รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
9 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
ทุกข์ ไม่ทุกข์ คือ ของจริงทีสัมผัสได้ การได้โสดาบันสัมผัสจริงไม่ได้ ล้วนเป็นของสมมุติ

นักปฏิบัติรุ่นใหม่ที่เข้ามาสู่แวดวงกรรมฐาน ส่วนมากเกือบทั้งหมด ปรารถนาที่จะบรรลุโสดาบัน
แต่ทว่า.... คำว่าโสดาบัน เป็นสิ่งที่ไม่มีจริง เป็นสิ่งที่คนเขาตั้งขึ้นมาเรียกกัน มันเป็นสิ่งสมมุติ เมื่อมันไม่มีจริง ไม่มีใครสัมผัสความเป็นโสดาบันได้เลย

เมื่อโสดาบันไม่มีจริง สัมผัสไม่ได้ สกิทาคามี อนาคมี อรหันต์ มันก็เครือ ๆ กันไม่ต่างกัน

เมื่อท่านลงมือฝึกฝนเจริญสัมมาสติ สัมมาสมาธิ สิ่งที่ท่านจะพบก็คือ การเห็น การรู้ การเ้ข้าใจ ในสภาวะธรรมที่เป็นขันธ์ 5 ทีมันไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์ มันเป็นอนัตตา มันไม่ใช่เรา มันไม่ใช่ของเรา มันสักแต่ว้่าเป็นธรรมชาติที่แปรปรวน

นี่คือของจริงที่สัมผัสได้จริง

เมื่อท่านฝึกฝนต่อไป ท่านจะพบกับอีกสภาวะหนึ่งที่ไม่มีการเขียนไว้ชัดเจนในตำรา นั้นคือสภาวะแห่งการไม่ทุกข์ การไม่แปรเปลี่ยน แต่มันก็ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเราอีกเช่นกัน

นี่ก็คือความจริงอีกเช่นกันที่สัมผัสได้จริง

สิ่งที่ผมเขียนนี้ เชื่อได้ยาก เพราะผมนั้นมีผมยาว ไม่โกนผม ไม่โกนคิ้ว ไม่น่งห่มจีวร
พูดเขียนอย่างไร ก็ไม่มีน้ำหนัก แต่ผมก็ไม่ขอให้ท่านเชื่อผมแต่อย่างใด
เมื่อวันหนึ่ง เมื่อท่านเดินทางไปถึงแล้ว ท่านจะพบได้เอง เห็นได้เอง เข้าใจได้เอง
อย่างแท้จริง

แล้วผมเขียนเรื่องนี้ทำไม.... ท่านคงนึกถามในใจตอนนี้

ผมเขียนขึ้นเพื่อจะบอกใครสักคน ที่ติดตามอ่าน blog ของผมอยู่ให้เข้าใจ
ในสิ่งที่เขากำลังมองหา กำลังต้องการจะเป็นว่า สิ่งที่เขามองหา สิ่งทีีเขากำลังต้องการจะเ็ป็น
มันไม่มีอยู่จริงในโลกนี้หรอกครับ อย่าได้เสียเวลาคิดอย่างนั้นเลย

นี่คือภวตัณหา ที่ซ่อนลึกลงไปในจิตใจที่ท่านมองไม่ออก
ผสมเข้ากับอวิชชา ที่มาจากการหลงเชื่ออะไรบางอย่างในคำสอนที่ท่านเข้าใจไม่ถ่องแท้
อย่างแท้จริง ผลมันก็คือออกมาแบบนี้ ท่านกำลังภาวนาด้วยตัณหาอย่างไม่รู้ตัว

พระพุทธองค์ก็ทรงสอนไว้ในอริยสัจจ์ 4 ขอที่ 2 ที่ว่า อันว่า ตัณหา เป็นเหตุให้เกิดทุกข์
พระพุทธองค์ทรงสอนให้พุทธบริษัทละในตัณหา

เมื่อท่านเข้าใจในภวตัณหานี้ เห็นได้ในทุกข์ ในไม่ทุกข์ ท่านจะเป็นอะไร มันก็เป็นอย่างนั้นไปแล้ว โดยที่ท่านไม่ต้องไปสนใจเลยว่า ฉันได้โสดาบันแล้วหรือยัง

แต่ว่า ... ถ้าท่านมัวแต่ติดภวตัณหาอยู่ ท่านจะไม่สามารถเดินทางต่อไปได้อย่างถูกต้อง

ผลแห่งการภาวนานั้น ไม่ใช่การได้เป็นโสดาบัน การเป็นสกิทาคามี การเป็นอนาคามี การเป็นอรหัตต์แต่อย่างใด แต่ผลการภาวนานั้น ก็เพื่อการลดลงแห่งทุกข์จนหลุดพ้นจากทุกข์ใจอย่างถาวรต่างหาก อย่าได้คาดหวังอะไรกับการบรรลุธรรมเลยครับ เมื่อท่านสร้างเหตุที่ตรงในการภวนา ท่านย่อมเข้าถึงธรรมได้เอง โดยที่ท่านอาจไม่รู้ตัวเลยว่า ท่านได้เข้าถึงธรรมแล้ว
แต่ถ้าท่านกลับคิดว่า ตัวเองเข้าถึงธรรมได้แล้ว นั่้นแหละครับ ท่านกำลังหลงคิดไปเองทั้งสิ้น
เพราะการรู้แบบว่า เป็นนั้นเป็นนี่ นี่คือการทำงานของขันธ์ 5 ครับ ท่านอ่านมาก ฟังมาก
มันก็เลยติดในสัญญา แล้วก็ออกมาแบบนี้ โอ.. ฉันเป็นโสดาบันแล้วหรือ... นี่ท่านกำลังหลงคิดไปเองทั้งสิ้น

ถ้าท่านมีสัมมาทิิฐิที่ตรง ไม่บิดเบี้ยว ท่านก็จะเหมือนมีเครื่องนำทางที่ดี ให้ท่านเดินไ้ด้ถูก สัมมาทิฐินี่สำคัญนัก เพราะมันเปรียบเหมือนเข็มทิศ แต่ทว่า..ท่านมีเข็มทิศที่ดี หรือ ที่เสียกันละ เรื่องนี้พูดได้ยาก ท่านจะค่อย ๆ รู้ได้เองเป็นลำดับไปในสัมมาทิฐิ เมื่อท่านได้พบเห็นสภาวะธรรมต่าง ๆ มากขึ้น ท่านจะเข้าใจได้เองว่า สิ่งที่มีกล่าวกัน มีเขียนไว้ มีสอนกันเรื่องสัมมาทิฐิ มันเป็นสัมมาทิิฐิ 100 % หรือว่า มีไม่เต็ม 100 แต่แฝงด้วยมิจฉาทิฐิผสมอยู่อย่างเนียนด้วยการหวังผลอะไรสักอย่างที่แยบผล
เรื่องนี้เขียนออกมาไม่ได้ครับ ถ้าท่านเดินทางถึง ท่านจะเข้าใจเองว่า ทำไมจึงเขียนออกมาไม่ได้

เอาเป็นว่า ภาวนาแล้วลดทุกข์ได้ ทุกข์จางได้เร็ว แค่นี้ก็พอครับ






Create Date : 09 พฤษภาคม 2553
Last Update : 29 มกราคม 2555 16:12:29 น. 1 comments
Counter : 1279 Pageviews.

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:16:47:36 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.