ซันแครก
เดินต่อมาอีกหน่อยเราก็มาผ่าน
ลานอเนกประสงค์
ลานตรงนี้เป็นลานกว้างใหญ่จนเป็นที่ประกอบกิจกรรมต่าง ๆ สารพัด ตั้งแต่ชุมนุม ประชุม สันทนาการ นันทนาการ (สองคำนี้ไม่รู้ต่างกันยังไง) ที่ลานแห่งนี้เมื่อก่อนมีปืนต่อสู้อากาศยานตั้งอยู่ด้วย เดี่๋ยวนี้ไม่เห็นแล้ว ขาดปืนไปก็เหมือนขาดสัญลักษณ์ (เข้ามาแก้ไข ข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณชาลี ในคห.8 และ 13 ปืนต่อสู้อากาศยานยังอยู่ที่เดิม อิอิ แต่ไม่ใช่ที่ลานอเนกประสงค์ จขบ.ความจำเลอะเลือน ) เริ่มเดินเหนื่อยแล้วด้วยเนื่องจากต้องอุ้มเจ้าตัวเล็ก จึงผ่านเลยลานอเนกประสงค์ไปแบบไม่ได้สนใจถ่ายรูป















3 กิโลเมตรกว่า กับ 3 ชั่วโมงเศษเราก็กลับมาถึงลานจอดรถ

ข้อมูลระยะทางทั้งหมดอ้างอิงตามปูมบันทึกรอยทางจากอุปกรณ์บ่งชี้โลกาภิวัฒน์ หรือ Global Position System ยี่ห้อGarmin รุ่นGPS Map60CSx จีพีเอสรุ่นOutdoorเต็มพิกัดคู่กายจขบ. ตัวเลขระยะทางไม่ตรงตามป้ายบอกแต่เป็นระยะจริงจากการเดินครับ









ขอบคุณทุกท่านที่ชมจนถึงบรรทัดสุดท้ายนี้ ขออภัยเป็นอย่างสูงที่อาจต้องโหลดนาน เนื่องจากภาพเยอะ บล๊อคต่อไปของข้าพเจ้าคงไม่ยาวเฟื้อยอย่างงี้แล้ว ^ ^
ทิ้งคอมเม้นท์ไว้เป็นกำลังใจ หรือบันทึกไว้เป็นรอยทางว่าท่านเข้ามาเที่ยวมาเยือนนะครับ ก่อบกุนก๊าาาบ





Create Date : 20 มีนาคม 2553
Last Update : 20 มีนาคม 2553 20:17:20 น. 103 comments
Counter : 7651 Pageviews.

 
ประเดิมก่อนเลย....


โดย: chenyuye วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:9:08:51 น.  

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:9:16:36 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ชอบนางแบบกางเกงชมพูจังค่ะ
เข้าบ๊อกนี้ชอบ...
สดชื่นด้วยธรรมชาติสดสวยของเมืองไทยค่ะ
แหล่มเลย


โดย: อุ้มสี วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:9:20:59 น.  

 
โอ้โห 3 กิโล กับ 3 ชม.
แถมยังต้องแบกกล้องอีก
เล่นเอาเหนื่อยไม่น้อยเลยนะคะ


โดย: chenyuye วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:9:23:50 น.  

 


เคยไปมาแล้วเมื่อปี 40 คะ เปลี่ยนไปเยอะเลย...ต้องที่ลานขายของเราแวะซื้อก๋วยเตี๋ยวกะจะกินบนรถ ยืนรอพอจะจ่ายเงินโดนล่วงกระเป๋า(มันน่าเจ็ยใจมาเที่ยวแท้ๆ) ลานหินปุ่มไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกสวยมาก ๆ และก็ไปดูบริเวณที่กลุ่ม 14 ตุลาฯ (ไม่แน่ใจนะคะ)มันเป็นหลุมลงไป..ไม่กล้ามันหายใจไม่ออกอ้อมไปรอที่ทางออกอีกทางและได้เดินข้ามสะพานเชือกด้วย...ตอนเย็นมีตำแครรอทให้ลองชิมด้วย(ไม่ต่างกะมะละกอสุข)เป็นสถานที่น่าสนใจมาก ๆ คะ


โดย: sj13palmkung วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:9:31:11 น.  

 
ตามคำชวนมาโดยไว 555+

สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่แห่งความทรงจำของชาลีเลยล่ะค่ะ

ครั้งหนึ่งได้ไปพิชิตผาชูธงกับเค้าด้วย

เหนื่อย สนุก และสุขใจค่ะ :))


โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:9:35:31 น.  

 
คห ประเดิม and คห4 คุณChenyuye
ไม่ได้แค่แบกกล้องนะ อุ้มลูกอีกต่างหาก ลูกสาวเดินไปได้กิโลกว่าก็จะให้อุ้มตลอดทางและ

คุณอุ้มสี ไม่บอกหน่อยเหรอครับว่านั่นดอกอาราย คุณอุ้มน่าจะรู้นะเห็นเป็นคนรัดอกไม้

คุณsj13.. ไม่น่าเลยนะครับ ไรเนี่ยบนที่เที่ยวป่าเขาแบบนี้ยังมีมิจฉาชีพคอยจ้องฉกทรัพย์อีก แย่จัง


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:9:39:39 น.  

 


โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:9:39:52 น.  

 
อ้าว คุณCharlie ก็มีริวิวเหมือนกัน จะไปชมบัดเดี๋ยวนี้แหละ ^ ^


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:9:46:26 น.  

 


ว้าว!...ออนแอร์แล้วเหรอเนี่ย

กะมาเจิม...แต่ไม่ทันเพื่อนคนอื่นๆ...อืม..เรตติ้งกระฉูดตามประสาสุดยอดบล็อก

ว้าวๆๆ...มีอะไรจะเมนต์เยอะมากค่ะ

เคยไหม บ่อยครั้งที่เราอยากพูดแต่พูดอะไรไม่ออกเพราะความตื้นตัน

ที่แน่ๆ วันนี้น้องโฟกัสใส่เสื้อสีแดงเดินกลางดงเฟิร์นสีเขียว

เอาใจป้าอัยย์ไปเลย...

ชอบภาพเปิดเรื่องนะคะ...สิ่งมีชีวิตเล็กๆที่เรียกว่าดอกไม้ริมทาง ก็สามารถเป็นภาพเปิดบล็อกที่ยิ่งใหญ่ได้

แล้วค่อยมาเมนต์อีกทีค่ะ...พิมพ์ยาวมาก เด๋วเน็ตหลุด อิอิ อยู่บ้านค่ะ เน็ตที่บ้านเสื่อมสุดๆ



โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:9:47:21 น.  

 

ดอกเอ็นอ้าน้อย
มีดอกสีชมพูมม่วง มีกลีบดอก 5 กลีบ
เกสรสีเหลือง เกิดตามป่าดงดิบชื้น
เอ็นอ้าใหญ่ มีดอกสีชมพู มีกลีบดอก 4-5 กลีบ
เกสรสีชมพูเกิดตามป่าดงดิบแล้ง
บางทีเรียกว่าเอ้นอ้าแดง โสมแดง หรือยางแดง


โดย: อุ้มสี วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:10:04:49 น.  

 
เพื่อน ๆ แวะไปตามคุณCharlieตามลิ๊งค์ใน คห.8 ไปชมดอกไม้สวย ๆ บนภูหินร่องกล้าต่อได้เลยนะครับ จะได้ครบถ้วน อ้อ คุณชาลีมีถ่ายปืนต่อสู้อากาศยาน มาด้วย ยืนยันว่ายังอยู่ อยู่ตอนคุณชาลีไป แต่ไม่แน่ใจทำไมเราไม่เห็น ใครรู้เรื่องช่วยยืนยันอีกทีนะครับ


คุณอัยย์ ที่สุดก็มา ไม่เปงไร เด๋วตัดศูนย์ออกจากอันดับความเห็นให้ อิอิ

หง่า มาเม้นท์นี้เปงป้าไปเลย คราวหน้าเอาโฟกัสไปแอบดีก่า ดีมิ ดีมิ
พูดอะไรไม่ออกก็ยังไม่ต้องพูดอะไรนะครับ คุณนักล่าแฟนคลับกิตติมศักดิ์ของเบิ้ลS แวะเวียนมาทุกวันอยู่แล้ว


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:10:05:41 น.  

 
ชาลีไปมาเมื่อปลายเดือนมกราคมปีที่แล้วค่ะ

ตอนไปยังเห็นปืนต่อสู้อากาศยานอยู่นะคะ

อยู่ก่อนถึงทางเข้าสำนักอำนาจรัฐ และก็ตรงข้ามกับ

ซันเครกน่ะค่ะ


ปล.ได้ความรู้ชื่อดอกไม้จากคุณอุ้มด้วย ดีจัง :))


ภาพความทรงจำค่ะ อิๆ



โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:10:11:30 น.  

 
จขบ.คงจะได้คำตอบเน๊าะว่าดอกอะไรคะ ????


กล้วยไม้สกุลม้าวิ่ง
เป็นกล้วยไม้ที่ขึ้นอยู่ตามพื้นดิน
ซอกหินหรือแอ่งหิน
ที่มีอินทรีย์วัตถุทับถมตามป่าโปร่งทั่วๆไป
ลักษณะต้นจะสั้นๆ
ใบแบนกว้างและค่อนข้างหนา
ใบมีสีเขียวหรือสีเขียวอมม่วง
ช่อดอกตั้งช่อดอกยาวแข็งและตรง
ดอกมีสีแดงอ่อนๆ ไปจนถึงสีแดงอมม่วง
ลักษณะเด่นของม้าวิ่งคือ
กลีบเลี้ยงและกลีบดอกคู่ล่างจะกาง
และลู่ไปทางด้านหลัง
ทำให้เห็นเส้าเกสรเด่นชัด
ดอกจะทยอยบานขึ้นไปเรื่อยๆ ถึงปลายช่อดอก
โดยดอกที่อยู่ด้านล่าง ก็จะค่อยๆ โรยไป


โดย: อุ้มสี วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:10:20:29 น.  

 
ซิ๊ดด...

บล็อกนี้มีเรื่องเสียวด้วยนิดหนึ่ง เก๊าะตอน ผี ผกค. นั่งเลือดแดงอยู่บนกำแพง (หยองอ่ะ)

นี่ถ้าเรื่องจริงปัจจุบัน เขาเรียกว่าผี หรืออะไรก็ไม่รุ อาจจะปีนขึ้นไปนั่งบนกำแพงบ้านผู้นำประเทศ ถือถุงเลือดแดงๆไปด้วย อิ อิ แล้วก็ปาโครมบนหลังคา น่ากัวยิ่งกว่าผี ผกค.อีกนะ ว่าไหม ว่าไหม


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:10:48:42 น.  

 
ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณCharlie ปืนต่อสู้อากาศยานยังมั่นอยู่ที่เดิม จขบ.เพี้ยนเอง ^ ^ คุณชาลีแจ้งพิกัดตำแหน่งที่ตั้งให้เสร็จสรรพ ช่วยฟื้นความจำจขบ.ทันที อยู่แถวสำนักอำนาจรัฐนั่นเอง ก่อบกุนก๊าาาบ

คุณอุ้มสี แว๊บกลับมาป้อนข้อมูลดอกไม้แล้ว เห็นมั๊ยคุณอุ้มสีเก่งจะตาย งั้นเจ้าดอกไม้ไดคัทสีม่วง ๆ เกสรเหลือง ๆ นี้ก็คือ เอนอ้าน้อยรึเปล่าครับ แต่ก็ไม่แน่ใจ เพราะว่านั่งนับกลีบได้แค่ 4 กลีบ ส่่วนดงดอกไม้ภาพเปิด ไม่แน่ใจว่าเป็นดอกอะไร ไม่น่าใช่เอนอ้า เพราะไม่เห็นเกสรสีเหลือง อิอิ สรุปไม่ได้ ยังงงต่อไปอีกหน่อย


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:10:48:42 น.  

 
งือ..งือ น้อยใจ อะไรๆก็เล็กไปหมด ไอ้โน่นก็เล็ก ไอ้นั่นนะก็เล็ก จอคอมก็เล็ก ทำให้เวลาดูอะไรที่มันใหญ่ๆอลังการในบล็อกนี้ ต้องเลื่อนลูกศรไปทางซ้ายทีขวาที จนปวดลูกกะตาไปหมดแล้วนะเนี่ย

ก็แค่อยากจะดูว่าข้างซอกหินนะ มีอะไร..ก็เท่านั้นเอง

ใบเฟิร์นแห้งๆ ก็ถ่ายออกมาสวยสะดุดตา เป็นภาพศิลป์กินใจ ใครหนอ จะเก่งเท่าพี่น้ำฟ้า คุณพ่อสุดแสนดีของน้องโฟกัสคนนี้ ไม่มีอีกแล้ว ชิมิ ชิมิ ยัยอัยย์ ตอบซิ ว่าเห็นด้วย แต่อย่าตอบว่า ... "เห็น ควร ด้วย" ... เชียว

มันหวาดเฉียวนิ !! ซิ๊ดดด...ดดดด

วันนี้วันเสาร์ หรอยเขาล่ะ เล่นบล็อกทั้งวัน

(น้องจินบอกว่า ไม่ต้องไปรับที่หนามบินค่า มีคนไปรับแย้ว..)


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:10:58:08 น.  

 
ดอกเอ็นอ้าน้อย มี 5 กลีบ
แต่ถ้าดอกเอ็นอ้าใหญ่จะมี 4-5 กลีบจ้า


โดย: อุ้มสี วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:11:24:24 น.  

 
ตามมาเที่ยวค่ะ ไปแบบนี้น่าหนุกเนอะ


โดย: kwan_3023 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:11:33:32 น.  

 
ตามกันมาติด ๆูู^^ ตามประสานักเที่ยว 555++

ตัวเล็กกางเกงชมพู น่ารักเชียวค่ะ



โดย: มิลเม วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:11:56:52 น.  

 
ตามมาชมตอนสองอย่างไวเลยครับ

ภาพชุดนี้งามมากๆ ครับ มุมมองดีจริงๆ อย่างภาพเปิดรูปดอกไม้ข้างทางเดินเนี่ย สวยมาก เป็นผมคงคิดมุมแบบนี้ไม่ออกหรอกครับ

ทีแรกจะชมว่าลูกสาวเดินเก่ง อ่านไปอ่านมาถึงรู้ว่าคุณพ่ออุ้มซะเยอะ แต่ขนาดเดินไปอุ้มลูกไปยังถ่ายรูปได้ขนาดนี้ ก็เยี่ยมแล้วครับ ผมเข้าใจถึงความลำบากตรงนี้ดี เพราะเวลาไปเที่ยวกับลูกผมก็ต้องอุ้มลูกไปพักถ่ายภาพไปแบบนี้เหมือนกันครับ


โดย: NET-MANIA วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:12:08:46 น.  

 
ขยันเที่ยวจนน่าอิจฉาเลยคะ อิอิ อย่าไปเที่ยวบ่อยๆแบบคุณน้ำฟ้าป่าภุเขาบ้างจังคะ น่าสนุกดี วิ้วๆ

แวะมาทักทายตอนเที่ยงๆคะ


โดย: thi_noi วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:12:48:46 น.  

 
ชอบภาพ
แอบเห็นใบไม้อิงแอบกัน กับ แอบเห็นความงามบนความเสื่อมสลาย

สวยดีค่ะ

อยากให้ไปสามพันโบก บ้างนะคะ
เพราะเราอยากไป แต่อยากศึกษาข้อมูล
ของคุณน้ำฟ้าฯ ก่อน


โดย: ~Nene~ IP: 10.5.0.80, 203.144.144.165 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:13:06:27 น.  

 
ธงไทยปลิวไสวดีจริง

อ๊ะ...งานเข้า ไม่ทันเมนต์อะไรต่อ


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:13:10:53 น.  

 
หวัดดีตอนบ่ายครับ....

เดินด้านเดียวกันเลย
ทุกคนมาถึงหินก้อนนั้น ไม่ถ่ายภาพไม่
แปลก และน่าทึ่งมากๆครับ...คล้ายๆหัวงูหรือเต่า

แต่ที่ลานหินปุ่มคนเยอะมากนะครับ
วันที่ผมไป มีไม่มากเพราะฝนเพิ่งลง

ผาชูธงยังตระหง่านเช่นเดิม

มีความสุขมากๆนะครับ


โดย: wicsir วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:15:25:16 น.  

 
มาขอบคุณพี่ปลายแป้นพิมพ์ที่แวะมาเยือนนะครับ พี่ถอยจอรุ่นใหม่ได้แล้วหล่ะ

ขอบคุณคุณKwan แวะมาตลอดไม่เคยขาด

คุณมิลเม คริ คริ น้องโฟกัสยิ้มแก้มตุ้ย

คุณNET-MANIA อิอิ หัวอกเดียวกัน แหม ตอนเด็กไม่ยอมเดินเนี่ย แล้วเราก็เมื่อยแสนเมื่อยเนื่ย เข็ดเลย แต่ผมยังดีกว่าหน่อย ลูกสาวคนเดียว ตัวก็เล็กกินไม่เก่ง น้ำหนักเลยน้อย เด็กดื้อของคุณNET.เนี่ยท่าทางอุ้มนานก็คงเหนื่อยไม่เบา ดีนะยังไม่ได้แบกขาตั้งกล้องไปอีกตัว ไม่งั้น..

thi_noi หวัดดีคร๊าบ ขอบคุณนะครับที่แวะมา

คุณนีนี่ หง่า จารับไว้พิณาคับ แต่แหม ช่วงนี้น้ำโขงน้อยแทบขาดใจ

นักล่าน้ำตก ^ ^ หายยุ่งยังครับ หรือว่าออกไปเชียร์เสื้อแดงต่อ ^ ^


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:15:39:26 น.  

 
เพิ่งแแอบมาเยี่ยมจากลิงค์ใน blog คุณตุ๊ก


โดย: VET53 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:15:53:43 น.  

 
......วิวสวยมากเลยครับ...ภาพก็สวย......


โดย: jetsada.999 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:16:01:47 น.  

 
งดงามตามเคย แจ่มจริงๆ


โดย: หมูน้อย IP: 203.144.144.164 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:16:18:12 น.  

 
หวัดดีคุณน้ำ ทราบข่าว.. ก็รีบแจ้น..มาเลย โห.. การเดินทาง ตั้ง 3กิโล .. อิฉัน จะไหวไหมเนี่ย..มาได้ 2 ..แล้ว เดี๋ยว จะมาต่อใหม่ แต่บรรยากาศ ดี ชอบนัก ลำบาก ๆ ขอบอก ..มันเหมือนเวลาเดินทางไกลตอนเข้าค่าย เลยอ่ะ..แต่ถ้าอากาศเย็น ๆพอไหว ..มีลูกสาวน่ารักดี น้อ ..หวงจังนะ แม่ ่น่ะ ไม่ยอมให้เห็นเลย .. เด๋วจะมา เม้นต่อ ที่บ้านตัวเองไม่มีเวลา อัฟ..บ เลย ..มีความสุข น้า ..


โดย: tifun วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:16:27:52 น.  

 
วันนี้ทำงาน สามสิบเปอร์เซ็นต์ ไปยืนข้างถนนเจ็ดสิบ

ถ้าตกงาน...จะไม่โทษใครค่ะ


นักล่าชอบกิ่งก้านต้นไม้สามภาพนั้นนะคะ

หลากสี ต่างอารมณ์...คนถ่ายรูปมานี่...สายตาละเอียดลออซ้า...

ถ่ายภาพความเสื่อมทรุดได้สวยหลายภาพค่ะบล็อกนี้



โดย: นักล่าน้ำตก IP: 111.84.91.93 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:16:49:26 น.  

 
โอ้ยอยากไปอยากไป ^-^ ครั้งแรกและครั้งล่าสุดที่ไปก็ตอนที่โตเท่าๆ นางแบบกางเกงชมพูอ่ะค่ะ หรือโตกว่านิดหน่อย
เดินตั้งไกล เหนื่อยคงเหนื่อยยังเก็บภาพสวยๆ มาฝากคนไม่ได้ไปอีก ^-^

ขอบคุณค่ะ



โดย: อรุณสวัสดิ์ที่รัก วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:17:20:09 น.  

 
เยี่ยมเลยครับ

เก็บรายละเอียดมาได้ดีมากๆ

จนผมนึกว่าผมร่วมก๋วนไปเที่ยวด้วยเลยครับ


โดย: อนันต์ครับ วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:17:37:10 น.  

 
ตามมาเที่ยวภูหินร่องกล้า ครับ
สวยมากเลย
ชอบรูปแบบการนำเที่ยวในบล็อกนี้จัง


โดย: kitpooh22 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:18:43:08 น.  

 
แวะมาเที่ยวคราฟฟ


โดย: พระจันทร์สัญจร วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:19:09:56 น.  

 
ไกด์ตัวน้อยเก่งมากเลย เดินมาได้ไกล
แหมไม่เข้าใจศัพท์ วัยรุ่นเลย ต้มโค้ง แบบว่า โค้งมันเยอะจนไม่ต้องกินข้าวเย็นไง ได้มาตอนไปภูหินร่องกล้า นี่แหละ ไปตอนใกล้ปีใหม่ อากาศ ประมาณ สิบองศา ตามหาทะเลหมอกคะ


โดย: dolores วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:20:10:50 น.  

 
ตามมาเที่ยวแล้วค่ะ..

ระลึกความหลังก่อนนะ.. ตอนไปผาชูธง จำได้ว่า .. เค้ามีทางให้เดิน แต่ดันไปเดินระยะขจัด.. (กะย่นระยะทาง..ปรากฎว่า.. ขาเป็นริ้ว. เลยค่ะ บุกเ้ข้าไปในดงไผ่.. ) ตอนนั้นยังเดินกันเองอยู่เลย ไม่มีคนนำทาง

ดอกสีม่วงที่หัว blog น่าจะเป็นดอกไม้สกุลเทียนนะคะ.. (แ่ต่เทียน..อะไรต่อท้ายนี่ จำบ่ได้)

เอนอ้าน่ะ .. ดอกม่วงข้างล่าง แถว ๆ ทางไปลานหินปุ่ม

อัพตะวันออกแล้วนะคะ.. ยังไม่จบ มีสี่ภาค.. เอิ๊กกกกกกกกก


โดย: poongie วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:20:45:49 น.  

 
โอ้โห!....อัพบล๊อคได้ระเอียดยิบเลยค่ะ..cool เช่นกันsrc=https://www.bloggang.com/emo/emo26.gif>
รูปทรงของก้อนหินเหมือนที่ภูผาเทิบจ.มุกดาหารเลยค่ะ...
ตามไปเที่ยวด้วยคนนะค่ะเมืองหลวงวุ่นวายเหลือเกิน


โดย: หมูหยอง_w วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:20:54:08 น.  

 
สวยครับ

แต่อยากไปๆ

ผมเองก็ชอบเที่ยวสองแบบคือ
เชิงวัฒนธรรม
กับเชิงธรรมชาติ

ช่วงหลังจากเรียนจบมัธยม
มักจะเป็นเชิงวัฒนธรรมมากกว่า

แต่ผมก็ยังโหยหาธรรมชาติอยู่



สักว่าจะตามเส้นทางของคุณ...น้ำ ฟ้า ป่า เขา ไปนะครับ

สักวันจะไป



อ่อ..ขอบคุณที่เข้าไปเล่นที่บล็อกนะครับ


โดย: ครูอั๋น (kruaun ) วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:21:00:38 น.  

 
ตามพี่น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขามาเที่ยวตามคำชวนแล้วจ้า

หนูเหม่งหายไปหลายวันเลย ดีนะกลับมาทันดูลานหินปุ่ม ผาชูธงต่อ

เด็กหญิงโฟกัสน่ารักจังเลยค่ะ เดินเก่งดีจัง

ท่าทางสนุกสนาน เดินไปดีดกีต้าร์ไปด้วย ชิวน่าดูค่ะ

มาชวนพี่น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา ไปเที่ยวอัมพวากะหนูเหม่งด้วยค่า


โดย: BiBie IndyGirl วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:22:10:54 น.  

 
จุใจเหมือนได้ไปเที่ยวเอง สาวน้อยโฟกัส ต้องเป็นลูกของตากล้องแน่ ๆ นอกจากมีน้องโฟกัสแล้ว ยังมีน้องชัดเตอร์อีกมะคะ อิ อิ


โดย: puipom วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:23:12:52 น.  

 
ตามมาแล้วอีกคนค่ะ ก่อนอื่นขอเล่าให้ฟังก่อนว่าที่ไหว้พระห้าวัดนะค่ะไม่ใช่เดือนที่แล้วค่ะไปทริปเดียวกันไปเชียงใหม่สามวันวันแรกก็เลยไปไหว้พระห้าวัดที่ลำพูนก่อนวันที่สองถึงไปไหว้พระเก้าวัดที่เชียงใหม่แต่ไม่ค่อยมีเวลามาอัพบล็อกค่ะ ส่วนวันนี้ก็ตามมาเที่ยวด้วยอีกคนแถมยังได้รู้จักดอกไม้เพิ่มขึ้นอีกด้วย เดินกันสามกิโลสามชั่วโมงนี่สงสัยทางจะชันพอควรนะคะแต่ถึงขนาดนั้นผู้คนเยอะมากมายจริงๆ คนนำทางก็น่ารักจังแต่ครั้งหน้าต้องหารองเท้าที่ใส่สบายๆไว้ให้แกใส่เดินลุยเต็มที่นะคะ


โดย: hellojaae (hellojaae ) วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:1:50:16 น.  

 
มอร์นิ่งค่ะ คุณน้ำฟ้าฯ
ถ่ายภาพได้งดงาม และคำอธิบายก็ละเอียดดีจัง
ทั้งชมภาพและอ่านตามไปด้วย
ทำให้นึกถึงตอนที่ไปเดินเองเลยจริงๆ

ถึงจะเหนื่อยแสนเหนื่อย
แต่เมื่อถึงจุดหมายปลาทางแล้วช่างงดงามนัก
ทำเอาหายเหนื่อยได้เหมือนกันนะคะนั่น


โดย: nLatte วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:8:36:07 น.  

 
แวะมาทักทายก่อนค่ะ
เดี๋ยวมาเก็บรายละเอียดอีกที
รูปเปิดถูกใจเหลือเกินค่ะ
เมื่อวานพาพ่อ-แม่ไปทำบุญที่โคราชมาค่ะ
อากาศ+แดดร้อนมาก กลับมาปวดหัวมาก
ไม่ได้เปิดคอมพ์ เพิ่งมาเปิดเช้านี้ค่ะ

แล้วแวะมาใหม่นะคะ ขอไปทำธุระก่อน


โดย: ขนมไทยห่อใบตอง วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:8:44:15 น.  

 
หวัดดีจร้า

วันนี้พี่อัยย์ เอ๊ย ป้าอัยย์มาเดินตามน้องโฟกัสอีกแระ

เห็นกำแพงหินใหญ่ยักษ์นั่นแล้ว ก็นึกไปถึงพวกโบราณสถานอย่างนครวัด นครธมเลย...

คุณ ssfm ได้ถ่ายรูปพวกที่พัก โรงเรือนของเหล่าสหายมาบ้างมั้ยคะ

นักล่ามีนะ...เด๋วค่อยเอามาแจมมั่ง

รูปทั้งหลาย ส่วนใหญ่อยู่ที่เครื่องที่ทำงานหมด


โดย: นักล่าน้ำตก IP: 111.84.108.233 วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:9:16:47 น.  

 
แวะมาเป็นครั้งแรก รู้สึกว่า จขบ.มีความผูกพันกับที่นี่มาก บรรยายไปเห็นภาพเป็นอย่างดี ผมเคยไปเที่ยวมาครั้งหนึ่งเมื่อ 5ปีที่แล้ว ได้เดินเที่ยวชมจุดต่างๆ ให้ความรู้สึกกับเพื่อนพี่น้องที่ต้องมาเสียชีวิต ณ ภูหินล่องกล้า แห่งนี้ พักกางเต้นท์ 1 คืน อากาศดีมาก กกก


โดย: fast toy วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:10:29:01 น.  

 
ชุดนี้ มาให้ดูกันเต็มอิ่มเลยนะ เดินกันเพลินๆ 3 กม/3 ชม อาจมีอาการเมื่อยตามมา ขอบคุณกับภาพและเรื่องราวที่นำมาฝาก


โดย: OxyMan IP: 203.144.144.164 วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:10:48:14 น.  

 
ตอนเราไปฝนตก ลุยฝนไปเลย




และภาพที่ชอบที่สุด



โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:12:24:33 น.  

 
เคยไปตอนเด็กเหมือนกันค่ะ
จำไม่ค่อยได้แล้ว


โดย: นู๋ที วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:17:40:02 น.  

 
ตามมาตอบ ..

ระยะขจัดเนี่ย.. เอามาจากวิชาฟิสิกซ์ (ยังเหลืออยู่บ้าง.. เล็ก ๆ น้อย ๆ ..)

เป็นระยะของเส้นตรงที่เราลากผ่านจุดเริ่มต้น ไปยังจุดสุดท้าย .. โดยไม่สนใจว่าเส้นทางจริง ๆ จะคดโค้งไปมายังไง..

..

ตอนนั้นก็เที่ยวประสาซื่อ + บ้าค่ะ นั่งรถทัวร์ไปลงหล่มสักแล้วโบกรถต่อขึ้นไปภูิหิน.. กลัวกันเองทั้งคนโบกรถ และคนรับขึ้นรถ..

เค้าไม่มีป้ายบอกไว้ว่าระวังระเบิดค่ะ แต่ไม่ให้เข้านอกเหนือเวลาที่อนุญาต เราคิดอย่างเดียวว่าคงกลัวเสือคาบเอาไปกิน.. ทำให้กางเต้นแถวนั้นไม่ได้ .. แล้วก็จำไม่ได้ว่า .. พากันเดินยังไง ตั้งไกล ขึ้นไปกลางเต้นท์ท้ายหมู่บ้านบนเขา.. หนาวมาก.. ตกกลางคืน ชาวบ้านมาเรียกให้เข้าไปนอนในบ้าน เค้ายกบ้านให้ทั้งหลัง .. พร้อมผ้าห่มนวมอันแสนอบอุ่น บอกว่า ถ้านอนข้างนอกพรุ่งนี้เช้าขี้เกียจเก็บศพ.. ที่แข็งตาย

ขออนุญาตพาดพิง ไปจนกว่าจะอัพจบทริปตะวันออกนะคะ.. คิคิ..


โดย: poongie วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:19:51:46 น.  

 
วิ้วๆ อย่าลืมแวะมาทางอุบลบ้างนะคะ



โดย: thi_noi วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:19:59:57 น.  

 
คิคิ ใช้ code HTML ใน blog ใหม่แล้วนะ.. นิ๊ดดดดดด นึง..

ที่เหลือ.. ค่อยว่ากันใหม่..

blog ยาวเป็นกิโลเลย.. แต่อีก 2 blog ถัดไป อาจจะสั้นจุ๊ด..จู๋


โดย: poongie วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:20:31:45 น.  

 
ภูหินเคยไปสมัยเรียนค่ะ
ตอนนั้นต้อนรับน้องใหม่ ตัวเองก็เป็นน้องใหม่สนุกมากๆ เลยค่ะ

จำได้ว่าเดินใกล้ๆ กับคนแบกปี๊บขนมปัง ตอนแรกก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่อยู่ใกล้เสบียง
แต่ไปๆ มาๆ ต้องถูกพี่บังคับให้กินขนมปังตลอดทาง เพราะคนแบกจะได้แบกเบาลงหน่อย ตกลงโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่เนี่ย^^

ขอบคุณสำหรับภาพถ่ายสวยๆ และเรื่องราวดีๆ ที่นำมาฝากเสมอมาค่ะ ^^

ตอนนี้ยุ่งนิดหน่อย เพราะหนีงานไปเที่ยวเกาะกูด 3-4 วันค่ะ
คาดว่าจะได้อัพบล็อคเร็วๆ นี้
ตอนนี้ภาพถ่ายที่ดองไว้หลายทริปเค็มเกือบได้ที่แล้วววววว




โดย: sunsmile_a วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:20:41:07 น.  

 
555 ได้ความรู้สึกเลย โฟกัส ฟองเบียร์ และโฟร์วีล บ่งบอกตัวตนของพ่อเค้าล่ะ



เอารูปเขื่อนแม่สรวย เวอร์ชั่นใหม่มาเพิ่มเติมก้าบบบบบ


โดย: puipom วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:21:20:06 น.  

 
สวัสดีเฮีย......ขออภัยไม่ได้เข้ามาเยี่ยม เข้าืำเน็ตไม่ได้มาหลายวัน แจ่มอีกแล้วยอดเยี่ยมมาก ๆๆๆๆๆๆ


โดย: MrNinJa IP: 125.24.88.169 วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:21:36:15 น.  

 
ท่าโพสท่า่ของเด็กหญิงโฟกัส แต่ละท่า.. สุดยอด..

สงสัยมีคนสอนมาดี..

วันนี้บะบายนะค๊า.. วันหลังจะเอาตะวันตื่นที่ระยองมาฝาก..

พรุ่งนี้หนีแฮ่ด 1 วัน..


เหอ ๆ .. ตามไปแก้แล้ว.. แก้คำผิด บ่จ้ายแก้ผ้า.. ขอบคุณหลาย ๆ ..


โดย: poongie วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:22:41:16 น.  

 
รูปสวยมากเลยค่ะ เห็นแล้วก็อยากไปเที่ยวเลยนะเนี่ย

เดินเยอะอย่างนี้ต้องไปช่วงหน้าหนาวเนอะ จะได้ไม่ค่อยเหนื่อยนัก

น้องโฟกัสน่ารักมากเลยนะคะ เดินเก่งด้วย ^^


โดย: pim(พิม) วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:22:51:34 น.  

 
ง้า...น่าเที่ยวมากๆเลยยยคับ
อยากไปเที่ยวแบบธรรมชาติๆบ้างจัง
รูปถ่าย ถ่ายออกมาได้เยี่ยมมากคับ ได้บรรยากาศความเป็นธรรมชาติแบบจริงๆเลย แล้วแวะมาทักกันอีกนะคับ ขอบคุณคับ ;)


โดย: ธนิศวร์ วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:2:50:55 น.  

 
ตามมาเที่ยวต่อจ้า..
คราวนี้เห็นหน้าสาวน้อยจอมลุยด้วยอ่ะ ..เก่งจัง
ท่าท่างจะชอบเที่ยวเหมือนคุณพ่อนะเนี่ย..

เคยเดินเกือบถึงลานหินปุ่มเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ถึงจุดหมาย

เหนื่อยหอบ..แฮ่กๆ เลย ..

คนเยอะเชียวเนอะ ..

สาวน้อยโฟกัสแอบทำหน้าเซ็งด้วย ..


อยากทำบล็อคให้น่าสนใจแบบนี้บ้างจัง



โดย: Nongpurch วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:9:49:19 น.  

 
มาอีกรอบแล้วค่ะ
หายปวดหัวตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ
แต่ยังร้อนไม่เข็ด
เลยขับรถพาพ่อ-แม่ ไปเที่ยวบ้านป้าที่ปราจีนฯต่ออีกวัน

เดิน 3 ก.ม.คงไม่สามารถหอบสังขารเดินแบบนี้ได้แน่
กิโลเดียวยังพอไหว อยากไปแต่สังขารไม่ให้ค่ะ
กำลังจะชมว่าน้องโฟกัสเดินเก่งจัง
อ่านไปอ่านมา อ้าว พ่ออุ้มด้วยนี่นาแต่ก็ถือว่าเก่งค่ะเดินได้ตั้ง 1 ก.ม.
น้องโฟกัสโชคดีที่คุณพ่อพาไปเที่ยวแนวธรรมชาติแบบนี้นะคะ
โตขึ้นเค้าจะได้รักและหวงแหนธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ที่บ้านถ้ามีโอกาสก็จะพยายามพาลูกชายไปเหมือนกันค่ะ
แต่ช่วงหลังปะป๊าะเค้าไม่ค่อยมีเวลาเหมือนเมื่อก่อน

นี่ประมาณต้นมิ.ย.น้องชายกลับมาพักร้อนที่เมืองไทย
กำลังเล็งๆว่าจะไปเที่ยวไหนดี
ระหว่างดูดอกกระเจียวป่าหินงาม+เขาค้อ
หรือว่าจะไปเชียงใหม่ดี ยังตัดสินใจไม่ได้เลยค่ะ



โดย: ขนมไทยห่อใบตอง วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:10:18:59 น.  

 

น่าไปเที่ยวมากๆ เลย
ชอบสถานนี้แบบนี้...ครับ




โดย: ฟ้าสดใส ทะเลสีคราม วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:10:31:59 น.  

 
ขอบคุณที่ช่วยเล็งที่เที่ยวค่ะคุณน้ำฟ้า
กะจะเที่ยววันธรรมดาค่ะ พาลูกโดดเรียนเที่ยวซะงั้น
ยังไม่เคยไปชัยภูมิและเขาค้อเลยแต่เชียงใหม่ก็ไปช่วงหนาวทุกที
เลยกะไม่ถูกเลยค่ะ และช่วงที่น้องชายได้พักร้อนก็หน้าฝนของไทยเรา
เลยหาที่เที่ยวลำบากกว่าหน้าหนาวหน่อย
เค้าได้มาแค่ 2 สัปดาห์เองค่ะ กลางมิ.ย.ก็ต้องบินกลับแล้ว
ถ้ากระเจียวบานช่วงก.ค.ก็คงอดดูเลยนะคะ น่าเสียดาย
เห็นเค้าร่ำลือว่าช่วงเช้าตรู่ไอหมอกระยอดดอกกระเจียวนี่งามนัก
ถ้าไปช่วงต้นมิ.ย.คงจะยังไม่ค่อยบานใช่ไม๊คะ

ส่วนเขาค้อก็ไม่เคยไปเลย อยากไปสัมผัสไอหมอกขาวมากเหมือนกัน
หน้าฝนป่าคงเขียวสวยนะคะ ผสมกับหมอกขาวๆคงสวยมาก
แล้วถ้าจะไปเขาค้อการเดินทางช่วงหน้าฝนจะอันตรายไม๊คะ
เอาคันVigo สี่ประดูขับ2 ไปกันค่ะ

มาบ่นในบล็อคคุณน้ำฟ้า เลยได้คำแนะนำเรื่องเที่ยวเลย
เป็นพวกที่ชอบภูเขามากกว่าทะเลค่ะเพราะบ้านพ่อแม่อยู่บางเสร่
เห็นทะเลจนรู้สึกเฉยๆ อยากไปเที่ยวตามป่าเขามากกว่า
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ


โดย: ขนมไทยห่อใบตอง วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:12:12:03 น.  

 
สวัสดีวันสีเหลืองค่ะ สวยสดใสไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ ไม่เห็นภาพของสำนักอำนาจรัฐเลย ชอบบรรยากาศที่นั่นค่ะ


โดย: ไผ่สวนตาล วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:12:15:05 น.  

 
ขอบคุณคุณน้ำฟ้าอย่างสูงเลยค่ะ
เดี๋ยวเข้าไปดูรีวิวแล้วรีบส่ง link ไปให้น้องชายดูประกอบการตัดสินใจดีกว่า

ขอบคุณมากๆเลยค่ะ



โดย: ขนมไทยห่อใบตอง วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:13:01:02 น.  

 
โพรไฟล์รูปนี้ของคุณน้ำฟ้าเนี่ย..เรโทรมากๆ

ดูเป็นพวกบุปผาชน อิอิ...

อัพบล็อกแล้วจ้า...


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:14:16:49 น.  

 
วิวสวยมากเลยคับบบ


โดย: ฝนทอง วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:15:38:50 น.  

 
จากบ้าน

"Where does she live?"

"At the airport," Chris replied.

"Whenever we want her we just go out there and get her."

ยายอยู่ที่สนามบินเพราะเวลาไปเจอยายก็ไปเจอที่สนามบินทุกทีค่ะ ...



โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:15:56:14 น.  

 
เนาะ บางเรื่องเราขำ บางคนก็ว่าไม่เห็นขำ

เราขำว่าเด็กไม่รู้หรอกว่ายายบินมาจากไหน รู้ว่าเจอยายที่สนามบินทุกทีก็เลยคิดว่าสนามบินคือบ้านยาย


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:16:21:22 น.  

 
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

นิวอีดิทการออกเสียงแล้วนะคะ


โดย: Play Losz วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:17:57:10 น.  

 
ว้าว....ภูหินตอนนี้

สองวัน ตั้ง 70 เมนต์แระ

เวิร์กมั่กๆ....


คนเป็นช่างภาพเนี่ย เค้ามองเห็นในสิ่งที่ชาวบ้านมองไม่เห็นนะคะ

ถ้านักล่าหยุดพัก...รับรองว่า นักล่ามองไม่เห็นเจ้าใบไม้อิงแอบกันนั่นหรอก

อาจจะเที่ยวมองหาร้านขายน้ำเย็นๆอะไรแบบนั้นมากกว่า แหะ...


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:20:32:51 น.  

 
แวะมาทักทายครับ
ภาพสวยครับ
เคยไปลานหินแตก


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:8:13:56 น.  

 
หวัดดีค่ะ

ตามมาจากบ้านพี่ตุ๊กค่ะ
เพราะว่างงในประโยคเดียวกัน
แอบอ่านเม้นท์เลยตามมา

Now
I am also got it
thanks dear


โดย: raya-a วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:9:24:30 น.  

 
แวะมาซึมซับความสวยงามอีกรอบหนึ่งนะ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:9:38:21 น.  

 
สวัสดีตอนสายที่ร้อนจังค่ะ
ไปดูรีวิวคุณน้ำฟ้าที่แปะให้แล้วและส่งให้น้องชายดูแล้วด้วย
บรรยากาศดีมากๆน่าไปพักจริงๆค่ะ
ยิ่งที่คุณน้ำฟ้าบรรยายเรื่องชมคลื่อนหญ้าว่า

"นั่งมอง ค ลื่ น ห ญ้ า พ ลิ้ ว ป ลิ ว ไ ส ว เหมือน ค ลื่ น ท ะ เ ล ซั ด ฝั่ ง"

นี่ก็เหมือนตกอยู่ในภาพแห่งฝันแล้วค่ะ
เพราะเป็นมโนภาพที่โหยหามานานแล้ว
ยิ่งหมอกขาวโพลนด้วยนะ ต้องไม่พลาดที่นี่แน่ๆค่ะ
น้องชายก็ชอบเหมือนกันค่ะ


โดย: ขนมไทยห่อใบตอง วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:10:12:32 น.  

 
จัดให้คุณขนมไทยฯ กะคุณน้องชายดูนะครับ
ให้เห็นว่าคลื่นหญ้าพลิ้วปลิวไสวเหมือนคลื่นทะเลซัดฝั่งยังไง
คำพรรณาฤาจะสู่ของจริงนิ โชคดีตอนที่เห็นนั้นอดใจไม่ไหวต้องเปลี่ยนโหมดวีดีโอบันทึกภาพนั้นไว้ทันที



ตอนที่เห็นชัด ๆ เป็นระลอกคลื่นจะอยู่ช่วงต้น ๆ ครับ มันเป็นทุ่งดอกหญ้าสีขาว ๆ เลยเห็นเป็นเกลียวคลื่น


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:11:02:36 น.  

 
ตามมาโดยพลัน
ประทับใจมากๆค่ะคุณน้ำฟ้า
อยากจะกรี๊ดดดดังๆ
ประทับใจในภาพที่เห็น
ที่สำคัญที่สุดประทับใจในน้ำใจคุณน้ำฟ้าจริงๆค่ะ

ถ้าไปยืนอยู่ตรงนั้นคงจะเหมือนถูกสะกดเอาไว้แน่ๆค่ะ
ว้าวว...อยากเห็นของจริงไวๆจังเลย
เดี๋ยวช่วงบ่ายๆน้องชายตื่นจะไปตามน้องชายมาดูอีกเหมือนเดิมค่ะ


โดย: ขนมไทยห่อใบตอง วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:12:09:13 น.  

 
สวัสดีวันสีชมพูค่ะ ทวนความจำสมัยประถมค่ะ ท่องกันจนเบื่อเลยค่ะ


โดย: ไผ่สวนตาล วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:13:03:19 น.  

 


ดีค่าคุณน้ำฟ้า

อานิสงส์จากคุณขนมไทยแท้ๆ ทำให้นักล่าฯพลอยได้ดูทะเลหญ้าไปด้วย

สวยจริงๆค่ะ พลิ้วเป็นระลอกๆ...

ชอบทั้งทะเลหญ้า ทะเลหมอกเลยค่ะ

แต่ทะเลน้ำตา...ไม่ชอบเท่าไหร่ อิอิ


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:13:36:38 น.  

 
เข้ามาบล็อคพี่ที่ไร
ก็เริ่ดสุดๆ
ชอบมากคร่า
ตอนนี้นู้ทำงานเลิกตึกมาก
อาจจะไม่ได้เข้าบล็อคบ่อยมาก
หายไปบ้างคงไม่ว่านะคะ


โดย: cbreeze21 วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:13:44:08 น.  

 
สวัสดีครับ คุณพี่น้ำฟ้าฯ ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูลที่มีมาไม่ขาดสาย ซาบซึ้งน้ำตาไหลพราก แนะนำตัวก่อน ผมน้องของพี่ขนมไทยฯเองครับ ฝากเนื่อฝากตัวด้วยนะครับ


โดย: Chef Chan วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:16:04:04 น.  

 
ดงดอกไม้นั่นคิดว่าเป็น "เทียนดอย" Impatiens violiflora ครับ

บรรยากาศโดยรวมยังดีอยู่มากเลยนะครับ ถ้ามีโอกาสต้องไปเที่ยวบ้าง
แต่ไปวันหยุดคงหนีคนไม่พ้นอยู่ดี

เกาะแสมสารยังเปิดให้ขึ้นไปเที่ยวได้นะครับ แต่ทั้งเกาะแสมสารและเกาะขาม
ไม่อนุญาตให้พักแรมบนเกาะครับ ผมยังไม่มีโอกาสได้ขึ้นไปได้แค่นั่งเรือผ่าน
เท่าที่มองเห็นตอนนั่งเรือผ่านรู้สึกว่าจะมีศาลาอยู่บนยอดเขา 2 จุด คิดว่าจาก
ชายหาดขึ้นไปยังศาลาที่ว่านี้น่าจะมีระยะทางไม่น้อยกว่า 3 - 5 กิโลทีเดียวครับ
กะว่าถ้ามีโอกาสได้ไปอีกครั้งผมต้องเดินขึ้นไปดูให้ได้ครับ


โดย: ST.Exsodus วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:17:21:53 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ
บล๊อคนี้ความรู้เพียบเลย
นู๋ยังไม่เคยเลยเนี่ย จะมีแรงเดินกะเค้ามั้ยน้อ


โดย: Lovely December วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:20:14:44 น.  

 
ขอบคุณค่ะ

ฝีมือถ่ายภาพสวยมากจนอยากไปเลย แต่มีโปรเจ็ก on da beach แล้วสิ



โดย: Play Losz วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:20:55:17 น.  

 
ไม่ได้แวะ.. เินินนางพญาเลยค่ะ เห็นทางขึ้นแต่ไม่ได้เข้าไป..

เพื่อนเหนืือยแล้ว.. อยากกลับไปพักที่ระยองมากกว่า..

ตัวเองก็ไม่ได้หาข้อมูลไว้มาก กะพักแค่แถว ๆ แหลมสิงห์ แล้วหารถเข้าระยอง กลับอุบล ไม่คิดว่าเพื่อนจะบริการทุกระดับประทับใจเยี่ยงนี้..

มาตามไปดูตะวันตื่น..ที่ระยองค่ะ


โดย: poongie วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:20:57:58 น.  

 
โห...เหมือนเดินตามหลังเจ้าของบล๊อกเลยนะเน๊ย เหมือนไปเที่ยวกะเค้าด้วย มีความสุขจังคะ คิดโปรแกรมเที่ยวอีกแหระนู๋


โดย: Nu'BeeBi วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:23:18:40 น.  

 
ขอบคุณมากๆนะคร้า สำหรับคำอวยพรวันเกิด

ขอให้คุณน้ำฯมีความสุขเสมอเช่นกันคร่า

เตรียมขนมนมเนยมาพร้อมแล้วค่ะนี่ เดินตามไปเที่ยวกันแบบชิวชิวเรยคร่า โหย....นี่ดีนะคะดูแดดไม่ค่อยร้อน ถ้าไปช่วงแดดแรงๆจะเกรียมไหมคะนี่


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:2:48:49 น.  

 
ขอบคุณครับที่ให้เกียรติไปเยี่ยมกันถึงที่ ก็คงจะไปเขาค้อล่ะครับ ผมเป็นคนชวนพี่ขนมไทยเองแหละ เคยไปหลายปีมาแล้ว ชอบอากาศดีมาก ถ้าไปแล้วจะเอารูปมาอวดนะครับ


โดย: Chef Chan วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:5:42:47 น.  

 
สวัสดีตอนเช้า ๆ ..ค่ะ ..

มะคืนฝันดีรึเปล่า..
ยินดีรับคำติ ค่ะ.. จะได้พัฒฯ ฝีมือตัวเอง..

.. จะได้เก่ง ๆ เท่าคุณน้ำฟ้าฯ ไว ๆ ..

หลังไมค์มาได้ทุกเวลาเน้อ..


โดย: poongie วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:7:44:23 น.  

 
สวัสดีทุกท่านนะครับ
ได้กลับไปขอบคุณทุกท่านเป็นการส่วนตัวแล้ว ^ ^
คุณST.Exsodus ได้แวะมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ว่ามวลหมู่มาลีภาพบนสุดนั้นน่าจะเป็นดอกเทียนดอย พร้อมชื่อในโหมดภาษาอังกฤษด้วย ( คห.81 )
ต้องขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้นะครับ

คุณST.Exsodus คือสุดยอดบล๊อคเกอร์นักรีวิวตัวยงเลยนะครับ ใครยังไม่เคยชมผลงานอย่าพลาดนะครับ High recommended เลย


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:9:11:21 น.  

 
บล๊อกนี้สวยจัง
ภาพสวย
และชอบการจัดวางด้วยค่ะ


เพิ่งไปมาเมื่อปลายตุลาคมปีที่แล้ว
ดอกไม้จะแตกต่างจากที่เห็นนี่เยอะเหมือนกัน




โดย: VELEZ วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:9:14:59 น.  

 


หวัดดีเวลาพักกินข้าว...

ว่างมะไหร่ แวะไปเที่ยวน้ำตกกันนะคะ


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:12:20:21 น.  

 
ตามมาเที่ยวค่ะ รูปสวยอีกตามเคย เที่ยวสนุกด้วย
ว่าแต่ผาชูธงนี่คุ้นๆ จังค่ะเหมือนจะเคยไปมาแล้ว แต่ไม่แน่ใจ ^-^"

หนังสือจะส่งให้พรุ่งนี้นะคะ ^0^


โดย: kaew (kosak ) วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:13:27:44 น.  

 
สวัสดีครับพี่ ที่สโลเวเนียนี่ จากที่ถามข้อมูลกับทางกงศุล ก่อนเดินทางมา มีคนไทยอยู่ประมาณ 100กว่าคนครับ ส่วนใหญ่จะมาเป็นร้านนวดแผนไทย ที่นี่ค่อนข้างเยอะ แต่ร้านอาหารไทยเพิ่งมีแค่2ร้านเองครับ เป็นประเทศเล็กๆแต่อยู่สบายครับ ไม่วุ่นวายเหมือนเมืองใหญ่ๆ คนที่นี่ก็มีน้ำใจ ไม่หยาบกระด้างเหมือนประเทศที่คิดว่าตัวเองเจริญแล้ว ถ้ามีโอกาสจะมาเที่ยวก็เชิญนะครับ ยินดีต้อนรับครับ


โดย: Chef Chan วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:15:25:55 น.  

 


โดย: thi_noi วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:17:22:33 น.  

 
ออกเสียงว่า โน้-ซิ ค่ะ ^^

อยากให้อัพเรื่องไหนอีกบอกได้เลยนะคะ


โดย: Play Losz วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:19:22:19 น.  

 
มีนางแบบจำเป็นด้วยนะเนี้ยะ

เห็นรูปดอกไม้สีม่วงๆ แล้วสบายตาสุดๆ

ปล. คารวะในความมานะสำหรับการเม้นค่ะ อิอิ


โดย: ทะโมนน้อย วันที่: 25 มีนาคม 2553 เวลา:10:05:41 น.  

 
อุ๊ยๆๆ อัพแล้ว
แวะมาแปะข้อความ ตอกบัตรรายงานตัวก่อนนะคะ
มาช้าไปนิ๊ส โอ๋ๆๆ อย่าน้อยใจน่า นะๆๆ

ไปอ่านคราว ๆ ก่อนนะ
แล้วจามาอ่านแบบละเมียดละไมอีกรอบ
พร้อมเม้นส์ยาว ๆๆ เอาปะ

จะไปแบงค์ ตามประสามีเงินล้มมือ
กร๊ากกกกกกก (ซ้าธุ ++ ขอให้ฝันเป็นจริงเถ๊อะ 5555)
บ่าย ๆ มีประชุมที่หอการค้าฯ
มาอีกทีก็คงเย็น ๆ
แล้วคุยกันค่ะ


โดย: JinnyTent วันที่: 25 มีนาคม 2553 เวลา:10:28:40 น.  

 
เห็นภาพแล้วอยากไปอีกจัง

แต่คนเยอะมากมายครับ เหอๆ ถ้าครั้งหน้าไปคงต้องแวะไปน้ำตกหมันแดง คราวก่อนผมดันเป็นไข้ เดินไปแค่ลานหินแตกใกล้ๆ ก็แทบไม่ไหวแล้ว


โดย: Prinzknecht วันที่: 27 มีนาคม 2553 เวลา:9:45:45 น.  

 
ช่วงที่เพิ่งหมดฝน คงสวยน่าดูเลยนะครับ


โดย: ขึ้นเป้ วันที่: 1 เมษายน 2553 เวลา:16:08:16 น.  

 
รูปก็งาม เนื้อหาก็เยี่ยม


โดย: Ezy-SeaHill วันที่: 7 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:50:39 น.  

 
เราชอบการรีวิวแบบคุณมากค่ะ ดูน่าสนใจดี


โดย: jigabelle วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:1:58:07 น.  

 
I like what you guys are up too. Such intelligent work and reporting! Keep up the excellent works guys I have incorporated you guys to my blogroll. I think it will improve the value of my site :)
pas cher Louis Vuitton //porsector.com/acer/hko.cfm


โดย: pas cher Louis Vuitton IP: 94.23.252.21 วันที่: 21 สิงหาคม 2557 เวลา:16:56:10 น.  

 
HQ6NyK Wow! This can be one particular of the most useful blogs We ave ever arrive across on this subject. Basically Excellent. I am also an expert in this topic therefore I can understand your effort.


โดย: this site IP: 188.165.201.164 วันที่: 10 กรกฎาคม 2560 เวลา:20:55:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 185 คน [?]







ทำไมต้อง น้ำ ฟ้า ป่า เขา
เริ่มท่องเที่ยวไกลบ้านครั้งแรกตอนอายุได้ 12 ขวบ ไปไกลถึงเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ครั้งนั้นได้วิ่งไล่จับเมฆบนดอยปุย ก็ใจแตกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ชอบถ่ายภาพเพราะหนังสือถ่ายภาพท่องเที่ยวของ"ทอม เชื้อวิวัฒน์"
รักภูเขาเพราะหนังสือ "คืนสู่ภูเขา" ของดวงดาว สุวรรณรังษี
ภาพถ่ายผลงานของคุณดวงดาวในหนังสือเล่มนั้นมันสร้างแรงบันดาลใจแก่ผม ให้ผมหลงรักเหลี่ยมเขา และอยากถ่ายทอดเป็นภาพถ่าย เมื่อถึงเวลาต้องใช้นิคเนม เลยเลือกคำสั้น ๆ 4 คำที่เกี่ยวกับธรรมชาติที่เราชอบมาเป็นชื่อ น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา
ความตั้งใจ: ยังมีอีกหลายภู หลายดอย ที่ยังไม่ได้พิชิต เรี่ยวแรงก็เริ่มน้อยถอยลง พักนี้ของชีวิตก็ได้แต่เที่ยวฉาบฉวย สไตล์แคมป์คาร์ ไปเรื่อย ๆ
ยังจะเดินทางต่อไป ต่อไป ... และต่อไป

รู้จักจขบ.เพิ่มเติมได้ที่บทสัมภาษณ์พิเศษ
Interview The Blogger น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา




Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
20 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.