Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
24 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
ทำอย่างไรไม่ให้สมองเสื่อม

ทำอย่างไรไม่ให้สมองเสื่อม

ภาวะสมองเสื่อม เป็นปัญหาที่พบบ่อยในปัจจุบัน เหตุผลคือประชากรทั่วโลกมีอายุยืนยาวขึ้น
สำหรับประเทศไทยอายุเฉลี่ยของประชากรอยู่ที่ 72 ปี โดยผู้ชายมีอายุเฉลี่ย 68 ปี ในขณะที่ผู้หญิงอายุ 75 ปี
และพบอุบัติการณ์ของภาวะสมองเสื่อมจะสูงขึ้นตามอายุ โดยเฉพาะผู้สูงอายุจะพบราว 2-9.88 เปอร์เซ็นต์
และ 2 โรคที่เป็นสาเหตุหลักสำคัญคือ โรคอัลไซเมอร์ และโรคหลอดเลือดสมอง

องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประมาณการไว้ว่า
มีผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อม 18 ล้านคนในทวีปยุโรป แอฟริกา เอเชีย และละตินอเมริกา
และในปี พ.ศ. 2563 จะเพิ่มขึ้นเป็น 29 ล้านคน มีการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่าในปี พ.ศ. 2540
มีผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ 2.32 ล้านคน และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 4 เท่าในอีก 50 ปีข้างหน้า
แต่ถ้ามีวิธีการที่สามารถชะลอการเกิดโรคได้ 2 ปีจะมีผู้ป่วยลดลงได้ 2 ล้านคน
ถ้าชะลอได้ 1 ปี จะลดลงได้ 800,000 คน ดังนั้นหากสามารถป้องกันโรคสมองเสื่อมได้ จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมหาศาล


อะไรบ้าง ที่เป็นความเสี่ยงของการเกิดภาวะสมองเสื่อม
โรคอัลไซเมอร์มีส่วนที่เกิดจากโรคของหลอดเลือด และพบว่า
ผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมส่วนหนึ่งเกิดจากสาเหตุร่วมกัน ระหว่างโรคอัลไซเมอร์และโรคหลอดเลือดสมอง
ดังนั้นการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง นอกจากสามารถป้องกันภาวะสมองเสื่อมที่เกิดจากโรคหลอดเลือดสมอง-
โดยตรงแล้ว ยังมีผลในการป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ด้วย


น้ำหนักตัวเกิน
ดรรชนีมวลกาย (BMI: body mass index ) ได้จาก
การนำน้ำหนักตัวที่มีหน่วยเป็นกิโลกรัม หารด้วยส่วนสูงที่มีหน่วยเป็นเมตรสองครั้ง เช่น
คุณมีน้ำหนักตัว 50 กก. ส่วนสูง 1.50 ม. = 50 / 1.50 * 1.50 จะได้ดรรชนีมวลกาย = 22.22
สำหรับดรรชนีมวลกายที่เหมาะสมที่สุด สำหรับการป้องกันการเกิดภาวะสมองเสื่อมในอนาคต คือ 20 - 22.5
โดยเฉพาะถ้ามากกว่า 25 จะเพิ่มความเสี่ยงสูงมากขึ้น


สูบบุหรี่
เพิ่มโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองถึง 2 เท่า รวมทั้งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อมถึง 2.28 เท่า
ตรงกันข้ามหากงดสูบบุหรี่ตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป
จะช่วยลดอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดสมองลงได้ เท่าคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์


ดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดน้อยๆ ไม่เกิน 3 ดริ๊งก์ต่อวัน สามารถลดโอกาสเกิดภาวะสมองเสื่อมได้ 42 %
และยังลดโอกาสเกิดภาวะสมองเสื่อมจากโรคหลอดเลือดสมองได้ถึง 71 % ทั้งนี้ไม่ขึ้นกับชนิดของแอลกอฮอล์

อย่างไรก็ตามจากการศึกษาบางแห่งพบว่า ชนิดของแอลกอฮอล์สามารถลดโอกาสการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้
นั่นคือ ไวน์ แต่การศึกษาในประเทศญี่ปุ่นกลับพบว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของ-
การเกิดภาวะสมองเสื่อมจากโรคหลอดเลือดสมอง
อย่างไรก็ตามไม่แนะนำให้ดื่มแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันภาวะสมองเสื่อม
เนื่องจากแอลกอฮอล์มีผลเสียต่ออวัยวะอื่นๆ ของร่างกายหลายระบบ


สารอาหาร
การรับประทานวิตามินซีและวิตามินอีที่เพิ่มขึ้น จะช่วยลดอัตราการเกิดภาวะสมองเสื่อม
โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูบบุหรี่ จะยิ่งลดลงมากขึ้น
ขณะเดียวกันเราต้องการสารอาหารที่สำคัญอย่างกรดโฟลิกและวิตามินบี 12 ด้วย
แต่สำหรับการขาดวิตามินซีและวิตามินบี 12 มักไม่เป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทย
เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ได้รับในปริมาณเพียงพออยู่แล้ว


การบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง หรือมีไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลสูง
จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อม
การบริโภคไขมันจากพืชและโอเมก้า 6 (กรดไลโนเลอิก) ซึ่งพบมากในน้ำมันพืช เช่น น้ำมันจากดอกทานตะวัน
ถั่วเมล็ดแห้ง เมล็ดฟักทอง ถั่วเหลือง จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์
เช่นเดียวกับการบริโภคปลาทะเล จะช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์ได้
โดยลดความเสี่ยงลงเหลือ 0.4 และ 0.3 เท่าตามลำดับ


ขาดการออกกำลังกาย
ข้อมูลงานวิจัยล่าสุดพบว่า ผู้ที่อยู่ในวัยกลางคนออกกำลังกายอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ขึ้นไป
จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์ เมื่ออยู่ในวัยสูงอายุ ถึง 52 และ 62 เปอร์เซ็นต์
ตามลำดับ


ความดันโลหิตสูง
การที่มีความดันโลหิตสูงในวัยกลางคน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อมในวัยสูงอายุ
ถ้าได้รับการรักษา โอกาสเสี่ยงจะลดลงจาก 4.3 เท่า เป็น 1.9 เท่า เมื่อเทียบกับคนปกติ
ผลทางตรงคือผู้ป่วยจะมีการลดลงของปริมาตรสมอง น้ำหนักสมอง
และพบมีการเพิ่มขึ้นของรอยโรคชนิดที่พบในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ สำหรับผลทางอ้อมจะเกิดหลอดเลือดตีบแข็ง
และโรคหลอดเลือดสมองจากการที่มีความดันโลหิตสูงเป็นเวลานาน


โรคเบาหวานและภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน
อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์ และโรคหลอดเลือดสมอง
พบว่าอุบัติการณ์ภาวะสมองเสื่อมสูงขึ้น 2 เท่าในผู้ป่วยโรคเบาหวาน


ภาวะไขมันในเลือดสูง
การที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
อันนำไปสู่การเกิดภาวะสมองเสื่อมจากโรคหลอดเลือดสมองมากขึ้น และอาจทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์อีกด้วย

โรคหัวใจ
ผู้ป่วยโรคหัวใจชนิดต่างๆ มีโอกาสเกิดหลอดเลือดสมองอุดตันจากลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นในหัวใจ


การเปลี่ยนแปลงของระดับโฮโมซิสเตอีน (Hyperhomocysteinemia)
โฮโมซิสเตอีนเป็นสารเคมีชนิดหนึ่งในร่างกายที่เป็นกรดอะมิโน
หากสูงขึ้นจะทำให้เกิดพิษต่อเซลล์สมองและทำให้หลอดเลือดสมองตีบ มีการศึกษาพบว่าการเปลี่ยนแปลงของ-
โฮโมซิสเตอีนในร่างกายสัมพันธ์กับวิตามินบี 6 วิตามินบี 12 และกรดโฟลิก
หากขาดจะทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของโฮโมซิสเตอีน


ฮอร์โมนเพศหญิงทดแทน
ในปัจจุบันพบว่าฮอร์โมนเพศหญิงทดแทน ทำให้เกิดโรคมะเร็งเต้านม โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
โรคหลอดเลือดสมองตีบ และการอุดตันของหลอดเลือดดำ
แม้จะมีผลดีกับมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก การเกิดกระดูกหักก็ตาม
นอกจากนั้นยังพบอุบัติการณ์โรคหลอดเลือดสมองสูงขึ้น
อีกทั้งผู้ป่วยที่ได้รับฮอร์โมนเพศหญิงทดแทนชนิดรวม เกิดภาวะสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่า


อุบัติเหตุที่ศีรษะ
มีการศึกษาทางระบาดวิทยาหลายแห่งพบว่า ผู้ป่วยที่เป็นโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมจากสาเหตุอื่นๆ
มีประวัติเคยได้รับอุบัติเหตุที่ศีรษะมากกว่าคนที่สมองปกติ อย่างไรก็ตาม บางการศึกษาไม่พบว่าการได้รับ-
อุบัติเหตุที่ศีรษะมาก่อนเป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดภาวะสมองเสื่อม


อาการซึม สับสนเฉียบพลัน
เมื่อติดตามอาการซึม สับสนเฉียบพลันของผู้ป่วยกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง
พบว่า มีโอกาสเกิดภาวะสมองเสื่อมสูงขึ้นกว่าคนปกติ


โรคหลอดเลือดสมอง
การป้องกันการเกิดซ้ำของโรคหลอดเลือดสมอง ด้วยการแก้ไขปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูง,
โรคเบาหวาน การสูบบุหรี่ รวมถึงการรับประทานยาต้านเกร็ดเลือด เช่น แอสไพริน
หรือยากันเลือดแข็งตัว เช่น วาร์ฟาริน ในกรณีที่มีโรคหัวใจบางชนิด เท่ากับเป็นการป้องกันการเกิดซ้ำของโรค-
หลอดเลือดสมอง ขณะเดียวกันยังสามารถป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้ด้วย


โรคซึมเศร้า
มีการศึกษาวิจัยจำนวนมาก พบว่าอาการซึมเศร้ามีบทบาทสัมพันธ์กับภาวะสมองเสื่อม
อาจเป็นไปได้จากการที่อาการซึมเศร้าก่อให้เกิดปัญหาความจำ
หรือแท้จริงแล้วเป็นอาการหนึ่งของภาวะสมองเสื่อม โดยเกิดก่อนที่จะมีอาการสมองเสื่อมชัดเจน
การป้องกันและแก้ไขอาการซึมเศร้า จึงเป็นการป้องกันภาวะสมองเสื่อมอีกทางหนึ่ง


สารพิษในสิ่งแวดล้อมรอบตัว
แม้จะไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนถึงผลเสียของสารพิษต่างๆ ต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อม แต่มีหลายรายงานที่พบว่า
การได้รับสารพิษต่างๆ เช่น น้ำยาทำละลาย ตะกั่ว อลูมิเนียม เหล็ก ทองแดง และยาฆ่าแมลง
อาจมีส่วนทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อมได้



ภาวะสมองเสื่อมป้องกันได้

แม้ว่าการป้องกันภาวะสมองเสื่อม ยังต้องอาศัยการศึกษาวิจัยที่ยืนยันมากกว่านี้
แต่คุณก็สามารถป้องกันแต่เนิ่นๆ ได้ โดยปฏิบัติดังนี้

● รับประทานอาหารครบหมู่
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลสูง ใช้น้ำมันพืช เช่น น้ำมันจากดอกทานตะวัน, ถั่วเมล็ดแห้ง,
เมล็ดฟักทอง, ถั่วเหลือง, รับประทานปลาทะเลให้มาก รวมทั้งอาหารที่มีวิตามินซี วิตามินอี และกรดโฟลิกสูง

● รักษาน้ำหนักตัวไม่ให้เกินเกณฑ์โดยไม่ให้ดรรชนีมวลกายเกิน 25

● หลีกเลี่ยงยาหรือสารที่จะทำให้เกิดอันตรายแก่สมอง เช่น การดื่มเหล้าจัดหรือการรับประทานยาโดยไม่จำเป็น

● ไม่สูบบุหรี่หรืออยู่ในที่ๆ มีควันบุหรี่

● การฝึกฝนสมอง ได้แก่ การพยายามฝึกให้สมองได้คิดบ่อยๆ เช่น อ่านหนังสือ เขียนหนังสือบ่อยๆ คิดเลข
ดูเกมส์ตอบปัญหา ฝึกหัดการใช้อุปกรณ์ใหม่ๆ ฯลฯ

● ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3 - 5 ครั้ง เช่น วิ่งเหยาะ ปั่นจักรยาน เดินเล่น รำมวยจีน ฯลฯ

● การพูดคุย พบปะผู้อื่นบ่อยๆ เช่น ไปวัด ไปงานเลี้ยงต่างๆ หรือเข้าชมรมผู้สูงอายุ ฯลฯ

● ตรวจสุขภาพประจำปี หรือถ้ามีโรคประจำตัวอยู่เดิมก็ต้องติดตามการรักษาเป็นระยะๆ เช่น
การตรวจหาดูแลและรักษาโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ ฯลฯ

● ถ้ามีอาการเจ็บป่วย ควรปรึกษาแพทย์แต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เพื่อลดโอกาสเกิดอาการสับสนเฉียบพลัน

● ระมัดระวังเรื่องอุบัติเหตุต่อสมอง ระวังการหกล้ม

● พยายามมีสติในสิ่งต่างๆ ที่กำลังทำและฝึกสมาธิอยู่ตลอดเวลา

● พยายามไม่คิดมาก ไม่เครียด หากิจกรรมต่างๆ ทำเพื่อคลายเครียด
เนื่องจากความเครียดและอาการ ซึมเศร้า อาจทำให้จำอะไรได้ไม่ดี


มากมายหลายข้อขนาดนี้ หวังว่าคุณคงปฏิบัติได้ เพื่อสุขภาพที่ดีในวันนี้และวันหน้าครับ
ต้องการแสดงความคิดเห็นหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ pobmor_siriraj@yahoo.com

คอลัมน์ สายตรงสุขภาพกับศิริราช โดย ผศ.นพ.วีรศักดิ์ เมืองไพศาล
ข้อมูลจาก : //www.manager.co.th
ที่มา : //www.dmh.go.th


สารบัญสุขภาพ



Create Date : 24 พฤษภาคม 2553
Last Update : 24 พฤษภาคม 2553 13:44:54 น. 2 comments
Counter : 931 Pageviews.

 
ทักทายตอนบ่ายๆ จ้า อิอิ ^__^


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 24 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:06:59 น.  

 


โดย: nuyza_za วันที่: 24 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:18:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.