งูสวัด รัดตัว กลัวจังเลย
การที่จะเป็นงูสวัดได้นั้นเกิดจากการที่มีเชื้ออยู่แล้วในร่างกาย ทั้งจากการที่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อนแล้ว เมื่อหาย เชื้อก็ซ่อนอยู่ภายในร่างกายของเรา รอวันที่จะฟื้นแผลงฤทธิ์อีก
การที่มีคนเป็นงูสวัดแล้วเราเข้าไปใกล้ชิด ก็ไม่ได้ทำให้เราเป็นโรคงูสวัด แต่อาจจะเป็นอีสุกอีใสแทนถ้าไม่เคยเป็นมาก่อน ความเชื่ออีกอย่างที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็คือ เชื่อว่าหากเป็นแล้วมีโอกาสเป็นโรคแทรกซ้อนอย่างหนักจนเสียชีวิตได้ อย่างเช่นปอดบวมหรืออัมพาต เนื่องจากเป็นรอบเส้นประสาท ความเชื่อนี้มีที่มาจากการที่คนที่เป็นงูสวัดมาก ๆ จนเห็นได้ มักเป็นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำอยู่แล้วเช่น คนที่เป็นมะเร็ง คนที่มีการเปลี่ยนอวัยวะ คนที่อายุมาก คนที่เป็นเอดส์ ซึ่งในคนกลุ่มนี้เมื่อเกิดอาการขึ้นมาก็จะมีอาการรุนแรงได้ รวมทั้งโดยอาการเดิมที่ไม่ดีอยู่แล้ว การเป็นก็มีโอกาสเกิดอาการรุนแรงได้ ส่วนในคนปกติที่เป็นงูสวัด เวลาเป็นมักจะเป็นแค่ตำแหน่งเดียวและไม่ได้เป็นรุนแรง ส่วนความเชื่อเก่าที่เคยมีคนบอกว่า ถ้างูสวัดรัดตัวหรือมีรอยโรคให้เห็นจนครบรอบตัวแล้วจะตายทุกรายนั้น คิดว่าในปัจจุบันเริ่มจางหายไปแล้ว เพราะว่าสื่อต่าง ๆมักพูดถึงการที่งูสวัดขึ้นตามแนวประสาทจึงไม่อาจพันรอบตัวได้ สื่อกล่าวถึงจนคนส่วนใหญ่รู้และเชื่อแล้ว จะยกเว้นในบางที่ซึ่งมีคนที่เชื่อเนื่องจากเคยเห็นด้วยตา แต่ก็มักจะหมายถึงคนที่เป็นหนักจนเป็นหลายตำแหน่งของร่างกาย และบังเอิญเป็นพร้อมกันสองฟาก ซึ่งหากเป็นขนาดนั้นก็มักจะเป็นในคนที่มีโรคแทรกซ้อนมากอยู่แล้ว
การดูแลรักษาตัวเวลาเป็น
1. ถ้ามีตุ่มใส ๆเป็นกลุ่ม ๆขึ้นมาและสงสัยว่าจะเป็นงูสวัดให้ไปหาหมอให้เร็วๆในช่วง 3 วันแรก 2. อย่าเกา ถ้าเกาแรงจนเกิดแผลขึ้นอาจเกิดการติดเชื้อทับลงไปได้ 3. เอาผ้าชุบน้ำไปวางแปะที่บริเวณตุ่มใสครั้งละ 10 นาที แล้วเอาออก ทำเพื่อให้ตุ่มยุบเร็ว ๆ และเจ็บน้อย และเมื่อตุ่มแห้งก็ให้หยุดทำ 4. อาจใช้เจลหรือวาสลีนทาทับเพื่อลดอาการเจ็บจากการเสียดสี
ข้อระวังและข้อควรรู้
1. เวลาเป็นที่จมูกหรือใกล้ตาให้ไปหาหมอในทันที เพราะว่าเส้นประสาทเส้นที่เลี้ยงบริเวณดังกล่าว เป็นเส้นแขนงเดียวกันมีโอกาสที่จะลามเข้าตาได้ทำให้ตาบอดได้
2. หลังจากเป็นและหายแล้ว อาจจะมีอาการเจ็บปวดได้อีกเป็นเวลา 3-4 สัปดาห์ เป็นสิ่งปกติที่พบได้ ไม่ได้เป็นการรักษาไม่หายแต่อย่างใด 3. ถ้าเวลาเป็นแล้วมีไข้สูงมาก ตุ่มกระจายเป็นหลายหย่อม ควรรีบไปหาหมอ 4. ไม่ควรไปใกล้ชิดคลุกคลีกับผู้อื่นเพราะเป็นการแพร่กระจายเชื้อ รู้อย่างนี้แล้วก็ดูแลสุขภาพตนเองให้ดีดีนะคะ
ที่มา : //www.uniserv.buu.ac.th ภาพจาก : //www.ladytip.com
สารบัญสุขภาพ
Create Date : 30 ตุลาคม 2551 |
Last Update : 25 เมษายน 2553 18:00:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1059 Pageviews. |
|
|
|
|
|