แหวนพระจันทร์ : อุรุดา โควินท์ (นวนิยายชุดวงร้าวในเงาน้ำ)
แหวนพระจันทร์ (นวนิยายชุดวงร้าวในเงาน้ำ) อุรุดา โควินท์ พิมพ์ครั้งที่ 1 / สนพ.เพื่อนดี 251 หน้า / 180.-
...ถ้าจู่ๆ มีใครสักคนบอก เขาสร้างบ้านช็อกโกแลตหลังเล็ก ๆ ไว้รอคุณ มันเป็นของคุณ ไม่ว่าคุณต้องการหรือไม่ มันก็มีไว้เพื่อคุณ นั่นละ สิ่งที่ฉันเผชิญ ความเย้ายวนใจซึ่งหอมหวาน... +++++++++++++++++++++++++++++++++++
หรือเพราะ ของหวานคือ...ตัณหา
จากเงาในน้ำที่สะท้อนเป็นวงกระเพื่อม เหมือนแหวนพระจันทร์ที่ชายคนรักขอหมั้น ทำให้ดาห์ลิยาต้องตัดใจเลือก ระหว่างเงาในน้ำ... ที่สวยงามแต่จับต้องไม่ได้ กับบ้านช็อกโกแลตที่ใครบางคนสร้างไว้เพื่อรอ...มันเป็นของเธอมาตั้งแต่แรก... ถึงอย่างไรมันก็เป็นของเธอ... ดาห์ลิยาจะเลือกอะไร ถ้าหากรู้ว่าเจ้าของบ้านช็อกโกแลตแสนเย้ายวน และหอมหวาน ที่เขามอบให้มีคนจับจองเป็นเจ้าของอยู่ และบ้านช็อกโกแลตหลังนั้นอาจจะมีอยู่แค่ในฝันไม่ได้มีอยู่จริง เรื่องราวของดาห์ลิยา หรือ เอิงเอย สาวสวยจากเมืองใต้ สาวเปรี้ยวมั่นใจในตัวเอง ดาห์ลิยาเป็นเจ้าของร้านอาหารร่วมกันกับเพื่อนรักที่เป็นคนใต้เหมือนกัน เธอเป็นมืออาชีพ งานการไม่บกพร่อง เป็นผู้หญิงแบบที่อยู่ได้ด้วยตัวเอง ดาห์ลิยาเป็นเชฟมือฉมัง ทุกสิ่งที่ทำคือใจที่ทุ่มลงไป ต้องดีที่สุด และเธอทำมันได้ดีมาก ผู้หญิงเก่งแบบดาห์ลิยามีมุมอ่อนไหว และอ่อนแอเกินกว่าใครจะคาดคิด ภายใต้ใบหน้าสวยบาดตา ด้วยเครื่องสำอาง และลิปสติกสีแดงสด เธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา ที่รักผู้ชายคนหนึ่งมาก จนยอมทนได้ทุกอย่าง แต่สุดท้ายความรักอย่างเดียวก็ไปไม่รอด ถ้าไม่มีความเข้าใจ ดาห์ลิยากลายมาเป็นมือที่สาม คั่นกลางความสัมพันธ์ของ ตุลย์และออมบุญ สองสามีภรรยาที่แต่งงานกันมาเนิ่นนาน และมีลูกสาวเล็กๆน่ารักด้วยกันหนึ่งคน เพราะหลงใหล เพราะเผลอไผล หรือเพราะเชื่อใจ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว... กับคำว่า มือที่สาม ที่ดาห์ลิยาได้มา โดยไม่ทันตั้งตัว...
หลังอ่าน
แหวนพระจันทร์บอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครหญิง ที่เป็นมือที่สามของครอบครัวหนึ่ง งานนี้ผิดศีลข้อสามแบบเต็มๆ จัดว่าเป็นปัญหาสังคมก็ได้ เพราะในขณะที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าถึงขีดสุด ศีลธรรมของคนเราก็อยู่ในจุดที่ล่อแหลมสุดๆ เหมือนกัน ดังจะเห็นได้จากที่ตัวละครหลักในเรื่องนี้ ที่ความคิดของเธออาจจะแตกต่างจากใครๆ และเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของตัวละคร 'ดาห์ลิยา'
ในนวนิยายมักเต็มไปด้วยเหตุผล เพราะมักเขียนสร้างเหตุหรือแรงจูงใจ เพื่อผลักตัวละครไปสู่เหตุการณ์เสมอ ขณะที่โลกความจริง จู่ๆ เราก็ตกอยู่ในสถานการณ์ไม่คาดฝัน ไม่มีเหตุผล ไร้ที่มา เราไม่ได้ภาวนาร้องขอ ทั้งมันไม่ได้นำไปสู่สิ่งใด โลกในนวนิยาย จึงอยู่ง่ายกว่าโลกความจริง ในชีวิตจริง เราไม่อาจจะเข้าใจในทุกสิ่ง หลายเรื่องไม่มีหนทางคลี่คลาย ไม่มีจุดจบ ทั้งยังเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับเราไม่เคยได้รับบทเรียน ด้วยเหตุนี้ฉันจึงเป็นทุกข์กับการอ่านนวนิยาย ฉันทุกข์เมื่อเห็นความสุขที่ไม่จริง ความรักความชังที่ถูกประดิษฐ์ เหตุผลที่ไม่อาจเกิดขึ้น และผู้ชายที่ไม่เคยมีในชีวิต
ก่อนอ่านเรื่องนี้ต้องบอกว่า คะแนนของดาห์ลิยา ติดลบมาจากเล่ม รอยวารีที่เป็นเรื่องเล่าจากปากคำของเมียหลวง ทำให้คนอ่านตั้งธงไว้แต่แรกว่า เธอคงไม่ใช่คนดีนัก ยิ่งเปิดอ่านบทแรกๆ ที่เธอได้พบกับออมบุญ เหมือนเรื่องขบขันที่นำมาล้อเลียนกับตุลย์ ทั้งการเรียกแทนตัวออมบุญเป็นอีกชื่อนึง ทั้งความรู้สึกที่ยากคาดเดา แต่ดาห์ลิยาก็แสดงความคิดเห็น ของการพบเจอออมบุญครั้งแรกได้อย่างน่าคิด ท่าทีเหมือนไม่ใส่ใจ ไม่แคร์ แต่เธอซ่อนความกลัวเอาไว้มิดชิด
คุณน้องออมเล็ต คงแอบมองฉันอย่างสำรวจตรวจตรา แล้วสรุปในใจว่าฉันไม่ใช่คู่แข่งของเธอ เธอมีดีพอ ฉลาดพอ ทั้งยังมีลูกสาวเป็นราคาหน้าตัก ไม่มีทางที่ตุลย์จะชายตามองฉัน ไม่แปลกที่ออมบุญคิดอย่างนั้น และด้วยความสัตย์จริง ฉันไม่ได้ต้องการดีกว่าเธอ อีกทั้งฉันไม่ได้ต้องการตุลย์ ฉันไม่ต้องการเขาตั้งแต่แรก ตุลย์เองก็รู้ดี แต่นั่นยิ่งทำให้เขาต้องการฉัน
พอเริ่มเปิดอ่านไปเรื่อยๆ ความรู้สึกที่มีต่อ ดาห์ลิยา ก็ทำให้คะแนนของเธอ ตีตื้นขึ้นมา ไม่ใช่เพราะสนับสนุนสิ่งที่เธอทำหรือเพราะเห็นด้วยหรอก แต่ในตัวตนของดาห์ลิยา มีอะไรมากกว่านั้น เธอมีแนวคิดที่เป็นเอกเทศ เป็นเฟมินิสต์อาร์ต และมันไม่ควรมีอะไรให้เธอต้องหมดความนับถือตัวเอง ถ้าไม่มีผู้ชายอย่างตุลย์เข้ามาพัวพัน
ความสวยเป็นต้นทุนชีวิตที่ดี แต่กว่าจะสวย เราก็ต้องลงทุน คุณคิดว่าความสวยใสตามธรรมชาติยังมีอีกหรือ ในเมื่อเด็กสาวรู้จักใส่บิ๊กอาย และทาลิปกลอสตั้งแต่ยังไม่ขึ้นม.ปลาย ถ้าพูดอย่างอุดมคติ นั่นคือเปลือกนอก ความเป็นคุณที่แท้จริงอยู่ข้างใน ต้องการเวลาเพื่อทำความรู้จัก ถ้ามีใครสักคนรักคุณ คุณก็อยากให้เขารักตัวตนข้างใน ฉันอยากเชื่อตามอุดมคติ แต่ความจริงที่เจออยู่ทุกวันก็คือ คนหน้าตาดีมักได้เปรียบเสมอ คนสวยได้รับความรักเสมอ ถ้าคุณช่วยคนตาบอดข้ามถนน คุณย่อมได้รับการชื่นชม แต่ถ้าคุณสวยหรือหล่อ คำชื่นชมจะเพิ่มเป็นทวีคูณ
ถ้าหากผู้หญิงสักคน หรือหลายคน ที่พบเห็นในชีวิตจริงจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบดาห์ลิยา ทั้งกลืนไม่เข้า คายไม่ออก ไม่อยากคบแต่ก็จบไม่ได้ ไม่อยากเป็นเมียน้อย แต่ก็ถลำลึกไปแล้ว จะทำยังไงในเมื่อรู้ทั้งรู้ เหมือนดาห์ลิยา เธอก็รู้ทั้งรู้
ไม่ง่ายหรอกที่จะเป็นคนไม่ดี มันไม่สนุก และไม่น่าภูมิใจเมื่อคุณต้องทำร้ายคนอื่น ไม่มีใครเกิดมาพร้อมกับความตั้งใจประเภทที่ว่า ผมจะเป็นคนเจ้าชู้ฉันจะเป็นเมียน้อย ข้าพเจ้าจะโกงกิน ระหว่างที่คุณดำเนินชีวิต สถานการณ์หนึ่งอาจเกิดขึ้น ชักนำให้คุณเป็นสิ่งที่ไม่เคยคิดจะเป็น หรือกระทั่งไม่เคยจินตนาการถึงมัน คุณควรระวังสถานการณ์ มันมีอิทธิพลมากกว่าที่คุณคิด ฉันคือตัวอย่าง ฉันตกหลุมพรางของมัน
ดีที่ในเรื่องนอกจากสมรภูมิชีวิตที่ถูกบีบคั้น การคงอยู่ของเพื่อน อย่างเช่นตัวละครในเรื่องอีกคนที่เป็นเพื่อนรักชาวใต้ของดาห์ลิยา หรืออีกนัยหนึ่งคือเจ้าของเงินทุนร้านอาหารที่ดาห์ลิยาทำอยู่ ก็ให้ข้อคิดดีๆ กับเพื่อนได้เช่นกัน สาวมักจะปลอบและคอยดูแลเสมอ ดูจากคำพูดฉากเล็กๆที่สะกิดใจคนอ่านได้ดี
เพื่อนรู้จักเอิงดี เอิงไม่แย่งของใครหรอก เลยเถิดมาป่านนี้ ก็ต้องดูกันไปก่อน แถวบ้านเรามีเยอะนิ ผัวคนเดียว เมียสาม เมียคนเดียว ผัวสองก็มีนะ เป็นไปไม่ได้ในสังคมชนชั้นกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคุณหนูอย่างออมบุญ เธอไม่ยอมแน่ ผู้ชายมันเลวจริงๆ เคยได้ยินมั้ยผู้หญิงมักชื่นชมผู้ชายดีๆ แต่หลงรักผู้ชายเลวๆ เลวไม่เป็นไร แต่ต้องไม่มีเมีย
คนอ่านพออ่านถึงประโยคนี้ถึงกับนึกตาม อืม... จริง ต่อให้เลยประโยคนี้ ถ้าจะให้ดีต้อง
ทั้งไม่เลว และไม่มีเมีย น่าจะดีกว่านะ... เพื่อนสาว
แหวนพระจันทร์ จากปลายปากกาของ คุณอุรุดา ทำให้ตัวละครดาห์ลิยาเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย คนอ่านจดจำเธอได้แม่น โดยเฉพาะ ริมฝีปากสีสด Tom Ford วอดก้า มีมาตลอดเรื่อง เหมือนว่านี่คือคาแรคเตอร์หลักของเธอ เป็นส่วนผสมในตัวเธอที่แยกกันไม่ออก จนกว่าจะอ่านจบเล่ม คนอ่านอาจเมาวอดก้า และอยากทาปากแดงบ้างก็เป็นได้ ถ้า ออมบุญ ใน รอยวารี จะเหมือนพอร์ซเลนเนื้อดี สวยงาม ดาห์ลิยา ในแหวนพระจันทร์ ก็คงเหมือนเหมือนคริสตัลแสนสวย เต็มไปด้วยสีรุ้ง หลายเหลี่ยม หลายมุมมอง ทั้งส่วนดี และไม่ดีในคนเดียวกัน เป็นคนที่ทั้งเด็ดเดี่ยวและอ่อนแอ ชอบคาแรกเตอร์เธอมากค่ะ ถ้าเพียงแต่เธอจะไม่มาบอกเล่าเรื่องราวนี้ในฐานะของเมียน้อย เราคงรู้สึกว่าจริงๆแล้ว เธอก็เป็นคนน่าคบ น่านับถือ และนิสัยส่วนตัวไม่เลวเลย
ชีวิตไม่ใช่นวนิยาย ฉันไม่มีเหตุผลที่จะรัก แต่ฉันก็รัก ฉันไม่ได้ต้องการใคร แต่ฉันก็ได้ ก้านเมฆ เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นกับฉันหลายครั้ง ครั้งแรก... กับการเป็นเชฟ ครั้งที่สอง... กับก้านเมฆ กับตุลย์... ก็เช่นกัน
อ่านจบ คนอ่านอดใจไม่ไหว รีบเปิดเล่มสุดท้ายของชุด เพลงใบไม้ ด่วนๆ ทันที คิดว่าน่าจะได้คำตอบกับพฤติกรรมของผู้ชายแบบตุลย์ คำสารภาพหรือคำบอกเล่าของเขา น่าจะเป็นกุญแจไขปริศนารักซ้อนซ่อนเร้นนี้ได้ดีที่สุด กับคะแนนแรกเริ่มก่อนอ่าน ต้องบอกว่าติดลบสุดๆไปเลย รอดูว่า คุณแขคำ จะเขียน เพลงใบไม้ ออกมาให้คนอ่านรู้สึกถึงตัวตนของตุลย์จนเพิ่มคะแนนให้เขาได้ยังไง ขณะที่เขียนบล็อคนี้ เปิดอ่านเล่มเพลงใบไม้ปากคำของผู้ชายไปได้หลายหน้าแล้ว เอาละสิ! สามคนดูท่าจะเล่าไม่เหมือนกันซะแล้ว จะเลือกเชื่อคนไหน? หรือว่าเพราะ คนเรา มักจะเข้าข้างตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องเล่าของตัวเอง หรือเรื่องของคนอื่นก็ตาม เอาไว้ค่อยมารายงานผลให้ทราบตอนอ่านจบนะคะ
และนี่คือเรื่องราวของเรา แค่ได้พูดความจริง ความทุกข์ก็ถูกแบ่งเบา เพราะอย่างนี้ ฉันจึงเล่าให้คุณฟัง แม้ว่า มันจะทำให้คุณเกลียดฉันก็ตาม...
(จากคำโปรยปกหลัง แหวนพระจันทร์)
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ขอบคุณของแต่งบล็อคสวยๆ จากคุณยายเก๋าและคุณญามี่ค่ะ ขอบคุณภาพสวยๆ และเพลงเพราะๆ จากอินเตอร์เนต / ยูทูป / GMM GRAMMY OFFICIAL ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านค่ะ ^^
Create Date : 24 กันยายน 2558 |
|
26 comments |
Last Update : 24 กันยายน 2558 2:31:54 น. |
Counter : 1877 Pageviews. |
|
|
|
ติดค้างไ้ว้ก่อนนะคะ ง่วงมากมาย