การดูลิ้นเพื่อบอกสุขภาพเป็นอีกศาสตร์หนึ่งที่ใช้ในการพยากรณ์โรค แพทย์โบราณจะดูขนาด สีของลิ้น สีของฝ้าบนลิ้น (ขาว เหลือง เขียว ดำ) ลักษณะฝ้าบนลิ้น (หนา บาง แห้ง ชื้น) และตุ่มบนลิ้นลักษณะของลิ้นที่แตกต่างจากลิ้นปกติ จะบอกถึงสุขภาพของเจ้าของลิ้น ลิ้นของคนมีสุขภาพดี เป็นลิ้นที่มีชีวิตชีวา มีประกาย (เมื่อใช้ไฟฉายส่อง จะเห็นประกายบนลิ้น) มีสีแดงอมชมพู มีขนาดพอดีไม่คับปาก ลิ้นของคนที่มีสุขภาพไม่ดี ดูไม่มีชีวิตชีวา ลิ้นจะเหี่ยวแห้ง เมื่ออ้าปากแลบลิ้น ลิ้นจะแดงเล็กลงสีหมองคล้ำ ไม่มีประกาย การเคลื่อนไหวของลิ้นไม่คล่อง พูดไม่เต็มคำ ไม่ชัด
สีของลิ้นบอกอะไรได้บ้าง? - ลิ้นสีชมพู มีความชุ่มชื้นพอเหมาะ ไม่มีฝ้าขาวเหลืองบนลิ้น บ่งบอกว่าเลือดลมดี สุขภาพดี เลือดในกายดี - ลิ้นสีขาวซีด บ่งบอกว่ามีเลือดน้อย หรือร่างกายอ่อนแอ - ลิ้นแดง ไม่มีฝ้าจับ บอกถึงมีความร้อนในตัวสูง ร่างกายสูญเสียน้ำในตัวออกไปมาก - ลิ้นสีแดงจัด มีฝ้าขาว แสดงว่าภายในร่างกายร้อน (อาจเป็นไข้) แต่เป็นภาวะที่เลือดเป็นพิษ หรือมีพิษในกระแสเลือด หรือติดเชื้อระยะท้าย (ระยะรุนแรง) หรือเป็นมะเร็ง ตับแข็ง วัณโรค คนที่ป่วยด้วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ภายในช่องปากจะมีฝ้าขาวซึ่งเกิดจากเชื้อราจับอยู่ภายในกระพุ้งแก้ม และบนลิ้น ลิ้นสีแดงม่วง แห้งมาก แสดงภาวะความร้อนภายใน และเกิดการอุดกั้นของระบบไหลเวียนของเลือด เช่น เป็นโรคความดันโลหิตสูงจัด เส้นเลือดหัวใจตีบ หรือเป็นโรคหัวใจรูมาติกส์ หรือปอดผิดปกติเนื่องจากขาดออกซิเจน ลิ้นสีเขียว บ่งบอกว่ามีการอุดกั้นการไหลเวียนของเลือด เป็นโรคหัวใจล้มเหลว ตับแข็งเพราะดื่มเหล้า มะเร็งหรือหลอดเลือดแดงส่วนปลายอักเสบ ขนาดของลิ้น - ลิ้นโตใหญ่ (แลบลิ้น จะโตคับปาก) เกิดจากภาวะโลหิตจาง บวมน้ำ ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย และขาดสารอาหาร - ลิ้นบวมโตในปาก แลบลิ้นออกมาได้ แต่ดึงลิ้นกลับไม่ได้ แสดงว่าเป็นโรคติดเชื้อนาน ทำให้มีไข้ จึงทำให้ลิ้นอักเสบ หรือเพราะพิษของยา หรือเพราะพิษจากสุรา ทำให้ลิ้น และอวัยวะภายในบวม - ลิ้นที่เป็นตุ่มหนา ตุ่มจะนูนอักเสบ เนื่องจากไข้สูง หรือปอดอักเสบรุนแรง หรือเป็นไข้กลุ่มอีดำอีแดง - ลิ้นบวมโต ที่ขอบลิ้นหยัก เกิดจากอาการบวมน้ำ โลหิตจาง ไตอักเสบ หรือขาดวิตามินบี ข้อควรรู้ในการดูลิ้น 1. แสงสว่าง ต้องมีแสงสว่างอย่างพอเพียง ต้องเป็นแสงธรรมชาติ 2. อาจมีสารบางอย่างที่ทำให้สีของฝ้าแตกต่างกันไป เช่น น้ำนม น้ำผลไม้บางอย่าง ได้แก่ น้ำกระเจี๊ยบ น้ำส้ม เป็นต้น ทางการแพทย์แผนจีนเชื่อว่า โรคทุกชนิด จะหนัก เบา ร้อน เย็น กำเริบ หรือหย่อน ล้วนจะต้องปรากฏ ที่ลิ้น 1. การแบ่งส่วนต่างๆ ของลิ้น - แบ่งลิ้นออกเป็น 3 ส่วน ของร่างกาย ส่วนปลาย = ร่างกายส่วนบน ส่วนกลาง = ร่างกายส่วนกลาง ส่วนโคน = ร่างกายส่วนล่าง - แบ่งลิ้นออกเป็นบริเวณของอวัยวะภายใน ส่วนปลาย = หัวใจ ปอด ส่วนกลาง = ม้าม และกระเพาะอาหาร ส่วนขอบลิ้น = ตับ ถุงน้ำดี ส่วนโคนลิ้น = ไต
2. การตรวจส่วนต่างๆ ของลิ้น - การมีชีวิตชีวาของลิ้น ได้แก่ ลิ้นห่อเหี่ยว ลิ้นมีประกาย มีน้ำมีนวล - สีของตัวลิ้น ได้แก่ สีขาวซีด สีชมพู สีแดง สีแดงเข้ม สีแดงม่วง สีเขียว - ลักษณะของลิ้น ได้แก่ลิ้นผอมเล็ก ลิ้นบวมโต ผิวลิ้นหยาบ ผิวลิ้นนุ่ม ผิวลิ้นมีตุ่มนูนแดง ลิ้นมีร่องรอยแตก ลิ้นมีรอยหยักของฟัน ลิ้นลื่นวาว ลิ้นมีจุดเลือด จ้ำเลือด - ลักษณะการเคลื่อนไหว ได้แก่ ลิ้นแข็งทื่อ ลิ้นอ่อนแรง ลิ้นสั่น ลิ้นเฉ การเล่นลิ้น ลิ้นแลบ ลิ้นหดสั้น
การดูฝ้าบนลิ้น 1. ดูสีของฝ้า ได้แก่ สีขาว สีเหลือง สีเทา สีดำ 2. ดูลักษณะฝ้า ได้แก่ ฝ้าหนา บาง ชุ่มชื้น-แห้ง ฝ้าคราบเต้าหู้ ฝ้า เหนียว ฝ้าหลุดลอก ฝ้าลิ้นแผนที่ ฯลฯ ดูลิ้นบอกอะไรได้บ้าง 1. บอกภาวะของพลังเจิ้งชี่ของร่างกาย (พลังพื้นฐาน รวมถึงพลังยิน-หยาง) ได้แก่ - ตัวลิ้นชมพู แสดงว่ามีความชุ่มชื้นพอเหมาะ เลือดลมดี - ตัวลิ้นขาวซีด แสดงว่าเลือด และพลังพร่อง - ตัวลิ้นแดง ไม่มีฝ้า แสดงว่าความร้อนในร่างกายของสารน้ำถูกทำลาย
2. บอกชนิดของปัจจัยก่อโรค (เสียชี่) ได้แก่ - ลิ้นมีฝ้าขาวชื้นหรือฝ้าสีดำแกมเขียว แสดงว่ามีความเย็นกระทบ - ลิ้นมีฝ้าสีเหลือง ตัวลิ้นมีรอยแตกแห้ง แสดงว่ามีความร้อนเป็นเหตุ
3. บอกตำแหน่งความลึกตื้นของโรค - ฝ้าบนลิ้นบาง แสดงว่าโรค อยู่ภายนอก - ฝ้าบนลิ้นหนา แสดงว่าโรคเข้าสู่ภายใน - ตัวลิ้นที่มีสีแดงเข้ม แสดงว่าความร้อนเข้าสู่ระดับเลือด
4. พยากรณ์การดำเนินโรค ถ้าฝ้าบนลิ้นเปลี่ยนจากขาวเป็นเหลือง แล้วเป็นสีดำ แสดงว่าโรคบุกเข้าสู่ร่างกายส่วนลึก ในทางกลับกันถ้าฝ้าบนลิ้นเปลี่ยนจากแห้งกลายเป็นชุ่มชื้นมีน้ำ แสดงว่าสารน้ำที่ถูกทำลายกำลังกลับคืน ร่างกายกำลังฟื้นตัว หมั่นสังเกตตัวเอง ถ้าผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อการรักษาได้ทันท่วงที บล็อคนี้อยู่ในหมวดสุขภาพค่ะ
|
All of them that good material.Thanks.