ย้อนสู่ทวารวดีที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง อำเภออู่ทอง เมืองสุพรรณบุรี
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง
หลัก ๆ คืออยากมาดูโบราณวัตถุในวัฒนธรรมทวารวดี
มาถึงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง บ่ายสามโมงครึ่ง พิพิธภัณฑ์ปิด บ่ายสี่โมง
รีบโดดลงรถเข้าข้างในทันที และเจ้าหน้าที่ก็เดินพาไปห้องจัดแสดงที่อยากมาชมทันที
* ขอบคุณค่ะ *
เมืองอู่ทองเป็นเมืองในวัฒนธรรมทวาราวดี เชื่อว่าในสมัยก่อนทะเลขึ้นไปถึง
สันนิษฐานว่าเคยเป็นเมืองที่อยู่ปากแม่น้ำ
ไม่แน่ว่าถ้าน้ำทะเลจะท่วมอีกครั้งอาจจะกลายเป็นเมืองท่าของทะเลอ่าวไทยอีกครั้งก็ได้
ด้านตะวันตกเป็นเทือกเขา เป็นต้นของลำน้ำที่ไหลมาลงแม่น้ำจระเข้สามพัน
และเทือกเขายังเป็นที่สังเกตตำแหน่งเมืองอู่ทองในการเดินเรือ
ต่อมาเมืองสุพรรณบุรีได้เจริญขึ้นมาแทนที่ เมืองอู่ทองจึงกลายเป็นเมืองร้าง
มีคันดินและคูน้ำล้อมรอบที่สามารถเห็นได้ชัดในแผนที่
อาณาเขตของเมืองที่พบโบราณสถานใหญ่กว่านี้ ตรงนี้อาจเป็นศูนย์กลางของเมืองก็เป็นได้
เชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการค้าแห่งหนึ่งของดินแดนสุวรรณภูมิ
มี ลูกปัดเครื่องประดับ เหรียญกษาปณ์ ศาสนา วัฒนธรรม ส่งผ่านมาถึง
ได้พบจารึกที่อู่ทอง ภาษาสันสกฤต ในพุทธศตวรรษ 13-14
เขียนว่า ภูเขาแห่งนี้ชื่อปุษยคีรี
จากศิวลึงค์ที่พบ ทำให้เราทราบได้ว่ามีการนับถือศาสนาพราหมณ์
ศิวลึงค์เป็นรูปเคารพแทนพระศิวะ ... ถ้าสร้างขึ้นโดยมนุษย์สร้างขึ้นเรียก มานุษยลึงค์
เป็นทรงกระบอก มีสามส่วน คือ
สี่เหลี่ยมจตุรัส ... พรหมภาค
แปดเหลี่ยม ... วิษณุภาค
กลม ... รุทรภาค มีเศียรพระศิวะประดับอยู่หนึ่งเศียร เรียกเอกมุขลึงค์
รุทรภาค ส่วนนี้เท่านั้นที่จะพ้นฐานโยนีขึ้นมาเรียกบูชาภาค
พบธรรมจักร เป็นธรรมเจดีย์ ทำให้เราทราบได้ว่า มีการนับถือศาสนาพุทธ
สมัยพระเจ้าอโศกมหาราชได้ส่ง พระโสณะ และพระอุตตระ นำศาสนาพุทธมาเผยแพร่ ในสมัยนั้นอินเดียนิยมสร้างธรรมจักร
ทวารวดีที่เมืองอู่ทองจึงยังคงสร้างเสาอโศกเป็นธรรมเจดีย์ เพื่อระลึกถึงแม้เวลาจะผ่านเลยยุคนั้นมาแล้ว
หมายถึง พระธรรมคือเป็นความจริงที่อนันต์คือไม่มีที่สิ้นสุด หมุนไปเหมือนล้อรถ
หมายถึง ธรรมจักรกัปปวัฒนสูตรอันเป็นปฐมเทศนา ที่ป่าอิสิปัตนมฤคทายวันที่มีกวาง จึงพบคู่กับกวางหมอบ
ประกอบด้วยส่วนฐาน เสา และธรรมจักร ... เสาธรรมจักรที่อู่ทองเป็นเสาที่สมบูรณ์มาก
หัวเสาแกะลายมาลัยเฟื้องและอุบะ เป็นการบูชาธรรมจักร
ฐานเสาเป็นรูปหงส์
แผ่นดินเผาภาพพระภิกษุอุ้มบาตร ศิลปะอินเดียแบบอมราวดี ประมาณพุทธศตวรรษที่ 9-10 (หรือราว 1,600-1,700 ปีมาแล้ว) ... เก่าแก่ที่สุด
เป็นแผ่นดินเผาภาพภิกษุ 3 องค์ ยืนอุ้มบาตรครองจีวรห่มคลุม จีวรมีลักษณะเป็นริ้ว
สันนิษฐานว่าทำขึ้นเพื่อประดับศาสนสถาน
พระพุทธรูปทวารวดี
พระพักตร์กลมแป้น พระขนงต่อกันเป็นปีกกา พระเนตรมองต่ำแสดงถึงความเมตตา ... มหายาน
พระเกษาขมวดเป็นวงก้นหอย อุษณีษะปมกลม ไม่มีเกตุมาลา อาจมีประภามณฑล
จีวรเรียบ ไม่มีริ้ว บางแนบพระวรกาย เห็นขอบสบงที่บั้นพระองค์ มีสองแบบคือ ห่มคลุม และห่มเฉียง
จีวรห่มคลุม แบบพระในอินเดียเหนือ ที่อากาศเย็น ชายจีวรด้านหลังเป็นกรอบตกลงมาจากพระกร พาดผ่านบริเวณข้อพระบาท ชายจีวรด้านหน้ายกสูงขึ้น พาดผ่านพระชงฆ์
จีวรห่มเฉียงแบบอินเดียใต้ ที่อากาศร้อน ชายจีวรทบมาทางด้านซ้าย
พระพุทธรูปยืน บนฐานบัว มีสองแบบ ยืนตรง ... สมภังค์ และ ยืนยักเอว ... ตริภังค์
หัตถ์ ขนานกันหรือไม่ขนานกันก็ได้ ... ตามแต่นิกาย
นิ้วแบบโอเค ปลายน้วชี้และนิ้วหัวแม่มือแตะกันกลมเป็นดั่งกงล้อ แสดงถึงพระธรรมที่หมุน ... ปางแสดงธรรม วิตรรกมุทรา
หัตถ์ซ้ายที่แบออก อาจถือลูกบวบ
แบพระหัตถ์ตั้งขึ้น แสดงถึงพอ ... ปางให้อภัย อภัยมุทรา
ประทับสมาธิราบ ... ปางสมาธิแสดงถึงการตรัสรู้
ภาพขวา ประทับสมาธิเพ็ชร ไขว้พระบาทและเห็นฝ่าพระบาททั้งสองข้างไม่พบบ่อยในทวารวดี
จีวรห่มเฉียงลึกใต้พระถัน สังฆาฏิคลี่ออกเป็นริ้ว ราวพุทธศตวรรษ 13-15
ที่สำคัญคือมีพระเกตุมาลา เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า ... แปลว่า พระผู้มีโชค, ผู้มีความเจริญ, ผู้มีเกียรติ, ผู้มีความงาม ...
ทรงเข้าสมาธิแล้วระลึกถึงอดีตพระพุทธเจ้าได้ จะเปล่งรัศมีชื่อออกมาจากพระอุษณีษะ
พระโพธิสัตว์ไม่มีเกตุมาลา เพราะไม่อาจเห็นอดีตพระพุทธเจ้า
อดีตพระพุทธเจ้าในกัลป์นี้ ... ภัทรกัลป์ มี พระกกุสันทะ พระโกนาคมนะ พระกัสสปะ
พระพุทธเจ้าในปัจจุบัน ... พระโคตมะ
อนาคตพระพุทธเจ้า ... พระเมตไตร
แม่พิมพ์ พระพิมพ์ ดินเผา
1 พระพุทธเจ้าตรัสรู้
พระพุทธเจ้าประทับสมาธิบนดอกบัวที่ถือโดยนาค ใต้ต้นโพธิ
แสดงธรรมแก่ ฝ่ายหินยาน ... นั่งอยู่ และ ฝ่ายมหายาน ... พระโพธิสัตว์ยืนอยู่ด้านข้าง ... มีพระอมิตาภะอยู่บนชฎามุกุฏ
มีเทวดาชุมนุม
2 พระพุทธเจ้าประทับนั่งขัดสมาธิบนฐานสูงที่ด้านหน้ามีธรรมจักรและสถูป
ขนาบด้วยพระโพธิสัตว์ทั้ง 2 ข้าง
ด้านบนมีพระพุทธเจ้าประทับนั่งขัดสมาธิ 3 องค์ ... อดีตพระพุทธเจ้า
ต้นโพธิดินเผา ... ตรัสรู้
ลัทธิมหายาน
มีพระอมิตาภะ เป็นพระพุทธเจ้าที่เป็นนิรันดร์ อยู่บนสวรรค์ คนมองไม่เห็น
จึงต้องเนรมิต พระตถาคต หรือพระพุทธเจ้า ให้มาสั่งสอน แล้วปรินิพพานดับไป แสดงถึงการมีอยู่และดับไป
พระตถาคต รูปเคารพคือพระพุทธรูป
มีพระโพธิสัตว์ คือ สัตว์ผู้ที่แสวงหาโพธิฌาน เป็นผู้ช่วย
ซึ่งท่านได้ได้บรรลุนิพพานหรือสุญญตาได้แต่ยับยั้งไว้ก่อนเพื่อช่วยคนอื่น
มีพระเนตรเหลือบต่ำ แสดงความเมตตา รูปเคารพพระโพธิสัตว์ จะมีพระอมิตาภะอยู่บนผมหรือมุกุฏ
พระโพธิสัตว์มีหลายองค์ ดูลักษณะและสิ่งที่ถือจึงจะบอกได้ว่าพระโพธิสัตว์นั้นมีนามว่าอะไร
พระอวโลกิเตศวร ถือดอกบัวคือ พระโพธิสัตว์ปัทมปาณิ
พระหัตถ์ขวาถือลูกประคำ พระหัตถ์ซ้ายถือก้านดอกบัวและคนโทน้ำ มีสายธุรำ (ยัชโญปวีต) พาดคล้องที่พระอังสาซ้าย
ยืนบนดอกบัว ศิลปะศรีวิชัย พุทธศตวรรษที่ 13-14
และ
เศียรพระอวโลกิเตศวร เป็นพระโพธิสัตว์ ดูจากพระพุทธรูปบนชฏามุกุฎ ... มวยผม
ยอดเจดีย์จำลอง
ชิ้นส่วนสถูปดินเผา
กุฑุมีลักษณะคล้ายหน้าต่างโค้ง ประดับเจดีย์ทวารวดี
มีใบหน้าของชาวมอญทวารวดียื่นหน้าต่างออกมา ... ดวงตามีจุดตาดำ
ทรงผมและเครื่องประดับหญิงทวารวดี
ลูกปัดหินสีที่มาจากต่างแดน
เครื่องประดับ เศียรพระ นิ้วเท้าใส่แหวนทุกนิ้ว สร้อยคอน่าจะรูปดวงอาทิตย์ ทองคำ
แบบพิมพ์เครื่องประดับโลหะ
หัวลูกศร ขวานสำริด กำไล แหวน ตุ้มหู
เครื่องมือเครื่องใช้
แวดินเผาไว้กรอด้าย น่าจะเป็นผางประทีบจุดในกลางคืน ตะเกียงดินเผา เตาเชิงกราน
ของใช้สำหรับขึ้นรูปตีหม้อ และหม้อ
ลูกปืนดินเผา ทางเหนือบ้านเราใช้ดินเหนียวปั้นกลม ๆ ตากแห้งเรียกลูกก๋งใช้กับหนังสะติ๊ก
เงินตรา และ กระเป๋าเงิน
จุดไข่ปลา พระอาทิตย์ครึ่งดวง อีกด้านม้วนเป็นแหวนรูปศรีวัตสะ
รูปหอยสังข์ หม้อน้ำ
เหรียญโรมันก็มี แต่ไม่ได้ถ่ายภาพเจาะมาค่ะ
ตราประทับดินเผา
เครื่องราง
รูปคนจูงลิง เป็นความเชื่อท้องถิ่นเป็น เครื่องรางเสดาะเคราะห์ เดินทางทางเรือ การฝึกจิต
เคยเห็นที่เมืองโบราณจันเสนเช่นกัน
สิงโตยิ้มสำริด ทวารวดี พุทธศตวรรษที่ 12-14
แผ่นอิฐจารึก แผ่นอิฐปิดทอง
กินรีดินเผา และ เทวดาเหาะ
นี่ก็กินรี
ปฏิมากรรมดินเผาขนาดเล็กดินเผาเป็น ฝาจุกพาชนะดินเผา เป็นบุคคลหญิง สองข้างของศร๊ษะมีช้างชูงวง
เป็นรูปพระศรี หรือพระลักษมี ... อุดมสมบูรณ์ โชคลาภ
รูปสัตว์ขนาดเล็ก
ชิ้นส่วนสถาปัตยกรรมทวารวดี
หม้อดอก
หน้ายักษ์ - เทวดา ทวารวดี
เศียรทวารวดี เป็นปูนปั้น คิ้วปีกกา เนตรโปน-ยักษ์โปนกว่า มีตาดำ* มีหนวด
ปูนปั้นประดับโบราณสถาน
นาค
บุคคล และต่างชาติในสมัยทวารวดี
เพราะของเก่า พากลับไปยังวันเก่า ๆ
Create Date : 09 พฤษภาคม 2562 |
Last Update : 10 พฤษภาคม 2562 15:04:02 น. |
|
34 comments
|
Counter : 6243 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณKavanich96, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณหอมกร, คุณเริงฤดีนะ, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณกะว่าก๋า, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณkae+aoe, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณJinnyTent, คุณmultiple, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณทนายอ้วน, คุณSweet_pills, คุณALDI, คุณตะลีกีปัส, คุณMDG, คุณnewyorknurse, คุณล้งเล้งลัลล้า |
โดย: ลุงแมว วันที่: 9 พฤษภาคม 2562 เวลา:21:46:50 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 9 พฤษภาคม 2562 เวลา:23:57:35 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 10 พฤษภาคม 2562 เวลา:2:35:27 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 10 พฤษภาคม 2562 เวลา:10:33:15 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 10 พฤษภาคม 2562 เวลา:14:09:11 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 พฤษภาคม 2562 เวลา:14:53:23 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 10 พฤษภาคม 2562 เวลา:16:25:29 น. |
|
|
|
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 10 พฤษภาคม 2562 เวลา:17:13:52 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 10 พฤษภาคม 2562 เวลา:17:25:56 น. |
|
|
|
โดย: JinnyTent วันที่: 10 พฤษภาคม 2562 เวลา:18:43:37 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 10 พฤษภาคม 2562 เวลา:19:08:47 น. |
|
|
|
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 10 พฤษภาคม 2562 เวลา:21:00:28 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 10 พฤษภาคม 2562 เวลา:21:52:40 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 พฤษภาคม 2562 เวลา:22:52:39 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 10 พฤษภาคม 2562 เวลา:23:25:32 น. |
|
|
|
โดย: ALDI วันที่: 10 พฤษภาคม 2562 เวลา:23:48:39 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 พฤษภาคม 2562 เวลา:6:52:37 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 พฤษภาคม 2562 เวลา:9:34:36 น. |
|
|
|
โดย: poongie วันที่: 11 พฤษภาคม 2562 เวลา:12:56:39 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 11 พฤษภาคม 2562 เวลา:21:16:37 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 พฤษภาคม 2562 เวลา:6:26:02 น. |
|
|
|
โดย: นัท สุราษฏร์ธานี IP: 171.96.133.8 วันที่: 6 พฤษภาคม 2563 เวลา:2:03:08 น. |
|
|
|
| |