รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
7 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
ปฏิบัติธรรมแล้ว อย่างไรจึงจะรู้ว่าได้ผล

การปฏิบัติธรรม จะรู้ว่าได้ผลหรือไม่นั้น  ให้ดูุจากการจัดการ ทุกข์ใจ ได้ดีหรือไม่

คำว่า ทุกข์ใจ นั้น ผมหมายถึง อาการพอใจ อาการไม่พอใจ  อาการวิตกกังวล จิตใจหม่นหมอง คิดฟุ่งซ่าน 

ในความเห็นของผมนั้น  การจัดการทุกข์จะมี 4 ระดับด้วยกัน

ระดับที่ 1. ระดับสุงสุด คือ ไม่มีทุกข์ใจอีกเลย ไม่ว่าจะเกิดการกระทบสัมผัสอะไรขึ้น
ไม่มีความทุกข์ใจเกิดขึ้นเลยในจิตใจ ผู้ที่เข้าถึงระดับนี้ได้ คือผู้ที่มีจิตใจตั้งมั่นอย่างเต็มที่
ไม่มีความยึดมั่นถือมั่นในจิตใจอีกต่อไป

ระดับที่ 2.ระดับกลาง  ในระดับนี้ ผู้ปฏิบัติยังมีความทุกข์ใจเกิดขึ้น แต่เนื่องด้วยสัมมาสมาธิที่ตั้งมั่น นักปฏิบัติจะเห็นได้ว่า อาการทุกข์ใจ ที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่ตัวเขา ไม่ใช่ของเขา เมื่อทุกข์ใจเกิดขึ้นแล้ว ก็หยุดลงได้ในเวลาอันรวดเร็วมาก และเป็นการหยุดแบบอัตโนมัติ เพียง นักปฏิบัติเห็น จิตปรุงแต่ง ที่เป็น อาการทุกข์ใจเท่านั้น อาการทุกข์ใจก็หยุดลงทันที โดยที่นักปฏิบัติไม่ต้องทำอะไรเลย 

ระดับที่ 3. ระดับขั้นต้น ในระดับนี้ ผู้ปฏิบัติมีความทุกข์ใจเกิดขึ้น แต่เนื่องด้วยอาการสัมมาสมาธิยัง .ไม่ตั้งมั่น.  อย่างเพียงพอ เมื่อทุกข์ใจเกิดขึ้นแล้ว ก็ไม่อาจหยุดลงไปได้เองแบบอัตโนมัติดังเช่นในระดับที่ 2  จิตใจของนักปฏิบัติพบกับทุกข์
แต่ยังมีสติเพียงพอ ที่จะงัดเอาสมถะภาวนาขึ้นมาเพื่อหยุดทุกข์ใจนั้น และกว่าทุกข์ใจจะหยุดลงไป ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร

ระดับที่ 4. ระดับปุถุชน ในระดับนี้ ผู้ปฏิบัติไม่มีกำัลังแห่งสัมมาสติเลย เมือ่เกิดอาการทุกข์ใจขึ้น เขาก็จะเสียความรู้สึกตัวไป ทุกข์ใจได้เกาะกินเข้าไปในจิตใจของเขาแล้ว เขาจึงตกเป็นทาสของอาการทุกข์ใจไปและเขาจะลืมหมดในการจัดการ กับอาการทุกข์ใจนี้ เขาจะหลงไปกับความทุกข์ใจนั้น จนกว่า อาการนี้จะจางหายไปเอง ซึ่งจะใช้เวลายาวนาน

******************
ท่านจะเห็นว่า ในขณะที่ท่านฝึกฝนอยู่นั้น จิตใจท่านจะยังไม่มีทุกข์ ท่านจะไม่รู้เลยว่า
สิ่งทีท่านกำลังปฏิบัติอยู่นั้นได้ผลหรือไม่ อาการที่ท่านพบในการภาวนา เช่นจิตใจโล่ง โปร่ง เบา สบาย หรือเห็นโน่นเห็นนี่ เข้าใจธรรมอย่างโน้นอย่างนี้ ไม่อาจบอกได้ว่า ท่่านภาวนาแล้วได้ผลแล้ว
จนกว่าท่านจะพบสิ่งที่เข้ากระทบกระแทกมายังจิตใจของท่าน

*******
Free TextEditor


Create Date : 07 สิงหาคม 2553
Last Update : 29 มกราคม 2555 16:04:14 น. 4 comments
Counter : 1092 Pageviews.

 
ขอบคุณค่ะ


โดย: chantibha วันที่: 7 สิงหาคม 2553 เวลา:15:34:31 น.  

 
ขอบคุณคับ


โดย: ramai IP: 125.25.131.80 วันที่: 7 สิงหาคม 2553 เวลา:20:26:15 น.  

 
Thank you very much


โดย: pinky IP: 183.89.58.211 วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:8:06:12 น.  

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:16:31:22 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.