|
น้ำมาแล้ว
มหาอุทกภัยในปีนี้นำภัยพิบัติอันใหญ่หลวงมาสู่พี่น้องประชาชน มวลน้ำก้อนใหญ่ทำหน้าที่ไปตามธรรมชาติ ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ไม่ได้รู้สึกรู้สากับชีวิตตัวเล็กๆที่อยู่บนโลก เหตุการณ์ปกติเช่นนี้มีมาก่อนที่มนุษย์คนแรกจะอุบัติขึ้นด้วยซ้ำ หากมองอย่างเป็นคุณ อุทกภัยครั้งนี้น่าจะถือว่าเป็นเรื่องดี ผมคิดว่านี่คือการบวชประเทศอย่างแท้จริง
ก่อนบวชพ่อนาคจะมีพิธีขอขมาญาติพี่น้อยให้อโหสิกรรม แม้ว่าจะโกรธจนมองหน้ากันไม่สนิท แต่ในยามที่พ่อนาคจะเข้าพิธีบวช ก็ต้องทำใจอโหสิกรรมกันไป ส่วนท่านที่มีจิตอาสากันทั้งประเทศ ผมคิดถึงการลงทุนลงแรงปลูกโรงเรือนชั่วคราว แบกเสา มุงหลังคา ปูพื้นกระดาน หยิบจับหม้อข้าวหุงหาอาหารต้อนรับแขกที่จะมาในงาน เพียงแต่พิธีบวชประเทศนี้ใช้เวลาถึง 2-3 เดือนกว่าจะเสร็จทุกขั้นตอน
ภาพข่าวและการรับรู้จากญาติสนิทมิตรสหาย ผมว่าปรากฏการณ์โดยธรรมชาติในครั้งนี้ เป็นห้องเรียนห้องใหญ่ที่ทุกคนเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อการอยู่อย่างรู้ทันธรรมชาติที่จะนำความทุกข์ยากมาเยือนอีกในอนาคต จะได้ผ่อนหนักเป็นเบา สิ่งที่ผมได้จากหลักสูตรที่ยิ่งกว่าดุษฎีบัณฑิตในครั้งนี้ คือความมีจิตอาสาที่หลบซ่อนภายใน ได้ปรากฏเป็นรูปธรรมอย่างไม่เคยเห็นมาก่อนนับแต่ศึกบ้านบางระจัน เราเห็นภาพการทุ่มเทกำลังและสติปัญญาของทุกส่วนทุกภาพเพื่อมวลชนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะคนเมืองที่เรามักจะคิดว่าเป็นพวกที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากว่าประโยชน์ส่วนรวม แท้ที่จริงแล้ว เมื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ทุกคนพร้อมใจช่วยเหลือกัน เราสามารถโบกรถโดยไม่รู้จักกัน หรือกระโดดขึ้นเรือลำที่พายผ่านมาได้ ไม่คิดระแวงกัน มีการช่วยเหลือกันหลายรูปแบบทั้งข้าวปลาอาหาร ทั้งกำลังใจที่มอบให้กัน
ข่าวเล็กๆที่ผมประทับใจมากและยิ้มอยู่คนเดียว ข่าวมีว่าหมู่บ้านบางระกำที่พิษณุโลก พวกเขาอยู่กับน้ำท่วมมานานกว่า 3 เดือน จนคุ้นชินกับชีวิตชาวน้ำ เรียนรู้การหาอาหารที่มากับน้ำ ทอดแห จับปลาได้จำนวนมาก เอามาทำอาหารแห้งส่งช่วยชาวกรุงที่กำลังทุกข์ยากขณะนี้นับพันชุด
ส่วนยาดำที่แทรกเข้ามาที่ทำให้รู้สึกหงุดหงิดใจ เห็นที่จะเป็นพวกหัวขโมย ที่ฉวยจังหวะช่วงนี้ ยกรถคันใหญ่ๆหายเข้ากลีบเมฆโดยไร้ร่องรอย บ้างทุบกระจกเอาข้าวของ บ้างพายเรือไปยกเค้าบ้านที่ถูกน้ำท่วม ทับถมความทุกข์หนักเข้าไปอีก จนกลายเป็นภาพหลอนของคนที่กำลังจะตกชะตากรรมเดียวกัน มันมาสร้างความยุ่งยากใจให้กับทุกคนที่จะตัดสินทิ้งบ้านไป ไม่ใช่วันสองวัน แต่นานนับเดือน ทั้งที่รู้ว่าน้ำท่วมเป็นวงกว้างขนาดนี้ หัวขโมยไม่มีปัญญาจะไปเอาข้าวของได้ทุกหลังคาเรือน แต่ความรู้สึกว่าจะโดนตลบหลังจากพวกหัวขโมยเหล่านั้น ทำให้ทุกคนที่จะทิ้งบ้านเกิดความกังวล เหตุร้ายๆจากบางทีบางคนช่างมีอิทธิพลต่อความคิดชาวบ้านมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อเขียนบรรทัดนี้แล้ว ผมมองไปที่หน้าบ้าน (อยู่แถวบางแค) น้ำเริ่มเอ่อขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ผมต้องกลับมาสู่ชีวิตจริงว่า นี่น้ำดำๆที่รอการเน่าเสีย ขณะนี้กำลังจ่อหน้าประตูบ้านแล้ว น้ำที่มาเหมือนนักรบหน้าตามอมแมม เดินทางมาไกล ผ่านภูมิประเทศต่างๆมากมาย ทั้งห้วยหนองคลองบึง โรงงานอุตสาหกรรม ทัพหน้าของเขาอ่อนล้าเต็มที ความเร็วล่าสุด แค่ 3 กม.ต่อชั่วโมงในกทม. ถ้ามองในแง่ดี อย่างน้อยก็ทำให้น้ำเน่าในกทม.เจือจางลงบ้าง ขอลาไปก่อนครับ บุ๋ง ๆๆๆๆ....
Create Date : 02 พฤศจิกายน 2554 |
|
29 comments |
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2554 18:01:18 น. |
Counter : 922 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: papisong 2 พฤศจิกายน 2554 7:48:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: KeRiDa 2 พฤศจิกายน 2554 8:49:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: sansook 2 พฤศจิกายน 2554 12:38:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: yureasho 2 พฤศจิกายน 2554 17:11:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 3 พฤศจิกายน 2554 22:08:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: วันสดใส 4 พฤศจิกายน 2554 15:07:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: วันสดใส 6 พฤศจิกายน 2554 14:37:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: hellojaae (hellojaae ) 8 พฤศจิกายน 2554 19:55:23 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]
|
ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
|
|
|
|
|
|
|
|
Insignia_Museum แวะทักทายด้วยความเป็นห่วงในสถานการณ์แบบนี้นะค่ะ