Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 
6 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 

ทอนซิลอักเสบ..ควรผ่าตัดเมื่อใด



หน้าที่ของต่อมทอนซิล

ต่อมทอนซิล คือต่อมน้ำเหลืองที่อยู่บริเวณด้านข้างลำคอตรงโคนลิ้น
เป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ภายในต่อมมีเม็ดเลือดขาวหลายชนิดทำหน้าที่คอยดักจับเชื้อโรค

ต่อมทอนซิลจะทำหน้าที่ด้านระบบภูมิคุ้มกันมากที่สุดเมื่ออายุ 4-10 ปี หลังจากนั้นจะมีขนาดเล็กลง
แต่ยังทำงานเกือบตลอดชีวิต ถ้าต่อมทอนซิลเกิดการอักเสบบ่อยๆ จะทำให้เม็ดเลือดขาวในต่อมทอนซิลลดลง
ส่งผลให้ฆ่าเชื้อโรคและสร้างภูมิคุ้มกันได้ลดลงด้วย และบางครั้งแทนที่ต่อมทอนซิลจะเป็นที่กำจัดเชื้อโรค
กลับกลายเป็นที่เก็บเชื้อโรคแทน ทำให้เกิดการอักเสบได้บ่อยๆ


อาการของทอนซิลอักเสบ

ทอนซิลอักเสบจะมีอาการคล้ายคออักเสบธรรมดา แต่อาการจะรุนแรงกว่า
ทอนซิลอักเสบเป็นภาวะอักเสบเฉพาะที่ต่อมทอนซิล

ส่วนคออักเสบเป็นภาวะอักเสบของเนื้อเยื่อในลำคอ ที่อยู่บริเวณหลังช่องปากเข้าไป
บางครั้งภาวะทั้งสองอาจเกิดพร้อมกันได้

หากสงสัยว่าเป็นทอนซิลอักเสบหรือไม่
ลองส่องกระจกดูจะพบว่าบริเวณต่อมทอนซิลบวม แดง โต และมีหนอง
ผู้ป่วยมักจะมีอาการเจ็บคอ มีไข้ หนาวสั่น และเวลากลืนอาหารจะเจ็บมาก


สาเหตุของทอนซิลอักเสบ

ทอนซิลอักเสบอาจเกิดได้ทั้งจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย
สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน มักเกิดจากเชื้อไวรัส และติดต่อกันได้ง่าย เพราะยังไม่รู้จักวิธีป้องกันโรค
ส่วนเด็กโตและผู้ใหญ่ มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
ส่วนใหญ่เป็นเชื้อกลุ่มเดียวกับที่ทำให้เป็นหวัด หรือเชื้อที่ทำให้เกิดการอักเสบของระบบหายใจตอนบน


การรักษาทอนซิลอักเสบ

ปกติแพทย์จะให้การรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาบรรเทาอาการเจ็บคอ ให้ยาลดน้ำมูก ให้ยาแก้อักเสบ
เพื่อกำจัดเชื้อต้นเหตุ หากเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ
ในปัจจุบันยาในกลุ่มเพนนิซิลินยังใช้ได้ผลดี ยกเว้นเชื้อบางกลุ่มที่ดื้อยา แพทย์จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะที่แรงขึ้น
ในรายที่มีอาการมากๆ เช่น เจ็บคอจนรับประทานอาหารไม่ได้ และมีไข้สูง
แพทย์จะแนะนำให้นอนโรงพยาบาล เพื่อให้น้ำเกลือและยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ
ซึ่งจะทำให้อาการดีขึ้นเร็วกว่าการให้ยากลับไปรับประทานที่บ้าน แต่หากเกิดจากการติดเชื้อไวรัส
แพทย์จะให้ยารักษาตามอาการเท่านั้น เพราะยาปฏิชีวนะไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้

หากเป็นทอนซิลอักเสบบ่อยๆ ต่อมทอนซิลจะโตขึ้น เกิดร่องหรือซอก ทำให้เศษอาหารเข้าไปตกค้าง
และจะทำให้กลายเป็นการอักเสบแบบเรื้อรัง

กรณีที่ทอนซิลโตมากๆ อาจรบกวนการนอน ทำให้นอนกรน นอนหลับไม่สนิท กระสับกระส่าย
บางครั้งรุนแรงจนทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย
และหากเป็นทอนซิลอักเสบแล้วปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา หนองที่ทอนซิลจะลามไปที่บริเวณข้างเคียง
เช่น บริเวณช่องว่างรอบทอนซิล ทำให้เกิดเป็นฝีรอบต่อมทอนซิล แล้วลุกลามผ่านช่องคอ
เข้าสู่ช่องปอดและหัวใจ นอกจากนี้ เชื้อแบคทีเรียยังอาจเข้าสู่กระแสเลือด
แล้วกระจายไปทั่วร่างกาย จนอาจทำให้เสียชีวิตได้


เมื่อใดที่ควรจะผ่าตัดต่อมทอนซิล
แพทย์จะพิจารณาผ่าตัดต่อมทอนซิลก็ต่อเมื่อ

1.ต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรัง รักษาด้วยยาไม่ได้ผล หรือเกิดการอักเสบซ้ำซาก ปีละ 6-7 ครั้ง หรือปีละ 2-3 ครั้ง
แต่เป็นหลายปีติดต่อกัน

2.ต่อมทอนซิลโตมากๆ เป็นอุปสรรคต่อการหายใจ
ซึ่งจะทำให้ปอดฟอกอากาศได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ หรือเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

3.ผู้ป่วยที่เป็นพาหะของเชื้อคอตีบ
ซึ่งปัจจุบันพบได้น้อยแล้ว หรือผู้ป่วยที่เคยเป็นหนองบริเวณช่องรอบต่อมทอนซิลมาก่อน

4.ผู้ป่วยที่มีต่อมทอนซิลโต และแพทย์สงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งของต่อมทอนซิลโดยตรง
หรือมีมะเร็งที่ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอแล้วหาตำแหน่งมะเร็งต้นเหตุไม่พบ
และสงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งที่มาจากต่อมทอนซิล

หลังผ่าตัด แพทย์จะให้ยาบรรเทาอาการเจ็บคอ และให้อาหารเหลวในวันแรกหลังการผ่าตัด
จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นอาหารอ่อนเมื่ออาการเจ็บคอดีขึ้น
ส่วนในรายที่ไม่สามารถกลืนอาหารและน้ำได้เพราะเจ็บมาก แพทย์จะให้สารอาหารทางหลอดเลือดด้วย

ภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด มีผู้ป่วยประมาณร้อยละ 1-2 ที่มีเลือดออก
แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยนอนพักในโรงพยาบาล 1 คืนเพื่อสังเกตอาการ
ประมาณร้อยละ 3 จะมีเลือดออกหลังจากที่ผู้ป่วยกลับบ้านไปแล้ว

ส่วนผู้ป่วยที่มีเลือดออกในวันที่ 5-10 หลังผ่าตัดนั้น มักเกิดจากสะเก็ดแผลหลุดออก
แต่โดยทั่วไปเลือดจะหยุดได้เอง


จากรายงานพบว่า หลังจากตัดต่อมทอนซิลแล้ว ภูมิคุ้มกันของร่างกายอาจจะลดลงชั่วคราว
แต่ไม่พบว่ามีการติดเชื้อบ่อยขึ้นกว่าปกติ
นอกจากนี้ที่บริเวณคอยังมีต่อมน้ำเหลืองอีกหลายร้อยต่อม ซึ่งจะช่วยกันทำงานหลังจากตัดต่อมทอนซิลไปแล้ว

ทอนซิลอักเสบเป็นโรคที่พบได้บ่อย แต่ยังไม่มีวิธีป้องกันโรคนี้แบบเฉพาะเจาะจง
ทำได้เพียงดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อให้ภูมิต้านทานของร่างกายเป็นเกราะป้องกันโรค
โดยการรับประทานผัก ผลไม้ และดื่มน้ำให้มากขึ้น พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
และระมัดระวังหากต้องอยู่ใกล้กับผู้ป่วย

และหากเกิดโรคขึ้นแล้ว ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง และรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงมากขึ้น


โดย เอมอร คชเสนี
ที่มา ://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9490000080636
ภาพจาก ://kidshealth.org/teen/infections/common/tonsillitis.html


เรื่องที่เกี่ยวข้อง : ทอนซิลอักเสบ...เป็นมากกว่าเจ็บคอ


สารบัญสุขภาพ





 

Create Date : 06 ธันวาคม 2552
3 comments
Last Update : 4 มิถุนายน 2553 12:31:04 น.
Counter : 4457 Pageviews.

 




หนูเป็นทอลซิลบ่อยมาก วันไหนที่หัวเราะมาก วันต่อมาก็เป็น ค่ะ พอหายแล้ว อาทิตย์ต่อมา ก็รู้สึกเคืองที่ลำคอ และหายใจไม่ค่อยสะดวก ค่ะ กลืนน้ำลายก็ลำบาก หนูควรจะทำอย่างไรดี ค่ะ

 

โดย: ning.nong1234@hotmail.com IP: 180.180.33.79 5 เมษายน 2553 10:31:03 น.  

 

ผมแนะนำยาตัวนึงครับแก้เจ็บคอ+ลดอาการอักเสบดีเลย
เป็นสเปรย์อะครับ ผมก็ใช้อยู่นะ ของ propoliz spray นะ
ใช้ง่ายดีเพราะเป็นสเปรย์พ่น พกไปไหนมาไหนสะดวกดี
ลองดูครับแล้วจะชอบ

 

โดย: GOTCHA IP: 101.108.246.32 22 กรกฎาคม 2555 4:05:56 น.  

 

น่าใช้ดีนะคะ กำลังอยากได้ยาที่พกง่ายใช้สะดวกอยู่พอดีเลย ขอบคุณที่แนะนำโพรพิลิสสเปรย์ค่ะ

 

โดย: หนึ่งเดียวคนนี้ IP: 125.25.50.43 25 สิงหาคม 2555 23:45:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.