happy memories
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
16 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
รักนี้ชั่วนิรันดร์ ๑




https://www.youtube.com/watch?v=CgMPC54Xrgk




กลับมาไม่ทันวันวาเลนไทน์ แต่ไหน ๆ เขียนเสร็จแล้วก็เลยอัพให้อ่าน เวลาคุยถึงละครหรือหนังละก็ บล๊อคจะยาวประจำ (ก็ของมันชอบนี่นา ) มางวดนี้บล๊อคคงยาวกว่าทุกทีเพราะเล่าเรื่องแบบเต็ม ๆ พี่ชายมาถ่ายหนังในเมืองไทยเป็นนานสองนาน เกือบครึ่งเดือนได้ แถมอยู่ฉลองวันวาเลนไทน์ซะด้วย เลยหยิบงานของพี่ชายที่เรารักที่สุดมาอัพรับเทศกาลวันหวาน

ใครเป็นคอซีรีส์เกาหลีก็ต้องรู้จักเรื่องนี้กันทุกคน เป็นผลงานที่ทำให้พี่ชายดังเป็นพลุแตก เคยทำบล๊อครีวิวละครไปสองภาคสองบล๊อคแล้ว ว่าจะอัพบล๊อคนี้ตอนที่ซีรีส์กลับมาลงจอทางช่องเจ็ด แต่เขียนไม่เสร็จก็เลยทิ้งค้างไว้ ที่จริงบล๊อคนี้ถือว่าขุดของเก่ามาขาย เคยโพสเนื้อเรื่องไว้ในเวบออทั่มไทยกะเวบพี่ชายมาแล้ว แต่กระทู้ในเวบออทั่มไทยโดนลบไปเกือบหมด เวบพี่ชายก็เคยล่มอยู่ช่วงนึง กระทู้เนื้อเรื่องหายเกลี้ยงเหมือนกัน เลยขอเอามาเก็บไว้ในบล๊อคตัวเองกันเหนียว

ตอนที่โพสในเวบออทั่มไทย มีรุ่นน้องในเวบขอให้แปลเป็นภาษาอังกฤษ อยากแปลอยู่เหมือนกันแต่ไม่แน่ใจว่าจะทำได้เลยรี ๆ รอ ๆ อยู่ พอมาเข้าเวบพี่ชาย ได้รู้จักกับ kmm ที่เก่งภาษาอังกฤษมากแถมใจดีขนาด พอเอ่ยปากให้ช่วยก็ตกปากรับคำแบบไม่รีรอ เลยแปลออกมาได้สำเร็จ ต้องขอบคุณ kmm ไว้ตรงนี้ด้วยนะคะ แล้วต้องขอบคุณคนสำคัญสองคนคือ ซง ซึงฮอน และผู้กำกับ ยูน​ ซอกโฮ ที่เป็นแรงบันดาลใจชั้นดี ทำให้เล่าเรื่องและแปลได้ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง คงจะอัพแค่ตอนแรกไว้ที่หน้าบล๊อค ไว้มีเวลาค่อยเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ อัพตอนต่อไปละกัน










ในโรงพยาบาลหน้าห้องเด็กอ่อน ศจ.ยุนอุ้มลูกชายขึ้นที่ช่องกระจก ชี้ชวนให้ดูน้องสาวแรกคลอดพลางพูด
"อยู่นั่นไงล่ะ อึนโซน้องสาวของลูก น่ารักใช่ไหมล่ะ รอตรงนี้นะ เดี๋ยวพ่อไปแป๊ปเดียวนะ อยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวมา" พูดจบก็วางลูกชายลงแล้วเดินเข้าไปในห้องของภรรยา พอดีกับที่พยาบาลเดินออกมาจากห้องเด็กเปิดประตูทิ้งไว้ เด็กชายเดินเตาะแตะเข้าไปในห้อง ป้ายชื่อแม่ของเด็กอยู่ใกล้มือก็เอื้อมไปคว้าไว้ ป้ายชื่อตกลงพื้น เด็กน้อยก้มลงหยิบขึ้นมา พอเงยหน้าขึ้น เห็นป้ายชื่อของเตียงเด็กที่อยู่ใกล้กันก็ดึงลงมาอีก ป้ายอันหนึ่งหลุดจากมือ หนูน้อยโยนป้ายอีกอันลงพื้น นางพยาบาลเข้ามาพอดี
"อ้าว! เข้ามาเล่นในนี้ไม่ได้นะคะ ต้องออกไปแล้วล่ะค่ะ" เธอก้มลงหยิบป้ายชื่อติดไว้ที่เตียงโดยไม่ทันดูให้ดีว่าแขวนชื่อแม่ของเด็ก "ลิม คุงฮา" และ "กิม ซุนอิม" สลับที่กัน แล้วอุ้มเด็กออกไปจากห้อง ชะตาชีวิตของทารกทั้งสองเปลี่ยนไปนับแต่บัดนั้น

ทัศนียภาพของชนบทที่มีภูเขาโอบล้อมแผ่นดินที่ปลูกข้าวเขียวขจี ดูงดงามสว่างไสวภายใต้แสงตะวันโปรยแสงอันอ่อนโยนเย็นตา บรรยากาศยามเช้าสงบเงียบ สองคนขี่จักรยานเคียงคู่กันมา ที่ปลายอุโมงค์ฝากโน้นเห็นเงาราง ๆ สองเงาขี่จักรยานเข้าอุโมงค์มา




ในห้องศิลปะยามบ่าย เด็กชายนั่งวาดรูป จะเอาพู่กันจุ่มน้ำแต่ไม่ทันระวัง มือปัดแก้วน้ำตกลงพื้น ก้มลงเก็บ ประตูห้องเปิดออก เด็กผู้หญิงผูกผมเปียสองข้างสวมแว่นตาหนาเตอะ ร้องไห้ว่ิงเข้ามาฟุบหน้าลงที่โต๊ะห่างออกไป เงยหน้าขึ้นมองจดหมายที่เขียนถึงเพื่อนชายในมือแล้วขยำทิ้งอย่างโมโห
"จุนโซ คนอะไรใจดำ" เด็กชายได้ยิน เงยหน้าขึ้นมอง คนพูดเหลือบไปเห็นหยุดกึก
"อ้าว! จุนโซ เธอมาทำอะไรตรงนี้ล่ะ"
ที่หน้าห้อง เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มถือจดหมายปึกใหญ่และกล่องของขวัญ จะเดินเข้าไปในห้องแต่ลังเลใจ มองของในมือ ตัดสินใจไม่ถูก

ในห้อง เด็กหญิงยื่นจดหมายยับยู่ยี่ให้อีกฝ่ายแล้วเอ่ยถาม
"จดหมายเนี่ยเธอเป็นคนขยำทิ้งเองใช่ไหมล่ะ"
"ขอโทษที ฉันไม่รู้ว่าจดหมายใคร เลยไม่รู้ว่าจะไปคืนที่ไหน"
"แล้วเธอไม่ชอบฉันหรือ" จุนโซหันไปเห็นคนที่ยืนตรงหน้าประตูก็บอกไปว่า
"ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว" เด็กหญิงหันไปมองตาม ตบหน้าจุนโซแล้ววิ่งออกจากห้องไป จุนโซไม่สนใจหันไปเก็บเครื่องมือวาดภาพ คนที่ยืนรีรออยู่ค่อย ๆ เดินเข้ามาในห้อง
"อะไรอีกล่ะ" น้ำเสียงไม่พอใจ
"รับไปซิ" พูดพลางยื่นของในมือส่งให้ จุนโซโยนทิ้งลงถังน้ำ
"เลิกเป็นเด็กส่งของซะทีเหอะ" จุนโซหน้าบึ้ง คว้ากระเป๋าเดินออกจากห้องไป นักเรียนหญิงสองคนวิ่งเข้ามาถามถึงผลงานที่ให้ช่วยส่งของให้ พอหันมองตามมือที่ชี้ไปที่ถังน้ำก็โวยวาย คนถูกขอให้ช่วยแอบยิ้ม แต่พอนึกอะไรได้ก็รีบตามจุนโซออกไป วิ่งออกมาที่หน้าตึก เห็นจุนโซกำลังขี่จักรยานออกไป
"รอเดี๋ยวจุนโซ...พี่น่ะ" จุนโซไม่ฟังเสียง ตั้งท่าขี่จักรยานออกไป
"ก็รู้ว่าเค้าขี่จักรยานไม่เก่งนะ" น้องสาวร้องบอกพี่ชาย




จุนโซขี่จักรยานนำหน้ามาตามริมทุ่งนา อึนโซขี่ตามมาท่าทางเงอะงะเต็มที จุนโซหันไปมอง ชะลอรถแล้วหยุดรอน้อง อึนโซเห็นพี่ชายหยุดก็จอดรถ จุนโซออกเดิน น้องสาวก็เดินจูงรถตามไปต้อย ๆ ท่าทางรู้สึกผิดเต็มที่ เดินตามกันไปสักพัก น้องสาวเอ่ยเสียงอ่อย ๆ
"เค้าทำเรื่องที่พี่ไม่ชอบอีกแล้วใช่ไหม บอกตามตรงนะ เค้าก็เสียใจที่ต้องทำแบบนั้น" ใบหน้าจุนโซมีรอยยิ้ม
"แต่ไม่ใช่ความผิดของเค้านะ เค้าก็ต้องช่วยรุ่นพี่เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ถ้าพี่ไม่ชอบรับจดหมายทำไมไม่หาแฟนซะเลยล่ะ พี่นี่น่ารำคาญชะมัดเลยรู้ไหม" พอพี่ชายหันมามองก็รีบพูด
"อ๋อ! เปล่านะ ไม่ได้ว่าซะหน่อย" จุนโซหันไปอารมณ์ดีขึ้น อึนโซอ้อนพี่ชายต่อ
"คราวนี้พี่อย่าโกรธนานก็แล้วกันนะ" จุนโซหันขวับ อึนโซหุบยิ้ม
"คราวนี้จะอโหสิให้" อึนโซเห็นรอยยิ้มของพี่ชายจนได้
"ก็น่าอยู่แล้วล่ะ"

ทั้งคู่เดินจูงจักรยานกันมาตามทางอันชื้นแฉะ สองข้างทางเป็นท้องนาเขียวสดผืนกว้างใหญ่ ทิวเขาเตี้ย ๆ ทอดเป็นแนวยาวอยู่เบื้องหลัง
"บอกมานะว่าใครกัน" อึนโซยังติดใจที่จุนโซบอกเพื่อนนักเรียนหญิงในห้องเมื่อสักครู่
"ใครหรือ"
"ก็ผู้หญิงที่พี่ชอบน่ะซี่ เค้าอยากรู้"
"เฮ้อ! เงียบเถอะน่า"
"พี่ชอบใครหรือ"
"ความลับนะ แล้วห้ามไปบอกพ่อกับแม่ล่ะ รู้ไหม" น้ำเสียงขึงขังขึ้น
"เค้าจะบอก"
"อึนโซ"
"เค้าจะบอก"
"งั้นก็มาเป่ายิ้งฉุบกันดีไหม" จุนโซต่อรอง
"ก็ได้" อึนโซแพ้พี่ชายตามเคย ร้องอย่างขัดใจ
"โอ้ย! โธ่เอ้ย แพ้อีกแล้ว ทำไมเค้าต้องแพ้ทุกทีเลยนะ แย่จริง ๆ เลย" อึนโซกระเง้ากระงอด จูงรถเดินนำหน้าไป
"ก็ออกก้อนหินทุกทีนี่" จุนโซพูดเสียงกลั้วยิ้ม ไม่ทันออกเดินตามน้อง ฝนก็ตกลงมา สองพี่น้องขี่จักรยานตากฝน จุนโซหันไปยิ้มให้น้อง อึนโซยิ้มตอบพี่ชาย ฝนลงเม็ดหนาหนักขึ้น ทำให้ภาพพี่น้องที่ขี่จักรยานตามกันไปอย่างเริงร่าดูเลือนลางในสายฝนที่กระหน่ำลงมา




ฝนไหลลงเป็นสายจากร่องหลังคาโรงสีเก่า พี่น้องนั่งมองสายฝนที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
"เมื่อไหร่มันจะหยุดตกซะทีนะ" อึนโซบ่น
"อีกไม่นานฟ้าก็จะใสแล้ว" จุนโซบอกน้อง
"โอ้ย! โธ่เอ้ย เปียกหมดทั้งตัวแล้ว" อึนโซสะบัดกระโปรงแล้วลุกขึ้นยืน ถอดกระโปรงนักเรียนออก จุนโซหันไปเห็นรีบเอาตัวบังไว้
"นี่! จะทำอะไรน่ะ!"
"ไม่เห็นต้องกลัวเลย แถวเนี่ยไม่มีใครสักหน่อย แล้วเค้าก็ใส่สลิปมาแล้วด้วย"
"สลิปหรือ" จุนโซก้มลงมองดู
"นี่! เริ่มใส่ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ"
"ก็เค้าอยู่ม.ต้นแล้วนี่นา" จุนโซมองสลิปที่น้องสวมอยู่แล้วก็ยิ้ม อึนโซหันมาเห็นหน้าพี่ชาย
"มองอะไรน่ะ"
"เปล่านี่" จุนโซยังไม่ยอมหยุดยิ้ม แล้วเอามือรองสายน้ำจากหลังคา อึนโซเห็นเข้าก็ทำตาม
"เย็นดีนะ...เย็นดีจังเลยเนอะ" พี่น้องยิ้มให้แก่กัน




ในห้องน้ำ แม่กับลูกสาวอาบน้ำด้วยกัน แม่ถูหลังให้อึนโซ ฟังเรื่องของจุนโซก็เอ่ยถาม
"จุนโซน่ะไปหลงรักสาวอยู่หรือจ๊ะ"
"แต่พี่ไม่ยอมบอกว่าใครค่ะ"
"แล้วลูกล่ะจ๊ะ มองใครแล้วหรือยัง"
"มีแล้ว"
"จริงหรือ ใครกันล่ะ แม่รู้จักหรือเปล่าจ๊ะ ว่าไง"
"ก็พี่ชายไงคะ" แม่หัวเราะออกมา
"โธ่เอ๋ย!" แม่จั๊กจี๋ลูกสาว มือไปโดนหน้าอกลูก อึนโซร้องออกมา
"ไหนแม่ดูซิ ลูกแม่กลายเป็นสาวแล้วนะเนี่ย รู้ไหม" แม่ลูกหยอกล้อกันสนุกสนาน อึนโซถูหลังให้แม่บ้าง
"อึนโซ เมื่อไหร่ที่ลูกมีแฟนต้องให้แม่รู้เป็นคนแรกนะจ๊ะ อย่าลืมนะ"
"แน่นอนเลยค่ะ" อึนโซเอื้อมมือไปจับติ่งหูของแม่
"แม่จะต้องรวยมากเลยนะเนี่ย"
"ทำไมหรือ"
"ก็ติ่งหูใหญ่อย่างนี้"
"ก็เหมือนของคุณยายนั่นแหละจ๊ะ"
"หรือคะ แต่ของหนูเล็กนิดเดียวนะ"
"จริงหรือ ไหนแม่ดูหน่อยซิ" แม่เปิดหูอึนโซดู
"มันเล็กอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันน้า"
"หรือว่าหนูจะไม่ใช่ลูกแม่คะ หนูไม่เห็นเหมือนแม่เลย แม่เก็บหนูจากข้างถนนหรือเปล่า" พูดจบก็โดนแม่ดีดหัว
"เด็กโง่น่ะ ลูกสาวสุดที่รักของแม่" แม่มองลูกสาวอย่างรักใคร่

เวลาอาหาร อึนโซคีบกับข้าวใส่ปากแล้วโอดโอย
"โอ้ย! ไม่ไหวแล้ว แม่น่ะ หนูกินเยอะไปแล้วนะคะเนี่ย" แม่บอกว่าต้องกินบำรุงหน้าอก พ่อกับพี่ชายทำหน้าเหรอหรา อึนโซเขินหนัก แม่บอกพ่ออีก
"คุณคะ รู้ไหมว่าเดี๋ยวนี้อึนโซมี..."
"มีอะไรหรือ" พ่อกับพี่ชายถาม
"อย่าบอกนะแม่" อึนโซห้ามแม่
"มีหน้าอกแล้ว" จุนโซหูผึ่ง
"มีหน้าอกหรือ เป็นยังไง ขอดูหน่อยซิ" แล้วก็ลุกขึ้นวิ่งไล่น้องสาว อึนโซวิ่งหนีพี่ชายไปรอบบ้าน เสียงหัวเราะของพ่อกับแม่ดังลั่น
กลางคืน ครอบครัวออกมานั่งที่โต๊ะกลางสนามหน้าบ้าน กินของว่างกันไปคุยกันไป มีแต่รอยยิ้มเบิกบานบนใบหน้าของทุกคน




ยามเช้า พี่ชายประคองจักรยานของน้องสาวขี่ไปด้วยกัน จุนโซจะหัดน้องให้ขี่จักรยานให้แข็ง อึนโซรีบตะโกนห้ามพี่ชาย พอจุนโซปล่อยมือ จักรยานของอึนโซเซไป อึนโซร้องเสียงหลงแล้วขู่พี่ชาย
"เค้าจะไปฟ้องแม่ด้วย เค้าจะฟ้องแม่ คอยดู"
"เชิญเลย เธอขี่ได้แล้วนี่นา"
"แต่เค้ากลัวนี่นา"
"แล้วรีบตามให้ทันนะ"
"รอด้วยซิ" อึนโซขี่รถเป๋ไปเป๋มา เสียงอึนโซไล่หลังพี่ชายที่ขี่รถนำหน้าไป สลับกับคำขู่ว่าจะไปฟ้องแม่ไม่ขาดปาก แสงจากปลายอุโมงค์ส่องเข้ามา เห็นภาพพี่น้องขี่จักรยานผ่านอุโมงค์ออกไปดูเป็นเงาลางเลือนลงทุกที

พอใกล้โรงเรียน ทั้งคู่ลงจูงรถเดินตามกันมา อึนโซสมัครเป็นหัวหน้าห้องท่องคำปฏิญาณให้พี่ชายฟัง
"ฟังนะ ข้าพเจ้าจะไม่ขอรับประกันใด ๆ ทั้งสิ้นว่าทุกคนจะมีการบ้านน้อยลง แต่ถ้าข้าพเจ้าได้รับเลือกเป็นหัวหน้าห้อง ข้าพเจ้าจะทำดีที่สุดเพื่อห้องนี้ ดีไหม" สองคนก็เริ่มเล่นเกมสารภาพ ทายใจซึ่งกันและกันที่อึนโซชอบเล่น
"พี่ต้องบอกว่ามันก็ใช้ได้นะ เธอก็คิดแบบนี้" จุนโซเริ่มก่อน
"ฉันไม่ออกความเห็นจะดีกว่ามั้ง พี่ต้องคิดแบบนี้" อึนโซพูดต่อ
"พี่จะต้องอิจฉาถ้าฉันชนะ พี่รู้ว่าเธอคิดแบบนี้" พี่ชายไม่ยอมน้องสาว
"เธอต้องแพ้ชีเน่แน่นอน พี่ต้องคิดแบบนี้" จุนโซเพิ่งได้ยินชื่อเพื่อนร่วมห้องของน้องเป็นครั้งแรก
"ชีเน่ไหน"
"พี่ไม่รู้จักหรือ เป็นคู่แข่งของเค้าไง"
"คู่แข่งหรือ เค้ารังแกเธอหรือเปล่า" จุนโซห่วงน้อง
"เปล่าซะหน่อย" อึนโซส่ายหน้า

จุนโซจะเดินเข้าห้องเรียน เด็กนักเรียนหญิงสองคนมารอพบที่หน้าห้อง
"จุนโซ เดี๋ยว" นักเรียนหญิงคนหนึ่งเรียก
"อะไร มารอพบฉันหรือ"
"ใช่"
"มีอะไรล่ะ"
"ฉันมีเรื่องมาขอร้องรุ่นพี่ ฉันชอบรูปที่รุ่นพี่วาดมากเลยล่ะ รูปที่แขวนไว้ที่ประตูไง"
"แล้วไงหรือ"
"ช่วยวาดให้ฉันสักรูปได้ไหมล่ะ รูปประกอบบทกวีที่จะส่งประกวดน่ะ"
"นี่! เราไม่เคยรู้จักกันใช่ไหม" จุนโซหันมาถามหน้าเฉย คนขอร้องชะงักหน้าเสีย
"เอ๊ะ! ไม่รู้จัก"
"งั้นทำไมฉันต้องช่วยเธอด้วยล่ะ หมู่นี้ฉันไม่ว่างหรอก เสียใจนะ" นักเรียนหญิงเม้มปากไม่พอใจรีบวิ่งออกจากห้อง เพื่อนที่มาด้วยกันเรียกเพื่อนเสียงดังแล้ววิ่งตามไป จุนโซได้ยินชื่อก็ชะงักเรียกให้กลับมาก่อน
"เค้าชื่อชีเน่หรือ"
"ใช่"
"อยู่ปี ๑ ห้อง ๒ หรือ"

ครูนับคะแนนเลือกตั้งหัวหน้าชั้นระหว่างอึนโซและชีเน่ ผลออกมาอึนโซได้เป็นหัวหน้าห้องด้วยคะแนน ๒๙ เสียง ชีเน่ได้ ๑๖ เสียง ได้เป็นรองหัวหน้าห้อง ครูบอกข่าวดีให้ฟังว่า ห้องนี้สอบได้คะแนนอันดับหนึ่งในการสอบครั้งแรกของเทอมนี้ เพราะชีเน่สอบได้ A ทุกวิชา และย้ำว่าจะมีการประกวดแต่งบทกวีในเดือนหน้า โดยที่ครูสอนภาษาเกาหลีแนะนำว่า ทั้งอึนโซและชีเน่มีคุณสมบัติเท่ากัน แต่ครูให้อึนโซเป็นตัวแทนเพราะชีเน่เคยเป็นเมื่อปีที่แล้ว ชีเน่ไม่พอใจหันไปมองอึนโซ อึนโซทำหน้าหวั่นใจ รู้ตัวว่าถูกเขม่นอยู่ สุดท้ายครูประกาศว่า สุดสัปดาห์นี้แม่ของอึนโซจะนำขนมมาเลี้ยงนักเรียนทั้งห้อง ทุกคนดีใจ




ชั่วโมงพละ นักเรียนกำลังเปลี่ยนชุดกัน กังอีหันไปเห็นสลิปของอึนโซก็ร้องชมแล้วบอกว่าอยากมีบ้าง ชีเน่เหลือบมอง พวกของชีเน่เริ่มไม่พอใจว่ากระทบเทียบ
"นี่พวกเรา เสาร์ - อาทิตย์นี้คุณแม่ของอึนโซเค้าจะนำซาลาเปามาเลี้ยงพวกเราด้วย ทำไมอึนโซถึงได้เป็นหัวหน้าชั้น ในเมื่อชีเน่เป็นคนสอบได้ที่หนึ่งน่ะ"
"ก็เค้าได้คะแนนเสียงข้างมากก็ต้องได้น่ะซิ" กังอีเถียงแทนเลยถูกโต้กลับ
"นี่กังอี เธออย่ามายุ่งดีกว่านะ เธอเป็นคนรับใช้เค้าหรือยังไงจ๊ะ" กังอีลุกขึ้นทันที
"ว่าไงนะ!"
"เธอได้เข้าประกวดบทกวีเพราะบารมีเจ้าชายผู้พี่ ดีจังเลยเนอะ" พวกชีเน่เหน็บแนมต่อ อึนโซลุกขึ้นหันไปจ้องหน้าแล้วพูดยิ้ม ๆ
"นั่นซินะ ดีมาก ๆเลยล่ะ เพราะว่าถ้าพี่ชายฉันเป็นเจ้าชาย ก็แปลว่าฉันต้องเป็นเจ้าหญิงด้วย ขอบใจมากนะที่ยกย่องให้ฉันเป็นเจ้าหญิง" อึนโซพูดอย่างภาคภูมิใจ
"จริง ๆ ด้วย พี่จุนโซเหมาะจะเป็นเจ้าชายจริง ๆ ด้วย ส่วนฉัน พระชายาผู้เลอโฉม" กังอีเข้าพวกกับอึนโซ ฝ่ายตรงกันข้ามแบะปากใส่หมั่นไส้เต็มที่ อึนโซเดินเข้าไปหาชีเน่ ยื่นมือให้จับ
"เรามาร่วมมือกันดีกว่าน่า ถ้าเธอมีอะไรจะพูดเธอก็น่าจะพูดเอง ฉันยินดีรับฟังอยู่แล้ว" ชีเน่สะบัดหน้าพรืด

ทุกคนเข้าเรียนวิชาพละ เล่นบาสที่สนามในโรงยิม ชีเน่นั่งร้องไห้อยู่ในห้องเรียนคนเดียว หมดชั่วโมงพละต่างทะยอยเข้ามาในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน อึนโซมองหาสลิปของตัวเองไม่เจอ กังอีวิ่งเข้ามาบอกเพื่อน
"อึนโซ นี่กระโปรงชั้นในของเธอไปห้อยอยู่บนต้นไม้แล้วล่ะ ออกไปดู เร็วเข้า ไปซิ"

ใต้ต้นไม้ใหญ่กลางสนาม นักเรียนกลุ่มใหญ่กำลังแหงนขึ้นไปมองสลิปสีขาว เขียนชื่อของอึนโซด้วยตัวหนังสือสีแดงตัวใหญ่ที่แขวนอยู่บนกิ่งไม้สูงลิ่ว สองคนวิ่งมาถึงกังอีบอกว่าต้องเป็นฝีมือคู่แค้นแน่จะไปตามครูมา อึนโซยึดมือเพื่อนไว้บอกไม่ต้อง แล้วก้าวขึ้นบนโต๊ะ ค่อย ๆ เหนี่ยวตัวปีนขึ้นไป กังอีร้องห้าม บอกให้ลงมาไม่ขาดปาก อึนโซยิ่งปีนสูงขึ้นไป นักเรียนก็ยิ่งรุมล้อมกันเข้ามาดูมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อน ๆ ของจุนโซจับกลุ่มที่หน้าต่างห้องเรียนมองลงไป ชี้มือชี้ไม้ส่งเสียงเฮฮา จุนโซชะโงกดู เสียงเพื่อนบอก
"จุนโซ นั่นน้องนายไม่ใช่หรือ" จุนโซรีบวิ่งลงไปดู
อึนโซปีนขึ้นไปถึง ค่อย ๆ เดินออกไปตามกิ่งไม้ จุนโซวิ่งมาถึงมองน้องอย่างหวาดเสียว กลัวน้องจะตกลงมา อึนโซเอื้อมมือแต่ไม่ถึงต้องยืดตัวออกไปอีก ในที่สุดก็คว้าสลิปของตัวเองไว้ได้ คนข้างล่างตบมือเชียร์กันลั่น อึนโซยิ้มโบกมือให้ จุนโซถอนหายใจโล่งอก




ตอนเย็นกลับบ้าน จุนโซ อึนโซและกังอีเดินจูงจักรยานมาด้วยกัน สีหน้าจุนโซบึ้งตึง
"พี่โมโหหรือ ทำไมต้องโมโหด้วยเล่า"
"ก็ควรหรอก ฉันยังโมโหเลย เธอน่าจะไปต่อว่าเค้านะ" กังอีฉุนแทนเพื่อน จุนโซหันมาถาม
"รู้ตัวไหมว่าใครเป็นคนทำน่ะ"
"เค้าไม่รู้หรอก" อึนโซรีบปฏิเสธ
"ต้องเป็นชอย ชีเน่แน่เลย ยายนี่คอยหาเรื่องเธออยู่เรื่อยเลย จริง ๆ นะ" กังอีแน่ใจ
"ชอย ชีเน่หรือ" จุนโซเหลือบไปเห็นชีเน่ยืนคุยกับเพื่อนอยู่ก็ขึ้นจักรยายขี่ไป
"ไม่ใช่เค้าหรอกน่า" อึนโซกลัวพี่ชายไปจะเอาเรื่องกับเพื่อน
"เธอทำไมต้องพูดแบบนี้ล่ะ ต้องเป็นยายนี่อยู่แล้วล่ะ" กังอีไม่ยอมหยุด
"โธ่! เงียบเถอะน่ากังอี" อึนโซดุเพื่อน
"พี่เธอไม่รู้จักยายนั่นหรอก" พูดไม่ทันขาดคำก็เห็นจุนโซขี่รถตรงดิ่งไปหาชีเน่
"อ้าว! รู้จักหรือ" อึนโซร้องเรียกพี่ชายแล้วขี่จักรยานเก้ ๆ กัง ๆ ตามพี่ชายไป เสียงรถเบรค กังอีร้องเสียงหลง จุนโซหันกลับไปมอง เห็นน้องถูกรถชนนอนฟุบแน่นิ่งอยู่ที่พื้น เรียกน้องดังลั่น

จุนโซนั่งอยู่หน้าห้องพยาบาล พ่อกับแม่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา เห็นลูกชายก้มหน้านิ่ง
"จุนโซ เกิดเรื่องอะไรขึ้นล่ะลูก น้องเป็นยังไงบ้าง" พ่อถามอย่างร้อนใจ
"อึนโซอยู่ไหนล่ะ" แม่ถามอีก จุนโซน้ำตาไหล ลุกขึ้นยืน
"ผมผิดเองครับ ผมน่าจะรอเพราะน้องขี่จักรยานตามมา เป็นความผิดของผมเอง ถ้าผมรอน้องก่อนละก็ หมอบอกว่าอึนโซจะต้องผ่าตัด แล้วผมจะทำยังไงถ้าน้องเป็นอะไรไป" แม่กอดลูกชายไว้




หมอให้พ่อเซ็นใบยินยอมให้ผ่าตัด พ่อเอ่ยถาม
"หมอครับ จะต้องผ่าตัดนานไหมครับ"
"ไม่มีอะไรจะต้องเป็นห่วงหรอกครับ แล้วเรื่องแผลเป็นก็คงจะต้องมีครับ อ้อ! เราคงต้องขอเลือดคุณเอาไว้เผื่อคนไข้จะเสียเลือดมาก" พ่อกับแม่แย่งกันจะให้เลือด หมอถามว่าใครมีเลือดกรุ๊ป B พ่อชะงักไป
"ลูกคุณเลือดกรุ๊ป B นี่นา"
"คงไม่ใช่หรอกครับ เธอกรุ๊ป O เราสองคนก็เหมือนกัน"
"เอ๊ะ! คุณแน่ใจหรือเปล่าครับ ถ้าเป็นยังงั้นลูกสาวคุณก็กรุ๊ป B ไม่ได้ ผมว่าคุณไปเจาะเลือดตรวจดีกว่ามั้ง" คุงฮาสงสัยคำพูดของหมอ ถามสามี เห็นเขาทำหน้างงไป

ศจ.ยุนและคงฮาไปตรวจเลือดผลออกมาทั้งสองมีเลือดกรุ๊ป O เหมือนกัน
"ถ้าเลือดเรากรุ๊ป O ลูกเราเป็น B ไม่ได้ใช่ไหมล่ะครับ"
"ไช่ครับ" ฟังคำตอบหมอ คุงฮาหมดแรง
"ไม่มีข้อยกเว้นใช่ไหมครับ" พ่อถามย้ำอีก
"ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกครับ"
จุนโซอยู่หน้าห้องตรวจ เห็นพ่อแม่เดินออกมาจากห้องสีหน้ากลัดกลุ้มก็ถาม
"มีอะไรหรือครับ อึนโซเป็นอะไรไปหรือครับ"
"เปล่า ไม่มีอะไรหรอก มาคอยรอดูดีกว่านะ" พ่อไม่ยอมบอกอะไรลูกชาย

ศจ.ยุนพาภรรยากลับบ้าน เงียบกันไปทั้งคู่สีหน้ามีแต่ความทุกข์ใจ สามีจอดรถแล้วเอ่ยขึ้น
"นี่แม่ เราต้องคุยกันหน่อย" คุงฮาไม่อยากได้ยินสิ่งที่สามีกำลังจะพูด รีบบอก
"ฉันควรจะอยู่เฝ้าลูก เผื่ออึนโซฟื้นขึ้นมาแล้วแกไม่เจอฉันละก็ ขอฉันกลับไปเถอะนะ คุณกลับไปเอาเสื้อผ้านะ"
"เราต้องคุยกัน"
"คุยเรื่องอะไรกันล่ะ ฉันไม่มีเรื่องอะไรจะคุยนี่"
"กรุ๊ปเลือดของลูก คุณก็รู้ดี เราสองคนมีเลือดกรุ๊ป O คุณรู้ดีนี่นา" คุงฮาหันมาทันที
"แล้วไงล่ะคะ คุณไม่รู้กรุ๊ปเลือดของตัวเองหรือ"
"นี่แม่ อึนโซน่ะเลือดกรุ๊ป B นะแม่"
"แล้วไงล่ะ นี่คุณ...คุณคิดจะพูดอะไรกันเนี่ย"
"อึนโซน่ะ แกอาจจะไม่ใช่ลูกเราก็ได้นะ" พ่อตัดใจพูดในสิ่งที่ทั้งคู่นึกกลัวอยู่ คุงฮาปิดหูไม่ยอมรับฟัง
"ไม่จริง!!" คนพูดก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน




ในห้องพักผู้ป่วย จุนโซมองอึนโซสีหน้ากังวลเต็มที่
"อึนโซ พี่มองดูน้องนอนอยู่แบบนี้ กลัวว่าน้องจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก" จุนโซจับมือน้องไว้
"เจ็บมากหรือเปล่า พี่เสียใจจริง ๆ ที่ทำให้น้องต้องเจ็บตัว" แววตาเด็กชายหม่นหมอง เสียงคนแกล้งทำเป็นหลับดังขึ้น
"คราวนี้อโหสิให้แล้ว" จุนโซได้ยินหันไปมอง อึนโซลืมตาขึ้นข้างหนึ่ง ยิ้มสดใส
"อึนโซ" จุนโซยิ้มออกมาได้ อึนโซลุกขึ้นนั่ง
"ถ้าเค้าฟื้นขึ้นมาแล้ว พี่คงจะไม่ขอโทษเค้าซินะ ใช่ไหม"
"เธอรู้ได้ยังไง"
"พ่อกับแม่เป็นห่วงมากหรือเปล่านะ" อึนโซถามถึงพ่อแม่แล้วหันไปหยิบถ้วยน้ำ จุนโซเทน้ำให้น้อง
"แหงอยู่แล้วล่ะ แม่กลับไปเอาเสื้อผ้านะ แล้วจะกลับมาตอนเช้า"
"แล้วพี่ล่ะ"
"พี่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียวไม่ได้หรอก"
"ไม่ใช่ พี่เป็นห่วงด้วยหรือเปล่า"
"ไม่ห่วงเลยสักนิด" จุนโซแหย่น้อง อึนโซหน้างอทันที กระแทกถ้วยลงบนโต๊ะ ทิ้งตัวลงนอนอย่างแรง
"นิสัยไม่ดี เค้าผิดหวังจังเลย" จุนโซเอามือแตะหน้าอกข้างซ้าย พูดโอ๋น้อง
"พี่รู้สึกเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น" น้องสาววางมือลงบนศีรษะพี่ชาย
"งั้นคราวนี้ก็อโหสิให้อีก"
"เอาใหญ่แล้วเราน่ะ" จุนโซดุ ปัดมือน้องออกอย่างแรง
"เจ็บนะ" อึนโซร้องอ้อนพี่ชาย จุนโซเสียงอ่อนลงทันที
"เจ็บหรือเปล่าน่ะ"
"เค้าจะฟ้องแม่ด้วย ไม่ต้องมาพูดแล้ว"

ในห้องนอนพ่อกับแม่ที่บ้าน ไม่มีใครหลับลง สีหน้าพ่อเคร่งขรึม
"ผมมาคิดดูนะ ว่าถ้าลูกถูกเปลี่ยนตัวที่โรงพยาบาล"
"ยังไงอึนโซก็เป็นลูกของเรา คงมีการสับสนอะไรแน่ ๆ เลย เพราะยังไงอึนโซก็เป็นลูกของฉัน" คุงฮาไม่ยอมรับ
"แล้วถ้าไม่ใช่ล่ะ ถ้าลูกเราไปอยู่ที่ไหนสักแห่งล่ะ นี่แม่" คุงฮาทนฟังไม่ได้หันหนีทันที สีหน้าหวาดกลัว พูดอย่างเร็ว
"ฉันไม่รับรู้ด้วยหรอก ไม่ต้องมาบอกว่าคุณคิดยังไงกัน ฉันไม่อยากฟัง ไม่อยากฟัง" สีหน้าพ่อปวดร้าวใจ
คุงฮาเข้าไปในห้องนอนอึนโซ หยิบเสื้อลูกสาวขึ้นมาดูกอดไว้แนบอกน้ำตาไหล สามีแง้มประตูดูเป็นทุกข์ตาม

ที่โรงพยาบาลสูตินารีเวชคาราม ศจ.ยุนถามหมอถึงวันที่ภรรยาของตนมาคลอดลูก หมอบอกว่า
"ในวันนั้นมีคุณแม่มาคลอดบุตรสองคนนะครับ ชื่อว่าลิม คุงฮากับกิม ซุนอิมนะครับ เราได้ตรวจเลือดของทารกแรกเกิดแล้ว ลูกของลิม คุงฮามีเลือดกรุ๊ป O ครับ ส่วนลูกของกิม ซุนอิมตรวจแล้วก็เลือดกรุ๊ป B นะครับ" ศจ.ยุนตกตะลึงกับความจริงที่เพิ่งแน่ใจ
"ลูก...ลูกของผมกรุ๊ป O หรือครับ"
"ใช่ครับ ดูตามประวัติเนี่ยนะลูกของคุณมีเลือดกรุ๊ป O ส่วนเด็กอีกคนนึงเป็นกรุ๊ป B ถ้าลูกสาวคุณมีเลือดกรุ๊ป B ละก็ ผมว่าคงจะต้องมีการสลับตัวกันแน่ละครับ" สีหน้าศจ.ยุนซีดเผือด ลุกขึ้นคว้าคอเสื้อหมอ ทำท่าจะกินเลือดกินเนื้อ หมอเรียกเตือนสติ นางพยาบางเข้าช่วยพูดปลอบให้ใจเย็น ศจ.ยุนรู้สึกตัว ก้มหน้าร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด




จุนโซเดินตามหาชีเน่ในตลาด พอเจอก็เรียกไว้
"นี่! ให้ฉันวาดภาพประกอบบทกวีของเธอได้ไหม" จุนโซยื่นข้อเสนอ
"ทำไมล่ะ"
"ให้ฉันวาดเถอะ เธอชอบรูปของฉันไม่ใช่หรือ"
"อึนโซขอให้รุ่นพี่มาวาดหรือ" ชีเน่ดักคอ
"ฉันจะวาดให้เธอเอง ขออย่างเดียวเธอต้องเลิกรังแกน้องฉัน" จุนโซต่อรอง
"ฉันไม่ใช่นักเลง ไม่เคยแกล้งใครนะ"
"ถ้าไม่ใช่ก็อย่าไปตอแยเค้าซิ อยู่ห่างเค้านะ ไม่งั้นเธอจะต้องเสียใจ ฉันจะวาดรูปให้เธอเป็นการตอบแทนเองก็ได้นะ ตกลงไหม" จุนโซนึกโมโหแต่พยายามพูดดีด้วย ชีเน่ทำท่ายะโสไม่สนใจ
"ใครจะไปสนใจรูปพรรณนั้น จะบอกให้นะ มาข่มขู่ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก" มีรอยยิ้มเยาะที่มุมปากแล้วพูดอย่างเป็นต่อ
"ฉันจะพิจารณาถ้ารุ่นพี่จะคุกเข่าขอร้อง" จุนโซเม้มปาก มองหน้าคู่ปรับน้องสาว วางกระเป๋าลงแล้วคุกเข่าให้ ชีเน่ตกใจ คาดไม่ถึงว่าจุนโซจะยอมทำตามที่เธอบอก
"พอใจหรือยัง อย่าไปยุ่งกันอึนโซอีกนะ ขอร้อง" ชีเน่ทำอะไรไม่ถูกรีบวิ่งหนีไป จุนโซลุกขึ้นได้ยินเสียงแตรรถหันไปมอง เห็นพ่อกับแม่อยู่ในรถที่แล่นผ่านไป เดินตามไปดู

พ่อเดินถามทางไปร้านอาหารจากแม่ค้าข้างทาง พอได้คำตอบก็จับมือภรรยาที่มีท่าทางกระสับกระส่ายออกเดินไปยังจุดหมาย ครั้นไปถึงก็ได้ยินเสียงดังมาก่อนตัว แล้วก็เห็นหญิงวัยกลางคนด่าว่าลูกค้าที่ลวนลามเธอ เท่านั้นไม่พอ ยังยกกะละมังน้ำสาดใส่ไล่ส่ง สองสามีภรรยาใจแป้วเต็มที พ่อตัดสินใจเดินตรงไปที่ร้าน หันมาเห็นภรรยายืนเฉยก็เข้าจูงมือให้ตามไป เข้าไปนั่งในร้าน สองคนสะท้อนใจกับสภาพซอมซ่อของร้าน ซุนอิมเดินออกมาเห็นลูกค้าแต่งตัวดีก็พูดขึ้น
"ที่นี่ขายเท่าที่เห็นนะ พวกคุณจะรับอะไรล่ะ อย่าบอกนะว่าแต่งตัวซะโก้เพื่อจะมากินในร้านของฉันแบบนี้น่ะ"
"คือจะเรามาคุยเรื่องลูกสาวคุณ" พ่อเริ่มเรื่อง
"ลูกฉันเป็นอะไร พวกคุณเป็นครูงั้นหรือ ลูกฉันทำผิดอะไรตรงไหนหรือ"
"เปล่าครับเราไม่ใช่ครู...ลูกสาวคุณเกิดวันที่...วันที่ ๔ ตุลาคมใช่หรือเปล่าครับ" พ่อถาม
"คุณรู้ได้ยังไง" ซุนอิมนึกแปลกใจ
"คุณไปคลอดที่โรงพยาบาลคารามใช่ไหมล่ะครับ"
"นี่ พวกคุณเป็นใครกันแน่"
"เราอยากจะขอพบเธอสักหน่อยได้ไหมครับ" พ่อถามหาชีเน่
"นี่ ๆ นี่มัน...มันเรื่องอะไรกันนี่" ซุนอิมยังไม่เข้าใจจุดประสงค์ของอีกฝ่าย คุงฮาทนไม่ไหวทำท่าจะลุกหนี สามีต้องจับมือให้นั่งลง
"ฉันไม่อยากพบเธอ...ฉันไม่อยาก...คุณไม่ได้บอกฉันด้วยซ้ำว่าคุณจะพาฉันมาที่นี่ ฉันไม่อยากมาหรอกนะ"
"แม่ก็ มีเหตุผลหน่อยซิ"
"นี่มัน...มัน...เกิดเรื่องอะไรกันขึ้น" ซุนอิมชักโมโหที่ไม่ได้คำตอบสักที คุงฮาลุกขึ้นไม่อยากอยู่ต่อ
"ฉันจะไปเยี่ยมอึนโซล่ะ" เลยถูกสามีดุ
"หยุดทำตัวเป็นเด็กซะทีได้ไหม"
"ดูคุณพูดเข้าซิ" คุงฮาไม่พอใจสามี ซุนอิมขัดใจเต็มที่ เขวี้ยงของลงบนโต๊ะ ยกมือเท้าเอว แหวใส่เสียงดัง
"นี่เห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอหรือไง พวกคุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร เข้ามาซักไซ้อะไรถึงที่นี่กัน หา"
"คุณไม่รู้อะไรหรอกนะ" คุงฮาพูดเสียงปนสะอื้น
"หา! ว่าไงนะ พูดอย่างนี้หรือเดี๋ยวก็สวยหรอก" ซุนอิมทำท่าจะลงไม้ลงมือกับคุงฮา ศจ.ยุนต้องเข้าห้ามทัพ บอกความจริงให้รู้
"เดี๋ยว! ลูกของเราถูกเปลี่ยนตัวกันนะ"
"คุณคะ" คุงฮาร้องห้ามสามี
"ลูกสาวของเราถูกสับตัวกันน่ะครับ ทางโรงพยาบาลน่ะเขายืนยันมาแล้ว" ซุนอิมตกตะลึง คุงฮาทรุดตัวลงนั่งร้องไห้อย่างอ่อนแรง จุนโซแอบฟังอยู่หน้าประตูช๊อคกับสิ่งที่ได้ยิน ค่อย ๆ เดินออกไปท่ามกลางสายฝนที่หล่นพรำ ความรู้สึกเหมือนโลกดับไปต่อหน้าต่อตา




สายฝนที่ตกกระทบกระจกหน้ารถทำให้ภาพของสองคนในรถดูพร่ามัว คล้ายมองผ่านม่านน้ำตา นิ่งเงียบกันไปพักใหญ่ คุงฮาบอกสามี
"พาฉันไปส่งโรงพยาบาล"
"กลับบ้านก่อนดีกว่า"
"พาฉันไปโรงพยาบาล ฉันอยากจะเห็นอึนโซ" สามีหักพวงมาลัยรถเลี้ยวกลับไปโรงพยาบาล คุงฮาทั้งโมโหทั้งเสียใจ พูดทั้งน้ำตา
"ทำไมคุณทำแบบนี้ คุณใจดำกับเราแบบนี้ได้ยังไง คุณทำกับเราแม่ลูกแบบนี้ได้ยังไงกัน" สามีนิ่งไม่ตอบคำ พอถึงโรงพยาบาล คุงฮาบอกจะขึ้นไปหาอึนโซคนเดียว ไม่ยอมให้สามีตามไปด้วย

อึนโซเห็นแม่ก็ดีใจ แม่ยิ้มให้ลูกสาว
"แม่...แม่มาทำอะไรล่ะ หนูบอกแล้วไม่ต้องมาไง"
"ข้างนอกฝนตกจ๊ะ แม่รู้ว่าลูกกลัวตอนฝนตก แม่ก็เลยมาปกป้องลูกไงจ๊ะ"
"ไม่ต้องมาโอ๋หนูนะคะแม่"
"อึนโซไม่ใช่ลูกแหง่ของแม่แล้วหรือไง" พูดจบก็กอดลูกไว้
"แม่จะคอยปกป้องลูกจ๊ะ จะได้ไม่มีใครมาทำอันตรายลูกของแม่ได้" อึนโซงงกับคำพูดของแม่
"อึนโซ ลูกเป็นอึนโซลูกน้อยของแม่นะ แม่จะคอย...คอยอยู่กับลูกตลอดทุกย่างก้าวของชีวิต แม่จะคอยดูตอนลูกเข้ามหาวิทยาลัย และตอนลูกมีนัดกับหนุ่ม ถึงตอนลูกจะแต่งงาน แม่ก็ช่วยเลือกชุดแต่งงานให้กับลูก แม่จะคอยกุมมือลูกในงานแต่งงาน แล้วก็พอลูกจะคลอดลูกนะ แม่ก็จะ..." คุงฮาน้ำตาไหล วาดฝันถึงอนาคตอันสดใสของลูกสาวที่จะมีตนเองเดินเคียงข้างไปบนเส้นทางชีวิต ทว่าความจริงอันโหดร้ายก็ย้ำความเจ็บปวดในหัวใจจนสุดที่จะทนทานได้
"แม่คะ" เสียงของอึนโซเรียกสติของคุงฮากลับคืนมา รีบเช็ดน้ำตาผละตัวออกแล้วเปลี่ยนเรื่องพูด
"เอางี้นะ เรากินบะหมี่กันเลยดีไหม"
"จริงนะ" อึนโซพยักหน้าดีใจ

ซุนอิมนั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียวในร้านนึกถึงอดีต วันที่เธอเดินออกมาดูลูกสาว ซุนอิมไม่รู้เลยว่า ผู้ชายที่อุ้มเด็กเดินสวนกันไปตรงหน้าห้องเด็กอ่อนจะได้เข้ามาเกี่ยวข้องกันในอีก ๑๔ ปีต่อมา แม่มองดูลูกสาวอย่างนึกสงสาร
"ไอ้บ้านั่นก็ตายไปแล้ว ลูกแม่ ไม่ได้เห็นหน้าพ่อด้วยซ้ำ...ก็ดี ไม่มีพ่ออาจจะดีซะกว่า"
คำพูดของศจ.ยุนยังก้องอยู่ในหู
"ลูกสาวของเราถูกสับตัวกันนะครับ"




ทุกคนในสกุลยุนต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง พ่อนั่งดื่มเหล้าในบ้านคิดอะไรเงียบ ๆ หันไปมองที่สนามหน้าบ้านเห็นภรรยานั่งร้องไห้อยู่ ไม่ผิดอะไรกับลูกชายที่เดินคนเดียวไปตามถนนอันว่างเปล่า
พ่อออกมานั่งคุยกับแม่ สองคนอับจนคำพูดได้แต่นั่งนิ่งกันไป จุนโซเดินเข้าบ้านมารู้สึกสลดหดหู่ใจ พอได้ยินเสียงพ่อก็เงยหน้าขึ้นมอง เดินเข้าไปใกล้
"โทรมจริง ๆ บ้านหลังนั้น มันทรุดโทรมจริง ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนกัน ผมไม่อยากจะเชื่อเลย ผมเสียใจ แต่ผม..รักคุณกับอึนโซ...จนสุดหัวใจ"
"ฉันรู้ค่ะ"
"แต่นึกภาพดู...ว่าลูกของเราต้องโตขึ้นมาในที่แบบนั้น" เสียงเครือด้วยอารมณ์สะเทือนใจ
"เอางี้ซิคะ รับงานอาจารย์แลกเปลี่ยนนั่นซะ ก่อนจะสายเกินไป ก่อนที่อะไรมันจะเลวร้ายลง เราย้ายไปอยู่อเมริกาแล้วลืมเรื่องทั้งหมดนี่เถอะ นะคะ ได้ไหม มันเป็นทางออกเดียวที่เราควรทำนะคะ" พ่อพยักหน้าศีรษะก้มต่ำ น้ำตาไหลไม่หยุด
จุนโซยืนฟังคำสนทนาของพ่อกับแม่ หันหลังค่อย ๆ เดินออกจากบ้าน




จุดหมายเดียวที่เด็กชายนึกถึงคือ โรงพยาบาล เปิดประตูห้องเข้าไปเห็นอึนโซเอนหลังอ่านหนังสืออยู่ อึนโซเห็นพี่ชายก็ทำหน้าสงสัย
"วันนี้ทุกคนประหลาดจังเลย ทีแรกก็แม่ แล้วก็มาพี่อีก" แต่ความดีใจที่ได้พบหน้าพี่ชายทำให้อึนโซไม่คิดอะไร เอ่ยถามพี่ชาย
"จะดื่มอะไรไหมคะ" ทำท่าจะลุกขึ้น จุนโซห้ามไว้
"ไม่ต้องหรอก ขอบใจ" จุนโซนั่งลงบนเตียง อึนโซเห็นท่าทางไม่สบายใจของพี่ชายก็ถาม
"มีอะไรหรือเปล่า ดูท่าทางแปลก ๆ นะ" สีหน้าจุนโซครุ่นคิด เอ่ยถามน้อง
"นี่! พี่ควรจะเล่าความลับได้หรือเปล่า"
"ความลับหรือ" อึนโซตาโต
"เรื่องผู้หญิงที่พี่ชอบไง"
"พูดจริงนะ เค้าเป็นคนยังไงล่ะ" จุนโซทำท่านึกแล้วบอกลักษณะทีละข้อ
"อืม...เค้าเป็นคนซุ่มซ่ามนะ แล้วก็ยังหัวดื้อมากเลยล่ะ พอกินอะไรทีนึงมักจะทำเลอะเทอะ" อึนโซขมวดคิ้วนึกภาพตาม
"เค้าเป็นคนสวยหรือเปล่า"
"ก็ไม่เชิงหรอก ผมก็ยาวเท่า ๆ กับผมเธอ ตาก็โตเท่า ๆ กับตาเธอ แล้วยังสูงพอ ๆ กับเธอ พูดง่าย ๆ ว่าอัปลักษณ์มากเลย" อึนโซนิ่วหน้า นึกไม่ออกว่าเป็นใคร จุนโซบรรยายต่อ
"เท่านั้นไม่พอนะ ยังทึ่ม ๆ จริง ๆ ด้วย ชอบใจดำกับเค้านะ แต่ก็ยังคอยตามต้อย ๆ น่ารำคาญชะมัดเลย แล้วยังขี่จักรยานก็ไม่เอาไหนอีก" อึนโซนึกได้ว่าเป็นใครก็โวยใส่พี่ชาย
"นั่นมันเค้านี่นา เลิกล้อกันซะทีได้ไหม"
"ไม่ได้ล้อนะ" สีหน้าจุนโซจริงจัง มองหน้าอึนโซ
"อึนโซ ถามอะไรหน่อยนะ ถ้าเราไม่ใช่พี่น้องกัน คิดว่าเราจะได้เจอกันไหม" อึนโซนิ่งคิดนิดหนึ่งแล้ววางท่าเป็นผู้ชำนาญการ ตอบอย่างมั่นใจเต็มที่
"ต้องเจออยู่แล้ว แบบนี้ต้องเป็นชะตาลิขิต แบบอมตะด้วย" จุนโซยิ้มออก
"งั้นเรามาเป่ายิ้งฉุบกันเถอะ เธอชนะก็ถือว่าชะตาลิขิต ถ้าพี่ชนะก็ไม่ใช่"
"ก็ได้ งั้นขอเวลาเดี๋ยวนะ" อึนโซทำไม้ทำมือตั้งท่าเตรียมพร้อม อึนโซออกก้อนหินเหมือนทุกครั้ง จุนโซเชื่อมั่นว่าชะตาลิขิตให้ตนเองและอึนโซได้มาพบกัน และรู้ว่าจะให้น้องชนะได้อย่างไร
"เค้าชนะแล้ว เห็นไหมล่ะ ชะตาลิขิตให้เรามาพบกัน...เก่งมากนะก้อนหิน" อึนโซตบมือดีใจ พูดประโยคสุดท้ายชมตัวเองโดยไม่ทันสังเกตสีหน้าพี่ชายที่หม่นหมองลง




ในวันงานประกวดบทกวีอึนโซลที่โรงเรียน ศจ.ยุนเดินมากับคุงฮา ภรรยาบอกให้สามีไปบอกครูว่าครอบครัวจะไปอเมริกาเดือนหน้า สามีถามย้ำ
"แน่ใจนะว่าคุณจะทำแบบนี้ คุณไม่อยากเห็นแกแน่หรือ"
"ไม่ค่ะ อย่าบอกนะว่าคุณ" คุงฮากลัวใจสามี
"ผมก็จะไม่พบแก ถ้าได้เห็นแกก็ไม่รู้จะทำยังไง ผมทิ้งอึนโซไม่ได้ ไม่พบดีกว่า" คุงฮาโล่งอกแต่ไม่วายกังวลอยู่ดี

ครูบอกจุนโซช่วยวาดรูปประกอบให้นักเรียนที่เข้าประกวดแทนอึนโซ เอ่ยชมจุนโซแล้วก็ขอตัวเดินไปทางอื่น กลอนที่แต่งชื่อ "ใบไม้ฤดูใบไม้ร่วง" คุงฮาเอ่ยชมบทกวีว่าเพราะ ถามหาคนเขียนโดยไม่รู้ว่าเป็นลูกสาวของตนเอง
"ก็แค่นักเรียนหญิงคนนึง" จุนโซรีบบอก
"ชอย ชีเน่ คนที่หนูเล่าให้แม่ฟังไงคะ ได้ A ทุกวิชาเลย"
"อ๋อ! คนนั้นเองน่ะหรือ แล้วอยู่ไหนล่ะจ๊ะ" พูดไปก็กวาดตาไปรอบ ๆ แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไปเมื่อเห็นซุนอิมกำลังเดินเข้ามาในบริเวณงาน คุงฮาสะกิดให้สามีดู สองคนสีหน้าไม่ดี จุนโซมองตามสายตาของพ่อแม่ ครั้นเห็นว่าเป็นใครก็ตกใจ ไม่คิดว่าจะได้เจอคนที่ไม่อยากเห็นหน้า เสียงของชีเน่ตะโกนเรียกแม่ พ่อ แม่ ลูกชายหันไปมอง ชีเน่ถลันเข้าตวาดแม่
"แม่! จะบ้าหรือไงเล่า มาทำไมที่นี่!"
"พูดยังงี้ได้ไง ฉันก็มาดูลูกฉันน่ะซิ"
"กลับไปเดี๋ยวนี้เลย หนูไม่อยากให้ใครเห็นแม่" ชีเน่ไล่แม่
"ไม่เอาน่า ฉันขอดูผลงานหน่อย อยู่ไหนล่ะ" ซุนอิมสอดส่ายสายตามอง พอเห็นครอบครัวของลูกสาวตนเองที่กำลังจ้องมองมาก็ชะงัก ดูเหมือนโชคชะตาจะไม่ยอมเป็นใจให้คู่สามีภรรยาได้ทำตามที่ตั้งใจไว้ ทั้งสองฝ่ายตกตะลึงนิ่งขึงกันไป ผิดกับอึนโซและชีเน่ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย







https://www.youtube.com/watch?v=ALvsWBljCQw




https://www.youtube.com/watch?v=VX2yaiCGUCU




https://www.youtube.com/watch?v=18m2Qw-K1b0




https://www.youtube.com/watch?v=AcCGX2dhGy4




https://www.youtube.com/watch?v=dJmyL8dTQh0




























ภาพประกอบจากเวบ
seungheonthailand
seungheonplanet
autumnthai2001
trulyseungheon
popcornfor2
mungy.hp


บีจีและไลน์จากคุณญามี่

Free TextEditor





Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 17 กรกฎาคม 2565 23:02:47 น. 39 comments
Counter : 7604 Pageviews.

 
สวัสดียามเช้าครับคุณไฮกุ

บล็อกนี้คอหนังเกาหลีคงถูกใจแน่นอนเลยนะครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:6:33:28 น.  

 
ผมก็ชอบรูปสุดท้ายเหมือนกันครับ
มันน่ารักดีนะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:10:25 น.  

 


ดี.มารอบนึงแล้ว
แต่ยังไม่เปิดเม้นท์ค่ะ
โดนพี่เคน คนที่มีลูกชายหล่อ ปาดซะ 2 เม้นท์เลย
อ๊ากกกกกกกกกก


ย้อนขึ้นไป ..
อ้าว
ที่เห็นตอนแรก ภาษาอังกฤษนี่นา อิอิ
สงสัยคนละบล็อกกัน



รักนี้ชั่วนิรันดร์ ..
จากเนื้อเรื่องอย่างเดียว
ดี.ก็เฉยเฉย
แต่ ..
จากภาพที่เราเห็น
พวกเขาถ่ายทอดให้เรารู้สึกอะไร

และสิ่งที่เรารู้สึก ..
นั่นล่ะ

ดี.ว่าคือสิ่งที่เราไม่ลืม และ .. รักพี่ชาย






โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:25:28 น.  

 

ถ้าเขียนคอมเมนท์โดยไม่ได้อ่านอะไรเลย จะผิดมั๊ยนี่
คงไม่มีใครเขาทำหรอกนะ
อะ..หรือว่า....555

เรื่องทารกสลับตัวกันนี่
เป็นเรื่องเล่า เป็นนิยาย เป็นละคร ก็ลุ้นดีนะ
ใจหนึ่งก็อยากให้สองครอบครัวรู้ความจริง
อีกใจก็ไม่อยากให้เขารู้ว่าเด็กที่เลี้ยงมา แท้จริงไม่ใช่ลูก
แล้วชีวิตครอบครัวก็ไม่มีวันเหมือนเก่าได้อีกเลย

สมัยก่อนคลอดลูกกันที่บ้านด้วยหมอตำแย คงไม่ค่อยมีเรื่องแบบนี้
ยกเว้นในละครบางเรื่อง
อย่างหนังกำลังภายในเรื่องหนึ่ง พอคลอดปุ๊บ ก็มีไอ้โม่งย่องมาเปลี่ยนเด็กตอนกลางคืนปั๊บ
แล้วเด็กคนนั้นก็กลายเป็นฮ่องเต้นิสัยโฉดไปเลย

สำหรับการคลอดที่โรงพยาบาลใหญ่ๆในอดีต น่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้นะ
ก็ระบบการบริหารจัดการยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง
แถมเรื่องความผิดพลาดจากคนนั้น
ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดขึ้นวันไหน เรื่องอะไร

อ่านเรื่องนี้แล้ว
ต้องรีบไปตรวจเลือดว่าพ่อแม่เราเลือดกรุ๊ปอะไร?
อือ...แล้วถ้าพ่อแม่เรา เป็น O ทั้งสองคน
พี่น้องเราก็เป็น O
แล้วเราเป็น B
ทีนี่จะทำอย่างไรดี หุหุ



โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:50:16 น.  

 
โโอ้ โห แฟนพันธุ์แท้จริงๆนะคะเนี่ย


โดย: angy_11 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:30:20 น.  

 
คุณก๋า...เรื่องนี้เป็นซีรีส์เกาหลีเรื่องแรกที่ทำให้คนไทยหันมากรี๊ดหนุ่มเกาหลีกันค่ะ สาวกซีรีส์เกาหลีรู้จักกันทุกคนเลย

จะว่าไปแล้ว อย่างหลานหมิงนี่ก็หล่อเข้าเทรนด์ หน้าตาออกแนวหนุ่มเมืองโสมเหมือนกันน้า

คุณดี...สงสัยว่าคุณดีจะมาช่วงที่กะลังอัพภาคภาษาปะกิตแน่เลย งวดนี้อัพทีเดียวสองบล๊อคแต่เปิดให้เม้นท์แต่บล๊อคนี้บล๊อคเดียวค่ะ

เรื่องนี้นอกจากจะปิ๊งพี่ชายอย่างแรงแล้ว ก็ชอบผู้กำกับนี่แหละค่ะ ดูออทั่มแล้วรู้สึกเหมือนตอนที่ดูซีรีส์ Beauty and the Beast เลย เราว่าผกก.ทั้งสองเรื่องมีความเหมือนกันอยู่อย่างคือ สามารถถ่ายทอดเรื่องราวของความรักที่ลึกซึ้งออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม องค์ประกอบของซีรีส์งดงาม มีความลงตัวพอดี ๆ ภาพก็งาม เพลงประกอบก็เพราะขนาดพอกัน ดูแล้วความรู้สึกติดอยู่ในหัวอยู่เป็นนานนนน ถึงพระเอกสองเรื่องนี้จะต่างกันสุดขั้ว แต่เราก็หลงรักพอกันเลยค่ะ

พี่ซูม...ไม่ผิดคับพ้ม น้องว่าคุณพี่คงเคยดูเรื่องนี้มาแล้วแหละ ขนาดบอกว่าไม่ได้อ่าน ยังหาเรื่องคุยได้ยาวเลย

ตอนที่ซีรีส์เรื่องนี้ฉายอยู่ เมืองไทยก็มีข่าวลูกของสองครอบครัวถูกสลับตัวกันเหมือนในซีรีส์เลยค่ะ ออกข่าวทางนสพ.กะทีวีด้วย สาวกออทั่มเลยยิ่งอินกันไปใหญ่ ที่จริงแนวเรื่องแบบนี้ค่อนข้างจะซ้ำซากจะตาย ได้ดูในหนังกะละครหลายชาติหลายภาษา ของไทยก็มีออกบ่อยไป แต่คนเขียนบทกะผู้กำกับเก่งไง แถมนักแสดงก็เล่นกันสุดยอด เลยเป็นซีรีส์อันดับหนึ่งในดวงใจของใครหลายคนมาตลอด นับไปนับมา ปีนี้จะเข้าปีที่สิบที่ฉายเรื่องนี้แล้วค่ะ ยังจำวันฉายวันแรกได้ ตรงกับวันเกิดของหวานใจน้อง วันที่ห้าตุลาฯ ปีสองพันนู้นแน่ะ

หลานจี้...ป้าเป็นแฟนพันธุ์แท้แน่นอนจ้า รักทั้งออทั่มและพี่ชายเหมือนหลานจี้รักคีนูเลยแหละ


โดย: haiku วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:34:21 น.  

 
คุณไฮกุครับ สวัสดียามใกล้เย็น

หนังเกาหลีนี่เขาตั้งอกตั้งใจทำกันจริงๆนะครับ ดูแล้วก็ติดงอมแงมจริงๆ

ทำไม?????

ลองเทียบกับหนังไทย โดยเฉพาะหนังอิงประวัติศาสตร์
ขนาดผมเองนี่นิยมไทย และชาตินิยมมากพอประมาณ ดูแล้วรู้สึกว่าถูกคนสร้าง "ดูถูก"

พอจับได้ว่า คนเขียนบทมือไม่ถึง

นักแสดง มือกล้อง คนสร้างฉาก....โอเค นะ

ชักขี้บ่นเป็นตาแก่แล้วแฮะ


โดย: Dingtech วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:08:36 น.  

 
สวัสดีคะ แวะมาทำความรู้จักคะ เข้าปุ๊บก็เจอเรื่องถูกใจเลยคะ ได้ดูเรื่องนี้เหมือนกัน ร้องไห้เป็นเผ่าเต่าเลยคะ สงสารตั้งแต่ถูกแยกตอนเป็นวัยเด็ก โอยยิ่ง
ตอนนางเอกไม่รอดแล้วเนี๊ยะ ที่สุดเลยคะ จะติดตามตลอดนะคะ แวะไปทักทายกันบ้างนะคะ แล้วจะแวะมาดูseries เกาหลีบ่อยๆคะ


โดย: ร้องไห้เป็นเผ่าเต่า (cengorn ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:47:10 น.  

 
คุณไฮกุขยันจริงๆเลยค่ะ

ขอมารำลึกความหลังกับหนังเรื่องแรกนี้เสียหน่อยนะคะ

เป็นเพราะเรื่องนี้เชียว ทำให้ต้องติดหนุบหนับกับซีรี่ส์เกาหลีจนถึงทุกวันนี้

.
.

เสียดายนะคะ ที่ได้เห็นพี่ชายแค่แว่บๆ

น่าจะได้ถ่ายภาพด้วยกันสักภาพก็ยังดีค่ะ




โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:37:41 น.  

 
ต้องสารภาพเลยว่า ไม่ได้ดูเรื่องนี้ ไปอยู่ไหนมาก็ไม่รู้ แต่ก็ไปหาซื้อหนังสือมาอ่านทีหลัง จำได้ว่าร้องซะตาบวม โดยเฉพาตอนจบ ที่พี่ชายไม่ยอมไปเยี่ยมน้องที่โรงพยาบาล เพราะคิดว่าจะยื้อเวลาให้น้องอยู่ต่อไป เศร้ามาก

มาติดละครเกาหลี ก็ตอนที่ดูเรื่อง สงครามแห่งความรัก ค่ะ


โดย: somjaidean100 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:37:56 น.  

 
- หวัดดียามค่ำครับ

- แฟนพันธุ์แท้ซีรี่ย์เกาหลีเลยนะครับ


โดย: พี่รี่+ต๊อก วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:13:32 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับคุณไฮกุ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:4:25:32 น.  

 


มาแจ้งข่าวว่า

สังเวียนคน

ตอนที่ 2 ตอน "กินโต"


ลงโรงฉายแล้วครับ....


โดย: ลุงแว่น วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:15:54 น.  

 
คุณdingtech...นอกจากคนทำซีรีส์ของเกาหลีจะตั้งใจผลิตผลงานดี ๆ แล้ว ยังได้รับความสนับสนุนเต็มที่จากรัฐบาลด้วยค่ะ เขาคงเห็นแล้วว่าการที่หนังกะละครได้รับความชื่นชมจากชาวต่างชาติ ส่งผลดีให้กับประเทศมากขนาดไหน รายได้หลัก ๆ ก็มาจากวงการบันเทิงนี่แหละ ขนาดญี่ปุ่นที่เคยมีอคติต่อคนเกาหลี พอหลงรักซีรีส์เรื่องวินเทอร์เข้าเท่านั้นแหละ ความคิดก็เปลี่ยนไป เบยองจุนที่เล่นเป็นพระเอกกลายเป็นนักแสดงเกาหลีที่คนญี่ปุ่นชื่่นชอบมากกกก จนเดี๋ยวนี้ไปปักหลักหากินที่ญี่ปุ่น เล่นคอนเสิร์ตก็มีสาวญี่ปุ่นมาดูกันตรึม แถมเปิดภัตตาคารอยู่หลายแห่งเลยค่ะ

อยากให้วงการบันเทิงบ้านเราเป็นอย่างบ้านเขามั่ง อันนี้ไม่ใช่ว่าไปก๊อปทุกอย่างของเกาหลีมานะ แค่เดินตามแนวทางของเขา แล้วใช้ความสามารถและความคิดของเราเองปรับปรุงการทำละครกะหนังให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เราว่าคนทำหนังกะละครไทยก็คงอยากทำผลงานดี ๆ อยู่เหมือนกันแหละ แต่ไม่รู้เป็นไง ยังวน ๆ กับแนวเดิม ๆ ประจำ จะอ้างว่าคนดูชอบก็ง่ายเกินไป ที่จริงละครน้ำดีหลายเรื่องที่คนไทยชอบมาก แล้วก็ไปโด่งดังที่เมืองนอกด้วยก็มี อย่างละครเรื่อง "อุ้มรัก"หรือ "เลือดขัตติยา" เวอร์ชั่นติ๊กกะอ้อม คิดเหมือนคุณdingtech เรื่องคนเขียนบท บ้านเราหาคนที่มีฝีมือได้ไม่มากนัก ถ้ามีคนเขียนบทเก่งเยอะ ๆ รับรองว่าหนังกะละครไทยคงไปได้ไกลไม่แพ้เกาหลีแน่ ก็คุณภาพทีมงานและนักแสดงบ้านเรามีฝีมือไม่เป็นรองใครเลยค่ะ

คุณcengorn...ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมกันนะคะ ดีใจที่ได้รู้จักกันค่ะ เห็นชื่อนอกวงเล็บก็รู้แล้วว่าเป็นสาวกออทั่มเหมือนกัน ซีรีส์เรื่องนี้เป็นสุดยอดละครเศร้าจริง ๆ เนอะ ใครได้ดูก็บอกเป็นเสียงเดียวกันหมด คัดนักแสดงได้ลงตัวกับบทมาก แล้วเล่นบทเศร้าดีมหัศจรรย์กันทุกคน ได้เล่นฉากเสียนำ้ตากันหมด ไม่เว้นตัวร้ายของเรื่องอย่างจงชล ฉากที่อึนโซวิ่งไล่รถของครอบครัวแล่นเข้าอุโมงค์ไป เป็นฉากเศร้าที่สุดฉากนึงของเรื่อง ต้องชมนักแสดงเด็กด้วย โดยเฉพาะน้องมูน เล่นบทเศร้าได้เฉียบขาดไม่แพ้นักแสดงผู้ใหญ่เลยค่ะ

คุณยุ้ย...ที่จริงพี่ชายอยู่เมืองไทยเกือบเดือนแต่เราไม่สะดวกจะตามพี่ชายเองแหละค่ะ ถ้าแฟนคลับอยากเจอพี่ชายก็ต้องไปเฝ้าที่โรงแรมแต่เช้าเลย ไม่ก็ต้องเป็นกลางคืนไปถึงดึกดื่น ถ้าเป็นช่วงกลางวันที่พี่ชายไปห้างหรือกินข้าวก็ตรงกับเวลาทำงานซะอีก ดีที่สบโอกาสได้ไปเห็นหน้าพี่ชายมาแล้ว ถึงจะเห็นแค่แว่บ ๆ ก็ดีใจแล้วค่ะ แต่ไปช่วงจังหวะไม่ดี เพราะพี่ชายถ่ายหนังดึกจัดแถมต้องตื่นเช้ามาถ่ายหนังต่อ เลยงัวเงียไม่มีอารมณ์จะทักทายแฟนคลับ ดีที่ยังส่งของขวัญให้ผจก.ส่วนตัวได้ทันก่อนรถจะแล่นออกไป นี่พี่ชายก็กลับเกาหลีไปเมื่อวานนี้เองค่ะ

คุณพีช...เราได้ดูซีรีส์แล้วก็อ่านหนังสือด้วยค่ะ ทีแรกนึกว่าเขาหยิบนิยายมาทำซีรีส์ซะอีก แต่กลายเป็นว่าหนังสือออกมาหลังจากซีรีส์ฉาย เทียบกันแล้วเรารู้ว่าซีรีส์จะเศร้ากว่าหนังสือ โอ ซูเยียนเขียนบทเรื่องนี้ได้สุดยอดมาก คิดฉากเศร้าได้ไม่เหมือนใครเลย ดูแล้วอึ้งไปหลายฉาก อย่างฉากที่คุณพีชพูดถึงนั่นก็ใช่ ถ้าเป็นเรื่องอื่น พระเอกต้องเฝ้านางเอกอยู่ข้างเตียงตลอด แต่จุนโซไม่ยอมแม้กระทั่งไปเยี่ยมอึนโซ บอกว่า... "ถ้าฉันไปเยี่ยม...อึนโซอาจด่วนจากเราไปตลอดกาล เพราะถ้าเธอเกิดโล่งใจ...แล้วทิ้งพวกเราไปเลย เธอจะไม่รอ...จนกระทั่งฉันโผล่ไปล่ะ ถ้าฉันไม่ไปหา...อึนโซก็อาจจะอยู่รอฉันต่อไปอีกหน่อย "

อีกฉากนึงที่โดนมาก คือฉากที่สองคนลาจากกันหลังยูมีฆ่าตัวตาย ถ้าเป็นเรื่องอื่น พระ-นางคงต้องกอดหรือจูจุ๊บสั่งลากันมั่ง แต่นี่ไม่เลย พออึนโซยื่นมือให้จุนโซจับ จุนโซได้แต่มองมือนิ่งแล้วบอกว่า "อึนโซ...ถ้าพี่จับมือเธอแล้ว...พี่คงปล่อยไปอีกไม่ได้..."

เรื่องAAEก็ชอบมากเหมือนกันค่ะ หลงรักผอ.ยุนหัวปักหัวปำ เป็นผู้ชายที่หาได้ยากในชีวิตจริง ทั้งหล่อทั้งนิสัยดี แถมอบอุ่นเป็นเลิศ ชอบฉากพระเอกนางเอกอยู่ด้วยกันทุกฉากเลย ดูไปอมยิ้มไปตลอด มีฉากซึ้ง ๆ หลายฉากมาก อย่างฉากท่านผอ.ใส่สร้อยข้อเท้าให้นางเอก ดูแล้วซึ้งซ้าาาา

จิ๊กรูปจากพันติ๊บมารำลึกฟามหลังซะโหน่ย




พี่รี่+ต๊อก...แม่นแล้วเจ้าค่ะ ที่จริงต้องบอกว่า อิฉันเป็นแฟนพันธุ์แท้หนังกะละครมากกว่า ทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี สเปน(ตอนนี้มีฉายทางทรูแล้วนะ) ถ้าฟังภาษาออกก็ดูได้หมดแหละค่า

ลุงแว่น...ตามไปอ่านเรียบร้อย ทั้งตอนแรกกะตอนที่สองเลยค่ะ ขอบคุณที่เขียนให้อ่านนะคะ


โดย: haiku วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:32:32 น.  

 
หูยน้องมุนกึนยอง น่ารัก

ปล.ไฮกุจ๋า ขอบคุณสำหรับพรวันเกิดนะจ๊ะ


โดย: ณ มน วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:06:29 น.  

 
คุณไฮกุค่ะ

ต้องบอกเลยค่ะว่า ... นับถือในน้ำใจอันดีสำหรับการแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้เราฟังในเรื่องของซีรีย์ยุคแรกๆ ของบ้านเรา ที่ว่าดูกันแล้วทำให้ติดกันได้เลย

เรายอมรับจริงๆนะค่ะว่า จริงๆ เรืองราวของธีมซีรีย์ทางโน้นมันไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย มันพื้นๆ แต่ว่ามันจะมีอยุ่อย่างน่ะค่ะที่แบบว่าทำให้ความธรรมดาของละครเค้าเป็นที่ประทับใจ อย่างน้อยๆ วิวเค่ะที่ต้องยอมรับว่าดูแล้วชอบใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเมืองหลวง เรื่องของวิวชนบท เรืองราวพื้นฐาน เบื้องลึก เบื้องหลังของคาแร็คเตอร์มันทำให้อะไรดูลงตัว เราคนหนึ่งที่ต้องบอกได้ว่าเป็นคนห่างไกลคำว่าสาวกเกาหลีสำหรับเรื่องของซีรีย์ แต่ว่าเรื่องที่ดูๆ มาก็ชอบเกือบทุกเรื่องเลยค่ะ ไม่ติดแต่ก็ชอบถ้าดูก็จะดูหมด ... ตอนนี้มีหลายเรื่องเหมือนกันนะค่ะที่ยังพลาด ก็ได้แต่ว่าขอมีเวลาสักหน่อยค่อยติดตามกันอีกทีล่ะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:29:06 น.  

 
ผมเองก็ส่งหนังสือไปให้คุณไฮกุแล้วล่ะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:17:36 น.  

 
ขอบคุณมากครับคุณไฮกุ

ที่ช่วยคอมเม้นต์สำนวนเฉิ่ม ๆ ของผมที่บ้าน

พอมาอ่านทบทวน ก็อยากเขกกระโหลกตัวเอง

คิดว่าอ่านทบทวนหลายเที่ยวแล้วนี่นา

ยังมีหลุดออกมาให้ขายขี้หน้าจนได้

แก่แล้วมันก็ยังงี้แแหละ

นิยายเกาหลีเรื่องนี้ ดูเหมือนจะเคยผ่านตามาแล้ว

แม้จะไม่ได้ดูแบบเกาะติด แต่ก็รู้เรื่องโดยตลอด

เพราะคนที่บ้านเขาเปิดแบบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มาถึงเราด้วย

แถมบางฉากบางตอน คุณเธออินกับเนื้อเรื่องเอาหนัก

ร้องไห้เสียน้ำหูน้ำตาแทบจะท่วมบ้าน

กว่าละครจะจบก็เปลืองกระดาษทิชชู่ไปหลายม้วน

ไม่รู้เป็นไง คนเรานี่ก็แปลก

ดูหนังดูละครคิดว่าจะให้ความบันเทิงใจ

กลายเป็นว่า ยิ่งดูยิ่งเศร้า ร้องไห้จนแทบจะขาดใจตายตามตัวเอก

แต่ดันบอกว่าละครเรื่องนี้ดีสุดยอด

ทำเอาผมงงไปเหมือนกัน...

ยังไงก็ต้องรบกวนคุณไฮกุ ให้ช่วยไปอ่านเรื่อง "สังเวียนคน" ตอนต่อ ๆ ไปด้วยนะครับ

คอมเม้นต์แบบนี้ผมชอบจริง ๆครับ

ขอบคุณอย่างจริงใจอีกครั้งครับ...


โดย: ลุงแว่น วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:59:42 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับคุณไฮกุ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:5:06:37 น.  

 
อ่านเพลินเลยค่ะ ภาพในเรื่องก็น่านรักจัง


โดย: KOok_k วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:5:30:39 น.  

 
คุณไฮก์
จ๊ากส์....มาแก้ตัว เอ้ย..แก้ข่าว

พี่ไม่ได้บอกว่าไม่ได้อ่านซะกะหน่อย 555
แหม...ต้องอ่านจนจบซิ
จขบ อุตส่าห์ตั้งใจพิมพ์มาให้อ่านขนาดนี้
แถมยังมีรูปประกอบเพื่อบิ้วอารมณ์อีก
ที่เขียนได้เข้าประเด็นก็เพราะอ่านจากข้างบนนี่แหละ (ไม่ได้นั่งทางในหรอก)
ซีรี่นี้ ไม่ได้ดูตั้งแต่ต้นจนจบหรอกครับ แค่เห็นแว็บๆ
จำฉากในโรงเรียนได้บ้างไม่ได้บ้าง
ตอนนั้นดูไม่เข้าใจ พอมาอ่านเนื้อเรื่องแบบนี้แหละ ก็อินกับเรื่องเลย

พี่เห็นด้วยกับคุณนะที่ว่า นักเขียนนิยายของเกาหลีบางท่านนี่
เขาจินตนาการฉากและองค์ประกอบต่างๆได้เก่งมาก
โดยเฉพาะบางครั้งมีตัวละครแค่ 2 คน แต่พูดเฉือนอารมณ์ได้ดี
ก็ไม่รู้ว่าถ้าเราเข้าใจโวหารภาษาเกาหลีมากๆ เราอาจจะอึ้งมากกว่านี่หรือเปล่า
เหมือนอย่างละครชีวิตของจีน บางทีเขาเล่นคำ แบบว่าคนจีนถึงกับปรบมือว่า
ใช้ภาษาได้ไพเราะ แทรกแฝงความหมายที่กินใจ
แต่พอแปลเป็นภาษาบ้านเรา ก็แค่ว่า ดีใจ เสียใจ โกรธ อะไรประมาณนี้
อาศัยว่าดาราเขาทำสีหน้าท่าทางให้เห็นว่า เจ็บปวดกับคำพูด ถึงทราบว่า แหม..ว่าได้แสบนัก
ผมว่าบทพูดในทีวี ไม่ว่าจะของชาติไหนๆ บางเรื่องเขาคิดออกมาได้ดีมากๆเลยนะ
ของไทยก็มีนะ แต่ขอเวลานึกก่อนนะ 555


ดูหนังดูละคร
ย้อนดูตัวเราน่าเศร้านัก
หลงรักนักแสดง

เอ้...ไม่ได้ว่าใครนะ หรือว่ามีใครแถวนี้ชอบพระเอกเกาหลีน้า
อิอิ ผู้ชายดูหนังเกาหลีแล้วร้องไห้ตามนี่ เป็นตุ๊ดหรือเปล่านะ?



โดย: zoomzero วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:01:01 น.  

 
วันก่อนพอเม้นท์ในblogคุณไฮกุเสร็จก้อติดอยู่ในblogอีกรอบหนึ่งคะทั้งนั่งดูนั่งอ่านเรื่องย่ออีกครั้ง ชอบนะคะ แล้วก็ขอบคุณมากนะคะ ที่แวะเข้าไปทักทายและอ่านเรื่องขำๆกัน
สงสัยว่า ตาสมชายเนี๊ยะ แกคงหลงน้องไขศรีมากมั๊งคะเลยหาข้อแก้ตัวให้ตัวเอง 555 ตามภาษาผู้หญิง ต้องบอกว่า นี่แหละสม(น้ำหน้า คร้า)


โดย: cengorn วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:03:50 น.  

 
ตามมาย้อนอดีตกับซีรีส์เรื่องโปรดด้วยคนคะ..ช่วงนั้นใคร ๆ ก็พูดถึงพี่ชาย พี่ชาย เป็นซีรีส์เกาหลีเรื่องแรกที่ดูเลยค่ะ แล้วก็ทำให้ติดตามเรื่องอื่น ๆ คุณ Haiku อัพบล็อกทำให้จำความรู้สึกตอนที่ดูเรื่องนี้ได้ดีเลยคะ ขอบคุณนะคะ


โดย: behappybecool วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:06:15 น.  

 
สวัสดีค่ะ เข้ามาเยี่ยมชมบล๊อก แล้วก็ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันนะคะ

ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ทุนด้วยค่ะ

ทุนเรียนฟรี 1 ปี พร้อมที่พักระหว่างเรียน IELTS-EFL / PreMaster @Cambridge, UK รวม 30 ทุน

ถ้าผู้ได้ทุนเป็นนักเรียน โรงเรียนจะได้รับเงินบริจาค จากวิทยาลัย 10000 บาท ต่อนักเรียน 1 คนด้วยค่ะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Mrs Rachinya Wilson,
International Director & Scholarship Coordinator
Cambridge Seminars Tutorial College
143-147 Newmarket Roead,
Cambridge, CB5 8HA
UK

Tel 00 44 1223 313 464
00 44 1223 300 123
00 44 7940 589 077

E mail camsem@hotmail.co.uk
rachinya@camsem.co.uk
rachinya.wilson@cambridgesemainars.co.uk

Websites: //www.cambridgeSTcollege.com
//www.camsem.co.uk
//www.cambridgeseminars.co.uk

หรือ ติดตามเอกสารประชาสัมพันธ์ทุนนี้ได้ที่สถานศึกษา หน่วยงานราชการทุกแห่งที่สังกัด กรมสามัญการศึกษา สำนักงานการศึกษาเอกชน กรมอาชีวศึกษา สกอ และ กพ

หรือ ติดตามได้ในบล๊อกนะคะ

กรุณาช่วยบอกต่อทุกคนที่รู้จักเพื่อเป็นวิทยาทานด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ



โดย: mookyja วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:4:09:13 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับคุณไฮกุ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:5:51:27 น.  

 

สังเวียนคน ภาค 3

"ผู้ชนะ"





ลงโรงฉายแล้วครับ

เชิญติดตามวิถีชีิวิตของเด็กหนุ่มที่กำลังเดินทางมาถึงจุดหักเหสำคัญ ได้แล้วครับ.....


โดย: ลุงแว่น วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:6:32:01 น.  

 
ณ มน...น้องมูนหน้าตาจิ้มลิ้มเนาะ เดี๋ยวนี้โตเป็นสาวแล้ว แต่เรายังติดภาพน้องเค้าตอนเล่นออทั่มอยู่เลยค่ะ

คุณนิด...ทำบล๊อคนี้อย่างด้วยความรักซีรีส์เรื่องนี้มาก ดีใจที่คุณนิดและเพื่อน ๆ ชอบกันนะคะ

ซีรีส์เกาหลีเขาขึ้นชื่อเรื่องวิวจริง ๆ ค่ะ แต่ละเรื่องหาโลเกชั่นได้สวยสุดยอด โดยเฉพาะซีรีส์ยุคแรก ๆ อย่างซีรีส์สี่ฤดู...Autumn in My Heart, Winter Love Song, Summer Scent, Spring Waltz (สี่เรื่องนี้กำกับโดยผกก.คนเดียวกันค่ะ) ผกก.ยูนถ่ายทอดภาพธรรมชาติออกมาได้สวยขาดใจ ดูเรื่องซึ้ง ๆ บวกกับวิวงาม ๆ ทำให้คนดูยิ่งอินใหญ่ ก็ขนาดคุณนิดที่ไม่ได้เป็นสาวกซีรีส์เกาหลี ดูแล้วก็ยังติดใจเลยเนาะ อีกอย่างที่ต้องพูดถึงคือเพลงประกอบซีรีส์นี่แหละ แต่งได้เพราะมากแทบจะทุกเรื่องเลยค่ะ

คุณก๋า...ใจดีจริง ๆ เลย ยังไม่ได้โอนเงินให้ก็ส่งหนังสือให้แล้ว ได้รับหนังสือเรียบร้อยแล้วนะคะ เราโอนเงินให้ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว เดี๋ยวหลังไมค์ไปบอกอีกทีค่ะ หนังสือสวยจัง พิมพ์ดีมาก แถมเป็นหน้าสีหมดเลย หนังสือธรรมะแบบนี้ เด็กอ่านได้ผู้ใหญ่อ่านดีค่ะ

ลุงแว่น...ดีใจที่ทำตัวเป็นประโยชน์ให้คุณลุงได้นะคะ สำนวนเขียนของคุณลุงดีออก ไม่เฉิ่มซะหน่อย เรื่องอ่านตรวจทานเป็นธรรมดาที่ต้องมีหลงหูหลงตาไปบ้าง เราเองเคยตรวจปรู๊ฟหนังสือมาหนนึง อ่านทวนหลายสิบเที่ยวก็ยังเจอที่ผิดอยู่ดี

ทีวีเอาเรื่องนี้มาฉายตั้งสามสี่รอบก็ยังมีคนตามดูตรึม สาวกไม่ได้มีแต่ผู้หญิง ผู้ชายก็ชอบเรื่องนี้กันเยอะ ก็ซีรีส์มันดีจริง ๆ ค่ะ คงมีไม่กี่เรื่องหรอกที่ทำให้ร้องไห้เป็นเผาเต่าได้ทุกครั้งที่ดู

คุณกิ๊ก...เดี๋ยวเราปั๊ตตะนาขึ้น capภาพเป็นแล้ว อยากได้ภาพตอนไหนก็capเอง ที่จริงอยากแปะภาพเยอะกว่านี้ แต่กลัวบล๊อคจะยาวเกินเลยต้องตัดใจเลือกภาพเท่าที่เห็นนี่แหละจ๊ะ

พี่ซูม...เป็นปลื้มที่คุณพี่อ่านจนจบนะคะ ที่จริงถึงอ่านไม่จบน้องก็ไม่ว่าน้า ก็บล๊อคมันยาวน่ะ แล้วบล๊อคตอนต่อไปจนจบเรื่องก็จะยาวพอ ๆ กันเลย อย่างที่บอกว่าบล๊อคนี้ขุดของเก่ามาอัพ เลยแค่ก๊อปเนื้อเรื่องที่เคยพิมพ์ไว้มาแปะ จะเสียเวลาก็ตอนcapรูปนี่แหละค่ะ

ที่จริงละครเกาหลีที่ห่วย ๆ ก็มีไม่น้อยนะคะ แต่เรื่องที่ดีก็ต้องชมฝีมือคนเขียนบทจริง ๆ จะแนวเศร้า ซึ้ง ตลกเฮฮา ดูแล้วอินไปโม้ดดด เริ่มดูแล้วหยุดไม่ได้ สาวกซีรีส์เกาหลีรายไหนรายนั้นต้องมีประสบการณ์เป็นหมีแพนด้า อดตาหลับขับตาอดนอน ดูแบบนันสตอปจนบักโกรก ตาคล้ำกันเป็นทิวแถว เวลาดูซีรีส์ต่างประเทศ ถ้าฟังเสียงในฟิลม์ออกก็จะยิ่งอินค่ะ น้องชอบดูซีรีส์เกาหลี แต่ไม่ได้ขวนขวายเรียนภาษาเกาหลีอย่างหลายคนทำกัน แต่คิดว่าคนแปลบทบ้านเราคุณภาพโอเคเลยนะคะ โดยเฉพาะคนแปลบทของช่องสาม จะเป็นซีรีส์ของชาติไหนก็แปลได้ดีมาก ส่วนเรื่องภาษาจีน บางทีหาคำแปลในภาษาไทยให้ตรงและได้ใจความเท่ากันยากเหมือนกันค่ะ คนแปลต้องมือถึง ไม่งั้นหนังดี ๆ ก็ทำให้หายสนุกไปเลย

ละครไทยที่เขียนบทได้ดีเท่าที่นึกออกก็มีหลายเรื่อง เป็นแฟนละครช่องสามก็เลยขอยกตัวอย่างแต่ละครของช่องนี้ละกัน ถ้าเป็นละครเก่า ๆ ละก็ มีอยู่หลายเรื่อง...คำมั่นสัญญา, แต่ปางก่อน, รัตนาวดี, ในฝัน, ทหารเสือพระเจ้าตาก, สายโลหิต, ทางผ่านกามเทพ, ธรณีนี่นี้ใครครอง และฯลฯ ส่วนละครใหม่ ๆ ก็มี อุ้มรัก สูตรเสน่หา แม่ค้าขนมหวาน ละครของx-actก็เขียนบทได้ดีเหมือนกัน ที่ชอบมากก็คือ เลือดขัตติยา หรือจะเป็นละครแนวตลกก็จะสนุก ๆ แทบทั้งนั้น กระทั่งเรื่องที่มีบทชายรักชายอย่าง พรุ่งนี้ก็รักเธอ ก็เขียนบทได้ไม่น่าเกลียด ดูแล้วแอบเชียร์พี่พีร์กะน้องก้องอีกตะหาก

ตรงที่เขียนตบท้ายนั่น น้องยอมรับแต่โดยดีไม่มีข้อโต้เถียงใด ๆ ทั้งสิ้นฮ่ะ ก็พระเอกเกาหลีน่ะ นอกจากจะรูปงามแล้วนิสัยก็เพอร์เฟค แถมรักนางเอกสุดจิตสุดใจ (ดูไปก็นึกภาพว่าตัวเองเป็นนางเอกไปน่ะ ) แถมส่วนใหญ่จะไม่ค่อยโง่อย่างพระเอกบางประเทศ แบบนี้แล้วจะให้ทำใจแข็งอยู่ได้ไงจ๊ะ ที่จริงผู้ชายเกาหลีส่วนใหญ่จะไม่แสนดีอย่างในละครหรอก (อันนี้ฟังมาจากเพื่อนหรือคนที่รู้จักคนเกาหลีดีบอกน่ะ) แต่ที่แน่ ๆ ก็พี่ชายหวานใจน้องนี่แหละที่นิสัยดีมาก เรียกว่าเป็นพระเอกทั้งนอกจอในจอเลยเชียว

ไหน ใครหน้าไหนที่ว่าผู้ชายดูหนังเกาหลีแล้วร้องไห้ตามเป็นตุ๊ด อันนี้ขอเถียงแทนว่าไม่จริงแน่นอน ถ้าเรื่องไหนมันดี ดูแล้วซึ้ง สะกิดความรู้สึกได้ ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็มีสิทธิ์นำ้ตาไหลได้เท่าเทียมกันแหละค่า

คุณcengorn...ขอบคุณที่แวะมาอีกรอบนะคะ ทั้งอ่านเนื้อเรื่องทั้งดูคลิปเรียบร้อย ไว้อัพตอนสองเสร็จจะแวะไปบอกค่ะ ไปอ่านเรื่องที่บล๊อคคุณแล้วฮากลิ้ง ผู้ชายเจ้าชู้อย่างอีตาสมชายต้องเจอภริยาอย่างน้องหญิง โดนสามีต่อว่าก็แก้ได้เป็นเปลาะ ๆ แบบอารมณ์เย็น เชือดนิ่ม ๆ แถมเยาะเย้ยให้เจ็บใจอีกตะหาก อ่านจม.ของน้องหญิงจบแล้วเฮลั่นเลย

คุณบี...ซึงฮอนเล่นเรื่องนี้เลยกลายเป็นพี่ชายของสาวไทยทั้งประเทศไปเลย ไม่แค่นั้น ตอนที่พี่ชายมาถ่ายหนังในบ้านเรา พวกทีมงานเกาหลีได้ยินแฟนคลับเรียกพี่ชาย ยังพลอยเรียกตามไปด้วยเลย

คุณmookyja...ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ ทุนดี ๆ แบบนี้แปะข่าวได้เลยค่า ใครอยากได้ทุนไปเรียนอังกฤษ ก็ตามไปอ่านรายละเอียดที่บล๊อคของคุณmookyjaได้เลยจ้า

ลุงแว่น...โห คุณลุงเขียนไวจัง ได้อ่านตอนใหม่อีกแล้ว ขอบคุณที่แวะมาบอกนะคะ

อ้อ เกือบลืมไป โอนเงินไปค่าหนังสือเรียบร้อยแล้วนะคะ


โดย: haiku วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:36:59 น.  

 
สวัสดียามค่ำครับคุณไฮกุ


ภาพแม่น้ำคงคาผมถ่ายไว้ในช่วงเช้าตรู่เท่านั้นครับ
แต่ที่เห็นท้องฟ้าเป็นคนละสี
เพราะชั่วพริบตาเดียว
ฟ้าก็เปลี่ยนสีเลยครับ
เป็นภาพที่สวยงามมากครับ

ปล. หนังสือหมื่นตาธรรมะขายดีเกินคาดครับ
ตอนนี้พิมพ์ครั้งที่สองแล้วล่ะครับ
พิมพ์ซ้ำในการวางขายแค่สองสัปดาห์เองครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:41:59 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับคุณไฮกุ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:6:25:41 น.  

 
นานๆจะอัพบล็อกสักที

เพราะภารกิจหลาย

วันนี้แนะนำเรื่อง Iris ค่ะ คุณไฮกุ

เรื่องนี้เป็น top 3 ของตัวเองค่ะ



โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:49:57 น.  

 
มาตามข่าวผลการตรวจคับ


โดย: นางาเสะ ไลท์ วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:08:50 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับคุณไฮกุ










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:6:32:12 น.  

 



"สังเวียนคน"

ตอนที่ 4 "ผู้แพ้"





เรียนเชิญมาช่วยกันเชียร์ช่วยกันลุ้น

ลูกผู้ชายนักสู้ที่ชื่อไอ้ตงกันต่อครับ...


โดย: ลุงแว่น วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:01:37 น.  

 

หนังน่ารักจัง..
ขอบคุณที่ post ลงมาฝากกัน..อย่างขยันเลย
อ่าน+ดูกันเต็มตา เต็มอิ่ม..จุใจ



เอาองุ่นมาฝาก 1 ท้องร่องค่ะ
เอาไว้เติมพลังงานต่อๆไป



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:17:05 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับคุณไฮกุ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:6:22:31 น.  

 
สวัสดียามอากาศร้อนค่ะ
อากาศร้อน อย่าใจร้อนนะคะ


โดย: Charlotte Russe วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:05:44 น.  

 
คุณก๋า...สองรูปเหมือนกับถ่ายตอนเช้ากะเย็นเลยอ่ะ สวยถูกใจมั่ก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าเวลาห่างกันไม่กี่มากน้อยเอง วิวเมืองอินเดียงามไม่แพ้ใครเลยเนาะ

ปล. เห็นม้า เราพูดไว้ไม่ผิดว่าเรตติ้งหนังสือคุณก๋าต้องพุ่งกระฉูดแน่ ดีใจด้วยนะคะ แบบนี้ทั้งคุณก๋าและเจ้าของสนพ.คงมีกำลังใจผลิตหนังสือดี ๆ ออกมาอีก

คุณยุ้ย...อยากดูเรื่องนี้จัง แต่ยังไม่ได้ดูเรื่องนี้เลยค่ะ เดี๋ยวตามไปฟังคุณยุ้ยเม้าท์ที่บล๊อคค่ะ

น้องไลท์...พอดีวันที่คุณหมอนัดไว้พี่ไม่ว่าง เลยเลื่อนมาอีกอาทิตย์นึง วันมะรืนนี้แหละค่ะ ตรวจแล้วได้ผลว่าไงจะไปรายงานให้ทราบคับพ้ม

ลุงแว่น...ขอบคุณที่แวะมาบอกนะคะ แล้วะจะตามไปอ่านค่า

คุณอ้อ...องุ่นง๊ามงาม น่าหมำ่มั่ก ๆ ขอบคุณที่เอามาฝากนะจ๊ะ

คุณCharlotte...หายไปนานเลย ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมกันนะคะ


โดย: haiku วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:32:53 น.  

 
แวะมายิ้มให้นะคะ


โดย: natalee IP: 125.24.75.7 วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:13:07:53 น.  

 
ดีใจมากที่นาตาลีมากที่แวะมารำลึกความหลังด้วยกันนะคะ

ยังจำได้ว่าตอนที่โพสเรื่องนี้ในออทั่มไทย เราคุยกันถูกคอสุด ๆ เพราะรักซีรีส์เรื่องนี้มากพอ ๆ กัน ผ่านไปเป็นสิบปีแล้ว ยังไม่มีซีรีส์เรื่องไหนทำให้ประทับใจเท่าเรื่องนี้เลยเนาะ


โดย: haiku วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:21:44:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.