Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
9 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
เขียนหนังสือเพื่อลูก

ช่วงที่รายจ่ายภายในครอบครัวของเขาพุ่งกระฉูดฉุดไม่อยู่นั้น ดูเหมือนค่าเทอมของลูกๆจะเป็นรายจ่ายที่หนักอกหนักใจเสมอ จ่ายหนักตั้งแต่ชั้นอนุบาล คนเป็นพ่อแม่ไม่ว่ายุคสมัยไหน มักจะเลือกโรงเรียนที่ดีที่สุด เพียงค่าใช้จ่ายของโรงเรียนเอกชนธรรมดาๆยังสูงจนน่าตกใจ น่าจะแพงกว่าค่าหน่วยกิตระดับมหาวิทยาลัย

เขาปลอบใจตัวเองว่าคนแต่ก่อนเป็นพวกต้นทุนต่ำ รายได้จากการทำงานหลังเรียนจบจึงมีแต่กำไร การลงทุนเพื่อคุณภาพของคนรุ่นต่อไป ก็เพียงแต่ขาดทุนกำไร ที่จริงมีโรงเรียนของรัฐที่ไม่ต้องจ่ายให้เลือกมากมาย แต่เขามีเหตุผลบางอย่างที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ยอมจ่ายทั้งๆที่ยังไม่เห็นผล เพียงแต่มีความเชื่อเท่านั้น เขาจึงส่งลูกไปเรียนไกลจากบ้านเกือบยี่สิบกิโลเมตร ทั้งๆที่มีโรงเรียนของรัฐอยู่ใกล้บ้านในระยะที่ได้ยินเสียงร้องเพลงชาติตอนเช้าๆ

ช่วงนั้น เพื่อนคนหนึ่งของเขาขี่ม้าขาวเข้ามาพอดี เพื่อนซึ่งเป็นหุ้นส่วนของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง บอกว่าให้เขาลองเขียนหนังสือดู เขาจึงคุยเรื่องแนวการเขียนให้เพื่อนฟัง ประมาณว่าจะออกแนววิชาการ เพื่อนเห็นดีด้วย เขาไม่รีรอที่จะเขียนในแนวที่ถนัด ไม่นาน หนังสือก็ออกมาเป็นรูปเล่ม มีภาพประกอบสวยงามทีเดียว

สำนักพิมพ์สมัยนั้น ไม่ต้องมีสำนักงาน แค่คนที่ชอบทางหนังสือรวมตัวกัน มีคนออกแบบปกหรือเขียนภาพประกอบเก่งๆสักคน คนจัดหน้ากระดาษสักคน และบรรณาธิการที่คอยทำความเข้าใจกับต้นฉบับ อ่านไม่เข้าใจก็ถามนักเขียน ดูๆไปเหมือนจะไม่ใช่บรรณาธิการ น่าจะเรียกว่าเป็นตัวแทนของนักอ่านมากกว่า ที่สำคัญกว่านั้น บรรณาธิการที่ว่านี้มีสายสัมพันธ์กับสายส่ง หรือตัวแทนจัดจำหน่ายทั่วประเทศ

ช่วงหนึ่ง หุ้นส่วนของสำนักพิมพ์นี้ต้องการเติบโต จึงไปเช่าห้องแคบๆในตึกเก่าย่านที่มีโรงพิมพ์หลายแห่ง อยู่ใจกลางเมืองหลวง จ้างบรรณาธิการอาชีพคนหนึ่งมาทำงานประจำ เขาเคยนำต้นฉบับไปส่งที่นั่นครั้งหนึ่ง ภาพนั้นยังติดตา เป็นห้องเล็กๆ กว้างยาวไม่เกิน 4 เมตร มีโต๊ะกับเก้าอี๊ของเจ้าของห้องกับเก้าอี๊รับแขกอีกตัว พัดลมที่มีเสียงดังหึ่งๆตัวหนึ่ง เขาสังเวชใจว่า อาชีพเกี่ยวกับมันสมองของประเทศนี้ ทำไมช่างอเนจอนาถเหลือเกิน บรรณาธิการท่านนี้มาทำงานไดเพียง 2-3 เดือนแล้วหายจ้อยไปอย่างไร้ร่อยรอย ความฝันที่จะเป็นสำนักพิมพ์ใหญ่เป็นอันพับไป

หนังสือแต่ละเล่มของเขาที่ได้พิมพ์ขาย จะได้ค่าเหนื่อยสิบเปอร์เซ็นต์ของราคาหน้าปกคูณด้วยจำนวนที่พิมพ์ พิมพ์แต่ละครั้งประมาณสองพันห้าร้อยเล่ม ถ้าหนังสือขายดีได้พิมพ์ซ้ำ นักเขียนก็เพียงแต่ตรวจแก้ให้สมบูรณ์ขึ้น แถมยังได้หนังสือผลงานของตัวเองที่พิมพ์ทุกครั้งอีกจำนวนหนึ่งด้วย

เขาเคยฝันหวานไปว่า ถ้าแนวที่เขาเขียนได้รับการอุดหนุนจากผู้อ่าน หรือเป็นหนังสือแนวที่ตลาดต้องการ ตั้งหน้าตั้งตาเขียนหนังสือออกมาสัก 12 เล่ม ปีต่อไป พิมพ์ซ้ำเดือนละเล่ม แค่นี้ก็จะมีรายได้งามๆ ราวกับเงินเดือน คิดเลยเถิดไปถึงการลาออกจากงานประจำ

แต่ในชีวิตจริง ไม่ใช่บัญญัติไตรยางค์ หนังสือที่เขาเขียน ขายดีเป็นบางเล่ม บางเล่มพิมพ์แค่ครั้งเดียว หนังสือแนวที่เขาเขียนล้าสมัยเร็ว อีกอย่าง สำนักพิมพ์เล็กๆ ทำด้วยอุดมการณ์อย่างสมัยก่อนอยู่ได้ยาก หนังสือที่ขายดีขนาดคนไทยต้องซื้อทุกครั้งที่พิมพ์ ที่นึกออกน่าจะเป็นพวกหนังสือแบบเรียน

เมื่อได้เงินค่าเทอมแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของโรงเรียนที่เขาไว้วางใจ จะทำได้อย่างที่เขาคาดหวังหรือไม่ เขารู้เพียงแต่ว่าไม่ค่อยมีอารมณ์สอนการบ้านลูก เพราะแบบเรียนสมัยนี้ใช้ภาษาไทยอย่างไรกันก็ไม่ทราบ อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง !


Create Date : 09 มกราคม 2555
Last Update : 21 มกราคม 2555 21:47:10 น. 4 comments
Counter : 1225 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับพรปีใหม่ค่ะคุณ IM
ไพเราะและตรงใจมาก
ขอให้พรนั้นจงประสบแด่คุณ IM และครอบครัว เช่นกันนะคะ
ขอให้พบแต่สิ่งดีงาม ตลอดปีค่ะ


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:22:59:17 น.  

 
โชคดีนะคะ ที่ยังมีโอกาสได้ตีพิมพ์ และจำหน่ายได้บ้าง ส่วนที่ขายเหลือ พอนานเข้า โรงพิมพ์ก็จะเอามากอง ๆ ขายรวม แต่ไม่ทราบว่าจะได้สตังค์ไหม หนูชอบไปคุ้ย ๆ หนังสือเก่า ๆ แบบนี้ค่ะ สนุกดี
ช่วงนี้ไม่ได้ไปไหนค่ะ เลยมีเวลาอัพบล๊อกปีใหม่ เพอ่งสำเร็จค่ะ เชิญพี่แวะเจิมด้วยนะคะ


โดย: kimmy (kimmybangkok ) วันที่: 10 มกราคม 2555 เวลา:18:15:43 น.  

 

 
พี่อินคะ วันนี้หนูดึงบล๊อกที่ร่างไว้มาแก้ไข
แล้วหนูก็เบลอ ๆ จำไม่ได้ว่าไปกดปุ่มอะไร บล๊อกหนูหายเกลี้ยงเลยค่ะ
หนูแจ้งไปยังผู้ดูแลบล๊อกแล้ว หวังว่าทีมงานคงจะกู้บล๊อกคืนมาได้นะคะ
ไม่รู้จะร้องเพลงอะไรดีล่ะค่ะตอนนี้


โดย: kimmy (kimmybangkok ) วันที่: 11 มกราคม 2555 เวลา:14:06:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.