|
0136. 12 พฤษภาคม 2544 คำกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในรายการ นายกฯ ทักษิณพบประชาชน
คำกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในรายการ นายกฯ ทักษิณพบประชาชน ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย คลื่น F.M. 92.5 เวลา 08.00 วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม 2544
--------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีครับพี่น้องประชาชนที่เคารพรัก
วันเสาร์นี้ก็พบกันอีกครั้งหนึ่ง สัปดาห์นี้คงจะมาเล่าความคืบหน้าของการทำงานให้กับพี่น้องประชาชนฟัง
ผลสำเร็จการเยือนฮ่องกง
เรื่องแรกจะเล่าถึงเรื่องที่ผมไปเยือนฮ่องกงอย่างเป็นทางการนะครับ ผมได้ไปฮ่องกงวันที่ 8-10 พฤษภาคมนี้เป็นการไปเยือนฮ่องกงอย่างเป็นทางการ และไปพูดที่หน่วยงานของ Fortune Global Forum ที่ฮ่องกง วันที่ผมไปก็มีโอกาสได้พบกับประธานาธิบดีจีน นายเจียง เจ๋อ หมิน ท่านมากล่าว สุนทรพจน์เช่นกัน ก็มีโอกาสได้พูดคุยกันทำให้เกิดความสนิทสนมกันมากขึ้น เพราะท่านนายกรัฐมนตรีจีน นายจู หรง จี จะมาเดินทางมาเยือนไทย วันที่ 19-22 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ก็จะได้มีการพูดคุยกันในรายละเอียดถึงความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน กันอีกครั้งหนึ่ง ส่วนท่านประธานาธิบดีจีนนั้นได้พูดคุยกับผมในสิ่งที่เป็นประโยชน์ถึงความสัมพันธ์ของสองประเทศอย่างดีมาก ท่านมองว่าไทยคือเพื่อนเก่าและเราได้ร่วมมือกันในเวทีโลกใน หลาย ๆ เรื่อง ซึ่งจะทำให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างไทยกับจีนมากขึ้น ซึ่งจีนถือว่าเป็นตลาดสำคัญของไทยในอนาคต ก็ได้พูดคุยกันถึงเรื่องแนวทางการช่วยเหลือคนจนและเรื่องของเกษตรกร ขณะเดียวกันนั้นผมได้เล่าให้ท่านฟังว่าผมจะพูดอะไรในเย็นวันนั้นก็คือเย็นวันที่ 9 เพราะวันที่ 9 ผมพบท่านตอนเช้า ตอนเย็นต้องไปพูดก็เลยพูดให้ท่านฟังถึงเรื่องแนวทางที่ผมจะพูด ซึ่งท่านก็ชอบใจมากเพราะว่าเนื้อหาที่ผมพูดไปนั้น ผมจะเน้นเรื่องของการที่อยากจะจุดประกายให้รัฐบาลในเอเชียและให้คนเอเชียทั้งหลายหันกลับมาดูตัวเองให้รู้ว่าความจริงเรามีศักยภาพอยู่มาก เช่น ในเอเชียมีประชากรถึง 3,000 ล้านคน ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก และขณะเดียวกันนั้นเอเชียก็มีความเข้มแข็งมาในอดีต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรู้ ศิลปวัฒนธรรมทั้งหลาย แต่ขณะเดียวกันเอเชียกลับหันไปแย่งตลาดข้างนอก คือ ตลาดทางด้านยุโรปและอเมริกา โดยที่ไปตัดราคากันเอง ซึ่งผมมองว่าการตัดราคากันเองนั้นนับวันจะทำให้ผู้ใช้ แรงงานและเกษตรกรลำบากมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็ลำบากขึ้น และยิ่งประเทศที่ต้องซื้อเทคโนโลยีของคนอื่นมาทั้งหมดหรือรับจ้างประกอบ รับจ้างผลิตเฉย ๆ นั้น นับวันจะลำบากขึ้นก็เลยบอกกับเขาว่าควรอย่างยิ่งที่จะหันมาร่วมมือกัน หันมาพูดคุยกัน หันมาทำงานร่วมกัน และใช้ตลาดของเอเชียให้เป็นตลาดที่เข้มแข็งของพวกเราด้วย และนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาผนึกกับสิ่งที่เรามีความชำนาญอยู่แล้ว เราก็จะทำให้ตลาดของเอเชียเข้มแข็ง คนเอเชียเข้มแข็ง และไปสร้างความมั่งคั่งให้ทั้งโลกได้ นั่นคือแนวที่ผมได้เรียนกับที่ประชุมไป ในวันรุ่งขึ้นก็มีสื่อมวลชนมาสัมภาษณ์ผม เขาก็พอใจ เขาบอกว่าไม่เคยมีใครคิดว่าเอเชียน่าจะหันกลับมาดูตัวเอง ก็เลยทำให้สื่อมวลชนในต่างประเทศหลายฉบับนำไปพาดหัวข่าวกันในเรื่องนี้
ยืนยันแนวทางการดำเนินนโยบายของรัฐบาลต่อผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงและนักธุรกิจชั้นนำของโลก
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมพูดเกี่ยวกับประเทศไทยในวันนั้น ผมก็ไปบอกกับที่ประชุมซึ่งเป็นนักธุรกิจชั้นนำของโลกจำนวนมากที่เข้าไปฟัง ได้พูดถึงเรื่องแนวทางการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ผมก็เรียนไปว่าประเทศไทยไม่ได้ปิดประเทศ ประเทศไทยยังคงยึดแนวเศรษฐกิจเสรีเหมือนเดิม เพียงแต่เราต้องหันกลับมาดูคนในชาติซึ่งขณะนี้มีคนจนจำนวนมาก และมีคนที่ไม่พร้อมจะรับการแข่งขันกับนานาชาติจำนวนหนึ่ง ซึ่งเราไม่ได้บอกว่าเราจะถอยหลัง แต่เราต้องหันกลับไปดูและสร้างความเข้มแข็งให้คนในชาติของเรา จึงมีนโยบายที่สำคัญ ๆ ที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่รากหญ้าคือ ที่พึ่งประชาชนในระดับฐานล่างของเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน ผู้ประกอบการขนาดย่อมขนาดกลาง นั่นคือแนวที่ผมได้พูดในส่วนของประเทศไทยไป เพื่อที่จะให้คนไทยเข้มแข็ง คนไทยในส่วนที่ยังลำบากกว่านี้ให้เข้มแข็งขึ้น แต่ขณะเดียวกันนั้นในกรุงเทพฯ ก็เป็นที่ที่นักลงทุนต่างประเทศเข้ามา ในกรุงเทพฯ เราพร้อมมากกว่าในต่างจังหวัด ก็เลยพยายามบอกคนของเราให้เขาพร้อมให้มาก นั่นคือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะสร้างความเข้มแข็งให้คนในชาติ
และหลังจากนั้นผมได้มีโอกาสได้พบกับผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ท่านต่ง เจี้ยนหัว ท่านได้เลี้ยงรับผมอย่างเป็นทางการ ก็ได้พูดคุยกับท่านท่านบอกกับผมว่าฮ่องกงมองประเทศไทยเป็นประเทศที่มีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ดีและมีประโยชน์ ฮ่องกงอยากจะใช้เป็นประตูเข้าไปสู่การค้าในอาเซียนและประตูที่เข้าไปสู่จีนตะวันตกเฉียงใต้คือทางด้านคุนหมิง เราก็บอกว่าเรายินดีที่จะร่วมมือและทำการค้ากับฮ่องกง ซึ่งฮ่องกงวันนี้เป็นเกาะเล็กนิดเดียวมีเงินสำรองเหลือถึง 110 มิลเลียนหรือว่า 1 แสน 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เราเองมีเงินสำรองเพียง 32 มิลเลียนเท่านั้นเองน้อยกว่าเขา 3 เท่ากว่า แต่ขณะเดียวกันเขาไม่มีหนี้เลย เรามีหนี้เยอะมาก เราก็คงต้องพัฒนาตัวเราอีกเยอะ เขาก็เลยบอกว่าเขาอยากลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมวดพลังงาน ก็เป็นสัญลักษณ์ที่ดีให้กันว่า ต่างชาติเขายังมองเราดีอยู่ เพียงแต่ว่าวันนี้หลังจากที่ผมพูดคุยกับ นักธุรกิจฮ่องกงที่ลงทุนในไทยบางกลุ่มด้วย เขาบอกว่าวันนี้เขายังมั่นใจที่จะลงทุนในประเทศไทย แต่เขากำลังมองว่าจะลงทุนอะไรดี ซึ่งก็เป็นปัญหาของคนที่วันนี้อยากจะลงทุน แต่กำลังมองว่าทิศทางเศรษฐกิจจะไปทางไหนควรจะลงทุนอะไรดี อันนี้ก็คือสิ่งที่รัฐบาลฮ่องกงเขาพูดเช่นเดียวกัน ก็ทำให้เรามองว่าการเดินทางเที่ยวนี้น่าจะเป็นประโยชน์ และนอกจากนั้นผมยังมีโอกาสไปพบกับสื่อมวลชนต่างประเทศบ้าง เพื่อที่จะได้พูดคุยกันเพราะที่ผ่านมาบางครั้งเขาไปเอาข้อความบางตอนของการพูดไปตีความเหมือนทั้งหมด ซึ่งก็ทำให้เข้าใจ ผิดกัน เที่ยวนี้ก็ได้มีโอกาสพบปะกับนักลงทุน พบปะกับสื่อมวลชนทั้งหลายก็ได้พูดคุยกันได้มากขึ้น
การให้ความช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบอุทกภัย จ.แพร่และจ.สุโขทัย
ส่วนเมื่อวานนี้ หลังจากกลับมาจากฮ่องกงวันพฤหัสบดี เมื่อวานนี้วันศุกร์ ผมเลยไปเยี่ยม พี่น้องที่ประสบอุทกภัยที่อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ และที่อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ก็ไปให้กำลังใจและไปขอบคุณเจ้าหน้าที่ทั้งหลายจากหลายส่วนราชการได้ร่วมกันไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผมดูแล้วผมชื่นใจแทนพี่น้องประชาชนครับว่า ทุกฝ่ายได้มุ่งเข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง โดยเฉพาะทางภาคเอกชนทั้งพี่น้องที่อยู่ในจังหวัดเอง ก็ได้มาร่วมมือกันอย่างเต็มที่ที่จะช่วยเหลือพี่น้องที่กำลังประสบเคราะห์กรรมครั้งนี้ ซึ่งผมก็เรียนกับเขาไปว่าในวงเงินที่กรมประชาสงเคราะห์พึงจะให้ได้นั้น คงไม่พอเพียงกับการบรรเทาความเดือดร้อนครั้งนี้ รัฐบาลก็จะใช้งบกลางที่เป็นงบสำรองกันไว้ฉุกเฉิน ก็จะอนุมัติเงินส่วนนี้เพิ่มไปเพื่อให้พี่น้องที่บ้านเรือนหายไปทั้งหลังได้รับการชดเชย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็จะส่งสัตว์เลี้ยง พันธุ์พืชต่าง ๆ ไปช่วย ก็คงมีส่วนราชการหลายส่วนที่เข้าไปช่วย ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท ตำรวจชายแดนก็ไปช่วยค้นหาศพ ซึ่งต้องขอชมเชยครับ ผมขึ้นเฮลิคอปเตอร์ดูพื้นที่กว้างมาก แต่ว่าศพหาได้เกือบหมด รู้สึกจะเหลืออีก 2 รายเท่านั้นเอง จาก 30 กว่าราย ผมไปดูสภาพแล้วครับ พี่น้องครับ สภาพที่เกิดเหตุมีภูเขาอยู่หลายลูกและภูเขาส่วนใหญ่ถูกทำลายด้วยการตัดไม้ ทำลายป่า ซึ่งผมก็บอกกับพี่น้องประชาชนในย่านนั้นว่า เราต้องรักป่า ถ้าเราไม่รักป่ามันไม่มีอะไรที่จะคุ้มครองเรา เวลามีฝนตกผิดปกติแบบนี้ คือฝนตกเที่ยวนี้ตกเยอะมากครับ 255.5 มิลลิเมตรในช่วง 2 วัน ปกติแล้วฝนตก 30-40 มิลลิเมตรก็ถือว่าเยอะแล้ว ทีนี้ 255.5 มิลลิเมตรและฝนก็ตกมาในบริเวณย่านเหล่านั้นหนักมาก แล้วภูเขาไม่มีต้นไม้ใหญ่ จึงไม่มีรากที่คลุมดินลึกพอ พอฝนตกลงมามาก ดินอุ้มน้ำไม่ไหวก็เทลงมาจากที่ภูเขาสูงก็เลยมีความเร็วสูงและมารวมตัวกันตามเชิงเขา น้ำก็ไหลรวมกันมาด้วยความเร็วสูงและปริมาณน้ำมาก พัดบ้านเรือนหายไปเป็นหลัง ๆ ที่อำเภอวังชิ้นหายถึง 193 หลัง มีเสียหายบางส่วนอีกเป็นพันหลัง ก็ทำให้คนที่ตั้งหลักไม่ทันเสียชีวิต ผมได้ไปพูดกับผู้รอดชีวิตบางคนเขาบอกว่าต้นมะขามต้นเดียวปีนไปอยู่บนนั้น 5 คน ผมก็เลยบอกว่านี่ครับต้นไม้ใหญ่คุ้มครองเราได้ เพราะฉะนั้นเราต้องรักษาต้นไม้ใหญ่ให้มากที่สุด ก็ให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือครับ
รัฐบาลยืนยันยังไม่มีการรื้อฟื้นโครงการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น
อีกเรื่องที่ผมได้พูดกับสื่อมวลชนไปที่มีการพูดถึงเรื่องการรื้อฟื้นโครงการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ผมขอเรียนว่ารัฐบาลยังไม่ได้พูดคุยกันเรื่องนี้นะครับ ความจริงเรื่องนี้เป็นปัญหาระยะยาวซึ่งเราต้องเริ่มต้นด้วยการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ประชาชนที่เดือดร้อนวันนี้ได้พ้นปัญหาไป และเราค่อยมาดูกันว่าระยะยาวจะแก้อย่างไร เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ยังไม่ได้อยู่ในโครงการของรัฐบาล แต่ก็มีการพูดกันเยอะเหมือนกับการที่รัฐบาลจะถือโอกาสที่พี่น้องประชาชนเดือดร้อนจะมาสร้างเขื่อน ความจริงแล้วยังไม่เคยคิดคือเราต้องมองปัญหาแน่นอนครับ ระยะกลาง ระยะยาว จะแก้ปัญหากันอย่างไร แต่ระยะสั้นเรากำลังแก้ปัญหากันอยู่ ก็ขอเรียนพี่น้องประชาชนให้ทราบเรื่องนี้ชัด ๆ นะครับ
การจะออกพระราชกำหนดหรือพระราชบัญญัติของรัฐบาลนั้นจะพิจารณาด้วยความรอบคอบรัดกุมที่สุด
ส่วนเรื่องการออกพระราชกำหนดของรัฐบาล เกี่ยวกับเรื่องการจัดตั้งบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (ทีเอเอ็มซี) คือการซื้อหนี้เสียออกจากระบบธนาคาร เพื่อให้ระบบธนาคารเดินได้นั้นเพื่อให้ดอกเบี้ยเงินฝากได้กลับมาสู่ภาวะความเป็นจริง เมื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจเรียบร้อยธนาคารก็จะมีความแข็งแรงที่จะปล่อยกู้ได้ นั่นคือการแก้ปัญหาโดยมีขั้นตอนของมัน รัฐบาลไม่ได้หวังว่าการซื้อหนี้เสียแล้วธนาคารจะปล่อยกู้ได้ทันที ซึ่งไม่ใช่เรื่องมองด้านเดียว ต้องมองหลาย ๆ ด้าน การกระตุ้นการบริโภคในประเทศเศรษฐกิจต้องฟื้น เมื่อฟื้นแล้วถ้าธนาคารยังพิการอย่างนี้ ธนาคารก็ปล่อยกู้ไม่ได้ เราต้องทำสองอย่างพร้อมกัน หมายความว่าเราต้องฟื้นเศรษฐกิจพร้อมกับแก้ปัญหาธนาคารไปพร้อม ๆ กันไม่ใช่อย่างใดอย่างหนึ่ง บางคนพยายามไปมองมิติเดียวและวิจารณ์รัฐบาลในเชิงมิติเดียวว่า รัฐบาลไปหวังว่าจะปล่อยกู้ได้เลย ความจริงแล้วมันมีขั้นตอนของมันอยู่ แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้ถึงแม้ขั้นตอนที่หนึ่งผ่านไป ขั้นตอนที่สองก็ปล่อยกู้ไม่ได้อยู่ดี อันนี้ก็เป็นวัตถุประสงค์ที่จะทำในเรื่องของการแก้ปัญหา แต่การจะออกเป็นพระราชบัญญัติ พระราชกำหนดนั้น ไม่ได้เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะกำหนดเวลาหรือความเร่งด่วนจะเป็นตัวกำหนด แต่ขณะนี้เรากำลังเร่งให้ฝ่ายออกกฎหมายทำให้รัดกุมที่สุด ทำให้ดี ที่สุด ถ้าต้องออกเป็นพระราชบัญญัติก็ออกเป็นพระราชบัญญัติ ถ้าออกเป็นพระราชกำหนดก็ออกเป็นพระราชกำหนด ซึ่งผมได้เรียนพี่น้องประชาชนไปว่า ในวันที่ผมแถลงนโยบายในสภาและผมกล่าวปิด พี่น้องที่เฝ้าดูอยู่คงจำได้ ผมบอกว่าการที่รัฐบาลมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสียงข้างมากถึง 339 เสียงในวันนั้น รัฐบาลไม่เคยคิดที่จะใช้เสียงในสภานี้เพื่อเกิดการเผด็จการทางรัฐสภา รัฐบาลต้องการใช้เสียงที่ประชาชนให้ความไว้วางใจนี้เพื่อความเด็ดขาดและรวดเร็วในการแก้ปัญหา ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของรัฐบาลหรือเพื่อการกระทำอะไรที่มิชอบเป็นประโยชน์ส่วนตัวของรัฐบาลหรือของคนในรัฐบาล แต่เราจะทำทั้งหมดเพื่อประโยชน์ของการแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนด้วยความเด็ดขาดรวดเร็ว เพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนสบายใจได้ว่า สิ่งที่ผมพูดทุกอย่างวันนี้เรายังยึดมั่นอย่างนั้น
นายกรัฐมนตรียืนยันการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านจะไม่สามารถทุจริตคอรัปชั่นได้
อีกเรื่องที่อยากจะเรียนพี่น้องก็คือ เรื่องของกองทุนหมู่บ้าน ก็มีการวิจารณ์กันมากมาย ผมขอเรียนว่ากองทุนหมู่บ้านนั้นเป็นกองทุนที่ไม่สามารถจะมีการคอรัปชั่นใด ๆ ได้เลย เพราะเราให้เม็ดเงินเต็ม 1 ล้านบาท ลงไปถึงพี่น้องประชาชนที่หมู่บ้านเลย และพี่น้องเลือกกรรมการหมู่บ้านด้วยตัวเอง ซึ่งผมใช้คำพูดว่าเลือกผู้นำตามธรรมชาติ พี่น้องในทุกหมู่บ้านก็จะเลือกกันเองขึ้นมาเป็นกรรมการ และกรรมการเหล่านี้ที่ พี่น้องเลือกกันเองที่ไม่ใช่มีข้าราชการเข้าไปเป็นกรรมการโดยตำแหน่งไม่มี มีแต่ไปให้คำปรึกษาแนะนำตามที่ท่านต้องการ แต่ผู้นำหมู่บ้านนั้นท่านเลือกกันเองเมื่อเลือกแล้วเงิน 1 ล้านบาทเป็นเงินที่กรรมการหมู่บ้านเป็นคนพิจารณาอนุมัติด้วยตัวเองว่าจะอนุมัติให้ใครกู้ยืมไปประกอบอาชีพ ไปสร้างงานสร้างรายได้ นั่นคือวัตถุประสงค์ เพราะฉะนั้นกรรมการระดับชาติเป็นเพียงผู้ที่คอยติดตามว่าเงินเหล่านี้เกิดประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนมากน้อยเพียงใด จึงไม่ได้มีอำนาจใด ๆ ที่จะเป็นคนอนุมัติเงินกู้ และไม่มีอำนาจใด ๆ ที่จะบอกว่าจะไม่ให้คนนั้นกู้จะเก็บเงินไว้ตรงนี้จะไม่ให้เงินตรงโน้น ไม่มีเลย เป็นเพียงแต่คนที่ติดตามศึกษาเพื่อให้เงินนั้นเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนมากกว่าที่จะเป็นคนให้คุณให้โทษหรือเป็นคนที่จะเอาเงินเหล่านั้นไปใช้ทำอย่างอื่น ไม่มีนะครับ เพราะฉะนั้น ขอให้พี่น้องประชาชน เข้าใจว่า การจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านนั้นเงินทุกบาททุกสตางค์ลงถึงหมู่บ้านหมด ไม่มีขยักไว้ในขั้นตอนใดทั้งสิ้น ฉะนั้นการทุจริตคอรัปชั่นในกองทุนหมู่บ้านไม่เหมือนเรื่องอื่น ไม่เหมือนกรณีที่เกิดขึ้นกับเงินมิยาซาวาคนละเรื่องกันเลยนะครับ ที่มีการโจมตีกันนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาในช่วงนี้ เพราะความไม่เข้าใจอาจจะมีอยู่ ก็ต้องเรียนว่าสิ่งที่เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลนั้น ผมจะรับรู้จะดูทุกขั้นตอนเพื่อให้มั่นใจว่าตรงกับปรัชญาของการสร้างนโยบายนี้ขึ้นมา ซึ่งเป็นนโยบายที่พี่น้องประชาชนมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น และผมเองก็ได้ประชุมกับตัวแทนจากผู้นำหมู่บ้าน องค์กรเครือข่ายทั้งหลายก็ได้ พูดจากันด้วยความเข้าใจว่า หลักการคืออะไร และเขาแนะนำมาว่าสิ่งที่เขาประสบความสำเร็จในเรื่องของกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ในหลายที่นั้นเป็นอย่างไร และเขาก็เล่าแม้กระทั่งว่ากองทุน 1 แสนบาทตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วที่ผ่านมานั้นสร้างความขัดแย้งในหมู่บ้านหลายแห่ง ซึ่งเขาก็แนะนำว่าไม่ควรทำแบบไหนควรทำแบบไหน เราก็รับฟังทั้งหมดและเอาแนวนั้นเป็นแนวทางที่จะให้พี่น้องประชาชนได้ใช้เงิน 1 ล้านบาทนั้น เพื่อสร้างเศรษฐกิจของท่านซึ่งเท่ากับเป็นการสร้างเศรษฐกิจของชาติในตัวนะครับ
รัฐบาลพร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย
วันนี้คงใช้เวลากับพี่น้องมากแล้ว ก็ต้องขอกราบเรียนว่ารัฐบาลนี้ขอทำงานไปให้พี่น้องประชาชนได้พ้นทุกข์ให้เร็วที่สุด ก็ต้องยอมรับว่าปัญหาต่าง ๆ มีความซับซ้อนแต่จะทำตลอด และรายงานให้ พี่น้องฟังทุกสัปดาห์ถึงแม้ว่าระหว่างสัปดาห์จะมีการวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา ก็อยากบอกให้พี่น้องประชาชนทราบว่าเป็นเรื่องธรรมดาในระบอบประชาธิปไตยของความเห็นที่ขัดแย้ง ผมยินดีรับฟังความเห็นที่ขัดแย้งทุกฝ่าย แต่อยากจะเรียกร้องว่าขอให้ทุกฝ่ายเสนอความเห็นที่ขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ เพราะว่าวันนี้ประเทศไทยเราคงไม่มีเวลามากที่เราจะมานั่งทะเลาะกันเอง อยากจะให้เวลาที่เหลือนั้นเป็นเวลาแห่งการที่ช่วยกันคิดช่วยกันทำ เพื่อความผาสุกของคนไทยทั้งชาติมากกว่าการที่เราจะเห็นแก่ตัวกัน เราคิดถึงแต่ตัวเราเอง แต่ผลสุดท้ายคนที่อยากได้ก็ไม่ได้ เพราะสังคมโดยส่วนรวมมีปัญหา ก็เรียนพี่น้องประชาชนว่าผมขอให้กำลังใจในการประกอบอาชีพของทุก ๆ คนนะครับ ผมจะทำหน้าที่ของผมอย่างเต็มที่ด้วยความสามารถตามที่พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจครับ กราบลาไปก่อนนะครับ ขอขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับ
--------------------------------------------------------------------------------
สำนักโฆษก จินตนา/ถอด/พิมพ์
Resource: //www.thaigov.go.th/webold/news/speech/thaksin/sp12may44.htm
Create Date : 12 มีนาคม 2551 |
Last Update : 12 มีนาคม 2551 15:17:41 น. |
|
0 comments
|
Counter : 963 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|