รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
17 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
อาการสภาวะแห่งการตื่น รู้ เบิกบาน เป็นอย่างไร

เมื่อนักปฏิบัติได้หมั่นเจริญสัมมาสติจนมีสติตั้งมั่นได้อยู่แล้ว
จะมีอาการตื่นรู้ เบิกบาน เกิดขึ้น
ผมจะอธิบายสภาวะแห่งการตื่นรู้ เบิกบาน ที่ผมพบให้ท่านฟัง

*****************************

ท่านเคยเล่นเก้าอี้ดนตรีไหมครับ ถ้าเคย คงเข้าใจได้ง่าย
ถ้ายังไม่เคย ผมแนะนำให้ท่านลองเล่นดูก่อน แล้วจะเข้าใจ

เมื่อท่านเล่นเก้าอี้ดนตรี ประสาททุกส่วนของท่านจะตื่นตัว
เพราะถ้าไม่ตื่นตัว จะเล่นแพ้ทันที

ในขณะที่ประสาทตื่นตัว ขอให้ท่านสังเกต

ตา ว่องไว ในการจ้องหาจุดเก้าอี้ว่างที่จะิวิ่งเข้าไปหา และ
ว่องไวในการจับจ้องคนเล่นอื่น ๆ ไปในขณะเดียวกัน

หู ว่องไว ในการรับรู้เสียงดนตรีทีจะหยุดได้ทุกขณะ

ร่างกาย ว่องไวที่จะวิ่งอย่างรวดเร็วเพื่อไปยังเก้าอี้ว่างที่หมายตานั้น

การตื่นตัวในการปฏิบัติธรรมจะคล้าย ๆ แบบนั้น แต่ต่างกันตรงที่
เก้าอี้ดนตรี จะเครียดเนื่องจากมีความต้องการอันเป็นตัณหาประกอบอยู่ ****

แต่การตื่นตัวจากการปฏิบัติธรรม จะไม่เครียด เพราะมันคือการเป็นไปเองอย่างธรรมชาติ
ไม่มีตัณหาเป็นส่วนประกอบ ****

อาการหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมีการตื่น คือ สภาวะแห่งมีความรู้สึกถึง
ความสว่างบริเวณใบหน้า

ผมจะชี้ให้ท่านเห็นว่า สว่างนั้นเป็นอย่างไร

ท่านเคยดูภาพยนต์ในโรงภาพยนต์ หรือ ดูหนังกลางแปลงไหมครับ
ถ้าเคย ก็คงจะเข้าใจได้ง่าย
เมื่อท่านเข้าไปในโรงภาพยนต์ ที่ยังไม่ฉาย
ที่หน้าจอ จะเป็นหน้าจอทีมืด ๆ มัว ๆ สลัว ๆ ไม่สว่าง
สภาวะนี้จะเหมือนกับคนที่จิตยังไม่ืตืนขึ้น มันจะมัว ๆ แบบนี้เอง

แต่เมื่อเริ่มฉายภาพยนต์ จะมีแสงสว่างปรากฏที่หน้าจอที่มัว ๆ นั้น
ทำให้หน้าจอเกิดแสงสว่างปรากฏออกมาที่หน้าจอ
อาการตื่นก็จะมีลัำกษณะคล้ายเช่นนี้ คือมันจะสว่าง สดใส ขึ้น

เมื่ออยู่ในสภาวะแห่งการตื่นรู้ ประสาทจะว่องไว สว่าง สดใส
ไม่มัวซัว เมื่อจิตเริ่มมีอาการอะไรขึ้น จะเห็นได้ทันทีเลยว่า ความสว่าง
ที่สดใส นั้นจะเริ่มมัวหมองลงไป ที่เห็นได้ทันทีรวดเร็ว เพราะว่า
ประสาทการรับรู้ต่าง ๆ มันว่องไวอยู่แล้ว
มันจึงเห็นการแปรเปลี่ยนแห่งการตื่นรู้ได้อย่างรวดเร็วมาก

ถ้าเกิดจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางมัวซัว ก็จะเห็นการแปรเปลี่ยนได้เร็ว
เมื่อจิตเห็นว่าจะมัวซัว จิตมันจะดีดกลับมาสดใส ปิ๊งอีกครั้งหนึ่งได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
โดยไม่รู้เลยว่า อาการที่มันมัวซัวไปเมื้อกี้ มันคืออะไร
จิตจึงรู้สึกเบิกบานอยู่เป็นเสมอ
กิเลส ก็เข้าสิงสู่จิตใจไม่ได้เช่นกัน


ผมสังเกตเห็นว่า อาการจิตตื่นนี้ มันจะมีพลังงานสว่างที่อยู่บริเวณใบหน้า

ในการปฏิบัตินั้น ก่อนที่จะพบกับความสว่างจากการตื่นตัว
การตื่นตัว ก็จะเกิดก่อน แต่ยังไม่สว่าง แต่จะมัวซัว
ผลแห่งการตื่นตัว แต่มัวซัว นี้ นักปฏิบัติจะเห็นอาการกิเลสต่าง ๆ
เห็นอาการทางจิตใจได้เช่นกัน แต่จะไม่ชัด และไม่ว่องไวนัก

แต่ถ้าตื่นตัวแล้วสว่าง การเห็นกิเลส เห็นอาการทางจิตใจ
จะเห็นได้ชัดขึ้นและว่องไวมากขึ้น

สภาวะตื่นรู้ เิบิกบาน มันก็แสนจะ ธรรมดา ธรรมดา นี่แหละ
แต่ผลของมันนี่ซิ ดีจริง ๆ




Create Date : 17 มิถุนายน 2553
Last Update : 29 มกราคม 2555 16:10:14 น. 3 comments
Counter : 2175 Pageviews.

 
มาอ่านแล้วค่ะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 17 มิถุนายน 2553 เวลา:16:49:44 น.  

 
วันนี้ เมื่อตอนเย็นประมาณ 17 น.
แถวบ้าน ดวงอาทิตย์ถูกกลุ่มเมฆสีขาวมาบัง
ทำให้เกิดแสงสลัวลงไปมาก แต่ความสว่้างยังปรากฏอยู่

ผมมองไปที่ดวงอาทิตย์ ที่ถูกเมฆสีขาวบัง
ยังมองเห็นความสว่างจ้าของดวงอาทิตย์ ที่ส่องได้อยู่

ความสว่างของดวงอาทิตย์ที่ส่องผ่านเมฆขาวที่บดบัง
จะเหมือนกับสภาวะแห่งความสว่างในอาการทีตื่นรู้ เบิกบาน
มากทีเดียว


โดย: นมสิการ วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:19:08:55 น.  

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:16:41:39 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.