สวัสดีค่ำวันจันทร์ค่ะ จะบอกว่ามาแบบเร่งรีบอีกแล้วค่ะ ด้วยภารกิจต่อเนื่อง (ก็แม่บ้านหน่ะเนาะ) อย่างที่ น้องเอ๋ (aenew) บอก ...กับอีกข้อความที่อ่านแล้ว...รู้สึกดี... ปุ้งกี๋ (poongie) บอกว่า "...แบ่งเวลาจากลูก ๆ สุดที่รักมาอัพบล็อค .. นี่ก็.. สุดยอดแล้วค่ะ..." ฟังแล้วชื่นใจเนาะ....

เช่นกันกับเพื่อนๆ น้องๆ อีกหลายคน ที่ยังแวะมาทักทายกันสม่ำเสมอนะคะ บางทีเราเข้าไปตอบคอมเมนท์ช้า...อย่าเพิ่งงอนหนีหายจากกันไปก่อนเน้อ...





วันนี้ขอผิดสัญญาอีกแล้วค่ะ "วัด" ยังมีอีกเยอะที่ยังไม่ได้อัพ...ขอลัดคิวก่อนค่ะ ดูก่อนเนาะ ว่าสมกับที่อยากให้ลัดคิวมั้ย...







































ในย่านเขตอนุรักษ์พื้นที่ชั้นในเกาะรัตนโกสินทร์ ที่ยังคงทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้มากมาย ทั้งวัด วัง และโบราณสถานสำคัญที่ได้รังสรรค์ขึ้นตามกาลเวลานับย้อนอดีตไปกว่า ๒๐๐ ปี ที่กรุงเทพมหานครได้รับการสถาปนาเป็นเมืองหลวงแห่งราชอาณาจักรไทย ทุกซอกทุกมุมที่แฝงอยู่ในเขตเมืองเก่าใจกลางเกาะรัตนโกสินทร์ ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ดึงดูดทุกสายตาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่เว้นแม้แต่คนไทยทุกคนที่รู้สึกภาคภูมิใจในความสวยงามและความเป็น เอกลักษณ์ของศิลปวัฒนธรรมที่ประกอบสร้างขึ้น การอนุรักษ์และพัฒนาพื้นที่จึงต้องเดินหน้าไปพร้อมกันเพื่อส่งเสริมความงดงามของเขตเมืองเก่าให้เป็นไปอย่างยั่งยืน





















ความงามอันโดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ของชาติ จะได้ปรากฏต่อสายตาผ่านมุมมองใหม่ของพื้นที่สวนสาธารณะที่ได้เปิดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้เข้าชมตั้งแต่วันที่ ๔ ก.ย. ที่ผ่านมา โดย กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ร่วมกับ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เจ้าของพื้นที่ ปรับปรุง บริเวณกรมการค้าภายใน (เดิม) ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เนื้อที่กว่า ๓ ไร่เป็นสวนสาธารณะ นามว่า “นาคราภิรมย์” เป็นชื่อที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามซึ่งหมายถึง สวนอันเป็นที่น่ารื่นรมย์ยิ่งของชาวพระนคร สำนักผังเมือง กทม.ได้มีการออกแบบให้เป็นสวนเปิดโล่งเปิดมุมมองอันสวยงามริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่สามารถมองเห็นความสง่างามของสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติ ทั้ง ๒ ฝั่งแม่น้ำ
















คงยังจำกันได้นะคะ...เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายนที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคโดย "เรือพระที่นั่งอังสนา" จากรพ.ศิริราช เพื่อทรงเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กับทรงเปิดสะพานภูมิพล ๑ และสะพานภูมิพล ๒











มองเห็นความงามของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) พระบรมมหาราชวังในฝั่งพระนคร และภาพอันสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม พระอุโบสถวัดระฆังโฆสิตาราม ตลอดจนอาคารราชนาวิกสภาในฝั่งธนบุรี การออกแบบพื้นที่สวนนาคราภิรมย์แห่งนี้พื้นที่กลางสวนปูด้วยหญ้าสีเขียวขจี ผืนใหญ่ มีทางเดินเล่นระดับ แบ่งสัดส่วนพื้นที่ โดยเฉพาะลานขนาดใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตลอดความยาวของพื้นที่ติดกับผืนน้ำเปิดรับลมเย็นพัดเข้าสู่ฝั่ง ประดับ แนวกั้นด้วยเสาต้นเตี้ยผูกโยงด้วยโซ่เส้นเดียวจากเสาสู่เสาเป็นจังหวะที่สวยงาม พร้อมม้านั่งสำหรับชมวิวที่จัดวางอยู่เป็นระยะ ๆ จากริมน้ำขึ้นทางเดินเล่นระดับขึ้นเป็นลานกว้าง มีบ่อสระบัวรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวขนานทั้งสองด้านของสวนที่ขณะนี้เต็มไป ด้วยดอกใบชูก้านโบกไสวไปตามลม ส่วนไม้ประดับเน้นกลุ่มของไม้พุ่มเตี้ยที่ออกแบบจัดวางได้อย่างลงตัว ส่วนที่สูงโปร่งมีเพียงต้นลีลาวดีที่โชว์กิ่งก้านสวยงามเพียงไม่กี่ต้นเท่า นั้น เพื่อไม่ให้บดบังความงามของสถาปัตยกรรมที่อยู่เบื้องหลัง









































สวนนาคราภิรมย์เป็นสวนในทำเลสำคัญที่ประชาชนสามารถมองเห็นสถาปัตยกรรมของ อาคารประวัติศาสตร์เมืองหลวงของประเทศไทย ทั้งสมัยกรุงธนบุรี และในรัชสมัยของกรุงรัตนโกสินทร์ได้พร้อม ๆ กันและนับเป็นสวนริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตเกาะรัตนโกสินทร์แห่งที่ ๒ จากที่ก่อนหน้านี้มีเพียงสวนสันติไชยปราการเท่านั้น โดยประชาชนจะได้มุมมอง ของฝั่งพระนครและฝั่งธนฯ ที่ต่างกัน ทั้งนี้ทางเขตฯ ได้ร่วมกับทางสำนักงานทรัพย์สินฯ ดูแลความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่โดยกำหนดเวลาให้เข้าชมใน ช่วง ๐๕.๐๐ - ๒๑.๐๐ น. และไม่ให้มีการตั้งวางหาบเร่ แผงลอยรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่สวนและบริเวณริมทางเท้า เพื่อให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้เข้ามาพักผ่อนและชมความงามของ อาคารสำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้งสองฝั่งได้สะดวก โดยขณะนี้ยังมีงานอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้เข้าชมได้อย่างเป็นทางการในเดือน ธ.ค. นี้

“สวนอันเป็นที่น่ารื่นรมย์ยิ่งของชาวพระนคร” แห่งนี้ จะเป็นสถานที่พักผ่อนแห่งใหม่ท่ามกลางกลิ่นอายของสถาปัตยกรรม ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ที่คนกรุงเทพฯ ภาคภูมิใจไม่น้อย.













จากมุมนี้จะมองเห็นส่วนที่ยังทำไม่เสร็จดีค่ะ ฝั่งที่ติดกับท่าเตียน....







ไหนๆ ก็ไหนๆ เดินดูหน่อยเนาะ











ชอบอาคารบ้านเรือนแบบเก่าค่ะ






ของที่ขายก็แบบนี้ค่ะ















ร้านนวด...ซึ่งมองหาไม่มีคำบอกเล่าภาษาไทยซักเท่าไหร่ แปลว่า...กลุ่มเป้าหมาย ไม่น่าจะเป็นพวกเรา...







เดินเข้าไปท่าเรือข้ามฟากค่ะ







วันที่เราไปคือวันอาทิตย์ที่ ๒๙ พฤศจิกายนที่ผ่านมา เวลา ๘ โมงเช้าหน่อยๆ ร้านค้ายังไม่เปิด....






ลากันไปดื้อๆ เลยนะคะ


พรุ่งนี้...จริงๆ ไฟลท์บังคับต้องรีดผ้าอีกแล้ว... แต่จะพยายามเข้ามาตอบคอมเมนท์ และทักทายเพื่อนๆ น้องๆ ให้ได้...


ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก //www.prbangkok.com/


บล็อกหน้า...ขอเป็นเรื่องสวนสันติไชยปราการละกันค่ะ ต่อเนื่องจากบล็อกนี้เลยเนาะ


ขอบคุณเฮดบล็อก และบีจี คุณญามี่ค่ะ