Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
6 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 

หายใจอย่างไรอายุยืน

หายใจอย่างไรอายุยืน

ตามหลักวิทยาศาสตร์ของโยคะ ปราณยามะ คือการควบคุมลมหายใจ
ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยการควบคุมกระบังลมอย่างถูกต้อง และเหมาะสมเป็นประการแรก
และควบคุมกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ ที่ติดอยู่กับทรวงอกและไหล่เป็นประการถัดมา
นอกจากนี้ปอดจะถูกขยายออกให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อดูดซับเอาปริมาณของปราณะ
ซึ่งเป็นพลังแห่งชีวิตไว้ให้มากที่สุด จากอากาศที่เราหายใจเข้าไปนั้น โดยการปฎิบัติดังต่อไปนี้

1. ให้ร่างกายอยู่ในแนวตรงเพื่อให้ทรวงอกสามารถขยายตัวได้อย่างเต็มที่

2. หายใจเข้าโดยใช้กระบังลม หายใจเข้าท้องพองและหายใจออกท้องแฟบ
หลังจากนั้นให้ขยายซี่โครงออกทั้งตอนล่าง - กลาง และบน
ด้วยความช่วยเหลือของกล้ามเนื้อบริเวณซี่โครงและกล้ามเนื้อไหล่

3. หายใจออกอย่างช้าๆ โดยใช้กระบังลมเป็นส่วนใหญ่ในลักษณะกลับทางกันกับข้อ 2
กล่าวคือการใช้กระบังลมเป็นตัวบีบหรือตัวปั๊ม ผลักดันลมออกมานั่นเอง

4. ให้มีลีลาและจังหวะการหายใจสม่ำเสมอโดยตลอด

5. ให้มีการหยุดพักการระบายอากาศอย่างสม่ำเสมอหลังจากหายใจออกแล้ว คือหยุดชั่วขณะ
ก่อนที่จะเริ่มหายใจเข้าอีกครั้ง

การหายใจอย่างลึกๆ และช้าๆ จะทำให้กระแสโลหิตได้รับออกซิเจนมากขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
ซึ่งจะเป็นผลดีต่อร่างกายเป็นอย่างยิ่ง

การหายใจยาว-สั้นย่อมมีผลต่างกัน สัตว์ที่หายใจยาวจะมีอายุมากกว่าสัตว์ที่หายใจสั้น เช่น ช้าง เต่า งู เป็นต้น
ส่วนสัตว์ที่หายใจสั้นอายุจะสั้น เช่น หมู หมา ไก่ เป็นต้น
คนเราเวลาเหนื่อยจะหายใจสั้น บางครั้งหายใจออกทางจมูกไม่ทันต้องหายใจออกทางปาก
คนอยู่ในอารมณ์โกรธ ตกใจกลัว วิตกกังวล เครียด ป่วยไข้ไม่สบาย ล้วนหายใจสั้นทั้งสิ้น

เพราะฉะนั้นหากใครต้องการมีอายุยืนต้องพยายามฝึกหายใจยาวไว้
หรือฝึกปราณยามะ (เดินลมปราณ) ตามแบบของโยคะ
โยคะมีวิธีหายใจหลายแบบ แต่ล้วนหายใจเข้าทางจมูกทั้งนั้น ห้ามหายใจเข้าทางปากเป็นอันขาด
แต่ให้หายใจออกทางปากได้เมื่อมีการหายใจอย่างถูกวิธีแบบโยคะแล้ว
จะมีผลทางการป้องกันและบำบัดโดยธรรมชาติอย่างไม่น่าเชื่อ


ความเหมือนที่แตกต่าง

คนกับสัตว์มีส่วนประกอบจากธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม เหมือนกัน
มีเกิด แก่ เจ็บ ตายไม่ต่างกันเลย มีการกิน พักผ่อน หลับนอน ขับถ่าย สืบพันธุ์ กลัวภัยเช่นเดียวกัน
แต่ที่ทำให้แตกต่างกันก็คือสติปัญญา ไอคิว ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือจิตสำนึกในทางดีงาม ได้แก่
ธรรมะในทางศาสนาเช่น ความกตัญญูกตเวที เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา สัจจะ ฯลฯ
ในทางพระพุทธศาสนามองสรรพสิ่งเป็นเพียงสมมติ
แม้สิ่งมีชีวิตประกอบด้วยธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นคน สัตว์ก็เป็นธาตุตามธรรมชาติเท่านั้น

โดยหลักการของโยคะ เวลาหายใจเข้า ท้องต้องป่อง เวลาหายใจออก ท้องต้องแฟบ
ทำให้มีการแลกเปลี่ยนออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างเต็มที่

ถ้าคนเราหายใจเช่นนี้ได้ตลอดเวลาจะมีสุขภาพดีแข็งแรง ไม่เครียดไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วยง่าย
จะรู้สึกกระฉับกระเฉงสมองปลอดโปร่ง ไร้ความวิตกกังวลต่างๆ มีความคิดและความจำดี อายุจะยืนยาว
วิธีการหายใจดังที่กล่าวมา นับเป็นระบบการหายใจที่จัดว่าสมบูรณ์ที่สุด เท่าที่มนุษยชาติเคยค้นพบมา
ลมหายใจนั้นสำคัญแต่การหายใจแบบถูกวิธี ตามหลักการโยคะย่อมสำคัญยิ่งกว่า


ข้อมูลโดย พระมหาบัญญัติ ธมมสาโร
ที่มา : //www.balavi.com


สารบัญสุขภาพ





 

Create Date : 06 ตุลาคม 2551
1 comments
Last Update : 25 เมษายน 2553 12:01:09 น.
Counter : 1256 Pageviews.

 

ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ

 

โดย: hypnosis 6 ตุลาคม 2551 13:12:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.