โปรยปกหลัง 1 , 2
หวงจื่อเสีย สตรีผู้ไขคดีปริศนาจนโด่งดังไปทั่วหล้า
หากแต่ภายในคืนเดียว จากหญิงอัจฉริยะผู้เชี่ยวชาญการไขคดี
กลับกลายเป็นฆาตกรวางยาพิษสังหารคนในครอบครัว
เป็นนักโทษที่ถูกติดประกาศจับไปทั่ว
หลี่ซูไป๋มีศักดิ์สูงเป็นถึงองค์ชาย แต่ต้องคำสาปยากจะหลุดพ้น
เมื่อฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้ ว่าที่พระชายากลับมีทีท่าต้องสงสัย
หวงจื่อเสียดั้นด้นมาร้องทุกข์ถึงเมืองหลวง
ระหว่างทางเผอิญได้พบขุยอ๋องหลี่ซูไป๋
หลี่ซูไป๋ที่ล่วงรู้ฐานะของหวงจื่อเสีย
รับปากจะรื้อคดีของนางมาสืบสวนใหม่
โดยมีข้อแม้ว่า นางจะต้องใช้ฐานะขันทีน้อยของจวนอ๋อง
สืบคดีปริศนารอบกายให้ได้เสียก่อน
พายุตั้งเค้า แสงโคมสลัวราง
หลี่ซูไป๋และหวงจื่อเสียเดินตามเงื่อนงำขาดๆ หายๆ
ไปจนสุดปลายคดีไม่คาดฝัน ความจริงนั้นน่าตื่นตระหนก
พอจะทำให้ราชวงศ์ต้าถังอันยิ่งใหญ่ต้องพลิกคว่ำ...
เล่าเรื่องเล่ม 1
เล่ม1เปิดมาในยุคต้าถัง (รัชกาลพระเจ้าเกาจง) หวงจื่อเสียวัย 17 ปี บุตรสาวของอดีตเจ้ากรมอาญาหวงหมิ่น
หวงจื่อเสียถึงแม้เป็นดรุณีน้อยแต่ก็มีพรสวรรค์คลี่คลายคดีต่างๆจนเป็นที่เลื่องลือแต่กลับต้องเจอภัยถึงตัวกลายเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่ายกครัวครอบครัวตัวเอง
นางถูกปรักปรำไม่มีหลักฐานพยาน เพื่อล้างความผิดให้ตัวเอง จึงต้องหนีประกาศจับมาเมืองหลวงเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมล้างมลทินให้ตัวเองและหาตัวบงการฆ่าครอบครัว
ระหว่างเดินทางนางบังเอิญได้ยินเรื่องคดีฆาตกรรมสี่จตุรทิศ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก จนได้มาหลบอยู่ในรถม้าของขุยอ๋อง หลี่ซูไป๋ (หลี่จือ) องค์ชาย 4 ผู้ต้องคำสาปประหลาด นางลอบปลอมตัวเข้ามาในขบวนของเขาและแอบอยู่ในรถม้า
ด้วยความรอบรู้ หลี่ซูไป๋รู้ทันทีว่านางคือใคร ทีแรกเขาไม่ยอมช่วยเหลือกลับผลักไส แต่สุดท้ายก็ยอมทั้งที่ไม่เต็มใจเท่าไหร่ โดยมีข้อแม้ว่าหวงจื่อเสียจะต้องคลี่คลายคดีจตุรทิศให้สำเร็จภายใน 10 วัน
ด้วยความฉลาดเฉลียว(หรือดื้อแพ่ง) ของหวงจื่อเสีย นางจึงได้เข้ามาอยู่ที่จวนขุยอ๋องในฐานะขันทีน้อยหยางฉงกู่และไม่สามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงกับใครได้
คดีแรกคือ คดีจตุรทิศ จบไปอย่างรวดเร็วโดยที่ยังงง ๆ ว่าทำไมคดีที่ว่ายากแต่หวงจื่อเสียกลับแก้ง่ายเพียงนับวันเวลาการเกิดคดีและคาดการณ์ความน่าจะเป็นที่จะเกิด
คดีที่ 2 คดีว่าที่พระชายาขุยอ๋องหลี่ซูไป๋หายตัวไปในพระราชวังที่ถูกรายล้อมรอบทิศด้วยทหารคุ้มกัน คดีนี้ซับซ้อนกว่าคดีแรกมากชนิดที่อ่านข้ามจะงงเลยทีเดียว ตัวละครในตอนนี้เยอะมากและเกี่ยวพันกับตระกูลหวางที่มีอำนาจที่สุดในราชสำนัก เพราะมีฮองเฮาถึงสองคนที่มาจากตระกูลนี้ คนหนึ่งคือฮองเฮาหวางฝูผู้ล่วงลับกับหวางเสาฮองเฮาคนปัจจุบัน
เล่ม 1 นี้มีตัวละครที่น่าสนใจคือหวางอวิ้นคู่หมายของหวงจื่อเสียที่ต้องอับอายหลังจากข่าวลือแพร่ออกไปว่านางฆ่ายกครัวเพราะหนีการแต่งงานกับเขา อีกคนคือ โจวจื่อฉิน คุณชายน้อยตระกูลใหญ่ที่ไม่อยากรับราชการตามรอยพ่อแต่อยากเป็นนักชันสูตรพลิกศพมากกว่า (คดีพระชายานี้ไม่จบมีต่อในเล่ม2)
บันทึกปิ่นเป็นนิยายจีนโบราณที่อ่านติดหนึบเลยทีเดียว หลังจากหยิบเล่มโน้นวางเล่มนี้มาหลายเรื่อง แฟนตาซีจีนก็ไม่ค่อยชอบ แนววังหลังเชือดเฉือนก็ไม่ค่อยแนวเท่าไหร่ มาเจอเรื่องนี้ถูกใจเพราะเป็นแนวสืบสวนสอบสวนโบราณที่อิงความจริงมีค้นหาพยานหลักฐานพิสูจน์ น่าสนใจมาก ๆ
ในตอนหนึ่งมีการเปรียบถึงบูเช็คเทียนเหมือนจะบอกว่าฮ่องเต้เกาจงกับฮองเฮาในเรื่องนี้มีสไตล์เดียวกันกับสมัยนั้น คือฮ่องเต้อ่อนแต่ฮองเฮาบู๊และมีอำนาจมากกว่า เป็นอะไรที่วางให้เราอยากรู้ว่าคดีต้องไม่ธรรมดาเกี่ยวพันกับคนใหญ่คนโตในบ้านเมืองแน่นอน
เรื่องนี้ชอบบทบรรยายด้วยค่ะ ผู้เขียนบรรยายเห็นภาพ ผู้แปลก็แปลดีอ่านเพลินเข้าใจง่ายด้วย ตั้งแต่รายละเอียดเล็กน้อย เสื้อผ้าหน้าผม บรรยากาศ ฯลฯ บทบรรยายสวยงามเพิ่มอรรถรสการอ่านมากเลย
ทดไว้ท้ายเล่ม 1
-หวงจื่อเสียโดนถีบตกน้ำ 1 ครั้ง
-หลี่ซูไป๋ได้หยกในท้องศพแต่หวงจื่อเสียปกปิดไว้ไม่บอก เห็นแววรำไรถึงความห่วงใยที่หลี่ซูไป๋มีต่อหวงจื่อเสียนิดๆ แต่เป็นแนวห่วงใยแบบโหดๆ มากกว่า
เล่าเรื่องเล่ม 2
เล่ม 2 เล่าต่อคดีว่าที่พระชายาขุยอ๋องหลี่ซูไป๋ ว่าที่พระชายาหวางรั่วเป็นบุตรสาวอนุตระกูลหวางแห่งหลางหยาที่ได้รับเลือกจากขุยอ๋องในการพบปะกันเพียงครั้งแรกหลังจากเตรียมงานแต่ง โดยมีขันทีน้อยหยางฉงกู่ (หวงจื่อเสีย) กับกงกงอีกคนมาเป็นพี่เลี้ยงก่อนถึงวันงานไม่กี่วัน นางก็หายตัวไปและถูกพบในท้ายเล่มแรก
ไม่ใช่แค่หวางรั่วที่หายไปยังมีคนอื่นที่เกี่ยวข้องอีกเล่มนี้เป็นการสืบคดีแบบจัดเต็มจนถึงท้ายเล่ม เรื่องราวเกี่ยวพันกับอดีต 6 นงคราญแห่งอวิ๋นเสา สาวงามผู้เก่งกาจด้านดนตรี
คดีมีความซับซ้อนกว่าคดีแรกหลายเท่า จนถึงจุดที่หวงจื่อเสียคลี่คลายก็ยังไม่คิดว่ามันจะกระจ่าง จนมาถึงบทท้ายที่คล้ายเป็นการเฉลยจากเสวี่ยซือจึงกระจ่าง
คดีนี้สงสารจิ่นหนูมากทุกอย่างกลับตาลปัตรเพียงเพราะการตัดสินใจผิดแค่ครั้งเดียวจริงๆ
ท้ายเล่มสองมีตอนพิเศษของหวางฮองเฮา เราชอบ รู้เลยว่าทำไมคนคนนึงถึงได้มีเรื่องราวอะไรมากมายถึงขนาดนี้
เล่มนี้อ่านช้ากว่าเล่มแรกค่ะ พยายามเก็บรายละเอียดให้ครบจะได้ไม่ลืมกว่าจะจบ 8 เล่ม มันต้องมีกิมมิคที่ตามๆ กันมาอีกเป็นสตอรี่ยาวๆ แน่ บทบรรยายเล่มนี้ยังคงงดงามเหมือนเคย เราพบว่าชอบงานเขียนของเช่อเช่อชิงหานมากกว่าหลายเรื่องที่อ่านมา
อ่านจบ 2 เล่มแรก ชอบมากค่ะ จบ 2 คดีได้แบบไม่ค้างคาใจ
ทดไว้ท้ายเล่ม 2
-หวงจื่อเสียโดนถีบตกน้ำ 3 ครั้ง เป็นการแสดงความกรุณาของขุยอ๋องที่มีต่อนาง (ขุยอ๋องทำแฮททริค)
-โจวจื่อฉินมีความเก่งกาจมากขึ้นเรื่อยๆ เราพบว่าคนคนนี้มีสีสันที่สุดในเรื่องเพราะนอกจากชุดจะสีแสบตามาก พร็อพประจำตัวครบครันแล้ว ยังมีความตลกหน้าตายและเป็นเสือซ่อนเล็บมาก
-หวางอวิ้นคนนี้ก็น่าสนใจมากเพราะทิ้งท้ายเล่ม 2 ได้แบบเหมือนจะรู้ว่าหยางฉงกู่เป็นใคร (คนนี้น่าจะอยู่ถึงเล่ม 8 แน่เลย เดาๆ)
-ขุยอ๋องหลี่ซูไป๋ เริ่มห่วงใยหวงจื่อเสียไม่รู้ตัวหลายรอบมาก ทั้งอาหาร เงิน ป้ายประจำตัว (ถึงจะเอางานมาอ้างก็เถอะ)
ตอนนี้บันทึกปิ่นออกถึงเล่ม 5 แต่เพิ่งจะอ่านแค่ 2 เอาไว้ค่อยมาเล่าตอนอ่านจบเล่ม 5 อีกทีค่ะ
++++++++++++++++++++++++
ไม่ได้อัปบล็อกนานเกือบห้าเดือนค่ะ
ตะพาบก็ไม่ได้อัปเลย นานมากจริงๆ ค่ะ
ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ ที่แวะไปบล็อกที่แล้ว
ไม่ได้ไปทักทายใครเลย เดี๋ยวจะตามไปนะคะ
เป็นจุดอ่อนของผมมากผมจำชื่อตัวละครไม่ค่อยได้ครับ
ชื่อมันมีสามพยางค์แล้วมันจำยากมากเลย