สนพ.อรุณ / 218 หน้า / 175.-
โปรยปกหลัง
งดงาม ตรึงตา และสะเทือนใจ
นั่นคือนิยายรัก นลิดาเห็นด้วยกับภูดิน
เรื่องราวที่กระตุ้นให้คนอ่านรักผู้อื่น
รักโลกใบนี้ รักในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
ต่อให้มีฉากรบพุ่งในสงคราม เลือดและความตายเกลื่อนไปทั้งเล่ม
หากอ่านแล้วอยากสร้างโลกดีๆ ขึ้นอีกใบหนึ่ง
หนังสือเล่มนั้นก็เป็นนิยายรัก
+++++++++++++++++++++++
เรื่องย่อ
เรื่องของนลิดาหรือครูแก้มผู้คลั่งไคล้นิยายรักเกาหลี แต่จับพลัดจับผลูถูกส่งมาอยู่กับพี่ชายที่เป็นครูใหญ่ในโรงเรียนห่างไกล ช่วงว่างก่อนเปิดเทอม นลิดาพยายามตามหาหนังสือนิยายรักเกาหลีแบบที่เธอชอบมาอ่าน แต่ไม่มีร้านไหนในเมืองนี้มีขายถึงอยากได้ก็ต้องรอนานนับสัปดาห์
แล้วเธอก็ได้เจอกับร้านหนังสือแบ่งปันกันอ่านตามคำแนะนำของคนในพื้นที่ ที่ร้านหนังสือประหลาดนั้นมีภูดินชายหนุ่มเก้งก้างท่าทางขี้โรคเป็นเจ้าของ
ในร้านมีหนังสือสารพัดชนิดแต่กลับไม่มีนิยายรักเกาหลีที่ชอบ นลิดาไม่สนใจหนังสือสักเล่มในร้านนั้น ทั้งที่ภูดินขายเพียงเล่มละยี่สิบบาทเธอไม่เข้าใจว่าเขาขายไปทำไม มันแทบไม่มีกำไรด้วยซ้ำ
ภูดินเสนอให้นลิดามารับหนังสือนิยายรักที่เขาเขียนสัปดาห์ละตอนทุกวันเสาร์ในราคาเพียงตอนละสองบาท นลิดาแทบไม่สนใจ เธอไม่ใช่พวกรอคอยอะไรได้นานขนาดนั้นแต่ด้วยความอยากรู้ที่นับวันค่อยๆ ซึมซับ
นิยายรักที่ไม่ได้มีแต่รักทำให้นลิดาค่อยๆเปลี่ยนไป เธอสนใจนิยายรักหลากหลายมากขึ้น รักมาก รักดราม่า รักรันทดและนิยายรักของภูดินที่มีให้อ่านเพียงสัปดาห์ละหนึ่งตอนแต่ทำให้เธอสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ
นลิดาสนใจภาพวาดสีน้ำที่ใช้ประกอบพอๆ กับเรื่องราวนิยายคลาสสิคที่หยิบยกมา และขณะเดียวกันเธอก็ใส่ใจทั้งเรื่องราวในนิยายและเจ้าของนิยายไปในตัว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หลังอ่าน
เปิดอ่านด้วยความรู้สึกแบบเดาไปก่อนว่าชื่อเรื่องแบบนี้นิยายจะมาแนวไหน คำโปรยหน้าสั้นๆ แต่ก็ดูจะต้องเป็นนิยายซึ้งอยู่ ปกดูสีจืดๆ อ้างว้างน่ารักพอประมาณกับภาพร้านเล็กๆ ตั้งอยู่โดดเดี่ยวทำให้สงสัยอีกว่าเรื่องราวสื่อถึงอะไร
อ่านแรกๆรู้สึกเหมือนนลิดาเป็นคนรู้จัก หรือเหมือนเรารู้จักเธอดีเพราะครั้งหนึ่งเราเคยเป็นเหมือนเธอคือคลั่งไคล้ทั้งนิยายและซีรีส์เกาหลีมากๆ ชนิดที่ปฏิเสธนิยายสัญชาติอื่นแม้แต่นิยายไทย
เหมือนนลิดาเข้ามานั่งในใจเรา เธอเป็นนักอ่านที่รักอยู่กับนิยายแนวเดียว และยังคิดเข้าข้างตัวเองว่าเป็นนักอ่านตัวยง แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่นลิดาอ่านไม่ได้ส่วนเสี้ยวของนิยายรักหลากประเภทในโลก
เธอปฏิเสธทุกเหตุผลที่จะไม่อ่านนิยายชนิดอื่นๆ แต่ภูดินก็ค่อยๆ ทำให้นลิดาได้เปิดโลกทัศน์และโตขึ้นทางความคิดด้วยนิยายรักและวรรณกรรมคลาสสิคเหล่านั้น
เรื่องเล่าสลับไปมาทั้งนิยายที่เป็นเส้นเรื่องและนิยายที่แต่งซ้อนขึ้นมาในนิยาย และยังมีนิยายอีกหลายเรื่องที่ตัวละครหลักอ่านและบอกกล่าวความรู้สึกนึกคิดของเธอที่มีต่อนิยายเรื่องนั้นๆ เช่น ปีศาจ แผ่นดินของเรา ชั่วฟ้าดินสลาย ทะเลสาบ ผีเสื้อและดอกไม้มาดามโบวารี ยะมิลายอดรัก คนขี่เสือ และอีกหลายๆ เรื่องและหลายเรื่องก็เป็นเรื่องที่เราไม่เคยได้อ่านมาก่อนถึงจะเคยได้ยินว่าเป็นบทประพันธ์อมตะนิรันดร์กาลหรือเคยดังมากในอดีต
ตอนต้นเรื่องขำๆ เวลานางเอกอ่านแล้วชอบเดาทางคนเขียนโดยเฉพาะเดาใจตัวละครในนิยายรักตอนละสองบาทของพระเอก บางเรื่องที่นางคิดมันก็จี้ใจแบบว่า เอ๊ะ! เราก็คิดแบบนี้เหมือนกันนี่นา
เหมือนว่าตัวละครชายคือภูดินกำลังต้องการรับการบำบัดจากใครสักคนและใครคนนั้นก็คือนลิดาคนบ้านิยายรักเกาหลี ภูดินกลับมาวาดได้เขียนได้อีกครั้งเพราะเป้าหมายอยากให้ใครสักคนได้อ่านและคนนั้นคือนลิดา ราวกับว่าทั้งสองคนต่างบำบัดกันและกันด้วยนิยายรักสารพัดเรื่องในร้านที่ได้แบ่งปันกันอ่าน
ตอนกลางๆ ถึงหลังๆ จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของนางเอกในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เธอรู้จักคิดให้ความรักกับคนอื่น เช่นเด็กนักเรียนของเธอผ่านหนังสือแต่ละเล่มที่เธอมอบให้ เป็นความคิดที่แยบยลและได้เห็นพัฒนาการที่ดีทำให้เราคนอ่านรู้ว่าเธอรู้จักคิดและโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นทีละนิด
อ่านจบชอบค่ะ จัดว่าชอบมากกับเรื่องราวที่ค่อยเป็นค่อยไป ได้รู้อะไรต่ออะไรผ่านแต่ละหน้าที่คนเขียนจะพาเราไป แล้วก็ปิดที่หน้าสุดท้ายด้วยประโยคจาก The English Patient หนังรักสุดโปรดในความทรงจำของเราด้วย... ชอบไปอีก
เป็นเรื่องแรกที่ได้อ่านงานของนักเขียนที่ไม่เคยอ่านมาก่อน จบแล้วก็เลยหาเรื่องอื่นมาอ่านอีกเพราะชอบสำนวนการเขียนค่ะ
"ร้านหนังสือที่มีแต่นิยายรัก" เป็นเรื่องที่ได้รับมาจากคู่เดตหนังสือตั้งแต่เดือนก.พ. เห็นปุ๊บว้าวเลยอยากอ่านอยู่พอดี แล้วก็อ่านนานหลายเดือนแล้วแต่เพิ่งได้เอามาลงบล็อกค่ะ
+++++++++++++++++++++++++++++++
ประโยคประทับใจ
...การให้โอกาสคนอื่นก็เท่ากับให้โอกาสตัวเอง เมื่อเรียกร้องโลกกว้างจากคนอื่น ใจของเธอต้องกว้างกว่าโลกทั้งหมด (หน้า 13)
...ชีวิตคือการเดินทางตัวละครในนิยายรักไม่ต่างจากนั้น ใช้บ่าบรรทุกเรื่องราวทั้งหมดแบกไว้ ก้าวจากจุดเริ่มเพื่อเดินไปให้ถึงปลายสุดของเส้นทางทำหน้าที่อันหนักหน่วงจนถึงหน้าสุดท้ายของหนังสือเล่มนั้น (หน้า 73)
+++++++++++++++++++++++++++++++
ขอบคุณของแต่งบล็อกสวยๆ จากคุณยายเก๋าและคุณญามี่ค่ะ
ขอบคุณเพลงเพราะๆ จากยูทูปค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ
ลงบล็อกหนังสือคั่นก่อนนะคะ ยังไม่ได้เขียนตะพาบล่าสุดเลย
ค่อยตามไปอ่านบล็อกพี่ๆ ค่า
ชอบคำคมเหมือนกันเลยค่ะ
การให้โอกาสคนอื่น เท่ากับให้โอกาสตัวเอง....