.. ถน น ส า ย นี้ มี ต ะพ า บ 91 . ... ( นิท า น ส ะ พ า น ค วา ย )




เรื่องมันเริ่มขึ้นที่บางปลาม้า สุพรรณบุรี

นานมาแล้ว ตั้งแต่สมัยรัตนโกสิทร์ตอนที่สาม

สุพรรณยามนั้น อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ เช่นหอยขม และแมงจิ้งโก่ง

เรียกว่าจับกินกันได้เป็นที่อิ่มหนำ แทบไม่ต้องปลูกข้าวกันเลยทีเดียว

ชาวบ้านชาวช่องก็หน้าตาผ่องใส จิตใจเบิกบาน เจอกันก็รำตัดรำไทย หยอกล้อกัน

เมืองสุพรรณบุรีนั้นจึงขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองศิลปิน เพราะทรัพยากรอุดมสมบูรณ์

ไม่ขาดแคน ประชาชนจึงมีเวลาสร้างสรรค์ศิลปะมาก

เพราะไม่ต้องดิ้นรนทำกินจนไม่มีเวลา

หิวปั๊บ ก็จับหอยขม แมงอีเหนี่ยว แกล้มชาเขียว อร่อยขึ้นชื่อ

ใครๆก็ว่าสุพรรณนั้นเป็นเมืองหอยใหญ่ ไข่แดง

แหล่งธรรมะ ประเพณีชักพระโด่งดัง






ในเมืองสุพรรณบุรีอันกว้างใหญ่นั้น

ยังมีหมู่บ้านเล็กๆ คือ ไม่ใหญ่มาก ขนาดกำลังดี ประมาณคัพบีนิดๆ

ชื่อบ้านบางปลาม้าลายพาดกลอน

ในหมู่บ้านบางปลาม้าลายพาดกลอนนั่นเอง

ยังมีไอ้หนุ่มลูกทุ่งเมืองสุพรรณขนานแท้

 บ้านปลูกอยู่ท้ายทุ่ง ทำนา ขุดบ่อเลี้ยงปลาทำฟาร์มเห็ดเผาะไปตามเรื่อง

ใครๆก็เรียก “ทิดผัน”ด้วยความที่เคยบวชเรียนมาหลายพรรษานั่นเอง

ส่วนใครๆที่ไม่เรียกทิดผัน ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ใครๆเขาก็เรียกกันแบบนั้น

ทิดผันมีชื่อจริงว่า “ผันน้ำลงคลองข้างวัดประดู่” ชื่อยาวซักนิด

หลวงตาตั้งให้ตอนเกิดใหม่ๆ แกว่าเป็นชื่อมงคล




.

.

.

.

.



ทิดผันหลังจากสึกมาไม่นานก็มาตกหลุมรัดเข้ากับชบา

ที่บังเอิญเจอกันตอนเก็บยอดตำลึงริมรั้ว

เจอกัน สบตากัน ก็ตกหลุมรักกันตรงนั้น

ชบานั้นชื่อจริงหล่อนคือชบาร์เบียร์ ศิษย์เจ้าพ่อลิงกัง

เป็นสาวค่อนข้างห้าว เจอหมาไล่กัดเด็กก็ไล่กัดหมากลับ

เป็นที่ถูกใจของทิดผัน



สองคนนี้ก็รักกันเรื่อยมา ตามประสาหนุ่มสาวชาวทุ่ง

จีบกันทุกวันจนตำลึงไม่มีจะเด็ด เหลือแต่ก้านก็ยังไม่หนำใจ

ชาวบ้านบางปลาม้าลายพาดกลอนก็เห็นว่าสองคนนี้สมกันดี

ต่างก็สนับสนุนด้วยการให้แกงเห็ดบ้าง ให้แกงหอยขมบ้าง


.

.

.

.

.



อยู่มาวันหนึ่ง รู้สึกว่าจะเป็นวันศุกร์

เกิดเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่บางปลาม้าลายพาดกลอน

สิ่งนั้นคือเพลี้ยกระโดด ท้องทุ่งนาถูกเพลี้ยกระโดดเข้าทำลาย

ชาวบ้านไม่เคยเจอเพลี้ยชนิดนี้มาก่อน สงสัยจะเป็นเพลี้ยกระโดดเตะก้านคอ

บางคนออกความเห็นว่ามันน่าจะเป็นเพลี้ยกระโดดเตะตัดขามากกว่า



ชาวบ้านไม่รุ้จะทำเช่นไร หอยขมก็ค่อยๆตายลงไปจนเริ่มขาดแคลน

แมงจิ้งโก่งก็พลอยล้มตายไปด้วยเพราะตรอมใจ

ชาวบ้านไม่รู้จะทำยังไงบางคนจึงได้แต่ทำขนมครก

บางคนก็ทำเป็นไม่แคร์แต่แอบรัก บางคนก็ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว



ทิดผันเห็นท่าไม่ดี ขืนปล่อยให้เป็นเช่นนี้บางปลาม้าลายพาดกลอน

เห็นทีจะสิ้นชื่อกันหมด

ทิดจึงปรึกษากับชาวบ้านทั้งหลาย

พ่อผู้ใหญ่บ้านมีความเห็นว่า ควรมีใครซักคนเดินทางเข้าพระนคร

ไปขอปืนใหญ่มาเป็นอาวุธต่อสู้รักษาบ้านเมืองเอาไว้

แต่ชบาแย้งว่า อาจจะไม่ต้องใช้ปืนใหญ่ให้เปลืองกระสุนดินปืน

เพียงแต่ไปขอวิธีกำจัดเพลี้ยชนิดนี้จากกรมกำจัดเพลี้ยในพระนครก็พอ



ชาวบ้านเห็นด้วยโบกมือกันเย้วๆ

และชบานั่นเองที่อาสาไปพระนคร

ด้วยว่ามันเคยไปมาแล้วหลายครั้ง จึงชำนาญทาง

ทิดผันอาสาไปด้วยอีกคนด้วยความเป็นห่วงคนรัก

ชบาซึ้งใจยอมให้จับมือซ้าย เพราะลูกเสือเขาไม่จับมือขวา

ชบาเคยเรียนวิชาลูกเสือด้วย บอกแล้วว่าเธอห้าว

.

.

.

.

การเดินทางในพระนครนั้น ไม่เหมือนการเดินทางแบบไหนที่ทิดผันคุ้นเคย

ไม่เมหือนการเดินธุดงค์ ไม่เหมือนการเดินตามคันนาที่บางปลาม้า

ชบานั้นหรือก็ทำอะไรเร็วว่องตามแบบของเธอ

ทิดผันเงอะๆงะๆ ตามไม่ค่อยจะทัน

ในที่สุดก็พลัดหลงกันที่กลางสามแยกแห่งหนึ่ง



ทิดผันหาชบาไม่เจอ ไม่รู้อยู่ต้นมะพร้าวต้นไหน

อารามหิวข้าว จึงเดินเข้าไปร้านข้าวแกงแห่งหนึ่ง

อิ่มแล้วจึงได้โรงแรมแถวนั้นนอนอยู่หลายคืนก็ไม่เห็นชบามา

ทิดผันคิดไปต่างๆนานา หรือชบาจะวางแผนทิ้งเขาไว้ที่นี่

หรือเธอจะมีคนใหม่ที่พระนครนี่เข้าแล้ว มิน่าถึงได้เข้าพระนครบ่อยๆ



ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ทิดผันกินข้าวไปร้องไห้ไป

ผู้คนก็พากันถามไถ่ว่าทำไมจึงร้องไห้และไม่ใช้ช้อนกลางตักอาหาร

เรื่องราวจึงถูกเล่าขึ้นในร้านนั้นนั่นเอง



วันแล้ววันเล่า ที่เรื่องราวถูกเล่าขาน

จนวันนึงทิดผันคิดได้ ว่าทำไมไม่กลับบางปลาม้าลายพาดกลอนวะเนี่ย?

คิดได้ดังนั้น ก็เลยกลับบ้าน

และที่ชายทุ่งนั้นเอง ชบาวิ่งถลกผ้าถุงมาแต่ไกล

กอดรัดทิดผันด้วยความคิดถึง

เธอไม่ได้เปลี่ยนไปไหน อยู่ที่บางปลาม้าลายพาดกลอนนี่ต่างหาก



.

.

.

.



ร้านอาหารที่สามแยกนั้นเอง เพื่อระลึกถึงเรื่องราวของชาย

ชาวสุพรรณผู้มาร้องไห้ทุกวันอยู่ครึ่งค่อนเดือน

จึงตั้งชื่อร้านตัวเองว่า “Suphan cry (สุพรรณคราย) “

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

จำเนียรกาลนานมาจนถึงปัจจุบัน ย่านนั้นจึงได้ชื่อว่า “สะพานควาย”

อันเพี้ยนมาจาก สุพรรณคราย  นั่นเอง





.

.

.

.

.



จบบริบูรณ์ครับ นิทานปรัมปรากับตำนานสะพานควาย

เขียนไปดูบอลไปด้วย ยาวเลย


พรุ่งนี้ทำลิ้งค์ให้ตอนเพลๆเด้อ






เพื่อนชาวตะพาบ 91

1.คุณ toor36

2.คุณ เศษเสี้ยว

3.คุณ ugly princess

4.คุณ กะว่าก๋า

5.คุณ newyorknurse




6.คุณ วนารักษ์

7.คุณ ญามี่

8.คุณ คนผ่านทางมาเจอ

9.คุณ
NENE77

10.คุณ
ทุเรียนกวน ป่วนรัก


11.คุณ
เริงฤดีนะ

12.คุณ
Pikake




อัพเดตล่าสุด 18:04น.

































เพื่อนๆเรามีไปตั้งสำนักในเฟสกันด้วยนะ

ลองกดสิ












Create Date : 19 ตุลาคม 2556
Last Update : 19 ตุลาคม 2556 18:05:10 น. 28 comments
Counter : 1521 Pageviews.

 

อ่านเพลินเลยค่ะ
ดีจังอ่านนิทานปรัมปรา จบด้วยเรื่องสพานควาย
เอโหวดสาขาไหนดีน้า อ่านแล้วชื่อก็ขำๆดีด้วย
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
วนารักษ์ Literature Blog ดู Blog
เป็ดสวรรค์ Funniest Blog ดู Blog

newyorknurse




โดย: newyorknurse วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:2:58:36 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับโต้ง


เขียนได้ยาวดีแท้น้อ 555
แต่สนุกดีครับ
หักมุมจบซะด้วย




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:7:31:33 น.  

 
ไอ้ หยา สนุกดี อ่าน ตาม ลื่นไป คล้าย สแตนเลส


โดย: panwat วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:8:48:45 น.  

 
เขียนได้ยาวจริงๆเลยค่ะ
ว่าแล้วเขียนไปดูบอลไปนี่เอง จากทิดผันเลยกลายเป็นทิดสมไปได้
แต่ก็ดีตอนจบกลับมาเป็นทิดผันคนเดิมแล้ว คริคริ





พี่หญิงส่งการบ้านด้วยนะจ๊ะ


โดย: ugly princess วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:9:09:03 น.  

 

Like ให้เป็นคนที่ 1
พี่อุ้มแวะมาอ่านจ๊ะ



โดย: อุ้มสี วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:9:23:33 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณน้องเป็ดน้อย..

สะพายควาย...มีนิยายปร้มปราเป็นยังงี้นี่เอง..อิอิ

มีความสุขมากๆนะค่ะ



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:11:43:19 น.  

 
สวัสดีค่ะเป็ดคุง
มาส่งงานจ้า ....

...............
ตำนานสะพานควายเป็นเช่นนี้แล 55



โดย: NENE77 วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:12:39:48 น.  

 
แวะมาส่งงานตะพาบฯ ก่อนจ้า~ (งวดนี้ไม่เลทนะเนี่ย :D)

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=durianguan&month=19-10-2013&group=2&gblog=54



โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:13:19:05 น.  

 
อ๋อ..มันเป็นเช่นนี้เอง
"สพานคราย"
กว่าจะมาเป็น"สะพานควาย"


กำลังเขียนอยู่ค่ะ
แวะเข้ามาหา หัวเรื่องฯแปะบล็อค



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:13:38:10 น.  

 
ส่งงานค่ะ
ร้อนๆจากเตา


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:14:39:37 น.  

 
แวะมาเยี่ยมในวันหยุด...สวัสดีครับ


โดย: **mp5** วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:14:39:59 น.  

 
มาตามอ่านงานตะพาบ


โดย: sawkitty วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:15:19:05 น.  

 
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=pikake&month=10-2013&date=19&group=1&gblog=99

ตะพาบเสร็จแล้วค่ะ

วันนี้ฝนตกทั้งวัน
แถมเพิ่งกลับทำบุญ
ยังเจอไฟดับ
เลยเพิ่งเขียนสดๆๆๆ เลยค่ะ

มีความสุขวันออกพรรษานะค่ะ



โดย: Pikake วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:17:05:17 น.  

 

ป้ามาอ่านนิทาน สะพานควายขำดีค่ะคุณเป็ด

ไล้ค์และโหวตค่ะ

เป็ดสวรรค์ Funniest Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: พรไม้หอม วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:17:12:48 น.  

 

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ราตรีสวัสดิ์นะคะคุณเป็ด


โดย: เกศสุริยง วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:19:32:30 น.  

 
สวัสดีค่า คุณเป็ด ^^
มาอ่านตะพาบสะพานควาย ค่า
น่ารักตามสไตล์ที่คิดไม่ถึงตลอดเลยค่ะ อิอิ

ส่งงานตะพาบแล้วค่า มาช้านิดนึง
โจทย์คราวนี้ยากกกกกจังค่ะ ^^



โดย: lovereason วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:21:16:48 น.  

 
กร้าก ... มันมีที่มาที่ไปอย่างนี้เองหรอกเหรอ
ว่าแต่ว่าอาวุธยุทโธปกรณ์เมืองหลวง มันจะจัดการ
เพลี้ยร้ายได้จริงเหรอค่ะนั่น 5555


โดย: JewNid วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:22:44:01 น.  

 
เขียนได้อารมณ์พีเรียดมากๆเลยพี่


โดย: น้องผิง วันที่: 19 ตุลาคม 2556 เวลา:23:04:46 น.  

 
จำเนียรกาลนานมาจนถึงปัจจุบันสะพานควายกลายเป็นสี่แยก


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 20 ตุลาคม 2556 เวลา:0:42:03 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับโต้ง


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 ตุลาคม 2556 เวลา:6:20:13 น.  

 
ได้เวลาไปหาธรรมชาติแล้วครับ ตามมานะครับ...



โดย: คุ้นๆว่าเราเคยพบกัน วันที่: 20 ตุลาคม 2556 เวลา:9:47:36 น.  

 
ป๊าด!!! ถลกผ้าถุงวิ่ง

ป๊าด ป๊าดดดด สะพานควายมีที่มาฉะนี้เอง >"<


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 20 ตุลาคม 2556 เวลา:20:55:20 น.  

 
ชบานี่สุดยอดตั้งแต่ชื่อ ยันเคยเรียนลูกเสือ เพราะห้าวเลย

ที่แท้ตำนานนี้มาจากการเพี้ยนเสียงตามกาลเวลานี่เอง

+



โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 20 ตุลาคม 2556 เวลา:23:11:58 น.  

 
55555สุพรรณคราย


โดย: maistyle วันที่: 21 ตุลาคม 2556 เวลา:9:01:57 น.  

 
ขนฺติ ตโป ตปสฺสิโน
ความอดทน เป็นตปะ ( ต บ ะ ) ของผู้พากเพียร

นอกจากสติแล้วต้องพกขันติประจำกายใจไว้ตลอดเวลา
จึงจะสำเร็จในทุกสัมมากิจที่ปรารถนาทุกประการ
ขอความสุข สวัสดีจงมีแก่เพื่อน ๆ ทุกท่าน...ค่ะ



ไลค์ก่อนเน่อ โหวตได้คนเดียวเอง...
ตะพาบออกเดินยั้วเยี้ยเชียว ทำไม๊ให้โหวตเดียว





โดย: พรหมญาณี วันที่: 21 ตุลาคม 2556 เวลา:9:51:56 น.  

 
โอ้~ คุณพระ!

นี่มัน...นี่มัน...เข้าขั้นนิทานพื้นบ้านระดับอินเตอร์
ประมาณ AEC ประชาคมอาเซี่ยนเลยนะเนี่ย
เพราะมีตั้งหลายภาษาแน่ะ 55



โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 21 ตุลาคม 2556 เวลา:11:40:57 น.  

 
แหมๆๆๆๆ ตำนานชื่อสะพานควาย มีที่มาที่ไปนะคะ อิอิ
อ่านไปยิ้มไป ขอบคุณน้องเป็ด เขียนเรื่องมาให้อ่านกัน
ตอนนี้ได้ข่าวว่า กทม. ฝนตกเยอะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ ^.^


โดย: diamondsky วันที่: 21 ตุลาคม 2556 เวลา:14:49:47 น.  

 
มีทั้งหอยขม ทั้งแมงจิ้งโกร่ง แต่อ่านเรื่องนี้แล้วผมกลับอยากกินต้ำยำปลาม้าที่สุดแฮะ

อ่านๆมา ลืมไปเลยว่าชื่อเรื่องตำนานสะพานควาย ว่าแต่มันมาโยงกับสุพรรณครายได้งัยครับเนี่ย!?

อย่าเอาป๋มไปขึ้นดอยเลยครับ ไม่ชอบปีนเขา แฮ่ๆ


โดย: ชีริว วันที่: 21 ตุลาคม 2556 เวลา:23:44:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เป็ดสวรรค์
Location :
สวรรค์ชั้นดาวโด่..สมาคมผู้เลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งแห่งเอธิโอเปีย.. Ethiopia

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 85 คน [?]





เจ้าของบล็อก ชื่อ “เป็ดสวรรค์”
บุตรพระเจ้ากูลิโกะ ผู้ปกครองแคว้นมิยาบิ
ชอบมองโลกในมุมขำขัน เป็นพรสวรรค์
ติดตัวมาจากนครสวรรค์
เมื่อแรกประสูติ โหราธิบดีนามว่าโตโยต้าได้ทำนายว่า
พระโอรสพระองค์นี้ หัวพระถันดำเมี่ยมยิ่งนัก นับเป็นกาลกิณี
เมื่อเติบใหญ่ขึ้นบ้านเมืองจะวุ่นวาย
ชาวเมืองจะออกมาชุมนุม และจะมีคนตายถึง 91 ศพ

เมื่อพระราชบิดาเห็นดังนั้น จึงให้เนรเทศพระโอรสน้อย
ให้ออกไปทำไร่ไถนาอยู่แคว้นปัญจาบ
หลังๆหันมาปลูกฝิ่นส่งออกขายนอกประเทศ
มีความสนิทสนมกับขุ่นส่า คบค้ากับตานฉ่วย

เมื่อเติบใหญ่ขึ้น จึงใช้เวลาว่างมาเขียนบล็อกเล่นๆ
จนล่าสุด เพื่อนฝูงก็เมตตา โหวตให้ได้สายสะพาย
ทรงซาบซึ้งพระหัวใจมาก กะว่าจะเลิกค้าฝิ่น
แล้วหันมาเอาดีทางขีดเขียนแทนแล้วล่ะ

หวังว่าจะมีรอยยิ้มหลังจากที่อ่านจบ
ยิ้มเล็กยิ้มน้อย ค่อยๆยิ้ม แต่ยิ้มนานๆก็ได้

และหากคุณชื่นชอบเรื่องขำขันชวนหัว
โปรดอย่ามองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ
เพราะหากคุณชอบมัน และมีคนชอบมัน
ก็แสดงให้เห็นว่า มันคงจะมีคุณค่าในตัวมันเองอยู่บ้าง

ลงนาม
อัลบัสไดร์เวอร์ เพอรซิวาล วูลฟริก เป็ดสวรรค์
อังคารที่ 4 เมษายน พุทธปรินิพพานล่วงแล้ว 2554 ปี

Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
19 ตุลาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เป็ดสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.