Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
29 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 

น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพ พ.ศ. ๒๔๖๐

บันทึกของท่านผู้หนึ่งที่เกิดทันน้ำท่วมใหญ่ปี พ.ศ. ๒๔๖๐ ที่ย่านตลาดพลู ฝั่งธนฯ จากหนังสืองานศพของคุณแม่ผู้เขียน ผมเอามาเพียงบางส่วนบางตอน เพื่อให้เห็นภาพน้ำท่วมในอดีต ดังนี้ครับ

...ที่บ้านทำสวนไม้ล้มลุกเป็นอาชีพหลัก เช่น หมากพลู กล้วย ฯลฯ มีมะพร้าวและไม้ยืนต้นอื่นๆบ้างไม่มากนัก การประกอบอาชีพหลักคือการทำสวน ลูกทุกคนจึงต้องช่วยกัน ของที่ได้จะหาบไปขายที่วัดมอญหรือวัดราชคฤห์ ต่อมาตลาดนี้ย้ายไปวัดจันทราราม ด้วยลูกทุกคนต้องทำมาหากิน เรื่องการศึกษาจึงเป็นเรื่องรอง ลูกผู้หญิงจึงไม่ได้เข้าโรงเรียน ส่วนลูกชายได้เข้าโรงเรียนเหมือนลูกบ้านอื่น ลูกๆที่เป็นชายจะต้องตื่นตั้งแต่ก่อนสว่างเพื่อรดน้ำต้นไม้ให้เสร็จก่อนแล้วจึงไปโรงเรียน กลับมาบ้านตอนเย็นต้องเข้าทำงานสวนอีกครั้งหนึ่ง โรงเรียนก็อยู่ไกล ไม่มีพาหนะอื่น ใช้เวลาเดินไป ๔๐ นาที ขากลับอีก ๔๐ นาที ผู้เขียนจำได้ว่าการไปเข้าโรงเรียนนั้นเป็นเรื่องทรมานจิตใจเหลือเกิน เพราะถูกครูตีด้วยไม้บรรทัดบ่อยๆ (ทำด้วยไม้มะเกลือ คงใช้มานานจนดำเป็นมัน)

ตอนที่ผู้เขียนอายุ ๔ ขวบ ในปี พ.ศ. ๒๔๖๐ เกิดน้ำท่วมใหญ่ (น้ำท่วมครั้งต่อมาคือ พ.ศ. ๒๔๘๕) ผู้เขียนต้องนั่งอยู่บนบ้านปูด้วยไม้กระดาน หัวเกือบติดใต้หลังคาบ้าน เพราะบ้านเราอยู่ติดกัน มีพื้นดินเป็นพื้นบ้าน พอน้ำท่วมจึงยกพื้นบ้านให้สูงขึ้น ทุกอย่างสับสนเดือดร้อนเพราะไม่มีทางทำมาหากิน ไม่มีของมาเร่ขายให้ซื้อถึงบ้านอย่างปัจจุบัน (พ.ศ. ๒๕๑๕) การกินอยู่แร้งแค้น พอน้ำลด พืชผลที่ปลูกไว้เสียหายหมด เรียกว่ายุคข้าวยากหมากแพง สวนพลูล่มหมดเลย เมื่อน้ำลดแล้ว ต้นไผ่เริ่มออกดอก (แปลว่าต้นไผ่กำลังจะตาย) ต้องกินข้าวหุงปนมัน และถึงขนาดต้องกินขุยไผ่ (ดอกไผ่เมื่อโรยแล้วจะมีเม็ดเหมือนข้าวสาร) เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ ฐานะของครับครัวของเราเริ่มยอบแยบลง ทุกคนต้องช่วยกันประคับประคองฐานะของครอบครัวให้รอด...


ผมเชื่อว่าปีนี้ (พ.ศ. ๒๕๕๔) ชาวตลาดพลูคงไม่ต้องบันทึกเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งที่ ๓




 

Create Date : 29 ตุลาคม 2554
15 comments
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2554 22:37:50 น.
Counter : 1175 Pageviews.

 

แม่เคยเล่าให้ฟังเรื่องน้ำท่วมสมัยแม่เป็นเด็ก หนูเข้าใจว่า น่าจะเป็นปี 2485(แม่เกิด 2476 ค่ะ) หนูจำรายละเอียดไม่ค่อยได้ ความลำบาก คงคล้าย ๆ กับที่บรรยายข้างต้น เพราะที่สามพรานสมัยนั้น ก็ทำนา ทำาสวนน่ะค่ะ แต่บ้านเป็นใต้ถุนสูงอยู่แล้ว คงลำบากน้อยกว่าผู้เขียนนะคะ หนูคิดว่าจะไปให้แม่เล่าให้ฟังใหม่ค่ะ
ตอนนี้แม่ก็อพยพไปอยู่แฟลตทหารของพี่ชาย ขั้น 3 น้ำคงมาไม่ถึงแน่นอน เสบียงเตรียมพร้อม แต่น้ำ ดูจะขาดแคลนสักหน่อยค่ะ

หนูไม่รู้ว่าจะเสียดาย หรือเสียใจดี ที่ไม่ได้มีโอกาสได้อยู่ร่วมประวัติศาสตร์น้ำท่วมประเทศไทย ปี 2554 แต่ก็สั่งไว้ว่าให้ถ่ายรูปไว้ให้ดูด้วย หนูก็ตามข่าวทุกวัน ได้แต่ส่งกำลังใจ ขอให้ผ่านได้โดยเร็ว สงสารจังค่ะ

พี่อินแวะไปดูที่บล๊อกพี่สิน yyswim สิคะ น้ำท่วม ปี 2554 มีรายละเอียดหลากหลาย ดีมากค่ะ หนูเข้าไปอัพเดททุกวัน กลัวตกข่าวค่ะ

บ้านบางแค มวลน้ำก้อนใหญ่จะผ่านถึงไหมคะ

 

โดย: kimmy (kimmybangkok ) 29 ตุลาคม 2554 13:15:07 น.  

 

สวัสดีครับคุณอิม

ผมอยู่บ้านนอก ยังเคยได้เห็นดอกไผ่ตอนแก่จัดแล้วมีเม็ดขาวๆเหมือนข้าวสารจริงครับ นกป่าชอบมาจิกกิน ให้เราได้ไปยิงนกด้วยกระสุนดินเหนียวกัน

จากนี้ไป หลังน้ำลด ครม. คงงานหนักนะครับ เกี่ยวกับการวางแผนป้องกันน้ำท่วม ซึ่งไม่รู้จะแกปัญหากันที่ปลายเหตุหรือต้นเหตุดีแล้ว ตั้งแต่เหนือจดใต้ ต้นไม้ใหญ่ๆในป่าที่เคยซึมซับน้ำไว้ได้หลังฝนตก ไม่รู้มันหายไปไหนหมดแล้วนะ

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 29 ตุลาคม 2554 14:49:21 น.  

 

ขอบคุณครับที่นำมาฝาก
สนใจเรื่องดวงชะตาอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี้

 

โดย: ไกรศรี (ไกรศรี ) 29 ตุลาคม 2554 14:59:15 น.  

 

 

โดย: zawadio (khonmanrak ) 29 ตุลาคม 2554 22:18:20 น.  

 

Insignia_Museum Diarist ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
-------------------------------------
ขออย่าให้ถึงขนาดนี้เลยค่ะคุณim สงสารคนในกรุงเทพมากเลยตอนนี้ บ้านคุณimได้รับผลกระทบบ้างไหมคะ

 

โดย: เกศสุริยง 29 ตุลาคม 2554 22:32:03 น.  

 

''สมัยก่อน น้ำท่วมบ้าน แต่เด็กๆพากันสนุกสนาน แม้ว่าบ้านจะขาดรายได้ แต่อาหารมากับน้ำมากมาย ไม่เคยนึกกลัวน้ำเลย

พอมีข้าวของ ทรัพย์สินที่สะสม ความกลัวน้ำเกิดขึ้นตอนไหนไม่รู้ หากคิดว่าคนเรามาตัวเปล่า อะไรที่เกิดขึ้นและสะสมภายหลัง ถ้าจะเสียหายไป หรือจากไปตามทางของมัน ถ้าคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ความวิตกกังวลน่าจะไม่มี ความทุกข์ช่วงนี้จึงเกิดจากการรับรู้รับทราบข่าวสารจากคนที่วิตกเรื่องน้ำ คนรับข่าวสารจึงพลอยวิตกไปด้วยครับ"

อ่านแล้วประทับใจมากเลยค่ะ รู้สึกปล่อยวาง ไม่เครียดไปกับเขาค่ะ ขอบคุณคุณอิมที่ช่วยให้สติกับสดใสค่ะ

สดใสก็เครียดมาก ตอนช่วงไปอยู่บ้านแม่ที่บางเขน ซึ่งน้ำจะเข้า เป็นพื้นที่เสี่ยง เราก็ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด นอนไม่หลับกัน ปวดหัวกันทั้งบ้าน ทั้ง ๆ ที่น้ำยังอยู่ไกลกว่าคนอื่นเขามาก ๆ ก็จะไม่เครียดกันได้ยังไงค่ะ สดใสนั่งทำงานในสวน เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นที่เป็นสิบรอบ เดี๋ยวมา ๆ สดใสก็ชอบแหงนหน้าดูว่าลำสีอะไร เป็นของที่อเมริกาให้ยืมหรือเปล่า ก็จะมีสองแบบน่ะค่ะ เป็นสีขาวแดง แล้วก็สีทหาร ขนาดเครียดยังจะอยากรู้อีก

ตอนวันแรกมาบ้านแม่ ไม่เครียดเลยค่ะ เพราะไม่เคยเปิดโทรทัศน์เลย พอมาบ้านนี้ เพื่อนบ้านที่บ้านชั้นเดียวเขาเดินผ่านมาคุยกะเขา ซึ่งเครียดมานานเพราะฟังข่าวทุกวัน แต่ก็เห็นใจเพราะเขามีชั้นเดียวเห็นว่าจะไปหาเช่าอยู่ที่สูง ๆ สดใสก็เลยรู้สึกเห็นใจเครียดตาม แล้วก็เริ่มเปิดทีวีติดตามข่าวอย่างกระชั้นชิด

สดใสไม่ห่วงข้าวของเลย อ้อ มีห่วงอยู่อย่างเดียวค่ะคือพวกหนังสือ อย่างที่เคยบอกคุณอิมค่ะว่ายังละไม่ได้ ไม่เหมือนคุณอิมที่เอาออกไปขายได้ยังไงก็ไม่รู้ อ่านก็ไม่อ่านไม่รู้จะห่วงทำไม สดใสก็หอบขึ้นชั้นสองกองเบ้อเริ่ม แต่พอสุดท้ายที่น้ำใกล้มาจริง ๆ สดใสก็คิดว่าถ้าน้ำท่วมของแล้วเราก็ต้องเสียเงินซื้อใหม่น่ะสิ ก็เลยขนขึ้นบ้างเท่าที่จำเป็น พลังมหาศาลแบกของไม่รู้มาจากใหนไม่อยากเชื่อเลย สภาวะปกติคงทำไม่ได้แบบนี้

สดใสก็พาพ่อแม่ และคุณหมามาอยู่ฝั่งธนที่สดใสอยู่ โชคดีที่ไม่ใช่พื้นที่เสี่ยงภัยมาก ก็พากันรู้สึกโล่งอก ไมเกรนหายกันไปพักนึงก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่

ตอนนี้น้ำก็ท่วมอยู่ที่ถนนหน้าหมู่บ้านแม่แล้ว 30 ซม. ในสวนน้ำก็เข้ามาทางท่อท่วมเหมือนกันเป็นที่ต่ำเก่า

ก็ดีใจที่ออกมาทันดีกว่าติดอยู่ที่นั่น สดใสถ้าไม่มีลูกก็จะชอบมากเลยค่ะการเสี่ยงภัย ก็คงจะอยู่ท้าทายน้ำที่นั่น ตอนเด็กน้ำท่วมชอบมาก ไม่เห็นจะคิดว่ามันน่าทุกข์อะไร เพราะเราไม่มีอะไรห่วงนั่นเองอย่างคุณอิมว่า ต้องมาทำใจกันใหม่แล้วค่ะ

อ่านเรื่องที่คุณอิมนำมาลงแล้วก็คิดว่าเราก็เคยหนักหนามาแล้ว กินข้าวหุงกับมันนี่มันน่าจะอร่อยมากสดใสอยากจะทำบ้างเลยค่ะ กลับกลายเป็นอาหารสุขภาพไป ขุยไผ่สดใสนึกไม่ออกว่าเป็นแบบไหน น่าจะมีไฟเบอร์สูงค่ะ อ่านแล้วก็คิดว่าตัวเองต้องตุนอาหารไว้หลังน้ำท่วมด้วยค่ะอย่างนี้ ไม่ใช่จะตุนตอนน้ำท่วม เพราะว่าเราก็ไม่ได้ปลูกพืชผัก ต้นไผ่ไว้ สดใสก็คิดอยู่ว่าวันนี้จะไปซื้อดินมาปลูกผักบุ้ง พริก ต้นหอมใส่กะละมังไว้ค่ะ นี่ยังคิดจะเลี้ยงไก่ด้วย แต่ไม่รู้จะไปซื้อไก่ที่ใหน แล้วก็เจ้าหมาก็คงจะงาบไก่ด้วย สดใสว่าเราซื้อพวกฟักทองเก็บไว้ดีกว่าค่ะ เพราะไม่เน่าเสียง่าย ก็ขอขอบคุณคุณอิมด้วยค่ะที่ช่วยเตือนสติกัน

นึกถึงภาพน้ำท่วมนครที่คุณอิมวาดแล้วตอนนี้กลายเป็นจริงเลย ขนลุกเลยค่ะ น้ำท่วมท่าช้างแล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลย ตอนแรกคิดว่าภาพคุณอิมวาดมันคงเป็นไปไม่ได้ ถ้าได้ก็คงปีหน้าอย่างที่เขาทำนายกัน

สดใสก็ติดนิสัยขี้ตื่นค่ะ ไม่รู้จะแก้ยังไงดี แต่ก็ยังมีสตินะคะเพียงแต่อะไรมาก็ตื่นเต้นทันที คงต้องฝึกอีกมากค่ะ

ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูลดี ๆ ที่คุณอิมมอบให้กับเพื่อน ๆ มาตลอดค่ะ

 

โดย: วันสดใส 30 ตุลาคม 2554 8:00:08 น.  

 

สมัยนี้คงไม่ขาดแคลนเหมือนเมื่อก่อน เพราะหลาย ๆ ที่ยังผลิตอาหารได้

แต่เรื่องทรัพย์สินที่เสียหายไปนี้ก็อักโขอยู่นะคะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 30 ตุลาคม 2554 15:04:10 น.  

 

เข้าไปอ่านเรื่องน้ำท่วมของคุณอิมตอน"น้ำท่วมยุคนั้นไม่เหมือนยุคนี้" ได้ข้อคิดค่ะ บ้านเมืองเปลี่ยนไปก็จริงอยู่ แต่อยากทราบว่าที่ท่วมหนัก ๆ ตอนนี้เป็นเพราะว่าฝนตกหนักกว่าที่เคยเป็นหรือเปล่าด้วยน่ะค่ะ อยากจะทราบจากคุณอิมว่าฝนเคยมากขนาดนี้หรือเปล่า เท่าที่สดใสพอจำได้คือไม่เคยตกถึ่และนานขนาดนี้ด้วยค่ะ

สดใสก็ชอบและเสียดายบรรยากาศน้ำท่วมแบบเก่า ๆ ที่คุณอิมเล่า ดูเหมือนไม่มีใครเดือดร้อนเท่าไร มีการปรับตัวกันไปตามสภาพ เพราะปล่อยให้น้ำไหลไปตามทางไม่มีการกั้นขวางทางน้ำ น้ำก็ลดเร็ว พอมีเขื่อนกักน้ำจนเต็ม เวลาปล่อยน้ำลงจากที่สูงที่ละมาก ๆ น้ำก็เลยแรงทำลายบ้านเรือนเสียหายมากกว่าการไม่มีเขื่อน สดใสก็เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเขื่อนนี่แหละที่ปล่อยน้ำทะลักทำลายบ้านเรือน ลำพังฝนตกหนักถี่แค่ไหนถ้าปล่อยไหลไปเรื่อย ๆ ก็ไม่น่าจะเสียหายมากขนาดนี้ และการตัดไม้ทำลายป่าก็เป็นเหตุให้ดินโคลนถล่ม มนุษย์เปลี่ยนแปลงวิถีธรรมชาติเองแท้ ๆ และก็มีการสร้างบ้านเรือนอยู่ตามทางน้ำไหล

คุณอิมเห็นด้วยหรือไม่ว่าเราควรสร้างเขื่อนเพิ่มอีกอย่างที่มีคนบอกว่าหลังน้ำท่วมนี้จะมีการทบทวนเรื่องการสร้างเขื่อนอีก

เห็นคอมเม้นต์คุณtuk บอกว่าสมัยนี้คงไม่ขาดแคลน สดใสว่ามันก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่อะไรที่เราสามารถพี่งตัวเองได้เป็นสิ่งที่แน่นอน รายได้ที่เคยหาได้อาจจะไม่มีที่จะจับจ่าย เพราะธุรกิจของหลายคนเสียหายก็กระทบกันเป็นห่วงโซ่ถ้าเราไม่มีเงินถุงเงินถังก็เดือดร้อนแน่นอน ไม่มีงานก็ไม่มีเงินแล้วจะเอาอะไรมาซื้อกิน ต้องรอแต่ทางราชการมาช่วย สู้เราช่วยตัวเองดีกว่าค่ะ

 

โดย: วันสดใส 30 ตุลาคม 2554 17:53:10 น.  

 

ผมคิดว่าทุกสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อประโชน์ของคนส่วนใหญ่ในขณะนั้น อย่างเขื่อนที่ผลิตกระแสไฟฟ้าหรือการชลประทาน แต่ลืมคิดถึงสิ่งที่ต้องเสียไป เช่น ไปตัดวงจรชีวิตสัตว์น้ำ ตะกอนหรือสารอินทรีย์เหนือเขื่อนที่สะสมมากขึ้นไม่ได้ใช้ประโยชน์แต่กลับทำให้สะสมน้ำได้น้อยลง และความเสียหายที่อาจคาดไม่ถึงในช่วงเวลานั้น แต่มาเกิดในภายหลัง ผมเคยเห็นในอเมริกาเริ่มทุบเขื่อนเก่าๆทิ้ง หรือในออสเตรเลีย มีการคืนน้ำให้กับแม่น้ำใต้เขื่อนที่แห้งมานานหลายปีครับ

 

โดย: Insignia_Museum 30 ตุลาคม 2554 19:45:21 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
##########################
สวัสดียามค่ำๆค่ะคุณim
วันนี้ไปหาซื้อของที่โลตัสสุพรรณ และแม็คโครไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแทบจะไม่ได้ของอะไรติดมือกลับบ้านเลย จะเป็นแบบนี้อีกนานไหม ทุกๆอย่างเป็นอัมพาตเพราะน้ำท่วมจริงๆ ระลึกถึงเสมอนะคะคุณim

 

โดย: เกศสุริยง 30 ตุลาคม 2554 21:54:05 น.  

 

You can still up blog thats mean you are doing find still.Glad to know that.
I am just got back from sending my parent out to Sat-ta-hip,to be saved and and make sure that they are find from the flood.

Now am back to work on Monday but still couldn't breath fully,have to watch the news very closely.

Please take care and keep watching TV, Bang Kea are is quite a risky area.
Sorry to send in English,using my notebook na ka

Nok

 

โดย: popang (popang ) 30 ตุลาคม 2554 22:02:56 น.  

 

fine= sorry for wrong spelling

 

โดย: popang (popang ) 30 ตุลาคม 2554 22:04:08 น.  

 

น้อยหน่านี้พันธุ์ใหม่ค่ะ ลูกใหญ่โตมโหฬาร เม็ดน้อย เนื้อเหนียวหนุบหนับดี เหมาะแก่การทำไอติมค่ะ

ปล.นกฝากดูหลังไมล์เรื่องน้ำดื่มค่ะ

 

โดย: popang (popang ) 31 ตุลาคม 2554 16:40:14 น.  

 

สถานการณ์น้ำเปลี่ยนแปลงทุกวัน
น้ำท่วมนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่าเรื่องมวลชน

ทำอะไรตามใจคือไทยแท้....

ก็คิดว่าควรให้กำลังใจผู้ว่ากทม. และศปภ.ต่อไป
ให้แก้ไขสถานการณ์วิกฤตินี้ผ่านพ้นไปได้นะครับ

 

โดย: peeradol33189 1 พฤศจิกายน 2554 17:24:24 น.  

 

น้ำท่วมหนนี้เสียหายใหญ่หลวงจริง ๆ ค่ะ แต่ปัญหาใหญ่กว่าที่ต้องตามแก้คือหลังน้ำท่วมนี่แหละ น่าจะลำบากกว่าสมัยนู้นแน่ ๆ

ขอให้กำลังใจผู้ที่ต้องเจอกับน้ำท่วมทุกท่านเลยค่ะ

 

โดย: haiku 1 พฤศจิกายน 2554 18:43:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.