Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
7 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 

3 ชั่วโมงทองแห่งชีวิต

3 ชั่วโมงทองแห่งชีวิต

ชีวิตของคนๆ หนึ่งอาจจะยืนยาวถึงล้านๆ ชั่วโมง
แต่จำนวนชั่วโมงที่มากมายเหล่านั้น อาจจะมีเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นที่เป็นช่วงเวลาแห่งความประทับใจ
และหากคุณต้องประสบภาวะที่เรียกว่า “หลอดเลือดในสมองอุดตันเฉียบพลัน
คุณมีเวลารักษาชีวิตของตนเองเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น!

โดยปรกติแล้วหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองนั้น ต้องการเลือดไปเลี้ยงถึงจะทำงานได้
เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการอุดตันของหลอดเลือดในสมองคนไข้ จะไม่มีเลือดในสมองทำให้เกิดอาการ “วูบ” ขึ้น
ความอันตรายของโรคนี้ก็คือ “ความเฉียบพลัน” ปุ๊บปั๊บก็สามารถเป็นได้ไม่มีอะไรเตือนล่วงหน้าเลย

“อาการของโรคนี้ที่เจอบ่อยที่สุด เป็นอาการอ่อนแรงไปครึ่งซีกไม่มีแรงเลย ถ้าเป็นน้อยก็ยังพอเดินได้
แต่ว่าเดินแล้วเป๋ เดินแล้วเซ บางคนเป็นที่ปากจะเห็นว่าปากเบี้ยวพูดไม่ชัด นั่นเป็นอาการอันแรกที่เจอบ่อยที่สุด”
นพ.สุรัตน์ บุญการกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง

อาการบ่งบอกอื่น ๆของโรคนี้ยังมี“อาการชาไปครึ่งซีก” ซึ่งอาจจะชาตั้งแต่หน้าไปจนถึงแขนและขา,
อาการมองไม่เห็นบางคนอาจจะมองไม่เห็นแค่ตาเดียว บางคนอาจจะมองไม่เห็นไปซีกหนึ่ง
เช่น มองไปแล้วเห็นแต่ด้านขวาไม่เห็นด้านซ้าย เป็นต้น เวลาเดินก็จะไปชนด้านซ้ายหมด

“ที่เป็นเช่นนี้เพราะเลือดไม่ไปเลี้ยงสมองส่วนท้ายทอย ซึ่งเป็นส่วนรับภาพนั่นเองครับ”
นพ.สุรัตน์อธิบาย ก่อนจะเสริมว่า “นอกจากนี้ยังมีอาการเวียนหัว อาเจียน เห็นภาพซ้อน
ซึ่งมักจะเกิดอาการอย่างเฉียบพลันทั้งนั้น
เช่น ไปเข้าห้องน้ำไปได้ เดินออกมาเดินไม่ได้แล้ว ไม่มีแรงไปล้มอยู่ในห้องน้ำ”

ความน่ากลัวของโรคหลอดเลือดในสมองอุดตันเฉียบพลัน คือไม่มีอาการเตือนใด ๆทั้งสิ้นว่า
อีก 10 นาทีข้างหน้า,1 ชั่วโมงข้างหน้า,วันรุ่งขึ้นหรือเดือนหน้าจะเป็นในรายที่มีอาการน้อย ๆ
เช่น ปากเบี้ยวและพูดไม่ชัดจึงไม่ควรปล่อยปละไว้เฉย ๆ ด้วย ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาจากแพทย์อย่างรวดเร็ว

เพราะถ้าจะเปรียบเทียบแล้วอาการของโรคนี้ ไม่ต่างจากคนที่ขาดน้ำนั่นเอง
ถ้าหากขาดน้ำจนตายแล้ว ต่อให้เอาน้ำ,อาหารหรือวิตามินมาให้ก็คงไม่มีวันฟื้นอีก
แต่หากยังหงอย ๆอยู่ ถ้ามีใครเอาน้ำเกลือหรือน้ำมาให้ก็จะฟื้นได้ เส้นเลือดที่อุดตันก็เช่นกัน
เพียงแต่ระยะเวลาในการช่วยชีวิตของหลอดเลือดนั้นมีไม่ยาวนานนัก...แค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น

การรักษาอาการโรคหลอดเลือดในสมองอุดตันเฉียบพลัน
สามารถทำได้อย่างง่ายดายด้วยการฉีดยาละลายก้อนเลือดให้ แม้ยานี้จะมีอาการแทรกซ้อนบ้างในบางราย
แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าหากเลือกวิธีการรักษาวิธีนี้
เพียงแต่ว่าผู้ป่วยต้องได้รับยาชนิดนี้ภายใน 3 ชั่วโมงหลังจากเกิดอาการเท่านั้น

“ยาตัวนี้เป็นการรักษาที่เรียกว่า Break Through ได้ผลเห็นชัดเจน
แต่มันก็มีข้อเสียคือ อาจจะทำให้เลือดออกในเนื้อสมองได้ สิบคนจะมีเลือดออกในเนื้อสมองสักคนนึง
นั่นคือผลแทรกซ้อนของยา แต่ยิ่งให้ยาได้เร็วผลแทรกซ้อนจะน้อยลง” นพ.สุรัตน์อธิบาย

เหตุผลที่ต้องเป็นแค่ 3 ชั่วโมงก็เพราะถ้าหลอดเลือดอุดตันนาน ๆเนื้อสมองที่เลือดไปเลี้ยงก็จะตาย
เส้นเลือดจึงเปาะบางลง ถ้าฉีดยาละลายก้อนเลือด เส้นเลือดจะพุ่งเข้าไปใหม่ทำให้เส้นเลือดแตกได้
เพราะฉะนั้นยิ่งถ้าผู้ป่วยได้รับยาช้าเท่าไหร่ โอกาสที่จะเป็นอันตรายก็มีมากขึ้นเท่านั้น

“ในบ้านเรา โรงพยาบาลจุฬาฯเคยทำการศึกษาไว้ว่า 10 คนที่เป็นโรคนี้
จะมาโรงพยาบาลก่อน 3 ชั่วโมงเพียงคนเดียว อีก 9 คนอยู่ที่บ้านแล้วก็พิการเป็นอัมพาตต่อไป รักษาไม่ได้
ผมขอให้คนที่เป็นและไม่อยากพิการหรือตายจากโรคนี้ ต้องรีบมาโรงพยาบาลครับ”
นพ.สุรัตน์ยกข้อมูลมาประกอบ

แต่การกลับคืนได้สติของผู้ป่วยประเภทนี้จะไม่ได้กลับมาสมบูรณ์แบบ 100%
เพราะสมองที่ขาดเลือดไปหล่อเลี้ยงช่วงเวลาหนึ่ง ทำให้ความจำและการรับรู้เกิดความผิดพลาดขึ้น
ผู้ป่วยอาจจะจำไม่ได้ พูดผิดพูดถูกสื่อสารกับคนรอบข้างไม่ได้
ซึ่งโรงพยาบาลกรุงเทพ ก็ช่วยเหลือในการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านนี้ของผู้ป่วยให้กลับมาด้วย

รวมทั้งการฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายเพื่อให้กลับมาปรกติอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการยืนหรือการเดินก็ตาม
นอกจากนี้แพทย์ยังให้หลักปฏิบัติตัวใหม่ ทั้งเรื่องการรับประทานอาหาร,การงดสูบบุหรี่,การออกกำลังกาย
และการมาพบแพทย์ เพื่อติดตามอาการว่าจะไม่กลับมาเป็นใหม่อีกครั้งหนึ่งด้วย

“เดี๋ยวนี้โรคหัวใจสามารถรักษาได้ คนตื่นตัวมาถึงโรงพยาบาลเร็ว เครื่องมือทันสมัยขึ้น อัตราการตายเลยลดลง
โรคทางหลอดเลือดในสมองจึงเป็นสาเหตุอันดับ 1 ของการตายและอันดับต้น ๆของการพิการ”
นพ.สุรัตน์ว่า “เป็นโรคหัวใจนิดหน่อยยังสามารถไปเที่ยวได้ ถ้าเป็นมากก็ตาย
แต่ถ้าเป็นโรคนี้ เป็นมาก-เสียชีวิตเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นน้อยคือพิการ”

สุดท้ายจึงไม่มีวิธีไหนดีไปกว่าการป้องกันตัวเองไม่ให้เป็นโรคนี้
เริ่มต้นจากการเช็คปัจจัยเสี่ยงของตัวเอง เช่นความดัน น้ำหนัก เบาหวาน ไขมันในเลือด ฯลฯ
การคุมอาหารเค็ม การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เลิกสูบบุหรี่ รวมทั้งอย่าเครียดด้วย
และหากเกิดอาการผิดปรกติควรรีบไปหาหมอแต่โดยไว


เรื่องโดย พรชัย พงษ์สุกิจวัฒน์
ที่มา : //www.homeandi.com
ภาพจาก : //www.nhsggc.org.uk


สารบัญสุขภาพ




 

Create Date : 07 ตุลาคม 2551
1 comments
Last Update : 25 เมษายน 2553 13:08:24 น.
Counter : 847 Pageviews.

 

ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ เป็นประโยชน์มั่กๆ

 

โดย: hypnosis 7 ตุลาคม 2551 19:34:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.