การสังเกตอาการของโรคหัวใจชนิดต่างๆ ด้วยตนเอง
จากการที่ดิฉันได้พบกับผู้คนที่ป่วยเป็นโรคหัวใจมากขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้ดิฉันสนใจที่จะค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลตนเองให้ห่าง ไกลจากโรคร้ายนี้ได้อย่างถูกวิธี
ดังนั้นจึงอยากนำเสนอความรู้ที่มีเกี่ยวกับอาการของโรคหัวใจชนิดต่างๆ ที่เราพอจะสังเกตได้ด้วยตนเอง
ให้แก่ท่านได้ทราบ การมีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับอาการที่แสดงออกของโรค
จะทำให้สามารถสังเกตอาการของตนเองได้อย่างถูกต้อง เพราะการหมั่นสังเกตตนเองเป็นประจำมีข้อดีคือ
เมื่อป่วยเป็นโรคหัวใจก็จะทราบเสียแต่เนิ่นๆ และอาการไม่รุนแรงจนยากแก่การรักษาค่ะ
โรคหัวใจสามารถแบ่งออกได้หลายชนิด ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจ หัวใจวายเฉียบพลัน หัวใจเต้นผิดจังหวะ
และหัวใจล้มเหลว แต่ละชนิดอาการที่แสดงออกก็แตกต่างกัน
โดย โรคหลอดเลือดหัวใจ
เป็นโรคที่มีผู้ป่วยมากที่สุด เป็นการผิดปกติของหลอดเลือดที่หล่อเลี้ยงหัวใจ สาเหตุสำคัญของโรคเกิดมาจาก
การสะสมของคอเลสเทอรอลบริเวณผนังหลอดเลือด จนหลอดเลือดเกิดการตีบตันทำให้เลือดไม่สามารถมาเลี้ยง
กล้ามเนื้อหัวใจได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้หัวใจทำงานอย่างยากลำบากและอาจทำให้หัวใจวายจากการขาดเลือด
ทั้งนี้ หากเกิดการตีบตันที่เส้นเลือดสำคัญเช่นหลอดเลือดแดงใหญ่ จะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย
และนำไปสู่โรคหัวใจวายอย่างเฉียบพลันได้ อาการสำคัญที่สังเกตได้ คือ อาการเจ็บแน่นหน้าอก
อาการนี้มักจะเกิดระหว่างที่ร่างกายออกแรงมาก เช่น ออกกำลังกาย วิ่ง ยกของหนัก การมีอารมณ์ที่รุนแรง
เช่น เครียด ฉุนเฉียว ตื่นเต้น ตกใจ เป็นต้น โดยจะรู้สึกแน่น อึดอัด หายใจไม่ออก เหมือนถูกบีบในทรวงอก
อาการแน่นจะเกิดแค่จุดแคบๆ บริเวณใต้กระดูกกลางหน้าอกแล้วค่อยๆ แผ่กระจายไปทั่วช่องอก
อาการอาจรุนแรงจนร้าวไปถึงคอและขากรรไกร
อาการเจ็บแน่นจะเกิดชั่วระยะเวลาหนึ่งประมาณ 10 นาที และหายไป
ในรายที่มีอาการมานานและปล่อยไว้จะทำให้อาการโรครุนแรงขึ้น โดยอาการเจ็บแน่นหน้าอกจะเกิดแบบรุนแรง
และเฉียบพลัน แตกต่างจากระยะแรกคือ เกิดได้ตลอดเวลาแม้ออกแรงเพียงเล็กน้อย ขณะพักหรือเพิ่งตื่นนอน
และอาการเจ็บแน่นจะรุนแรงและเกิดบ่อยมากขึ้น แต่ในบางครั้งอาการเจ็บแน่นหน้าอกอาจเกิดจากสาเหตุอื่น
ซึ่งอาการจะแตกต่างจากการเจ็บหน้าอกจากโรคหลอดเลือดหัวใจคือ เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นมาก
โดยเจ็บแปลบๆ เหมือนถูกแทงหรือเจ็บอยู่เฉพาะผนังทรวงอกไม่ได้ลึกลงไปในช่องอก
ซึ่งต่างจากการเจ็บจากโรคหลอดเลือดหัวใจที่จะเจ็บและแน่นอึดอัดไปทั้งหน้าอก
และอาการเหล่านี้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาไม่สัมพันธ์กับการออกแรง
และ โรคหัวใจวายเฉียบ พลันอาการที่สังเกตได้คือ การเจ็บแน่นหน้าอก
ซึ่งจะเกิดบริเวณเดียวกับโรคหลอดเลือดหัวใจ แต่อาการเจ็บแน่นจะรุนแรงกว่ามากในบางรายถึงกับช็อคหรือ
หมดสติได้ อาการเจ็บแน่นจะเกิดขึ้นมาเองแม้ไม่ได้ออกแรง อาการเจ็บปวดรุนแรงนี้เกิดจากการตายของกล้ามเนื้อ
หัวใจ เมื่อเกิดอาการจึงต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อหัวใจตายเป็นบริเวณกว้าง
เพราะยากแก่การรักษาและนำไปสู่ภาวะหัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตได้
หัวใจเต้นผิดจังหวะ
เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของกลุ่มเซลล์ที่ทำหน้าที่ผลิตและส่งกระแสไฟฟ้ากระตุ้นหัวใจให้บีบและคลายตัว
เพื่อสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ส่งผลให้หัวใจมีอัตราการเต้นที่ผิดจังหวะ
อาจเต้นเร็วขึ้นหรือช้าลง ซึ่งโดยปกติแล้วคนเราควรมีอัตราการเต้นของหัวใจขณะปกติอยู่ที่ 60-80 ครั้งต่อนาที
หากเต้นเร็วหรือช้ากว่านี้มากถือว่าเกิดภาวะของโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
อาการของโรคที่สังเกตได้คือ
ใจสั่นหรือรู้สึกหวิวๆ บางครั้งอาจรู้สึกว่าจังหวะการเต้นของหัวใจวูบหายไปเป็นระยะ
หากเป็นเพียงชั่วครั้งคราวไม่ถือว่าเป็นอันตรายมากนัก
แต่หากเกิดเป็นประจำและติดต่อกันเป็นระยะเวลานานควรไปพบแพทย์
สำหรับอาการหัวใจเต้นเร็วและรัวที่เกิดจากอาการตื่นเต้นตกใจหรือหลังการออกแรงมากๆ
ไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ
แต่หากอยู่ในภาวะปกติหรือพักผ่อนแต่กลับมีอัตราการเต้นหัวใจที่เร็วและรัว กว่าปกติถือว่าเสี่ยงต่อโรคนี้
โรคหัวใจล้มเหลว
คือ ภาวะที่หัวใจไม่สามารถทำหน้าที่ในการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยง อวัยวะต่างๆ ของร่างกายได้อย่างเพียงพอ
โรคหัวใจล้มเหลวจัดได้ว่าเป็นอาการโรคระยะสุดท้ายของโรคหัวใจ การเกิดโรคนี้ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการ
เกิดโรคอื่นอยู่ก่อน เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ ลิ้นหัวใจปิดไม่สนิท โรคกล้ามเนื้อหัวใจ เป็นต้น
เมื่อเกิดความผิดปกติขึ้นกับหัวใจและทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกายได้อย่างเต็ม
ประสิทธิภาพ ร่างกายจะมีการปรับตัว เช่น หัวใจมีขนาดใหญ่ขึ้น ผนังหนาขึ้น หัวใจเต้นเร็วขึ้น เป็นต้น
เพื่อให้สามารถสูบฉีดเลือดได้ในระดับปกติ โดยคนส่วนใหญ่จะไม่รู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นเลย
หากขาดการเอาใจใส่ ทำให้กว่าจะทราบก็อยู่ในระยะที่ค่อนข้างรุนแรงยากแก่การรักษา
อาการของโรคที่สังเกตได้คือ หายใจหอบและเหนื่อยง่ายแม้ไม่ได้ออกกำลังกาย
อ่อนเพลียแม้เพียงแค่ทำกิจกรรมประจำวัน บวมตามเท้าหรือข้อเท้า ช่องท้อง ขา จากการคั่งของน้ำ
หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็ว
จากข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมดดิฉันหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้ฟังได้นำไปปฏิบัติและหมั่นสังเกตตนเอง
อยู่เสมอ เพื่อให้เมื่อป่วยด้วยโรคเหล่านี้ก็จะรู้ตัวได้ทันท่วงทีก่อนที่จะสายจนยาก แก่การรักษาค่ะ
รศ.ดร.สุบัณฑิต นิ่มรัตน์
เอกสารอ้างอิง
สมนึก ตปนียวรวงศ์ (2551) อัตราการเต้นของหัวใจ ปกติเป็นอย่างไร. Thai clinic health tips.
เอื้อมพร สกุลแก้ว (2550) 5 โรคร้าย คร่าชีวิตคนไทย: โรคหัวใจ 2. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ใกล้หมอ.
| Create Date : 01 มิถุนายน 2552 |
| Last Update : 2 มิถุนายน 2552 22:16:55 น. |
|
4 comments
|
| Counter : 8018 Pageviews. |
 |
|
|
| โดย: pixzar IP: 58.9.217.153 วันที่: 1 มิถุนายน 2552 เวลา:23:15:29 น. |
|
|
|
| โดย: Lady Tiger IP: 192.168.50.137, 58.136.5.192 วันที่: 3 มิถุนายน 2552 เวลา:17:01:09 น. |
|
|
|
| โดย: ยูซุป IP: 124.120.175.104 วันที่: 4 มิถุนายน 2552 เวลา:12:04:16 น. |
|
|
|
| โดย: รพีพัฒน์ แซ่ลี้ IP: 125.25.207.224 วันที่: 28 สิงหาคม 2556 เวลา:19:26:25 น. |
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [
ต้องคอยสังเกตุไว้นะเนี่ย ขอบคุณที่ให้ความรู้ค่ะ