Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 
21 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
"สาวออฟฟิศจ๋า" ช่วยดูแล "หลัง" "บ่า" "ไหล่"


สาวออฟฟิศจ๋า ช่วยดูแล หลัง บ่า ไหล่

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มสาวออฟฟิศสมัยใหม่ และมีไลฟ์สไตล์การทำงาน
แบบนั่งกับโต๊ะวันละเกือบ 8 ชั่วโมง ต้องวุ่นวายอยู่กับเอกสารกองโต
หรือ คร่ำเคร่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา
คุณเคยสังเกตหรือไม่ว่าร่างกายสะสมความอ่อนเพลีย และเมื่อยล้าเพียงใดจากการ มีกิจวัตรเช่นนี้ทุกวัน

คุณ สาวๆ หลาย คนที่คิดว่าความอ่อนล้าและอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและร่างกาย
เป็นเรื่องธรรมดาของคนทำงาน หากได้พักผ่อนก็จะหายไปเอง
ขอแนะนำว่าควรฟังข้อแนะนำดีๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับโครงสร้างร่างกาย

เพ็ญพิชชากร แสนคำ นักกายภาพบำบัดจากสถาบันปรับโครงสร้างร่างกาย ซีเคร็ท เชพ เวลเนส เซ็นเตอร์
กล่าวถึงอาการ ปวดหลัง ปวดบ่า ว่าเป็นเรื่องปกติที่ผิดปกติของสาวทำงาน นั่นคือ...

"ผู้หญิงทำงานอายุ 25-45 ปี มักประสบปัญหาอาการปวดบ่า และปวดหลัง ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการนั่งที่ผิดวิธี
เช่น นั่งหลังงอ หรือนั่งไขว่ห้าง ซึ่งน้ำหนักจะเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งจนทำให้กระดูกสันหลังคด
การทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือพิมพ์งานนานๆ กล้ามเนื้อบริเวณไหล่และคอจะเกร็ง
จึงปวดเมื่อยบริเวณบ่าและคอ หากสะสมนานๆ อาจกลายเป็นโรคปวดหลังเรื้อรังได้
ในบางรายที่มีอาการปวดศีรษะตามมา เนื่องจากกล้ามเนื้อที่หดตัวนั้นไปกดทับเส้นเลือด
ทำให้เลือดมาเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ" ผู้เชี่ยวชาญอธิบาย

ส่วนการยืนหรือเดินบนรองเท้าส้นสูงนานๆ ก็เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อ
ตั้งแต่ บริเวณน่อง ไล่มาทั้งขา สะโพก เอว จนทำให้กระดูกสันหลังช่วงเอวแอ่นตัวไปข้างหน้า
กล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนกำลัง ไขมันจึงสะสมได้ง่าย
หากกล้ามเนื้อไม่ได้ออกกำลัง อาจทำให้หมอนรองกระดูกที่เคลื่อนไปตามการแอ่นของกระดูกสันหลัง
มากดทับเส้นประสาทขา จนกลายเป็นอัมพาตช่วงขาได้

ฉะนั้น เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการปวดบ่าและหลัง
คุณสาวๆ ทั้งหลายจึงควรเริ่มฝึกตัวเองให้รู้จักใช้ร่างการอย่างถูกวิธี นั่นคือ
นั่ง ตัวตรงถ่ายเทน้ำหนักไปที่ก้นทั้งสองข้างเท่าๆ กัน แนวขาทำมุม 90 องศากับแนวสะโพก
เพื่อกระจายแรงที่จะไปกดทับกระดูกสันหลัง
ควรเปลี่ยนท่าทาง อิริยาบถจากนั่งเป็นยืนหรือเดินเสียบ้าง เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว เปิดการไหลเวียนของเลือด

พร้อมกันนี้เพ็ญพิชชากรยังแนะนำด้วยว่า การออกกำลังกายแบบง่ายๆ ระหว่างวันทำงานก็เป็นทางออกที่ดี
เพื่อลดอาการปวดบ่าและหลัง เช่น
หมุนคอ บิดลำตัวอย่างช้าๆ เพื่อให้มัดกล้ามเนื้อทุกเส้นใยได้ออกแรง
ซึ่งการทำอย่างช้าๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกระเทือนต่อข้อกระดูกที่อาจเคลื่อนตัว
และส่งผลถึงเส้นประสาทและการทำงานของร่างกาย

ฝึกการหายใจเข้า-ออก ในลักษณะแขม่วท้อง
เพื่อให้แรงดันจากกล้ามเนื้อ ช่วยปรับกระดูกสันหลังช่วงเอวให้เข้าที่ ช่วยให้ช่วงอกยืดตัวหลังจะได้ไม่ค่อม


ส่วนปัญหาการปวดบ่าและหลังที่เกิดขึ้นกับร่างกายเป็นประจำทุกวัน
อาจทำให้บางคนเกิดความเคยชิน และมองว่าอาการดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบร้ายแรง มากมาย
แต่ในความเป็นจริงแล้วอาการปวดเรื้อรัง ก่อทั้งความรำคาญและทำลายความสุขในการใช้ชีวิต
หรืออาจถึงขั้นทำให้โครงสร้างร่างกายเสียสมดุล
ส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานต่างๆ กล้ามเนื้ออ่อนล้าและร่างกายอ่อนแรงในที่สุด

สำหรับสาวทำงานที่มีอาการปวดไม่รุนแรง หากใส่ใจดูแลรักษาตั้งแต่เริ่มต้นด้วยตัวเอง
ก็จะสามารถป้องการการปวดเรื้อรังได้
แต่ บางรายที่มีอาการปวดเข้าขั้นเรื้อรัง จนไม่สามารถออกกำลังหรือดูแลรักษาได้ด้วยตัวเอง
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับคำแนะนำจากนักกายภาพบำบัด และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจะดีที่สุด


ข้อมูลจาก //www.komchadluek.net
ที่มา : //health.kapook.com/view3163.html


Create Date : 21 มกราคม 2553
Last Update : 21 มกราคม 2553 11:14:59 น. 0 comments
Counter : 930 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.