รู้รับมือไส้ติ่งอักเสบ

ปวดท้องลึกๆ กดและปล่อยเจ็บโดยเฉพาะปวดท้องด้านล่างขวาหรือรอบๆ สะดือ ฯลฯ
ระวังไส้ติ่งอักเสบ อย่าทนอึดเพราะอาจเสียชีวิตได้

ถาม อยากทราบว่าไส้ติ่งมีความสำคัญหรือไม่อย่างไร

ตอบ
สมัยก่อนคนมีความเชื่อว่าไส้ติ่งไม่มีความหมาย แต่ต่อมามีการทำวิจัยกันมากขึ้น จึงค้นพบประโยชน์ของไส้ติ่ง
เช่น ไส้ติ่งมีต่อมเนื้อเยื่อ ต่อมน้ำเหลือง ไส้ติ่งทำงานเต็มที่ในช่วงวัยกลางคน และก็จะฝ่อลงเมื่อถึงวัยชรา
หน้าที่ของไส้ติ่งนั้น เกี่ยวข้องกับการสร้างสารที่เป็นภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยเฉพาะในช่องท้อง
แต่จะมีก็ดีถูกตัดทิ้งก็ไม่เป็นไร


ถาม แต่ในบางคนก็เกิดไส้ติ่งอักเสบขึ้น ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร

ตอบ ไส้ติ่งอักเสบส่วนใหญ่เกิดจากการอุดตัน เนื่องจากไส้ติ่งมีปลายตันอยู่ข้างหนึ่ง
และเมื่อเกิดการอุดตันที่โคนด้านปลายเปิด ก็จะทำให้เกิดการอักเสบขึ้น

การอุดตันที่พบบ่อยที่สุดคือ
กากอุจจาระหรือเศษอาหารที่สะสมอยู่ในบริเวณนั้นนานๆ ก็จะแห้งแข็งเหมือนกับนิ่ว
แล้วมาอุดอยู่ตรงปากทางไส้ติ่ง ก็เกิดการดันหัวดันท้าย เยื่อบุภายในไส้ติ่งก็จะสร้างเมือกขึ้นมา
และประกอบกับเชื้อแบคทีเรียข้างในขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงเกิดการอักเสบ
และอาการแทรกซ้อนขึ้น พบไม่บ่อยเพราะปกติเมื่อมีเศษอาหารอุดตันก็จะหลุดออก
หรือ เมื่อเกิดการอุดตันไส้ติ่งก็จะพองจนดันสิ่งอุดตันหลุดออก ก็จะมีอาการแค่ปวดท้องเล็กน้อยแล้วก็หายไป


ถาม ไส้ติ่งอักเสบเป็นเวลานานเท่าไหร่จึงแตก และเมื่อไส้ติ่งแตกแล้วมีอันตรายแค่ไหน

ตอบ แต่ละคนก็แตกต่างกัน แต่น้อยมากที่จะแตกใน 6 ชม. หลังจากที่มีอาการ
บางคนมีความอึด ทนกับความเจ็บปวดได้นานหรือบางคนบอกอาการเจ็บปวดได้น้อย
หรือบอกไม่ได้เช่น เด็กเล็ก คนไข้ที่มีอุบัติเหตุทางกระดูกสันหลัง แล้วชาบริเวณนั้นก็อาจจะบอกไม่ได้
หรือคนไข้ที่ได้ยาแก้ปวดโรคอื่นชนิดแรงก็อาจบอกไม่ได้เช่นกัน

แต่ตามธรรมชาติแล้ว คนที่ไม่ได้มีความผิดปกติมากนักเมื่อเกิดไส้ติ่งอักเสบ
เยื่อบุในช่องท้องจะช่วยหุ้มไส้ติ่งไว้ไม่ให้แตกง่าย บางคนอยู่ได้ถึงสองสัปดาห์
นอกจากนี้ก็มีกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสไส้ติ่งแตกเร็ว เช่น ผู้ที่มีปัญหากับการสื่อสาร หรือผู้สูงอายุ
เนื่องจากผุ้สูงอายุมีกลไกป้องกันตัวเองน้อยจึงทำให้ไส้ติ่งแตกเร็ว


ถาม การผ่าตัดไส้ติ่งแตกกับไม่แตก ต่างกันอย่างไร

ตอบ การผ่าตัดไส้ติ่งแตกกับไม่แตกนั้นต่างกันมาก
เพราะถ้าไส้ติ่งไม่แตก การผ่าตัดก็จะให้ยาน้อย ฟื้นตัวง่าย แผลเล็ก มีอาการแทรกซ้อนน้อย
มีโอกาสเสียชีวิตน้อยมาก

ส่วนผู้ที่ไส้ติ่งแตกแล้ว ถ้าหนองกระจายไปทั่วท้องก็จะยากต่อการวินิจฉัย
เพื่อความปลอดภัยแพทย์จะใช้วิธีผ่าตัดกลางท้อง ยกเว้นแตกแล้วยังอยู่เฉพาะที่ก็จะลงแผลเหมือนไส้ติ่ง
แต่แผลจะใหญ่กว่าแผลธรรมดา ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าติดเชื้อมากน้อยแค่ไหน และขึ้นอยู่กับผนังท้อง คือ
คนอ้วนจะแผลใหญ่ คนผอมจะแผลเล็กนิดเดียวประมาณ 2 ซม.

กรณีไส้ติ่งแตกมีอัตราการเสียชีวิตถึง 15 %
และถ้าเป็นผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวมาก ก็จะมีอัตราการเสียชีวิตเพื่มขึ้น 30 - 50 %


ถาม ทำไมต้องให้น้ำเกลือเมื่อผ่าตัดไส้ติ่ง

ตอบ ผู้ป่วยที่ไส้ติ่งแตกจำเป็นต้องให้น้ำเกลือ เพราะเมื่อไส้ติ่งแตกร่างกายมีการสูญเสียน้ำมาก
จำเป็นต้องให้น้ำเกลือทุกวันและให้มากกว่าธรรมดาด้วย เพราะถ้าร่างกายเสียน้ำมากจะทำให้ไตวายได้

ถ้ามีการผ่าตัดโดยยังไม่ได้เตรียมการก็จะเสี่ยงกับอาการไตวาย คือ
ในขณะดมยาสลบร่างกายจะขาดน้ำและไตจะเสื่อมชั่วคราว
เพราะเวลาที่ไส้ติ่งอักเสบน้ำที่อยู่ในเลือดจะออกมาในช่องท้อง เมื่อมีการสูญเสียน้ำในช่องท้องมาก ก็อาจช็อกได้

นอกจากนี้ ในกรณีที่ไตเสื่อมยาปฏิชีวนะจะไปทำลายไตได้ ก็จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไตวายได้
เพราะคนที่ไส้ติ่งแตกต้องให้ยาปฏิชีวนะค่อนข้างเยอะ เพื่อให้ครอบคลุมเชื้อ อาจให้ยาจนกระทั่งแผลหายดี

หากไส้ติ่งแตกมากก็ต้องระบายหนอง ให้ยาป้องกันการติดเชื้อเป็นเดือน
แผลผ่าตัดไส้ติ่งที่แตกจะซับซ้อนกว่าไส้ติ่งไม่แตก
ถ้าไส้ติ่งแตกแล้วลงทางด้านขวาแผลจะใหญ่ เพราะต้องเอาออกโดยไม่ให้แตกเพิ่มเติม


ถาม ทำไมหลังผ่าตัดไส้ติ่งแตกจึงต้องปิดแผลไว้

ตอบ ในกรณีของไส้ติ่งแตกจะไม่เย็บแผลปิดผิวหนัง
เพราะโดยมากบริเวณนี้เสี่ยงกับการติดเชื้อ จึงต้องเปิดแผลทิ้งไว้เพื่อให้มีการระบายหนองออก
อีกอย่างก็คือเชื้อโรคที่ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อ เป็นเชื้อโรคที่โดนออกซิเจนเข้าไป
เชื้อก็อาจซ่อนอยู่เจริญเติบโตได้ดี และลุกลามกินเนื้อเยื่อจนเน่าไปหมดก็อาจเสียชีวิตได้
นอกจากนี้การเปิดแผลก็จะทำให้การดูแลแผลง่ายขึ้น


ถาม เป็นเวลานานเท่าไหร่หลังการผ่าตัดไส้ติ่งจึงออกกำลังกายได้

ตอบ โดยเฉลี่ยประมาณ 3 เดือน โดยทั่วๆ ไปก็ให้ทำกิจกรรมปกติ ควรออกกำลังกายเบาๆ ก่อนเช่น เดินเล่น
ถ้าไม่ปวดแผลก็เดินเล่นได้เพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ



ข้อควรรู้ ปวดท้องแบบไหน ... ไส้ติ่งอักเสบ

๑. เริ่มด้วยการปวดท้องบริเวณรอบๆสะดือ และประมาณ 4 - 6 ชั่วโมง จึงย้ายมาปวดบริเวณท้องน้อยด้านขวา
หรือบางคนอาจเริ่มปวดบริเวณท้องน้อยด้านขวาก่อน แต่บางคนอาจปวดท้องด้านล่างซ้ายก็ได้
ขึ้นอยู่กับตัวไส้ติ่งว่าจะชี้ไปทิศทางใด หากปลายไส้ติ่งชี้ไปด้านหลังก็จะปวดหลัง ปวดเอว หรือปวดซี่โครงได้

๒. มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีท้องเสียร่วมด้วย

๓. อาการปวดของไส้ติ่งอักเสบจะปวดลึกๆ
ที่พบมากที่สุดมักปวดด้านล่างขวา ท้องจะตึงและแข็ง กดเจ็บและปล่อยก็เจ็บ
หากมีอาการก้ำกึ่งที่บอกอาการไม่ได้ เช่น เด็กเล็ก ผู้ทุพพลภาพ ก็อาจตรวจปัสสวะ ตรวจเลือด
ส่วนการอัลตร้าซาวด์ก็เพื่อนำมาประกอบการวินิจฉัยว่า ไม่ได้เป็นโรคอื่น เช่น โรคทางสูตินรีเวช เป็นต้น

๔. อาการที่ปวดคล้ายไส้ติ่งอักเสบ
เช่น ในผู้หญิงที่มีซีสต์ที่รังไข่ อุ้งเชิงกรานอักเสบ ท้องนอกมดลูก นิ่วในท่อไตข้างขวา ลำไส้อักเสบ เป็นต้น
แพทย์จึงต้องสอบถามประวัติ ตรวจร่างกายอย่างละเอียด


ข้อมูลจาก Lisa
ที่มา ://www.junjaowka.com/webboard/showthread.php?t=42328


สารบัญ บทความ สุขภาพ
คลิกดู ที่นี่ค่ะ

Create Date : 30 พฤศจิกายน 2552		6 comments
Last Update : 2 ธันวาคม 2552 3:23:33 น.
Counter : 4229 Pageviews.
Share Tweet