รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
15 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
ฌาน ใน สัมมาสมาธิ

บทความนี้ บอกก่อนครับว่า ผมไม่สันทัดเรื่องตำราเท่าใดนัก
แต่ก็อ่านมามากเหมือนกัน แต่ผมไม่จำอะไรไว้ในหัวสมอง
เมื่อผมปฏิบัติแล้วพบเห็นสภาวะ ก็นึกได้ถึงเรื่องที่เคยอ่านไว้
แล้วมาเทียบเคียงกัน เห็นว่าน่าจะใช่ แต่ผมอาจเ้ข้าใจผิดได้
เช่นกัน ที่นำมาเขียนไว้ เพื่อเล่าสู่กันฟัง

*****************************
ผมได้เคยอ่านมา มีผู้บอกว่า การเจริญสัมมาสติ จิตจะไม่ถึงระดับ .ฌาน.
เพราะจิตไม่จดจ่อแนบแน่นต่อสิ่งใด
(หมายเหตุ ...การอยู่ในสภาวะ ฌาน จิตจะจดจ่อแนบแน่นกับสิ่งหนี่ง)
สภาวะจิตแห่งสัมมาสติ จิตจะเป็นขณิกสมาธิ แต่ใช้เจริญวิปัสสนาได้

คำกล่าวที่ว่านี้ ผมอยากจะแสดงสภาวะอันเป็นผลแห่งการปฏิบัติสัมมาสติ
ให้ท่านอ่าน แล้วพิจารณาเอาเองว่า คำกล่าวที่ว่า ตรง หรือ ไม่ตรง เพียงใด

เมื่ออยู่ในสภาวะแห่งสัมมาสติ คือ การที่รู้สึกตัวอยู่ แล้ว มีการรับรู้
สภาวะต่าง ๆ โดยผ่านทางอายตนะทั้ง 6 คือ
ตา เห็น ภาพ
หู ได้ยิน เสียง
จมูก ได้ กลิ่น
ลิ้น ได้ รส
กาย ได้รู้ อาการและสัมผัสทางกาย
ใจ ได้รับ อาการทางใจ

การรับรู้โดยผ่านทางอายตนะทั้ง 6 นั้นจะเกิดและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก
ปานประหนึ่ง การรับรู้ต่าง ๆ รับรู้ได้พร้อม ๆ กันในคราวเดียวกัน

สภาวะที่ว่า นี้แน่นอนว่า เป็นขณิกสมาธิ ครับ อันเป็นสภาวะขั้นต้นสำหรับคนทั่ว ๆ
ไปที่เพิ่งฝึกฝน สัมมาสติ นั่้นเอง แต่เมื่อมีการฝึกฝนต่อไปอีก สัมมาสติจะเริ่มตั้งมั่น
มากขึ้น .จิตรู้. จะแยกตัวออกมาจากขันธ์ 5 และรับรู้ .ขันธ์ 5.ได้
ว่าขันธ์ 5 เป็นไตรลักษณ์ นี่คือการเจริญวิปัสสนาแล้วครับ

เมื่อผู้ปฏิบัติไปฝึกฝนต่อไป จะพบกับสภาวะหนึ่ง ที่เขาจะเห็นอะไรสักอย่างหนึ่ง
คล้าย .ดาวฤกษ์. ที่ปรากฏสว่างให้เห็นได้เอง การที่เห็นได้นี่ จะเห็นได้นาน ๆ
อาจเป็น 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง หรือ หลาย ๆ ชั่วโมง หรือ หลาย ๆ วัน
ก็ได้แล้วมันจะหายไปสักพัก แล้วก็กลับมาใหม่
การเห็น .ดาวฤกษ์. นี้ จะเห็นได้เองโดยไม่ใช่การไปจ้องมองหา
มันจะเหมือนวัตถุอันหนึ่ง ที่ปรากฏให้จิตได้เห็น และการเห็นนี้ก็จะยังเห็นสภาวะอื่น ๆ รอบตัว
ได้ด้วย พร้อม ๆ กันไป คือ ตาก็ยังมองเห็นได้อยู่ หูก็ยังได้ยินเสียงได้อยู่ และอื่นๆ
ถ้าจะว่าตามตำรา การเห็นสิ่งนี้ จะเข้าขั้นระดับ ฌาน เพราะจิตได้แนบแน่นจดจ่อกับดาวฤกษ์
ที่เห็นนี้ตลอดเวลานั้นเอง แต่จะต่างจาก ฌาน ในสมาธิฤาษี ที่จิตจดจ่อกับสิ่งเดียว แต่ไม่รับรู้
สิ่งต่าง ๆรอบตัว
เมื่อสภาวะแห่งการเห็นดาวฤกษ์นี้อยู่ จิตจะไม่มีทุกข์ปรากฏเลย กิเลสเข้าไม่ได้ ปานประหนึ่งว่า กิเลสได้สิ้นไปแล้ว เพราะการปรากฏนั้น บางคราวจะปรากฏนานเป็นเดือนก็ยังไม่จางหายไป
ทำให้คนเข้าใจผิดไปได้ว่า ตนได้บรรลุธรรมขั้นสูงสุดแล้ว

เหนือฟ้ายังมีฟ้าครับ..

เมื่อสภาวะแห่ง ดาวฤกษ์ ได้สิ้่นสุดลง คือหายไปแล้ว จะมีสภาวะเหมือนว่า การภาวนาได้ตกต่ำลงไป ผู้ภาวนาจะกลับมีกิเลสโผล่มาเล่นงานเขาอีก เขาเลยรู้ตัวว่า ยัง...ไม่ถึงที่สุดแห่งธรรม
แต่เมื่อผู้ภาวนาได้ฝึกฝนสัมมาสติต่อไปอีก เหมือนเป็นเด็กเริ่มใหม่อีกครั้ง คราวนี้
จะเกิดปรากฏการณ์การเห็นได้ใหม่ เป็นความว่างที่ปรากฏอยู่ข้างหน้าผู้ปฏิบัตินั้นเอง
ความว่างนี้จะปรากฏตลอดเวลาให้เห็น และอาการต่าง ๆรอบ ๆ ตัวก็จะรู้
ได้เช่นเดิม ผู้ภาวนาจะเหมือนเดิม คือ กิเลสเข้าไม่ได้ และอาจคิดว่า นี่...คงใช่แล้ว
นิพพาน เ้พราะเห็นเป็นความว่าง และ ไม่มีกิเลสโผล่มาเลย
ถ้าว่ากันตามตำรา นี่ก็คือ สภาวะ ฌาน ได้เช่นเดียวกัน เพราะจิตเห็นความว่างตลอดเวลานั้นเอง

เหนือฟ้าก็ยังมีฟ้าอีกครับ..

เมื่อสภาวะแห่งความว่างได้สลายไป ไม่เห็นอีก ผู้ภาวนาก็จะเหมือนเดิม คือ กิเลสเข้ามาได้
อีก เขาก็จะรู้อีกว่า นี่ยัง..ไม่ถึงที่สุด

เขาจะฝึกต่อไปอีก

ต่อไปเขาจะพบสภาวะอีกอย่าง ที่มันเป็นความว่างเช่นกันแต่เหมือนมีผ้าพลาสติกใส ๆ บังอยู่หน้าความว่างนั้น มันจะต่างจากความว่างข้างบนที่ได้เขียนไว้
เช่นเดียวกันครับ ผู้ภาวนาจะเห็นความว่างมีผ้าพลาสติกใส นี้ได้นาน ๆ ไม่หายไปไหนเช่นกัน
ตอนนี้ ผมอยู่ในสภาวะนี้อยู่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่า มันจะแปรเปลี่ยนอะไรไปอีกครับ
ถ้าว่้ากันตามตำรา นี่ก็เป็น ฌาน เหมือนกัน เพราะจิตเห็นความว่างที่มีผ้าพลาสติกใส นี่อยู่ตลอดเวลา นี่เวลาพิมพ์เรื่องนี้อยู่ พิมพ์ไปก็ยังเห็นอยู่ข้างหน้านี่แหละ มันไม่หายไปไหน ไม่ต้องตั้งใจมอง มันก็อยู่ของมันอย่างนั้นเอง

เมื่อท่านอ่านแล้ว ท่านคงตอบตัวเองได้นะครับว่า สัมมาสติ นั้นถึงระดับ ฌาน ได้หรือไม่



Create Date : 15 มิถุนายน 2553
Last Update : 29 มกราคม 2555 16:10:23 น. 7 comments
Counter : 1371 Pageviews.

 


โดย: kaoim วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:7:09:35 น.  

 
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ ที่มาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง ดิฉันกำลังฝึกฝนอยู่จะได้เรียนรู้และไม่หลงในอวิชชา


โดย: cakecode วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:9:09:40 น.  

 
สาธุค่ะ....


โดย: ตั้งไข่ IP: 117.47.159.47 วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:9:33:58 น.  

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:10:31:01 น.  

 
เข้าใจลำบากจังค่ะเรื่องจิตเห็นความว่าง เรื่องฌานจุฬาภินันท์เข้าใจว่าเมื่อได้แล้วมารมันจะมากวนค่ะ


โดย: จุฬาภินันท์ IP: 125.25.27.110 วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:19:15:32 น.  

 
เห็นด้วยกับนมสิการครับ
การที่เรารักษาจิตให้ว่าง หรือมีสติให้มีอยู่นานๆต่อเนื่องกัน
มันก็คือฌานนั่นเอง

ที่เราเข้าใจไม่ได้ ทำไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่ามันคือการเข้าฌานนั่นเอง เห็นแล้วถึงหายไป เห็นแล้วหายไปมันเป็นขณิกสมาธิ


โดย: ไพรสณฑ์ (ไพรสณฑ์ ) วันที่: 17 มิถุนายน 2553 เวลา:12:57:58 น.  

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:16:42:54 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.