เที่ยวฉะเชิงเทราแบบ tuk-tuk@korat ฉะเชิงเทรา สันนิษฐานว่า เพี้ยนมาจากภาษาเขมร ว่าฉทึงเตรา; ฉทึง แปลว่าแม่น้ำ เตรา แปลว่า ลึก บอกว่าบริเวณนี้มีแม่น้ำลึก อันหมายถึงแม่น้ำบางปะกง เริ่มจากคลองพระสะทึงไหลลงเขาสอยดาวทางทิศตะวันออกที่อำเภอสอยดาว วกขึ้นไปทางทิศเหนือผ่านจังหวัดสระแก้ว ลงคลองพระปรงที่ไหลมาจากเทือกเขาสันกำแพง รวมกับคลองหนุมาน ที่กบินทร์บุรี ไหลมารวมกับแม่น้ำนครนายกที่ตำบลโยทกา บางน้ำเปรี้ยว ฉะเชิงเทรา เป็นแม่น้ำบางปะกง ทางตะวันตกของเขาสอยดาวมีสายน้ำสองสาย คือคลองระบม จาก ตำบลท่ากระดาน อำเภอสนามชัยเขต และคลองสียัด จาก อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา ไหลมารวมกันเป็นคลองท่าลาด - อ่างเก็บน้ำคลองสียัด - คลองท่าลาดไหลมาลงแม่น้ำบางปะกงที่ปากน้ำท่าลาด หรือปากน้ำโจ้โล้ โจ้โล้ เพี้ยนมาจาก จ่อโล้ อันแปลว่าปลากะพงขาว ในภาษาแต้จิ๋ว ซึ่งพบใด้ชุกชุมในบริเวณนั้น ปากแม่คลองท่าลาดเป็นแหล่งชุ่มชนที่มีการค้าขายมาแต่โบราณ นำสินค้าจากแผ่นดิน มาแลกเปลี่ยนกับสินค้าจากต่างถิ่นทางทะเล จึงเป็นชุมชนที่เป็นศูนย์กลางการค้าขายมาแต่โบราณ เป็นที่ตั้งเมืองฉะเชิงเทราแห่งแรก ดังปรากฎในจารึก ลานเงินที่วัดเจดีย์หรือวัดพยัคฆอินทาราม ว่า ฉะเชิงเทรา ได้ย้ายที่ตั้งมา 3 ครั้ง คือ บริเวณปากน้ำโจ้โล้ > อำเภอบางคล้า หรือแปดริ้ว > ท่าไข่ ตัวจังหวัดฉะเชิงเทราปัจจุบัน - วัดปากน้ำโจ้โล้ - เป็นวัดที่สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย เคยเป็นที่ตั้งของทัพพม่าเพื่อดักโจมตีทัพของพระเจ้าตากที่หนีออกมาจากกรุงศรีอยุธยา อุโบสถสีทอง หน้าบันพระพุทธเจ้าเสด็จกลับจากโปรดพระมารดาบนสวรรค์ บริเวณปากน้ำ ซ้าย คลองท่าลาด ขวา แม่น้ำบางปะกง กลาง อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์ พระเจ้าตากสินมหาราช ท่านปู่ทวดภู่ ต้นตระกูลวนะภูติ และปู่ทวดเพชร ต้นตระกูลเพชรรัตน์ สองพี่น้อง นำไม้ตะเคียนมาจากป่าดงน้อย อำเภอราชสาส์น 2 ต้น ขุดเป็นเรือยาว 2 ลำคู่กัน คือ เรือม้าเทศและเรือม้าน้ำ เรือม้าเทศ 28 ฝีพาย เดิมหัวเรือเป็นรูปหัวม้า และมีการประกอบพิธีฝังผมผีตายโหงไว้ เล่ากันว่าเรือม้าเทศเป็นเรือตีนปลาย คือแข่งขันระยะสั้นจะไม่ค่อยชนะ แต่ถ้าแข่งระยะไกลจะไม่เคยแพ้ใคร ตลอดคุ้งน้ำบางปะกง เรือม้าน้ำเชื่อว่ามีอาถรรพ์หลังการแข่งจะต้องมีคนเจ็บหรือตาย ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันจมเรือบริเวณปากคลองท่าลาดเพื่อล้างอาถรรพ์ ลำใหญ่ เรือม้าเทศ ลำเล็ก เรือเพรียวเป็นเรือที่พระใช้บิณฑบาตร - อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน - เล่ากันว่าพระเจ้าตากได้ปะทะกับพม่าบริเวณปากน้ำโจ้โล้ และได้ชัยชนะ แต่นักวิชาการปัจจุบันให้ความเห็นว่า พระเจ้าตากไม่น่าจะรบพม่าที่นี่ เพราะพม่าได้ตั้งทัพที่บริเวณปากน้ำโจ้โล้ รออยู่ แม่น้ำบางปะกงและวัดปากน้ำ คลองท่าลาด - ตลาดน้ำบางคล้า - ตั้งอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอบางคล้า หรือ บริเวณท่าทองหลางที่เคยเป็นเมืองฉะเชิงเทราแห่งที่สองที่ย้ายมาจากปากน้ำโจ้โล้ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา เคยมีชื่อเรียกคู่กันว่า บางปลาสร้อย ร้อยริ้ว บางปลาสร้อย หมายถึง ที่ที่มาปลาสร้อยเยอะ ส่วนร้อยริ้ว มีผู้สันนิษฐานว่า เป็นธงของเรือที่จอดเรียงรายของเรือสินค้าที่ปากน้ำท่าลาด อาจเพี้ยนไปเป็นภาษาจีนว่า แปะ = ร้อย เมื่อคนลาวถูกกวาดต้อนให้มาอยู่ในบริเวณนี้ ได้เรียกเมืองนี้ว่าแปดริ้ว และได้นำเอานิทานพื้นบ้านจากถิ่นที่มา เรื่องพระรถ-เมรี มาประกอบเรื่องปลาช่อนบั้งได้แปดริ้ว ขนมจาก,ผัดไทย,หอย ปลาหมึกย่าง,ทองๆ,หมูเต๊ะ ทอดมัน,ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ,ผลกลมๆ บ้านฉันเรียกว่าบ่ะปิน - วัดแจ้งบางคล้า - เล่าว่าในสมัยรัชกาลที่ 1 พระองค์เสด็จนำทัพไปตีเมืองเขมร กองทัพของพระองค์มาถึงวัดนี้ตอนรุ่งสางพอดี จึงใช้เป็นชื่อวัด มีคลองวัดแจ้ง ไหลลงแม่น้ำบางปะกง ศาลาการเปรียญ หน้าบันพระนารายณ์ถือตรี สังข์ จักร คฑา ทรงครุฑยุดนาค ช่อฟ้านกหัสดีลิงค์ อุโบสถ หน้าบันพระพรหมทรงหงส์ เหนือพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ - วัดโพธิบางคล้า - เมื่อพระเจ้าตาก ขึ้นครองราชย์ ทรงโปรดให้สร้างวัดขึ้นบริเวณใต้ต้นโพธิ์ ที่พระองค์ได้หยุดพักทัพหุงหาอาหาร ปัจจุบันเหลือเพียงวิหารจตุรมุข ก่ออิฐฉาบปูน หลังคาจั่วมุงด้วยกระเบื้องดินเผา ประตูสองทางคือทิศเหนือและตะวันตก เหนือประตูประดับเครื่องถ้วยจีนเป็นรูปกลม หน้าต่างหนึ่งช่องทางทิศตะวันออก ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ 1 องค์ บนต้นไม้ ล้วนเต็มไปด้วยค้างคาวแม่ไก่ - โบสถ์สแตนเลส วัดหัวสวน - เพราะโบสถ์ หลังเก่ามีความชำรุดทรุดโทรม ท่านเจ้าอาวาสตัดสินใจออกแบบโบสถ์สแตนเลส เพราะสามารถอยู่ได้เป็นพันปี ข้างเสมาโดยรอบ ประดิษฐานรูปหล่อพระอรหันต์ หน้าโบสถ์ประดิษฐาน พระสีวลี ภาพภายนอกใช้เทคนิคใช้กรดกัดลงสีเหลือง หน้าบัน รูปพระพุทธเจ้าประทับ แสดงธรรม ใต้ต้นโพธิ์ มีกวาง สื่อถึง ป่าอิสิปตนมฤคทาย วัน แปลว่า ป่าอันยกให้แก่หมู่กวาง และเป็นที่ชุมนุมฤๅษี เหนือกรอบหน้าต่างรูปพระพุทธโสธร ผนังเป็นรูปพระอรหันต์ บานหน้าต่างเป็นรูปเทพพนม จิตรกรรมภายในฝาผนังวาดโดยการใช้สีพ่น air brush พระประธาน พระพุทธมหาลาภ ปีพ.ศ.2377 เพราะเพื่อป้องกันทัพญวน พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงโปรดเกล้าฯให้ "กรมหลวงรักษ์รณเรศ" พระปิตุลา (อา) เป็นแม่กองมาควบคุมการสร้างกำแพงเมืองและประตูเมืองฉะเชิงเทรา ที่ท่าไข่ โดยมีแม่น้ำบางปะกงเป็นกำแพงธรรมชาติอีกชั้นหนึ่ง ฉะเชิงเทราจึงย้ายเมืองจากบางคล้ามาด้วย เมื่อสร้างเสร็จกรมหลวงรักษ์รณเรศได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต สร้างวัดขึ้นใกล้กับกำแพงและประตูเมือง โดยฝีมือช่างปั้นจากเมืองหลวง วัดพระศรีรัตนศาสดารามในกรุงเทพมหานคร เรียกว่า "วัดเมือง" พ.ศ. 2450 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสเมืองฉะเชิงเทราเพื่อเปิดทางรถไฟสายกรุงเทพ - ฉะเชิงเทรา ได้ทรงบูรณะวัดนี้และพระราชทานนามว่า "วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์" แปลว่าวัดที่อาของพระเจ้าแผ่นดินทรงสร้าง พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงรักษ์รณเรศ หรือหม่อมไกรสร มีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าไกรสร เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและเจ้าจอมมารดาน้อยแก้ว ทรงมีฐานะพระปิตุลาหรือ "อา" ของ สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงงานเคียงคู่กับกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 และกับพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเกือบตลอดรัชกาล โปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็น กรมหลวงรักษ์รณเรศ และโปรดให้กำกับกรมวัง ภายหลังมีความผิดจึงถูกลดยศลงเป็นหม่อมไกรสร ท่านเป็นพระราชวงศ์องค์สุดท้ายถูกสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ที่วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร ศาลกรมหลวงรักษ์รณเรศ พระอุโบสถ หันหน้าไปทางทิศตะวันออกที่ติดกับแม่น้ำบางปะกง มีกำแพงแก้ว 3 ด้าน ไม่มีกำแพงแก้วด้านที่เชื่อมกับวิหาร มุมด้านหน้าของกำแพงแก้วสร้างวิหารเล็กๆไว้ทั้งสองข้างตัวพระอุโบสถ หลังคาลดชั้น หน้าบันซ้อนสองชั้น แยกจากหลังคาตัวอุโบสถ ประดับลายดอกเบญจมาศ บานประตู หน้าต่าง ลายดอกเบญจมาศปูนปั้น พระวิหาร หลังคาลด 2 ชั้น มีมุขเด็จด้านหน้าและด้านหลัง ในสมัยรัชกาลที่ 3 มีคนจีนขยายอิทธิพลจากเมืองชลบุรี เข้ามายังฉะเชิงเทรา เรียกเก็บค่าคุ้มครองหรือภาษีเถื่อนแข่งกับทางการ เจ้าเมืองฉะเชิงเทราขณะนั้นนำกำลังไปปราบปรามจนแตกไปคนละทิศทาง แต่ได้หวนกลับมาทำร้ายเจ้าเมืองและทหารคนสนิทในจวน กระทั่งเสียชีวิต ตัดศีรษะเจ้าเมืองนำมาประจานเพื่อข่มขวัญผู้คนให้เกรงกลัว และได้ประกาศให้เมืองฉะเชิงเทราเป็นอาณาจักรของพวกตัว ความได้ทราบไปถึงพระกรรณของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้กองทัพหลวงยกมาทั้งทางน้ำและทางบกไปรวมกันในเมืองฉะเชิงเทรา ฝ่ายคนจีนได้ยึดวัดเมือง เป็นฐานที่ตั้งสุมกำลังเพื่อต่อสู้ แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้ประกาศว่า "อันการกระทำของอั้งยี่คราวนี้เป็นขบถต่อแผ่นดิน และยังกระทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพด้วยการตัดศีรษะเจ้าเมือง อันเป็นตัวแทนต่างพระเนตรพระกรรณให้มาปกครองเมืองเอาศีรษะมาเสียบประจาน ให้ลงโทษประหารเชลยทุกคนและผู้ให้ความร่วมมือทั้งหมด และให้ไล่ตามจับกุมอั้งยี่ที่หนีตายจากฉะเชิงเทราไปอยู่บางปลาสร้อย กลับมาประหารชีวิตทั้งหมด" สถานที่ประหารหลายร้อยชีวิตของพวกอั้งยี่ ณ เวลานั้น ก็คือ บริเวณโคน "ต้นจันทน์" ใหญ่ ที่อยู่ระหว่างพระอุโบสถและพระวิหารนี้ ยังมีลูกจันท์ร่วง ๆ อยู่ - ต้นจันท์แน่นอน - วัดโสธรวรารามวรวิหาร - วัดโสธรวรารามวรวิหาร เดิมชื่อว่า วัดหงษ์ เป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อพุทธโสธร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น แกะสลักจากหินทรายแยกเป็นชิ้นรวมจำนวน 6 ชิ้น นำมาประกอบเข้าด้วยกันและลงรักปิดทอง โสธร เพี้ยนมาจากโสทร แปลว่าพี่น้องร่วมท้อง - อาคารสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา - เดิมเป็นอาคารที่ทำการมณฑลปราจีนบุรี สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ต่อมาใช้เป็นศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา และต่อมาเป็นที่ตั้งของสำนักงานเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา อาคารเคยถูกไฟไหม แต่ได้สร้างใหม่ให้เหมือนอาคารเดิม ภาพเมื่อปี 2557 - ตลาดเก่าคลองสวน 100 ปี - ตั้งอยู่บนคลองประเวศบุรีรมย์ ซึ่งเป็นคลองที่ขุดต่อจากคลองพระโขนงไปยังแม่น้ำบางปะกง ตลาดถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนในแนวตะวันออกตะวันตก คือเขตจังหวัดฉะเชิงเทราและเขตจังหวัดสมุทรปราการ ด้วยคลองพระยานาคราช ซึ่งเป็นคลองที่ขุดเชื่อมคลองประเวศบุรีรมย์กับคลองสำโรง - ตลาดบ้านใหม่ - - สวนอาหารกุ้งนาง - เพื่อนคนแปดริ้วแนะนำ และติดใจไปมาหลายรอบ กุ้งไซด์ 4 ตัวโลในภาพ ราคา 1000 บาท - ป้านงค์ - คิดถึงทุกครั้งเมื่ออยากทานขนมทองๆ ปิดท้ายด้วยสนามกอล์ฟ บางปะกงริเวอร์ไซด์   Create Date : 09 พฤศจิกายน 2565 20 comments Last Update : 9 พฤศจิกายน 2565 14:07:24 น. Counter : 951 Pageviews. Share Tweet

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณทนายอ้วน, คุณnonnoiGiwGiw, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณSleepless Sea, คุณtoor36, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณkatoy, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณอุ้มสี, คุณสองแผ่นดิน, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณThe Kop Civil, คุณตะลีกีปัส, คุณRain_sk, คุณSweet_pills, คุณเริงฤดีนะ, คุณkae+aoe

บอลชอบไปเที่ยวฉะเชิงเทรามากครับ รู้สึกว่าอะไรๆยังเป็นธรรมชาติ มีผัก ผลไม้บ้านๆ ขายอยู่แยอะครับ   โดย: ทนายอ้วน 9 พฤศจิกายน 2565 14:41:50 น.

อยากไปฉะเชิงเทราอีกเหมือนกันค่ะ ครั้งที่แล้วยังไปไม่ทั่วเลย ต้องหาเวลาว่างก่อน จากบล็อก มีตัวนึงขี้บ่นมากค่ะพี่ ตัวส้มๆอ่ะ น้องกะแม่นี่อยากได้วุ้นแปลภาษามากเลยค่ะพี่   โดย: nonnoiGiwGiw 9 พฤศจิกายน 2565 15:06:02 น.

สวัสดีมีสุขค่ะ สนามกอล์ฟแต่ละที่ก็มีที่ท่องเที่ยว วัดวาอารามและอาหารติดใจให้ไปด้วยนะคะ ได้หลายอย่างทีเดียวค่ะ ชอบลูกจันทร์ค่ะ แต่ไม่ชอบดอกไม้จันทร์และท่อนจันทร์ มันเศร้าจัง   โดย: ตะลีกีปัส 9 พฤศจิกายน 2565 15:28:24 น.

สวัสดีครับ มาเที่ยวด้วยครับ ชอบบรรยากาศแปดริ้วครับ เคยไปเที่ยวบ้านญาติ บ้านริมคลองติดแม่น้ำ มีป่าจาก น่าอยู่มาก แต่น้ำในแม่น้ำไหลเชี่ยวเหมือนกันครับ   โดย: Sleepless Sea 9 พฤศจิกายน 2565 16:54:22 น.

วัดปากน้ำโจ้โล้ อุโบสถสีทองสีทองงามอร่ามเลย มีเรือโบราณให้ชมด้วย คนมาถวายไก่เยอะจริงๆ ครับ ภาษาจีนที่เข้ามาในไทยเป็นภาษาจากหลายท้องถิ่นมาก รวมไปถึงคำภาษาไทยที่เราใช้ๆ ที่ยืมมาด้วยสร้างความสับสนกับผู้เรียนภาษาจีนพอควรเลยล่ะครับ ภาพสุดท้ายของวัดแจ้งบางคล้าดูแปลกดีครับ ไม่ค่อยเห็นลักษณะแบบนี้เท่าไหร่ วัดโพธิบางคล้า เก่าแก่มากปูนแตกร้าวเยอะเลย ค้างคาวก็ช่างหาที่อาศัยนะ โหไปหลายวัด เที่ยววัดแบบเน้นๆ เลย วัดโสธรวรารามวรวิหาร อันนี้สวยงามครับ เห็นแล้วชอบ ตลาดเก่าคลองสวน 100 ปี ไม่ไหว ผักตบชวาเต็มไปหมด น่าจะหาเจ้าหน้าที่มาจัดการ ไม่งั้นฤดูน้ำมานี่ลำบากแน่ๆ ผมชอบเดินตลาดลักษณะนี้นะ มันได้ของกินเยอะดี   โดย: คุณต่อ (toor36 ) 9 พฤศจิกายน 2565 17:30:46 น.

ไปแปดริ้ว นึกถึงอาหารห่อหมก ริมน้ำอร่อย ของที่ตลาดเก่า ๆ (ใหม่) ชื่อแปลกชอบแอ่วเหมือนกัน ตะก่อนไปบ่อยเพื่อนเป็นโปรแกรมเมอร์ที รพ.ที่นั่นครับ   โดย: ไวน์กับสายน้ำ 9 พฤศจิกายน 2565 19:24:49 น.

ฉะเชิงเทรา สันนิษฐานว่า เพี้ยนมาจากภาษาเขมร ว่าฉทึงเตรา . . เป็นความรู้ใหม่ของผมเลยครับพี่ตุ๊ก น่าแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงได้รับอิทธิพลจากเขมรนะครับ   โดย: กะว่าก๋า 9 พฤศจิกายน 2565 20:03:48 น.

ส่วนมากไปวัดนะ ประเทศไทยเราจังหวัดต่างๆ หลายๆ จังหวัดเปลี่ยนชื่อกันเยอะมาก สถานที่ต่างๆ ก็เช่นกัน ชอบบรรยากาศตลาดริมนะ ไปเดินเที่ยวได้ของกินกินข้ามวันเลย   โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) 9 พฤศจิกายน 2565 21:40:39 น.

สวัสดี จ้ะ หนูตุ๊ก ตามเที่ยวจังหวัด ฉะเชิงเทรา จ๊ะ เมืองนี้ ครูก็ไปหลายครั้ง แต่ไม่เคยเที่ยวสถานที่อื่น แบบเจาะลึก มาบล็อกนี้ ครูได้ความรู้มากเลย ที่มาของชื่อวัดโสธร ได้รู้ว่าทำไมจึงชื่อ จังหวัดฉะเชิงเทรา วัดโจ้โล้ มีที่มา มีคำแปล โบสถ์สวยมาก สีทองทั้งหลัง ครูอยากไปนะ ยังไม่มีโอกาส ได้ไปสักที นอกจากนี้ยังได้รู้จักวัดอื่น ๆ อีกหลายวัด ตลาดอาหาร ดูมีของกินเยอะมาก น่าซื้อกิน ขอบใจที่แนะนำสถานที่ต่าง ๆ จ้ะ โหวดหมวด ท่องเที่ยว   โดย: อาจารย์สุวิมล 9 พฤศจิกายน 2565 21:51:23 น.

ไปวัดนี้ทีไร ประทับใจทุกครั้งค่ะ   โดย: อุ้มสี 9 พฤศจิกายน 2565 22:05:11 น.

สวัสดีครับพี่ตุ๊ก ก่อนอื่นต้องขอบคุณข้อมูลทั้งหมดที่พี่ตุ๊กหามาแล้วเก็บไว้ตรงนี้ครับ ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์สำหรับคนที่ search หาใน google มาก ผมไปวัดโจ้โล้ที่อุโบสถทาสีทองมาแล้ว ผมมองว่าแปลกดีครับ เพิ่งรู้ว่าเรือแข่งสมัยโบราณมีการประกอบพิธีฝังผมผีตายโหงไว้ด้วย คนสมัยโบราณเค้าเล่นไสยศาสตร์กันจริงจังนะครับเนี่ย ส่วนวัดหัวสวนอุโบสถสแตนเลส ผมก็คิดว่าแปลกและสร้างสรรค์ครับ ตอนผมไป รู้สึกร้อนๆ ยังไงก็ไม่รู้ครับ ไม่ใช่ว่าตัวผมมีผีแฝงนะครับ แต่โลหะมันอมความร้อนครับ อิอิ ยังคิดเลยว่า เกิดไฟรั่วลงมาเส้นนึงในจุดไหนก็ตามเถอะ จะเป็นไง แต่ทางวัดคงจัดการเรื่องระบบกันดูดไว้อย่างดีแล้วแน่ๆ ครับ ฉะเชิงเทราเป็นจังหวัด ที่ผมไปเที่ยวหลายครั้งครับพี่ ขับรถจากกรุงเทพฯ ไป แป๊บเดียวก็ถึง เป็นจังหวัดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเลยล่ะครับ   โดย: สีเมจิก (สมาชิกหมายเลข 5106714 ) 9 พฤศจิกายน 2565 22:20:07 น.

ตามมาเที่ยว ไหว้พระด้วยครับ ได้ไปหลายวัดเลยนะครับ   โดย: สองแผ่นดิน 9 พฤศจิกายน 2565 22:32:22 น.

อรุณสวัสดิ์ครับพี่ตุ๊ก   โดย: กะว่าก๋า 10 พฤศจิกายน 2565 5:20:22 น.

แม่น้ำบางปะกงน่าจะลึกจริงค่ะพี่น้อย น้ำดูเชี่ยวเชียวหละ   โดย: หอมกร 10 พฤศจิกายน 2565 9:21:32 น.

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ บางคล้าผมยังไม่เคยไปเลยครับ   โดย: The Kop Civil 10 พฤศจิกายน 2565 12:45:00 น.

วิชาบัญชีจริงแล้ว ไม่ยาก.. ขอเพียงเข้าใจ ว่าทำบัญชี เพื่อให้รู้รายรับ ว่าพอรายจ่ายหรือเงินที่จะต้องชำระหนี้ (วงการค้า) เหมือนพิมพ์ฟันส่ง รง.ทำฟัน แล้วรู้ว่าเขาจะมาส่งเขี้ยวตี่เสร็จวันใด เฮาก็จะได้เตรียมเงินไว้จ่ายค่าแป๋งเขี้ยว ยืดก๋านวางบิลได้เมินก่อ แต่วงการค้า มีคนส่งสินค้าเป๋น 100 ราย เครดิตตี่จะต้องจ่ายเงินบ่าเหมือนกั๋น เช่นเขาส่งสีเครดิต 2-3 เดือนนับแต่ส่งของ แต่ถ้าปูนซิเมนต์ช่วงขาดแคลนต้องจ่าย เงินสดครับ 555 ส่วนใหญ่คนทำบัญชี เขาบ่ากึ๊ดนัก แต่ถ้าคนเป๋นหัวหน้า ต้องกึ๊ดนักต้องอู้กับการเงิน กับ ผจก.ครับ   โดย: ไวน์กับสายน้ำ 10 พฤศจิกายน 2565 15:45:47 น.

โดย: ทั่นขุน (Rain_sk ) 10 พฤศจิกายน 2565 22:36:54 น.

ฉะเชิงเทราน่าเที่ยวมากค่ะพี่ตุ๊ก พี่ตุ๊กพาเที่ยวมีทั้งที่เคยไปและไม่เคยไปค่ะ ตลาดคลองสวน 100 ปี ต๋าไปทีไรไม่ตรงวันหยุด แต่ก็ยังพอมีของขายค่ะ ขอบคุณพี่ตุ๊กที่พาเที่ยวนะคะ   โดย: Sweet_pills 11 พฤศจิกายน 2565 0:26:31 น.

บรรยายแบบนี้ทำให้อยากไปเที่ยวชมบ้างครับ   โดย: ทั่นขุน (Rain_sk ) 11 พฤศจิกายน 2565 1:14:09 น.

กราบพระพร้อมตามเที่ยวตลาด สนุกสนานยิ่งนัก   โดย: เริงฤดีนะ 11 พฤศจิกายน 2565 8:21:22 น.