ไม้ผลสำลักน้ำ
เมืองธนบุรีมีความอุดมด้วยพืชผักผลไม้มาตั้งแต่ต้นสมัยอยุธยา เป็นแหล่งอาหารขนาดใหญ่ของคนเมืองหลวง หรือกรุงศรีอยุธยา ในขณะที่อีกฝั่งหนึ่งของเจ้าพระยาเป็นที่ราบลุ่ม เหมาะกับการทำนา มีห้วยหนองคลองบึงอยู่มาก ที่เดี๋ยวนี้เราเรียกว่าฝั่งกรุงเทพ สมัยกรุงธนบุรี ฝั่งกรุงเทพก็ยังเป็นทุ่งนาป่ารก มีสิงสาราสัตว์อยู่มาก กวางตัวสุดท้ายเพิ่งสิ้นชีพไปด้วยฝีมือมนุษย์เมื่อน้ำท่วมใหญ่ปี พ.ศ. 2460 นี้เอง หากจะนับกันแล้ว น้ำท่วมฝั่งธนฯครั้งใหญ่ๆ 2 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2460 และ 2485 ชาวสวนบางมด ชาวสวนพลูแทบหมดเนื้อหมดตัว ใช้เวลาฟื้นตัวไม่นาน เพราะพืชเหล่านั้นปลูกไม่นานก็เก็บกินได้ ปัจจุบันการหายไปของส้มบางมด น่าจะเกิดจากการเอาที่ดินเกษตรมาทำเป็นที่อยู่อาศัย
คล้ายๆกับบางมด สวนทุเรียนพันธุ์ดีของเมืองนนท์ก็สูญหายไปเรื่อยๆ จากการเปลี่ยนที่สวนมาเป็นบ้านจัดสรร แต่ก็ยังไม่หมดไปซะที่เดียว น้ำท่วมขังนานในปีนี้ ทุเรียนพันธุ์ดีต้องลาโลกไป การพลิกฟื้น หรือจะให้ออกดอกออกผลได้อย่างทุกวันนี้ ต้องรอถึง 40 ปี หากลูกหลานรอไม่ไหว เปลี่ยนจากสวนทุเรียนไปเป็นอย่างอื่น คงได้แต่บ่นว่าเสียดาย ผมได้ดูทีวีรายงานข่าวสวนทุเรียนแห่งหนึ่ง เขาบอกว่าต้นทุเรียนทนน้ำท่วมได้อย่างมาก 1 สัปดาห์ แต่นี่ผ่านไปเป็นเดือน ทุเรียนพากันยืนต้นตาย ใบสีน้ำตาลยังอยู่เต็มต้น ชาวบ้านมาอาศัยตามศูนย์พักพิง หรือวัดใกล้บ้าน ผมเห็นความโอ่อ่าอลังการ สวยงามของวัดในแถบถิ่นนั้นจากจอทีวี พอคาดคะเนได้ว่าคงได้รับการทะนุบำรุง หรือเอาใจใส่จากชาวบ้านที่มีสวนทุเรียน น้ำท่วมอิฐ ท่วมปูน เมื่อน้ำลดแล้ว ซ่อมแซม ทาสีใหม่ เดี๋ยวก็กลับมาเหมือนเดิม แต่พันธุ์ไม้ที่หายไปอย่างทุเรียน ไม่อาจกลับมาเหมือนเดิมได้ในเร็ววัน หรือไม่มีโอกาสกลับมาเลย เรื่องนี้เป็นข้อพิสูจน์ว่าน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างแต่ลงเร็วย่อมดีกว่าการท่วมนาน ขังนานในบางพื้นที่ นอกจากใจคนจะสลายไปกับสายน้ำแล้วผลหมากรากไม้ก็มลายสูญหายไปด้วย
คิดอีกที ถ้าต้นไม้เหล่านั้นยังอยู่ ถึงไม่มีน้ำท่วม ก็ยังมีความเจริญทางวัตถุรุกไล่เข้าไปอยู่ดี จะช้าหรือเร็วเท่านั้น
Create Date : 24 พฤศจิกายน 2554 |
|
10 comments |
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2554 21:44:47 น. |
Counter : 990 Pageviews. |
|
|
|