|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
บันทึก เมื่อฉันติดโควิด ตอนที่ 2
หลังจากมาถึง ก็มีเจ้าหน้าที่พยาบาลมายืนรออยู่ที่ด้านในล็อบบี คอยสื่อสารกับผู้ป่วยที่เพิ่งมาใหม่ด้วยไมโครโฟน ตามประสาคนไม่เคยเป็นและไม่เคยกักตัวมาก่อนก็เลยจะงงๆ หน่อย สภาพร่างกายก็ไม่สมบูรณ์เกือบจะผลักประตูเข้าไป เจ้าหน้าที่รีบโบกมือห้ามแล้วพูดผ่านไมโครโฟนให้แอดไลน์ชั้นที่พักและรับกุญแจห้องที่วางไว้ให้บนโต๊ะ มีซองบรรจุเครื่องวัดออกซิเจน ปรอทวัดไข้ หน้ากากอนามัย 10 ชิ้น และแผ่นแอลกอฮอล์ประมาณ 10 ชิ้น ให้เอาขึ้นไปใช้ด้วย ฟังคำอธิบายอีกครู่ใหญ่จึงลากกระเป๋าขึ้นไปบนห้อง
ห้องพักของ Hospitel จะใช้บันไดทางด้านหลังสำหรับผู้ป่วย ส่วนลิฟท์จะใช้สำหรับเจ้าหน้าที่ที่อาจจะต้องมีการนำยาขึ้นไปให้กรณีผู้ป่วยมีอาการนอกเหนือหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน และไม่อนุญาตให้มีญาติมาเยี่ยมหรือสั่งซื้อของใช้ ของกิน หรือไม่ให้มีการนำข้าวปลาอาหารมาให้กัน เราก็ว่าดีเลยที่มีกฏค่อนข้างเข้มงวดและมีการแบ่งแยกชัดเจนไม่ปะปนกัน
เราแบกกระเป๋าขึ้นไปชั้นสามของโรงแรม ได้ห้องพักที่อยู่หน้าลิฟท์และตรงกับจุดวัดความดันประจำชั้น ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีผ้าเช็ดตัว น้ำตั้งไว้ในห้องสองแพ็ค กระดาษชำระ ทีวี ตู้เย็น แอร์ เตียง 2 เตียง โต๊ะเขียนหนังสือ ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำกั้นส่วนอาบน้ำ ฝักบัวมีน้ำร้อนน้ำเย็น เก้าอี้ด้านนอกจะมีวางถุงดำสำหรับใส่ขยะ ส่วนอาหารสามมื้อจะตั้งไว้ที่เก้าอี้ด้านนอก ก่อนแปดโมงเช้า ก่อนเที่ยง ก่อนหกโมงเย็น อาหารมื้อแรกกับวิวจากหน้าต่างห้องพัก เวลา 2 ทุ่มกว่าๆ คือถนนหนทางเงียบเหงามากทั้งที่เป็นวันอาทิตย์และโรงแรมที่พักนี้ตั้งอยู่บนถนนสายเศรษฐกิจของเมือง วันแรกที่มาถึงก็จะเหงาหน่อยๆ ค่ะ เพราะได้พักคนเดียว รูมเมทยังไม่มา แต่เจ้าหน้าที่บอกไว้แล้วว่าพรุ่งนี้จะมีคนมาพักด้วย เราก็โอเคค่ะได้อยู่แล้วไม่มีปัญหา มีเพื่อนอยู่ด้วยก็น่าจะดีอยู่ห้องของโรงพยาบาล เหมือนห้องพักที่นี่ยังมีว่างหลายห้องแสดงว่าโควิดอาจจะยังไม่ระบาดมาก (แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เราคิดผิดไปมากเพราะโควิดที่ระบาดตอนนี้ติดง่าย อาการน้อย ทำให้คนยิ่งชะล่าใจไม่กลัว) หลังจากที่เราออกจาก Hospitel ไม่กี่วัน ตอนนี้คือเต็มทุกห้องและวันที่เขียนบล็อกนี้คือ Hospitel เต็มหมดทุกที่ ไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างที่คิดเลย
เราเลือกเตียงที่อยู่ติดหน้าต่าง ส่วนกระเป๋าเดินทางสัมภาระต่างๆ ก็จะแยกไว้ริมหน้าต่างไม่ใส่ไว้ในตู้ กะว่าให้รูมเมทใช้ส่วนนั้นไปดีกว่า สิ่งแรกที่ทำหลังจากจัดการเก็บของเรียบร้อยก็คือ วัดออกซิเจน วัดไข้ วัดความดัน ดีที่เครื่องวัดอยู่หน้าห้องส่องจากประตูก็เห็น อาศัยจังหวะปลอดคนก็ออกไปวัดไม่ต้องรอคิว เสร็จแล้วส่งรูปเข้าในไลน์ Hospitel หลังจากนั้นก็กินอาหารมื้อแรกตามด้วยยามื้อแรกตามคำแนะนำในการกินยาระหว่างการแยกกักตัวผู้ป่วยโควิด
สามสิ่งในรูปด้านบนคือต้องทำทุกวันเช้าเย็น วันที่สองมีหมอโทรขึ้นมาถามไถ่อาการเบื้องต้น ส่วนยากินมีทั้งหมดสี่รายการ 1.ยาลดไข้แก้ปวดกินครั้งละ 1 เม็ด ทุก 6 ชั่วโมง เวลามีอาการปวดหรือมีไข้ 2.ยาแก้ไอ กินครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง หลังอาหารเวลามีอาการไอ (กินแล้วง่วงนอน) 3.ยาลดน้ำมูก ลดอาการคัดจมูก กินครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้งหลังอาหารเวลามีน้ำมูกหรือคัดจมูก (กินแล้วง่วงนอน) 4.ฟาวิพิราเวีย ยาต้านเชื้อไวรัส เนื่องจากน้ำหนักน้อยกว่า 90 ก.ก. กินครั้งละ 9 เม็ด ทุก 12 ชั่วโมง วันที่ 1 ของการรักษา เท่ากับว่ามื้อแรกกับมื้อถัดมา กินครั้งละ 9 เม็ด หลังจากนั้นกินครั้งละ 4 เม็ด จนครบ 50 เม็ด กินติดต่อกันจนหมด
สองวันแรกที่เข้ากักตัว อาการที่มีคือ ไข้ต่ำๆ ง่วงนอนทั้งวันทั้งคืน เจ็บคอนิดๆ ส่วนอาการอื่นไม่มี วันที่สามเริ่มรู้สึกคันคออีกหลังจากนั้นเริ่มมีอาการไอ แต่น่าจะเพราะรีบไปตรวจ RT-PCR ก็เลยพบเชื้อเร็ว อาการไม่หนักและฉีดวัคซีนไป 3 เข็มแล้ว อาการจึงไม่หนักมาก มีแต่อาการง่วง เพลีย หนาวเป็นพักๆ อยากนอนตลอดเวลา แต่ดีที่ยังกินข้าวได้ไม่เบื่ออาหาร วันที่สี่ห้า มีอาการคัดจมูกบ้าง แต่ไม่มีน้ำมูกเลย อาจเพราะกินยาตั้งแต่วันแรกๆ ยาน่าจะช่วยได้เยอะมาก ไม่อย่างนั้นอาจจะเป็นมากกว่านี้ ส่วนอาการไข้นั้นไม่มีแล้ว วันที่เหลือหลังจากฟาวิพิราเวียหมด มีความรู้สึกไม่อยากอาหาร อยากกินแต่นมจืดแล้วก็กาแฟขมๆ ตอนนั้นเริ่มสังเกตว่าอาหารทุกมื้อที่โรงพยาบาลจัดให้ไม่มีอาหารที่มีรสหวานเลย แม้แต่ขนมก็ไม่มี ตอนนั้นโหยหาความหวานมาก ขนมก็ไม่ได้เตรียมมา แต่ถึงเตรียมมาก็คงไม่อยากกินอีก รู้สึกปากคอจืด คิดถึงตู้กดของกินหยอดเหรียญ ถ้ามีตั้งไว้สักตู้คงขายดีแน่ๆ แต่ไม่มีก็ดี ปลอดภัยกว่า มารู้ว่าอาหารที่มีรสเผ็ดช่วยเรื่องอาการป่วยโควิดได้ดีและที่ไม่มีอาหารหรือของหวานเพราะต้องควบคุมความหวานไม่ให้มากเกินไปด้วย วันที่รูมเมทเข้ามาพักด้วยคือวันที่สองของการกักตัว รูมเมทเป็นสาวน้อยวัยเรียนติดโควิดเพราะที่บ้านเป็นร้านของชำ มีคนมาซื้อ มานั่งกินนั่นนี่ที่ร้าน น้องมีอาการแรกเริ่มน่าสงสัย ตรวจ ATK ผลเป็นลบ ไม่มั่นใจจึงมาตรวจที่ รพ.อีกทีจึงพบผลเป็นบวก น้องเรียนออนไลน์ก็เลยต้องมี โน้ตบุ๊ค หนังสือ อุปกรณ์การเรียน แล้วก็พกขนมมาเพียบ หลายวันที่อยู่ด้วยคือต่างคนต่างป่วย วันแรกๆ จะไม่ได้คุยอะไรมากเพราะนอนอย่างเดียว คิดว่ายาทำให้หลับลึกและนอนนานมากๆ น้องเหมือนจะมีอาการมากกว่า ไอแรง แล้วก็ค่อนข้างโฮมซิก เห็นน้องร้องไห้คิดถึงบ้าน เราก็ใจไม่ดี คนที่ติดโควิดไม่ว่าจะได้พักที่ไหน รพ. Hospitel รพ.สนาม หรือ Hi เองที่บ้าน ไม่มีใครอยากเป็นอยากติด ส่วนเราถึงแม้ว่าจะทำใจได้แล้วว่ามันติดแล้วก็รักษาไป แล้วก็แล้วไป ดูแลตัวเองให้ดี หายไวๆ ก็พอ แต่จริงๆ แล้วคือไม่พอเลยค่ะ เอาจริงๆ คือกลัวมากค่ะ
สิ่งที่ทำทุกวันก็คือมองออกไปนอกหน้าต่างที่ไม่กล้าจะเปิดกว้างๆ เพราะกลัวคนข้างนอกจะเห็น กลัวเจอคนรู้จักทั้งที่พักอยู่ชั้นสาม ถึงจะรู้ว่าโควดคนติดเยอะแต่ความกลัวมันห้ามยาก แม้แต่ตอนวัดความดันก็ต้องดูว่ามีคนด้านนอก พอไม่มีรีบออกไปวัดรีบกลับเข้าห้องกลัวเจอคนรู้จัก หลังๆ มาเริ่มเชี่ยวตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้าออกไปวัดก่อนแล้วกลับมาหลับต่อ ตอนเย็นก็รีบไปวัดก่อนจะได้ไม่ต้องเจอใคร มันเป็นอะไรที่ทรมานและไม่สนุก ถึงจะได้ที่พักสบายแต่ใจก็ไม่ได้สบายนะ มันหน่วงๆ คิดถึงบ้าน คิดถึงแม่แต่ก็ต้องเข้มแข็งให้เค้าเห็นว่าเราอยู่ได้ ดีที่มีโทรศัพท์ คุยกันทุกวันค่อยหายห่วง
อยู่ที่นี่ได้เห็นการเรียนการสอนออนไลน์ในยุคโควิด เป็นอะไรที่รู้สึกว่ายุ่งยากเหมือนกันเพราะตอนเรียนไม่มีแบบนี้ อุปสรรคการเรียนการสอนคือการสื่อสารที่ไม่ค่อยพร้อม บางคนเน็ตไม่ดีติดๆ หลุดๆ บ้างและความสนใจในการเรียนของเด็กมีไม่เท่ากันทุกคน ต้องปรับตัวกันไป ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมีน้องๆ หลุดออกจากระบบการศึกษาเยอะมาก
หลังจากที่ยาหมด เป็นช่วงพักฟื้นก็เริ่มไม่อยากนอนแล้ว นอนมาก นอนนานพอเริ่มดีขึ้นก็กลับสู่โหมดนอนดึก นอนไม่หลับ อยากทำนั่นนี่ ดูทีวีก็ไม่สนุกเลยยกให้น้องรูมเมทจัดการรีโมตไปตามใจ น้องชอบดูการ์ตูน ดูละครช่องมากสี ชอบดูคลิปติ๊กต่อกเป็นชีวิตจิตใจ ได้เห็นไลฟ์สไตล์เด็กรุ่นใหม่จนได้พล็อตนิยายมา 2 เรื่องจากแรงบันดาลใจช่วงติดโควิด รีบเขียนใส่ในสมุดไว้กันลืม เริ่มรับงานที่คืนลูกค้าไปก่อนเข้ากักตัวก็ถือว่ายังได้งานอยู่
โชคดีที่พกไอแพดไปได้ดูหนังฟังเพลงที่อยากดูบ้างก็ผ่อนคลายความตึงเครียดได้ดีพอควร แถมได้ดูเรื่องที่ไม่คิดว่าจะดู หลายเรื่องแบบว่าไม่น่าดูแต่พอลองเปิด เฮ้ย! มันดีอะ ทำไมพลาด ทำไมตอนปกติไม่คิดจะดู ได้อะไรดีๆ จากซีรีส์เยอะมาก เอาไว้บล็อกหน้าขอแปะโป้งคุณภพไว้ก่อน จะมารีวิวซีรีส์ที่ดูสักหน่อยค่ะ ชอบทุกเรื่องเลยค่ะ โดยเฉพาะ Kairos เหนือความคาดหมายทีเดียว ส่วนละครไทยปริศนาล่าข้ามเวลามาจากเรื่อง Tunnel ช่อง OCN เกาหลี ดีงาม นักแสดงไม่คุ้นเท่าไหร่แต่สร้างได้ดี ชอบ เรื่องอื่นๆ ค่อยรีวิวอีกทีนะคะ
ปิดท้ายบล็อกโควิด 2 ตอนด้วยเรื่องประกัน ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้เลยค่ะเพราะว่าทำไว้หลายที่และไม่ได้ทำแค่ปีนี้ ทำมาตั้งแต่มีประกันโควิดออกใหม่ๆ นี่คือเป็นการทำประกันปีที่ 2 แล้วค่ะ ตอนที่ทำคือไม่คิดว่าจะติดเพราะรู้สึกไกลตัว แต่เห็นขายในร้านสะดวกซื้อ และไม่แพง ก็นั่นแหละ ไม่แพง น่าสนใจก็ซื้อไว้ตามนี้ค่ะ 1.บริษัท T - ประกันแพ้วัคซีน กับค่าตรวจรักษาวงเงินไม่เกิน 7,000 ส่งเอกสารแล้ว เอกสารที่ใช้คือ สำเนาบัตร ปชช. สำเนาหน้าบัญชี ใบรับรองแพทย์ตัวจริง ผลตรวจ RT-PCR ตัวจริง และประวัติการรักษาทั้ง 10 วัน มีลายเซ็นต์แพทย์ที่รักษา 2.บริษัท T - ประกันแพ้วัคซีน ชดเชยรายได้นอน รพ. และค่าตรวจโควิดคนในครอบครัว เอกสารใช้เหมือนกัน 1.
3.บริษัท V - เจอจ่ายจบ กับ ชดเชยรายได้นอน รพ. อันนี้มีความคืบหน้าเร็วที่สุดว่าอยู่ในคิวจ่ายภายใน 15 วันแล้วค่ะ ส่วนเอกสารที่ใช้คือ สำเนาบัตร ปชช. สำเนาหน้าบัญชี ใบรับรองแพทย์ตัวจริง ผลตรวจ RT-PCR ตัวจริง ยื่นที่บริษัทตามจังหวัดที่อยู่ได้เลย
4.บริษัท S - เจอจ่ายจบอย่างเดียว อันนี้ยังรออยู่ ตามยากสักนิดแต่บล็อกหน้าคงมีความคืบหน้า เอกสารก็เหมือนข้อ 3.
5.บริษัท C - อันนี้เป็นประกันอุบัติเหตุที่ทำไว้นานมากๆ แล้ว ไม่เคยเคลมเลย เพิ่งรู้ว่ามีชดเชยรายได้จากการนอน รพ.ด้วย ส่งเอกสารตาม ข้อ 1. (มีความคืบหน้า เจ้าหน้าที่ติดต่อมาแล้ว จัดว่าโอเคเลยค่ะ)
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บล็อกหน้าจะมาอัปเดตนะคะว่าผลเป็นอย่างไรบ้าง ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่า ^__^
Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2565 |
|
41 comments |
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2565 1:54:49 น. |
Counter : 1512 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณเริงฤดีนะ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณอุ้มสี, คุณhaiku, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณmultiple, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณเพรางาย, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณThe Kop Civil, คุณtuk-tuk@korat, คุณtoor36, คุณSweet_pills, คุณnewyorknurse, คุณกิ่งฟ้า, คุณชีริว, คุณ**mp5**, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณNoppamas Bee |
| |
โดย: กะว่าก๋า 17 กุมภาพันธ์ 2565 6:31:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 17 กุมภาพันธ์ 2565 7:19:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: multiple 17 กุมภาพันธ์ 2565 9:33:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: เพรางาย 17 กุมภาพันธ์ 2565 9:49:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: sawkitty 17 กุมภาพันธ์ 2565 11:58:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 18 กุมภาพันธ์ 2565 14:07:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 18 กุมภาพันธ์ 2565 23:39:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 19 กุมภาพันธ์ 2565 6:33:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: multiple 19 กุมภาพันธ์ 2565 9:50:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: กิ่งฟ้า 19 กุมภาพันธ์ 2565 20:00:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 19 กุมภาพันธ์ 2565 20:58:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 20 กุมภาพันธ์ 2565 6:39:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชีริว 20 กุมภาพันธ์ 2565 22:50:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: โสมรัศมี 21 กุมภาพันธ์ 2565 17:44:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: sawkitty 22 กุมภาพันธ์ 2565 17:36:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 23 กุมภาพันธ์ 2565 8:18:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 24 กุมภาพันธ์ 2565 6:12:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 24 กุมภาพันธ์ 2565 22:06:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 25 กุมภาพันธ์ 2565 6:19:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: กิ่งฟ้า 25 กุมภาพันธ์ 2565 16:54:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: เริงฤดีนะ 27 กุมภาพันธ์ 2565 10:24:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: **mp5** 1 มีนาคม 2565 11:50:52 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เข้าใจทั้งความรู้สึก และขั่นตอนการทำงาน
ดีที่มีรูมเมท..ทำให้ได้รู้ถึงความยากลำบากที่ประสบมากฏว่า
เด็กสาวปรับตัวได้ยากกว่า
หนังตากIpad ช่วยได้มากจริงๆ
พาเราเข้าไปฟินกับเรื่องราวได้หลายชั่วโมง
ลืมเหตุการณ์ปัจจุบันได้เป็นระยะ
รอผลรายงานการรักษาและการประกันฯในตอน 3 ค่ะ
ส่งกำลังใจค่ะน้องนุ่น
♥️🤟💚🤟💜🤟💙🤟🤎🤟💛🤟🤍🤟
Love love นะคะ