Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 
2 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
โรคย้ำคิด ย้ำทำ



ท่านคงเคยได้ยินคำว่า "ย้ำคิดย้ำทำ" และรู้สึกเหมือนกับเข้าใจ
แต่บางครั้งเวลามีใครมาถามว่าย้ำคิดย้ำทำนี่มันเป็นอย่างไรเรากลับตอบไม่ถูก

อาการย้ำคิดนั้นคือความคิดที่ผุดเข้ามาในสมองของเราโดยไม่ตั้งใจและ
ทำให้เกิดความกลัวหรือความกังวล ส่วนอาการย้ำทำคือการกระทำหรือ
การคิดเพื่อลดความกลัวหรือความกังวลที่เกิดจากอาการย้ำคิด

อาการย้ำคิดย้ำทำนั้นบางครั้งก็อาจเกิดขึ้นได้ในคนปกติ เช่น บางครั้งเราเพิ่งปิดไฟไปหยกๆ
แต่อยู่ๆก็มีความคิดผุดขึ้นมาในสมองว่าเอ..เมื่อกี้ปิดไฟเรียบร้อยหรือเปล่า
สวิทซ์อาจค้างปิดครึ่งๆกลางๆเดี๋ยวไฟจะชอร์ตนะต้องมากดสวิทซ์ซ้ำอีก 1 หรือ 2ที
เพื่อลดความกังวลที่เกิดขึ้นจึงจะ "ผ่าน" แบบนี้ใช่ครับ เป็นอาการย้ำคิดย้ำทำ
แต่ถ้าบางทีเป็น บางทีไม่เป็นหรือนานๆจะเป็นสักครั้งหนึ่งแบบนี้ก็ยัง
ไม่ถือว่าป่วย เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำครับ

เราจะถือว่าป่วยเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำเมื่ออาการย้ำคิดย้ำทำนั้นเป็นมาก
จนทำให้เกิดปัญหาหนึ่งใน 3 อย่างต่อไปนี้ครับ
1. อาการเป็นมากเลิกคิดเลิกทำไม่ได้จนทำให้รู้สึกเป็นทุกข์ทรมานมาก

2. อาการเป็นมากจนทำให้เสียงานเสียการเพราะมัวแต่ย้ำคิดย้ำทำหรือ
ต้องคอยหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะมากระตุ้นให้เกิดอาการย้ำคิด

3. อาการต่างๆทำให้ต้องทำอะไรที่อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้เช่น
ต้องกินเหล้ากินเบียร์เพื่อลดความเครียด โกรธและทำร้ายตัวเอง
หรือบางรายเกิดอาการซึมเศร้าอยากตายหรือพยายามฆ่าตัวตายก็มี

สาเหตุของอาการย้ำคิดย้ำทำมีรากฐานสำคัญมาจากความกลัว
โดยเรื่องที่ผู้ป่วยมักจะกลัวมีอยู่ 2 เรื่องใหญ่ๆคือ กลัวโชคร้าย กับกลัวความสกปรก
สำหรับตัวอย่างผู้ที่กลัวโชคร้าย เช่น กลัวสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะลงโทษทำให้ต้องยกมือไหว้วัดหรือ
ศาลทุกชนิดที่พบเห็น กลัวปิดประตูหน้าต่างไม่เรียบร้อยแล้วขโมยจะขึ้นบ้าน
ทำให้ต้องคอยตรวจตราประตูหน้าต่างทั่วบ้านซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายๆรอบจึงจะเข้านอนได้
สำหรับตัวอย่างผู้ที่กลัวสกปรก เช่น ล้างมือซ้ำแล้วซ้ำอีกเพราะยังรู้สึกว่าไม่สะอาด
อาบน้ำนานมากเพราะกลัวว่าจะล้างสบู่ออกไม่หมด
เดินผ่านกองขี้หมาก็ต้องดูรองเท้าซ้ำแล้วซ้ำอีกเพราะกลัวว่าจะเผลอไปเหยียบมันเข้า

ผู้ป่วยโรคย้ำคิดย้ำทำมักจะคอยถามคนใกล้ชิด
เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งที่ผู้ป่วยกลัวเกิดขึ้นด้วยเช่น
ถามคนที่เดินไปด้วยกันว่าตะกี้ฉันเหยียบขี้หมาหรือเปล่า หรือคอย
หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้เกิดความย้ำคิดเช่น
เดินอ้อมใช้ทางที่ไม่ผ่านศาลเจ้าเพราะกลัวจะเกิดคำด่าผุดขึ้นมาในสมองเวลาเดินผ่านศาล

คนที่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำนั้นยังรู้ว่าอะไรจริงอะไรไม่จริง ผู้ป่วยรู้ว่าสิ่งที่ตนกลัวนั้นไร้สาระ
แต่หยุดการย้ำคิดและอดที่จะกลัวไม่ได้ และไม่กล้าฝืนที่จะไม่ย้ำทำ

ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดของโรคย้ำคิดย้ำทำแต่เราก็มีวิธีรักษาโรคนี้อย่างได้ผล
การรักษาโรคย้ำคิดย้ำทำในปัจจุบันมี 2 วิธีคือ พฤติกรรมบำบัด การใช้ยา
ซึ่งจะขอนำเสนอแต่เฉพาะพฤติกรรมบำบัดไว้ดังนี้ครับ

การรักษาโรคย้ำคิดย้ำทำด้วยพฤติกรรมบำบัดนั้นอาศัยหลักที่ว่า เมื่อเราพบกับสิ่งที่เรากลัวและ
เกิดความกลัวขึ้นแล้วเรารีบหนีความกลัวก็จะหายไปพักหนึ่ง
แต่เมื่อเราพบกับสิ่งนั้นอีกเราก็จะอยากหนีอีก แต่ถ้าเราเข้าหาและ
เผชิญหน้ากับสิ่งที่เรากลัวเป็นเวลานานๆ เมื่อเวลาผ่านไปความกลัวที่เกิดขึ้น
จะค่อยๆลดลงเองเพราะเราจะเกิดความชินชา หลักในการปฏิบัติมีอยู่ 3 ข้อคือ

1. ค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากสิ่งที่ผู้ป่วยกลัวไม่มากนักก่อนเพื่อให้ผู้ป่วยได้เรียนรู้ว่า
วิธีรักษาแบบนี้ได้ผลจริง แล้วค่อยฝึกกับเรื่องที่ผู้ป่วยกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ

2. ให้เวลาให้นานพอ ควรให้เวลาฝึกแต่ละครั้งประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อให้มีเวลานานพอที่จะเกิดความชินชาขึ้น

3. ทำซ้ำๆอย่างต่อเนื่องเช่นทุกวันหรืออย่างน้อยวันเว้นวันจนกว่าจะหาย

นอกจากการฝึกโดยการเข้าหาและเผชิญหน้ากับสิ่งที่ผู้ป่วยกลัวแล้ว
ผู้ป่วยยังจะต้องงดเว้นการย้ำทำในขณะฝึกด้วย เช่น
เมื่อให้ผู้ป่วยฝึกโดยการปิดเตาแก๊สโดยไม่ต้องปิดถังแก๊สในช่วงกลางวัน
ระหว่างฝึกผู้ป่วยจะต้องไม่มาคอยตรวจตราห้องครัว และต้องไม่คอยถามคนใกล้ชิด เช่น
“ แก๊สคงไม่รั่วใช่ไหม ” เพื่อให้เขาตอบว่า“ไม่รั่วหรอก ”
ในกรณีนี้ถ้าผู้ป่วย “ เผลอถาม ” ให้คนใกล้ชิดตอบว่า “ หมอไม่ให้ตอบ ”
เพื่อให้ผู้ป่วยต้องฝึกที่จะทนกับความกังวลที่เกิดขึ้นจนเกิดความชินชาขึ้นในที่สุด

ในความเป็นจริงแล้ว การรักษาโดยการใช้พฤติกรรมบำบัดนั้น
จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ป่วยและยังต้องพึ่งพาความอดทนของคนใกล้ชิด
เพื่อช่วยให้การกบำบัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วยครับ

ผ.ศ. ดนัย บวรเกียรติกุล
ที่มา : //www.designparty.com/member/481007/ocd.htm





Create Date : 02 มกราคม 2552
Last Update : 2 มกราคม 2552 9:31:04 น. 2 comments
Counter : 1141 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ


โดย: ผล IP: 71.104.112.184 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:58:08 น.  

 
ขอบคุณมากคะสำหรับข้อความดีๆๆ


โดย: เจ IP: 125.26.25.97 วันที่: 13 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:56:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.